[รีวิวเกม] Skull and Bones - มหากาพย์เส้นทางสู่การเป็นราชาแห่งโจรสลัด

Our score

6.5

[รีวิวเกม] Skull and Bones – มหากาพย์เส้นทางสู่การเป็นราชาแห่งโจรสลัด

จุดเด่น

ออกแบบระบบการต่อสู้ทางเรือและการเดินทางในท้องทะเลออกมาได้ลึก รายละเอียดสมจริง
สามารถปรับแต่งเรือได้เกือบทุกส่วน และการปรับแต่งต่าง ๆ มีรายละเอียดที่น่าสนใจ
กราฟิกและเสียงประกอบทำได้ดีตามมาตรฐาน

จุดสังเกต

เนื้อเรื่องและปฏิสัมพันธ์กับตัวละครอื่น ๆ ดูแห้งแล้ง ไม่ลุ่มลึก
ต้องใช้เวลาทั้งในการเดินทาง การหาของ ไม่เหมาะกับคนที่ไม่ชอบฟาร์ม

หลังจากเริ่มพัฒนาตั้งแต่ปี 2013 ในที่สุดเกม MMO แนวโจรสลัดอย่าง Skull and Bones ก็ได้ฤกษ์วางจำหน่าย เชื่อว่าใครที่ชื่นชอบการสวมบทบาทเป็นโจรสลัดและชื่นชอบมหากาพย์สงครามแห่งท้องทะเลต้องไม่พลาดเกมนี้แน่นอน

Skull and Bones เป็นเกมที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Assassin’s Creed IV: Black Flag จัดจำหน่ายโดย Ubisoft ซึ่งหลังจากประกาศพัฒนาตัวเกมนี้ตั้งแต่ปี 2013 ก็ติดปัญหาต่าง ๆ นานาจนเลื่อนแล้วเลื่อนอีก แต่ในที่สุดก็วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2024

เรื่องราวของ Skull and Bones เกิดขึ้นในช่วงยุคทองของโจรสลัดช่วงศตวรรษที่ 17 ในมหาสมุทรอินเดีย โดยฉากหลังของเกมจะให้เราท่องทะเลตะวันออกของแอฟริกาไปจนถึงหมู่เกาะอีสต์อินเดีย ตัวละครของเราคือลูกเรือที่รอดจากการถูกโจมตีจนเรือแตก เราต้องเริ่มออกเดินทางรวบรวมทรัพยากร พรรคพวก และชื่อเสียง เพื่อก้าวขึ้นมาเป็นราชาแห่งโจรสลัดให้ได้

ระบบพื้นฐานภายในเกม

การสร้างตัวละคร

หลังจากจบคัตซีนช่วงแรกเกมจะตัดเข้าสู่การสร้างตัวละครซึ่งมีให้เราเลือกตาม Preset ที่มีมาให้อยู่แล้ว และเราจะสามารถเลือกปรับสีผิว สีผม สีตา ทรงผม รวมถึงเพิ่มรอยสักหรือหนวดเคราได้อีกเล็กน้อย ทำให้ตัวละครไม่มีความหลากหลายเท่าที่ควร ไม่สามารถปรับแต่งให้มีเอกลักษณ์หรืออิสระได้ เพราะฉะนั้นเวลาไปเจอกับผู้เล่นอื่นหน้าตาก็อาจซ้ำ ๆ กันไปบ้าง

Naval Combat

แน่นอนว่าระบบหลักที่เป็นจุดเด่นของเกม Skull and Bones ก็คือ Naval Combat หรือการต่อสู้ทางทะเล ซึ่งตัวเกมเน้นและให้ความสำคัญกับระบบนี้เรียกได้ว่าการเดินเรื่อง ภารกิจ หรือกิจกรรมต่าง ๆ ส่วนใหญ่นั้นเกิดขึ้นบนท้องทะเลทั้งหมด ส่วนการขึ้นบกไปสำรวจเกาะต่าง ๆ นั้นจะเป็นการไปรับภารกิจต่าง ๆ มากกว่า

ด้วยความที่จุดเด่นชูโรงคือระบบการเดินเรือและการต่อสู้ทางทะเล ซึ่งต้องบอกว่า Skull and Bones ออกแบบระบบและความลึกออกมาได้ดีและละเอียด ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการอัปเกรดเรือด้วยการเพิ่มอาวุธ ชุดเกราะ การปรับแต่งเรือของเราได้แทบทุกส่วน รวมถึงรายละเอียดที่เจาะลึกลงไปอีกอย่างปืนประเภทต่าง ๆ หรือการเลือกอัปเกรดเรือให้เหมาะกับสไตล์การเล่น

นอกจากนี้การควบคุมเรือยังต้องคำนึงถึงกระแสลม กระแสคลื่น ไปจนถึงจุดอ่อนของเรือศัตรู ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้ล้วนมีผลต่อการเดินเรือและการรบของเราทั้งนั้น ด้วยความใส่ใจในรายละเอียดต่าง ๆ เหล่านี้ใครที่ชอบการรบทางเรือ การเดินเรือ รับรองว่าถูกใจแน่นอน

ด้วยความที่ตัวเกมเน้นการต่อสู้ด้วยเรือ การฟาร์มหาของ หาแบบแปลนมาอัปเกรดเรือจึงเป็นอีกหนึ่งระบบที่ตามมา ซึ่งก่อนจะหาแบบแปลนเรือเก่ง ๆ หรือไปลุยภารกิจยาก ๆ ได้ เราก็ต้องเริ่มจากการทำภารกิจง่าย ๆ สะสมชื่อเสียงไปก่อน เมื่อชื่อเสียงและระดับของเรามากพอก็จะสามารถรับภารกิจที่ยากขึ้นและมีของตอบแทนที่ดีขึ้นได้

ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ

Infamy

ระบบค่าชื่อเสียงหรือ Infamy เป็นฟีเจอร์ที่กำหนดระดับของเราในโลกแห่งโจรสลัดของ Skull and Bones แรกเริ่มเราจะอยู่ที่ระดับ Outcast แต่หลังจากทำภารกิจสะสมค่าชื่อเสียงไปเรื่อย ๆ ก็จะได้เลื่อนระดับสูงขึ้น ยิ่งระดับสูงก็ยิ่งมีสิทธิพิเศษ รับภารกิจยาก ๆ ได้ และเข้าถึงคอนเทนต์ต่าง ๆ ในเกมได้หลากหลายขึ้น โดยระดับสูงสุดก็คือ Kingpin เราสามารถรับค่าชื่อเสียงได้หลากหลาย ทั้งจากการจมเรือ การทำภารกิจจาก NPC เป็นต้น

Bounty Board & Job Board

เราสามารถเลือกรับภารกิจออกล่าค่าหัวโจรสลัดระดับบอสเพื่อล่ารางวัลได้ โดยบอสแต่ละตัวก็จะมีเรือที่แตกต่างกันออกไป ส่วนภารกิจอื่น ๆ ที่สามารถรับได้ก็จะมีทั้งงานทั่วไปและงานเฉพาะทางที่มีระดับความยากแตกต่างกัน

Dens

Dens หรือถ้าจะให้เรียกแบบเหมาะกับ Skull and Bones ก็ใกล้เคียงกับคำว่ารังโจรสลัด เพราะเป็นพื้นที่ที่เราสามารถเทียบเรือเพื่อทำกิจกรรมต่าง ๆ อย่างการเติมเสบียง คราฟต์สิ่งของ รับภารกิจใหม่ ๆ ไปจนถึงมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เล่นอื่นได้ โดยในเกมจะมีเกาะที่เปรียบเสมือน Dens ของเรา 2 แห่ง คือ Sainte-Anne และ Telok Penjarah

Ships

สวมบทบาทเป็นโจรสลัดทั้งทีไม่พูดถึงเรื่องของเรือเลยก็คงไม่ได้ โดยในช่วงเริ่มแรก Skull and Bones มีเรือที่แตกต่างกันถึง 10 รูปแบบมาให้เราได้เลือกเล่น และแบ่งออกเป็น 3 สไตล์การเล่นหลักคือ เรือโจมตี (DPS) เรือป้องกัน (Tank) และเรือสนับสนุน (Support) ซึ่งเราสามารถเลือกปรับแต่งอาวุธและเกราะของเรือได้ โดยอาวุธและเกราะก็มีแยกย่อยลึกลงไปอีกทั้งประเภทการยิง ประเภทกระสุน นอกจากนี้อาวุธระดับสูงยังมี Secondary Damage หรือเอฟเฟกต์อื่นที่ตามมาหลังจากการทำดาเมจปกติ ทั้งยิงระเบิด ยิงเจาะเกราะ ยิงกระสุนเพลิง เป็นต้น

นอกจากการอัปเกรดอาวุธและชุดเกราะ ยังมีการตกแต่งเรือด้วยเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งต่าง ๆ ที่มีผลต่อการเพิ่มความสามารถให้กับเรือของเรา นอกจากนี้ในฐานะกัปตันเรายังต้องคอยบริหารเรือในส่วนของการซ่อมแซม การเติมกระสุน และดูแลคลังเสบียงอีกด้วย

Co-op และ Cross Platform

ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินเรื่องหรือการทำภารกิจต่าง ๆ ผู้พัฒนาได้ออกมาให้ข้อมูลว่า Skull and Bones สามารถเล่นแบบ Solo ได้แน่นอน นอกจากนี้ยังสามารถ Co-op กับเพื่อนคนอื่น ๆ ได้อีกในรูปแบบปาร์ตี้ 3 คน และยังรองรับระบบครอสแพลตฟอร์มด้วย

ฟีเจอร์อื่น ๆ

นอกจากระบบการสู้รบทางเรือที่เป็นระบบหลัก ยังมีอีกฟีเจอร์ที่น่าสนใจนั่นก็คือระบบการค้า หรือ The Helm โดยเราจะได้เริ่มเส้นทางการค้าในตลาดมืดตั้งแต่เริ่มจากเป็นคนส่งของ ผลิตสินค้า ไปจนถึงการยึดพื้นที่การผลิตมาเป็นของเราเอง สามารถสร้างอาณาจักรของตัวเองในตลาดมืดแห่งนี้ได้ ซึ่งหลังจากได้สัมผัสแล้วต้องบอกว่าเป็นระบบที่ออกแบบมาได้ดีงามพอสมควร เสียดายที่ไม่ใช่ระบบหลักของเกมจึงไม่ได้ต่อยอดไปไกลกว่านี้ แต่สำหรับรายละเอียดของระบบที่มีทั้งการปล้น อุปสงค์อุปทานที่เปลี่ยนไปตามเวลาและพื้นที่ เท่านี้ก็ถือว่าสร้างสีสันให้เกมได้มากพอสมควร

กราฟิกและเสียงประกอบ

ด้านกราฟิกและเสียงประกอบของ Skull and Bones นั้นถือว่าทำได้ดีตามมาตรฐาน เพราะ Ubisoft มีความใส่ใจทั้งเรื่องภาพและเสียงอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศท้องทะเล บนเกาะ หรือคัตซีนก็ดูสวยงามมีชีวิตชีวา แม้จะมีเฟรมเรตตกเป็นบางช่วงเมื่อเข้าสู่การเดินทางในทะเลแต่ก็รับได้เพราะด้วยความที่เกมเป็นเกม MMO จึงต้องให้ความสำคัญกับความลื่นไหลของเกมด้วย

UI หรือหน้าจอระหว่างการเล่นเรียบง่ายสบายตา แผนที่ดูง่ายทำให้การเล่นไม่ติดขัด ส่วนเสียงประกอบก็แน่น คม สมจริง ทั้งเสียงอาวุธยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ ระหว่างต่อสู้ เสียงคลื่นลมทะเล ไปจนถึงเสียงเพลงสไตล์โจรสลัดระหว่างเดินเรือก็ทำให้ได้บรรยากาศไม่น้อยเลย

จุดสังเกตที่ควรรู้ก่อนเล่น Skull and Bones

แม้ตัวเกมจะมีส่วนดี ๆ ที่ต้องชื่นชมทั้งการออกแบบระบบการสู้รบในทะเลออกมาได้สนุก สมจริง และการปรับแต่งเรือที่ค่อนข้างลึก แต่ก็มีจุดสังเกตที่ควรรู้คือตัวเกมไม่ได้เน้นการสู้รบบนบก ทำให้เราไม่ได้เห็นความหลากหลายตรงส่วนนี้ นอกจากนี้การขึ้นเกาะก็ไม่ได้มีอะไรให้ทำมากนัก ส่วนใหญ่จะเป็นการรับภารกิจ ปรับแต่งเรือ เติมเสบียง แต่ไม่ได้เปิดพื้นที่ให้เดินสำรวจอย่างอิสระ

นอกจากนี้เรายังไม่สามารถมีปฏิสัมพันธ์กับลูกเรือได้เลย กลายเป็นว่าความละเอียดในส่วนของความสัมพันธ์กับลูกเรือหายไปแบบน่าเสียดาย เหมือนมีสมาชิกบนเรือมาทำหน้าที่ใครหน้าที่มันโดยเราไม่สามารถรู้เรื่องราวของตัวละครแต่ละตัวไปได้มากกว่านั้น เช่นเดียวกับเนื้อเรื่องของเกมและ NPC อื่น ๆ ที่ไม่ได้มีความลุ่มลึกเท่าไรนัก

อีกส่วนที่น่าเสียดายคือแม้เราจะปรับแต่งเรือได้ละเอียดมาก แต่อย่างไรก็ตามเราไม่สามารถปรับสัญลักษณ์บนเรือให้มีเอกลักษณ์เฉพาะได้ ซึ่งก็น่าเสียดายเพราะด้วยความที่เป็นเกม MMO และเราสามารถสู้รบหรือเจอกับเรือของผู้เล่นคนอื่นได้ หากมีเรือที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองมากกว่านี้คงจะดี

สรุป

Skull and Bones เป็นเกม MMO แนวโจรสลัดที่มีเกมเพลย์สนุก เร้าใจ ในส่วนของการเดินเรือและการสู้รบทางเรือทำออกมาได้ดี ตอบโจทย์คนที่ชื่นชอบเกมแนวโจรสลัดและชื่นชอบบรรยากาศการเดินเรือ เป็นเกมที่ต้องใช้เวลาในการเล่นไม่ว่าจะการไต่ระดับจากภารกิจต่าง ๆ การหาของ หาแปลนเรือ ซึ่งตัวเกมก็เล่นได้เพลินดี แม้จะยังมีจุดสังเกตมาให้เรารู้สึกติดใจอยู่บ้าง แต่หลังจากนี้หากมีการอัปเดตจากทางผู้พัฒนาออกมาเรื่อย ๆ เชื่อว่า Skull and Bones ก็ยังสามารถพัฒนาให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นและมีความหลากหลายมากขึ้นไปอีกจากคอนเทนต์ต่าง ๆ ที่จะอัปเดตเข้ามาในอนาคตแน่นอน

Skull and Bones วางจำหน่ายแล้วบน PlayStation 5, Xbox Series X/S, และ PC ผ่านแพลตฟอร์ม Ubisoft Connect

***