Our score
7.0Otogi Katsugeki Mameda no Bakeru
จุดเด่น
- เกมเพลย์ผสมผสานหลายรูปแบบได้ลงตัว
- ครึ่งหลังของเกมสนุก เพราะมีอะไรให้ทำเยอะ
จุดสังเกต
- เกมเพลย์ธรรมดาไปหน่อยสู้ต้นฉบับไม่ได้
- กราฟิกธรรมดาขาดรายละเอียด
หากจะพูดถึงซีรีส์เกมแอ็กชันที่เป็นตำนานในยุค 80S, 90S จากค่าย Konami แล้วนอกจาก ‘Contra’ ต้องมีชื่อของซีรีส์ ‘โกเอมอน’ อยู่ด้วยแน่ เพราะมันถูกสร้างออกมาหลายภาคบนหลายคอนโซล ที่โดดเด่นทั้งเกมเพลย์ที่ผสมผสานหลายรูปแบบไม่ได้มีแค่แอ็กชัน บวกกับความน่ารักของตัวละครที่มาแนวญี่ปุ่นในยุคโบราณที่หยิบเอาตำนานจอมโจรแห่งญี่ปุ่นมาดัดแปลง ทำให้มันเป็นหนึ่งในภาพจำของแฟนเกมทั่วโลก
อย่างไรก็ตามในช่วงหลังยุค 2000S ซีรีส์โกเอมอนไม่ค่อยได้รับความนิยมนัก และไม่ได้มีการออกภาคใหม่มา 18 ปีแล้ว และหลังจากต้นสังกัดอย่าง Konami หันไปสนใจซีรีส์เกมอื่นกับปาจิงโกะ ทำให้ตำนานจอมโจรแห่งญี่ปุ่นถูกลืมไปอย่างน่าเสียดาย แม้ว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาทาง Konami เริ่มมีการคืนชีพซีรีส์ดังอย่าง ‘Contra’ หรือเกม ‘ดาบสายลมฟุกุดะ’ แต่ ‘โกเอมอน’ ไม่เคยมีการนำมาสร้างใหม่
แต่แล้วล่าสุดมีการเปิดตัวเกม ‘Otogi Katsugeki Mameda no Bakeru: Oracle Saitarou no Sainan!!’ (ชื่อเต็ม ๆ ยาวมาก) บน Nintendo Switch ที่หลังจากปล่อยตัวอย่างแรกแฟนเกมคิดว่ามันคือภาคใหม่ของ ‘โกเอมอน’ เลยด้วยซ้ำ เพราะว่าเรื่องราวจะเกิดในญี่ปุ่นยุคโบราณที่มีความแฟนตาซี ตัวละครหลักก็หน้าตาคล้ายกับ ‘โกเอมอน’ แถมยังมีความหลุดโลกอย่างมีหุ่นยนต์ยักษ์ให้ใช้งานด้วย เรียกว่ามันถอดแบบจากตำนานของ Konami แบบตั้งใจ แม้ว่ามันจะถูกสร้างโดยทีมงานอื่นที่ไม่ได้เกี่ยวข้องก็ตาม
กราฟิกถือว่าดีสำหรับ Nintendo Switch
เนื่องจากเกมใช้แนวทางการสร้างโลกแบบการ์ตูน ทำให้กราฟิกอาจจะไม่ใช่จุดขาย เพราะโดยรวมก็เหมือนเกมเมื่อ 10 ปีก่อนในยุค PS3 แต่ก็ไม่ได้ดูแย่อะไร แต่ก็ต้องขอติไว้หน่อยเพราะมีหลายฉากที่ผู้สร้างพยายามจะทำให้คล้ายกับ ‘Super Mario Odyssey’ แต่กลับทำไม่ได้ดีเท่า เพราะฉากในเกมขาดรายละเอียดหากตั้งใจมองกันจริง ๆ
แถมเกมยังมีอาการเฟรมเรตตกในหลายฉาก แถมคัตซีนในเกมก็ยังทำออกมาได้เรียบ ๆ มีหลายฉากที่ใช้ภาพนิ่งเล่าเรื่องทำให้ดูเหมือนว่าผู้สร้างไม่ค่อยคงทุนเท่าที่ควร ยังดีที่มีการใส่เสียงพากย์เข้ามาเล่าเรื่องด้วยแม้จะไม่ได้มีทุกฉากก็ตาม ส่วนเพลงประกอบทำออกมาได้พอใช้มีการใช้เพลงโบราณของญี่ปุ่นมา Mix เสียงใหม่ให้ทันสมัย แต่น่าเสียดายที่มันไม่มีเพลงธีมเด่น ๆ ติดหูนักทำให้เพลงประกอบดูเรียบเกินไปหน่อย
รูปแบบการเล่นแอ็กชัน 3 มิติที่สนุกพอตัว
เกมเพลย์จะไม่ได้แปลกใหม่อะไรนัก เพราะมันคือแอ็กชัน 3 มิติธรรมดา ที่เราจะได้รับบทเป็นหนุ่มน้อยนาม “Bakeru” ที่จะได้ท่องไปทั่วญี่ปุ่นเพื่อต่อสู้กับ “Festival Army” ที่ได้ออกก่อกวนไปทั่วญี่ปุ่น ซึ่งหลัก ๆ แล้วเราจะมีไม้ตีกลองเป็นอาวุธหลักไว้โจมตีศัตรู และสานต่อทำเป็นคอมโบรัว ๆ ได้อย่างง่ายดาย และยังมีการหลบหลีกด้วยการพุ่งตัว และมีท่าป้องกัน ซึ่งเป็นระบบพื้นฐานของเกมแอ็กชันทั่ว ๆ ไป
ในช่วงแรกของเกมทำออกมาได้ธรรมดามากจนคิดว่ามันไม่น่าจะสนุกเท่า ‘โกเอมอน’ แต่พอเล่นไปสักพักจนได้ต่อสู้กับบอสตัวแรกถือว่าเป็นจุดเปลี่ยน เพราะเมื่อเอาชนะได้จะได้ท่าไม้ตายของมันมาใช้ ซึ่งส่วนนี้อาจจะคล้ายกับซีรีส์ ‘Rockman’ อยู่หน่อย ๆ ไม่ได้เหมือนแบบ 100%
ซึ่งท่าไม้ตายที่ได้จากบอสจะใช้ได้จำกัดมีค่าพลังกำหนด ที่มีทั้งการใช้ลูกดิ่ง Yo-yo โจมตีศัตรู หรือใช้พลังฝ่ามือแบบซูโม่ที่ทรงพลัง หรือใช้ปืนยิงกระสุนเพื่อโจมตีระยะไกล, และยังมีการย่อตัวให้เล็กลงเพื่อเข้าไปในที่แคบเพื่อแก้ปริศนาด้วย ส่วนระบบไอเทมก็มีทั้งยาเติมพลัง หรือเพิ่มพลังท่าพิเศษรวมทั้งมีอุปกรณ์เสริมมาให้ใช้งานด้วย ซึ่งก็ต้องเก็บเงินไปซื้อมาใช้งาน
มีความหลากหลายแต่ไม่สดใหม่
ซึ่งหลังจากได้ท่าพิเศษมาความสนุกของเกมจะเพิ่มขึ้น เพราะมีการออกแบบด่านและศัตรูโหด ๆ เข้ามาให้เราต่อสู้ด้วยท่าใหม่ ๆ มีหลายฉากที่ผู้สร้างพยายามจะเลียนแบบเกม ‘Super Mario’ เพราะมีด่านที่เราจะได้กระโดดไปตามพื้นผิว หรือฉากเลื่อนที่เราต้องรีบเดินไปจะมัวแต่ช้าไม่ได้เพราะจะโดนฉากดันจนตาย แต่ยังไม่สนุกเท่ากับซีรีส์ลุงหนวด ส่วนภารกิจหลักของเกมก็ง่าย ๆ แค่ค้นหาและทำลายโคมไฟที่ซ่อนอยู่ในฉาก เพื่อปลดล็อกเส้นชัยที่เป็นกลองที่อยู่ท้ายด่าน
และนอกจากฉากแอ็กชัน 3 มิติทั่ว ๆ ไป ผู้สร้างยังเสริมด้วยฉากรถแข่งซึ่งส่วนนี้มีความคล้ายกับ ‘Mario Kart’ แบบตั้งใจแต่จะไม่มีไอเทมพิเศษเท่านั้น และยังมีฉากยานยิงแบบ 3D เสริมเข้ามาให้เล่นกันด้วย ปิดท้ายกับการต่อสู้ด้วยการใช้งานหุ่นยนต์ยักษ์มาต่อสู้กัน ที่จะมาด้วยมุมมองบุคคลที่ 3 ทำให้ไม่ได้คล้ายกับ ‘โกเอมอน’ และเกมเพลย์ดูเรียบง่ายเกินไปหน่อย
แม้ว่าเกม ‘Otogi Katsugeki Mameda no Bakeru’ อาจจะไม่สามารถเทียบกับความสนุกของตำนานอย่าง ‘โกเอมอน’ ได้แต่ก็ถือว่าทำออกมาได้ดีพอตัว มีการยำรวมความเป็น ‘โกเอมอน’ รวมร่างกับ ‘Super Mario’ และ ‘Rockman’ ได้ลงตัว ความสนุกอยู่ในระดับดีในช่วงท้ายเกมมีอะไรใส่เข้ามาท้าทายผู้เล่นมากกว่าฉากแอ็กชัน ใครคิดถึง ‘โกเอมอน’ ก็พอจะทดแทนได้
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส