[รีวิวเกม] ‘Samba de Amigo: Party Central’ มาส่ายสะโพกโยกย้ายกับเกมดนตรีที่เรียกเหงื่อได้
Our score
7.5

Samba de Amigo: Party Central

จุดเด่น

  1. เคลื่อนไหวร่างกายไปพร้อมกับดนตรีที่สนุกแถมได้ออกกำลังกาย
  2. ไม่ต้องซื้อจอยเพิ่มใช้ Joy-con เล่นได้เลย

จุดสังเกต

  1. เล่นคนเดียวไม่ค่อยสนุก
  2. ไม่มีอะไรใหม่เหมาะกับคนชอบเกมดนตรีเท่านั้น

ในยุคนี้สำหรับเกมดนเตรีแล้วอาจจะไม่ใช่กระแสหลัก เพราะว่าหลังจากซีรีส์ ‘Guitar hero’ และ ‘Rock Band’ เสื่อมความนิยมลงไป กระแสเกมดนตรีที่ต้องเล่นกับจังหวะดนตรีก็เงียบหายไปเพราะไม่ได้มีการสร้างภาคต่อ เพราะอย่างที่บอกไปว่ากระแสมันแทบไม่มี แต่ดูเหมือนว่าบนคอนโซลของปู่นินมันอาจจะมีช่องทางการปัดฝุ่นมาขายใหม่

เพราะล่าสุดมีการคืนชีพซีรีส์ดนตรีของ SEGA อย่าง ‘Samba de Amigo: Party Central’ ที่ออกบน Nintendo Switch และ Meta Quest ถือว่าเป็นซีรีส์เกมที่ห่างหายไปนานพอสมควร โดยต้นกำเนิดออกบน Dreamcast ในปี 1999 ที่วางขายพร้อมจอยเกมพิเศษเพื่อจับการเคลื่อนไหวของผู้เล่น และหลังจากนั้นก็ออกเวอร์ชัน Wii ในปี 2008 ส่วนภาคใหม่ที่มาแนะนำวันนี้เป็นภาคต่อไม่ได้รีเมก ถือว่าหายไปนานหลายปีเลย (รีวิวนี้เล่นบน Switch)

ก่อนจะเข้าตัวเกมก็ขอเกริ่นสักหน่อยสำหรับคนที่ไม่เคยเล่นมาก่อน โดยซีรีส์ ‘Samba de Amigo’ เป็นเกมดนตรีที่ใช้ “มาราคัส” หรือที่คนไทยเรียกว่า “ลูกแซก” ที่เป็นเครื่องดนตรีเพื่อทำเสียงประกอบเข้าจังหวะเพลง ที่ใช้งานได้ง่ายมากแค่จับอยู่ในมือแล้วเขย่าตามจังหวะดนตรี ซึ่งในซีรีส์ ‘Samba de Amigo’ ลูกแซกถือว่าเป็นพระเอก ที่ผู้เล่นจะได้บังคับให้เขย่าตามทิศทางที่เกมกำหนด

กราฟิกไม่เน้นแต่ก็ไม่ได้ดูแย่

เนื่องจากมันเป็นเกมแนวดนตรีทำให้ภาพจึงไม่ใช่ประเด็นสำคัญอยู่แล้ว แต่สำหรับ ‘Samba de Amigo: Party Central’ ทางค่าย SEGA ได้ลงทุนทำให้มันออกมาดูดีในระดับที่รับได้ แม้ว่าจะออกบน Nintendo Switch ที่สเปกไม่ได้แรงอะไร แต่ก็ทำออมาได้น่ารักตัวละครมีเอกลักษณ์และมีเสน่ห์ ฉากในเกมมีสีสันสดใส ฉากหลังก็มีการเก็บรายละเอียดได้ดี แม้จะไม่ได้โดดเด่นแต่สำหรับเกมที่เล่นตามจังหวะดนตรีถือว่าทำได้น่าพอใจแล้ว

ส่วนจุดเด่นของเกมคือเพลงประกอบที่ภาคนี้มีมาให้เล่นในเบื้องต้นรวม 40 เพลง อาจจะดูไม่เยอะมากมายอะไรเมื่อเทียบกับมาตรฐานเกมยุคนี้ แต่ก็มีการปล่อยให้โหลดเพิ่มหลังจากเปิดตัว โดยมีเพลงจากศิลปินดังมากมายหลายแนวไม่ว่าจะเป็น จอน บอง โจวี (Jon Bon Jovi) กับเพลง “You Give Love a Bad Name” หรือ เลดี กากา (Lady Gaga) กับเพลง “Just Dance” ก็มีมาให้เลือก นอกจากนี้ยังมีเพลงจากเกม Sonic ของค่าย SEGA ด้วย และทุกเพลงมีการปรับให้เข้ากับรูปแบบการเล่นที่ต้องกดปุ่มเข้าจังหวะได้อย่างดี

เกมเพลย์เน้นเขย่าลูกแซก

สำหรับการเล่นเบื้องต้นถือว่าง่ายและสนุก อย่างแรกคือผู้เล่นต้องถอดเอา Joy-con ของ Nintendo Switch ที่มี 2 อันพอดีแล้วถือไว้ในมือ หลังจากนั้นให้เราทำท่าทางตามทิศทางที่ตัวละครในเกมกำหนด ที่ดูง่ายมากเพราะจะมีสัญลักษณ์เป็นวงกลมที่อยู่บนหน้าจอที่จะกำหนดทิศทางของการเคลื่อนไหว ซึ่งเป็นจุดเด่นมาตั้งแต่ภาคแรกเพราะทาง SEGA ได้สร้างจอยเกมหน้าตาเหมือนลูกแซกแถมมากับเกมสมัยออกบน Dreamcast ส่วนบน Switch ไม่จำเป็นต้องสร้างจอยพิเศษเพราะทุกเครื่องมี Joy-con มาให้อยู่แล้ว

จุดนี้เองทำให้การเล่นสนุกและได้ออกกำลังกาย เพราะเราต้องขยับตัวเคลื่อนไหวไปตามจุดที่เกมกำหนดด้วยความเร็วสูงมาก ยิ่งเลือกเพลงที่มีความยากสูงก็ยิ่งต้องขยับจอยให้เร็วกว่าเดิม ทำให้มันเป็นเกมที่เรียกเหงื่อได้หากผู้เล่นอยากจะท้าทายจริง ๆ แม้จะไม่ได้เท่ากับเกมออกกำลังกายของจริง แต่ยังดีกว่านั่งกดปุ่มเฉย ๆ ส่วนกติกาการเล่นยังคงใช้ระบบเก็บคะแนนเพื่อทำคะแนนที่พลาดมาก ๆ ก็จะไม่ผ่านเหมือนกับเกมดนตรีทั่วไป

มีเกมเพลย์หลากหลายและใช้ปุ่มกดเล่นได้ด้วย

นอกจากเกมเพลย์หลักที่เราต้องเขย่าลูกแซกไปตามทิศทางที่กำหนดไว้แล้ว ยังมีรูปแบบการเล่นการทำท่าแปลก ๆ เล่นกระโดดหรือทำท่าค้างไว้ตามเวลาที่กำหนดที่บางท่าเรียกเสียงฮาในงานปาร์ตี้ได้เลย และมีการเล่น Slot Machine สุ่มมินิเกมระหว่างเพลงเพื่อทำคะแนนเพิ่ม เช่นการตีลูกเบสบอลให้ไปตามทิศทางจะได้คะแนนเพิ่ม ถือว่าทำให้มันมีอะไรให้ทำมากกว่าแค่เขย่าจอย

แต่สำหรับคนที่ไม่อยากออกแรงหรือลุกขึ้นยืนเพื่อเล่น อยากนั่งเล่นสบาย ๆ ก็มีทางเลือกเช่นกัน เพราะมันสามารถใช้จอยเกมปรกติทั่วไปแล้วกดปุ่มเพื่อนั่งเล่นได้ด้วย ทำให้เราสามารถเล่นบน Nintendo Switch Lite ได้ด้วยเช่นกัน แต่ความสนุกของการเล่นจะลดลงอย่างมาก เพราะจุดขายของซีรีส์นี้ตั้งแต่ภาคแรกคือการเคลื่อนไหวร่างกายของผู้เล่นให้เข้ากับจังหวะของเกม

แน่นอนว่าเราสามารถเล่นกับเพื่อนได้พร้อมกันแต่ก็ต้องหา Joy-con มาเพิ่มและมีโหมดออนไลน์มาให้เล่นด้วย และมีการเก็บเลเวลที่จะค่อย ๆ อัปเกรดสิ่งใหม่ ๆ เข้ามาให้เล่นและเก็บคะแนนเอาไปปลดล็อกไอเทมพิเศษเช่นเสื้อผ้า และสามารถเปลี่ยนลูกแซกได้ด้วย และข่าวดีคือมีตัวละครแขกรับเชิญร่วมค่ายอย่างเม่นสายฟ้า Sonic มาให้เลือกใช้งานด้วย

โดยรวมแล้วการกลับมาของ ‘Samba de Amigo: Party Central’ ถือเป็นเกมดนตรีที่แม้จะไม่ได้โด่งดังอะไรมาก แต่หากได้ลองเล่นแล้วถือว่ามีดีพอตัว เพราะการได้ขยับร่างกายไปพร้อมกับจังหวะเพลงที่สนุกสนานทำให้มันเป็นอีกซีรีส์ที่สามารถเอาไปเล่นในงานปาร์ตี้ได้ แม้จะไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่แล้วในยุคนี้แต่หากคุณชอบเกมแนวดนตรีมันเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส