[รีวิวเกม] ‘Shin chan: Shiro of Coal’ ชินจังตะลุยดินแดนเหมืองถ่านหิน (Nintendo Switch)

หากย้อนกลับไปในปี 2021 ช่วงที่ผู้คนเริ่มสิ้นหวัง เพราะดูเหมือนว่า Covid-19 ระบาดมากว่า 1 ปีก็ยังไม่สิ้นสุด หลายคนยังคงต้องกักตัวอยู่บ้านหรือทำงานที่บ้าน ทำให้หากมีวิดีโอเกมที่สามารถทำให้เราออกไปท่องเที่ยวกับตัวการ์ตูนในตำนานได้มันย่อมขายดีและเกมนั้นคือ ‘Shin-Chan Summer Vacation’ บน Nintendo Switch ที่ขายดีแบบถล่มทลายจนมีการแปลเป็นภาษาอังกฤษ (และออกบนคอนโซลอื่นด้วย)

ในไทยเองก็ขายดีมากเช่นกันเพราะการ์ตูนชินจังเป็นที่คุ้นเคยของคนไทยอยู่แล้ว บวกกับเกมเพลย์ที่เข้าใจง่ายรวมทั้งเกิดดราม่าเพราะมีราคา Bug บนร้านค้าออนไลน์ทำให้มีราคาที่ถูกกว่าปรกติยิ่งทำให้มันกลายเป็นกระแสอย่างมาก แน่นอนว่าในเมื่อมันขายดีแบบนี้ทำให้มีการสร้างภาคต่อในชื่อ ‘Shin chan: Shiro of Coal’ และออกบน Nintendo Switch ก่อนเหมือนเดิม โดยจะวางขายในโซนญี่ปุ่นก่อน

เรื่องราวในภาคนี้จะเกิดที่จังหวัดอาคิตะ เพราะว่าคุณพ่อของชินจังโดนสั่งย้ายงานให้ไปทำงานจังหวัดนี้ซึ่งเป็นบ้านเกิดพอดี ทำให้ครอบครัวโนะฮาร่าต้องย้ายบ้านชั่วคราว แต่แล้วก็เกิดเรื่องมหัศจรรย์เพราะวันหนึ่งเจ้าขาวน้องหมาของชินจัง ได้กลับมาพร้อมกับก้อนถ่านหินลึกลับ และชักชวนชินจังให้ขึ้นรถไฟลึกลับที่พาเราท่องไปใน “เมืองเหมืองถ่านหิน” ส่วนนี้มันจะเหมือนการ์ตูนญี่ปุ่นทั่วไปที่ตัวละครหลักจะเข้าสู่เมืองที่ดูแฟนตาซีเหนือธรรมชาติ

กราฟิกเหมือนภาคแรกไม่เปลี่ยน

ภาพใน ‘Shin chan: Shiro of Coal’ ก็เหมือนกับภาคแรก เพราะเกมแนวนี้จะไม่ได้เน้นกราฟิกคมชัดแบบ 4K อยู่แล้ว เพราะมันมาแนวการ์ตูนแบบจัดเต็ม โดยฉากทั้งหมดจะเป็นภาพวาดเหมือนที่เราได้เห็นในการ์ตูนที่ฉายทางทีวีทั่วไป ส่วนตัวละครจะนำเสนอด้วยภาพแบบเซลเฉดที่สามารถสร้างโลกของชินจังออกมาได้อย่างสมบูรณ์

แม้ไม่ได้โดดเด่นแต่ก็ดูดีเหมือนเดิมเช่นกันอย่างไรก็ตามภาคนี้ได้เสริมอะไรให้เกมดูดีขึ้น เพราะหลายส่วนใส่ฉากแบบ 3D เข้าไปด้วย ซึ่งเป็นการผสมผสานได้กลมกลืนด้วยส่วนนี้ต้องชมอย่างมากเพราะมันเหมือนได้ชมการ์ตูนคุณภาพสูงที่ฉายในโรงภาพยนตร์กันเลย ส่วนเพลงประกอบก็มาแนวเดิมที่ดูเรียบ ๆ เข้ากับแนวทางการเล่นที่เน้นสำรวจมากกว่า และยังเสริมเพลงธีมในตำนานของการ์ตูนชินจังเข้ามาด้วย

รูปแบบการเล่นเน้นสำรวจเหมือนเดิม

ก่อนอื่นหากคุณไม่เคยเล่นภาคแรกมาก่อนแล้วหวังว่าเกมชินจังจะมอบความบันเทิงแบบแอ็กชันก็บอกว่าต้องผิดหวัง เพราะแนวทางของ ‘Shin chan: Shiro of Coal’ มันยังคงเน้นสำรวจฉากเพื่อแก้ปริศนาแล้วทำเนื้อเรื่องต่อตามแนวทางที่เป็น “เกมแนวทำเนื้อเรื่อง” ไม่เน้นแอ็กชัน ซึ่งหากชอบก็จะหลงรักเลยแต่หากไม่ชอบก็จะหลับคาจอยได้ง่าย ๆ

แต่หากเข้าใจแนวทางการเล่นแล้วถือว่าภาคนี้ทำออกมาได้ดีกว่าเดิม เพราะฉากในเกมมีความหลากหลายกว่าเดิม เพราะฉากจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ฉากแรกคือเมืองชนบทคล้ายกับภาคแรกที่ชินจังจะได้ทำภารกิจเดิม ๆ เช่นการไล่จับแมลง, ตกปลา และปลูกผักทำไร่ สำรวจธรรมชาติที่สวยงามและทำเนื้อเรื่องกับชาวบ้านภายในเมืองเพื่อปลดล็อกฉาก

ส่วนมุมกล้องในเกมจะใช้รูปแบบเดิมแบบเดียวกับภาคแรก ที่เป็นมุมมองจากกล้องวงจรปิดคล้ายกับ ‘Final Fantasy 7’ ต้นฉบับบน PS1 หรือ ‘Resident Evil’ บน PS1 ที่ดูเรียบง่าย แต่ก็มีข้อเสียที่มีมุมอับสายตาอยู่ แต่สำหรับเกมแนวที่ไม่ต้องเครียดมาก เพราะเน้นสำรวจถือว่าทำหน้าที่ของมันได้ดี แม้ในยุคนี้อาจจะดูเชยไปหน่อยก็ตามที

ฉากในเหมืองถ่านหินที่มีความแตกต่าง

ฉากอีกส่วนคือในเหมืองถ่านหินที่เต็มไปด้วยความลึกลับ เพราะมันเป็นเมืองแฟนตาซีที่ดูหลุดโลกเหนือจริงเหมือนเมืองลับแล แต่ก็มีร้านค้าและบ้านคนเหมือนเมืองทั่วไป ที่มีตัวละครแปลก ๆ มากมายและมีภารกิจที่แตกต่างจากเมืองชนบท เพราะนอกจากสำรวจหาของแก้ปริศนาแล้ว ยังเสริมด้วยการหาของแปลก ๆ เช่นถ่านหินหายากซ่อนอยู่ในฉากมากมาย และยังมีไอเทมพิเศษที่เราต้องค้นหาตามภารกิจที่กำหนดด้วย

และไอเทมที่เรารวบรวมได้เอาไว้สร้างสิ่งของแปลก ๆ ได้โดยเราต้องเอาไปให้นักวิทยาศาสตร์สาวสวยสร้างไอเทมใหม่ ๆ แล้วจะปลดล็อกส่วนต่าง ๆ ในเมือง ซึ่งส่วนของการสำรวจหาของน้องหมาเจ้าขาวจะสามารถช่วยหาได้ทำให้การเล่นง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารที่เราสามารถหาวัตถุดิบมาปรุงในร้านได้ แน่นอนว่ามีร้านค้าแปลก ๆ และเมืองกว้าง ๆ ให้สำรวจมากมาย

ความดีงามคือเกมเพลย์ในภาคนี้มีความหลากหลายขึ้น เพราะมีมินิเกมมาให้เล่นมากกว่าเดิมเช่นฉากแข่งรถรางในเมืองเหมืองแร่ ซึ่งจะเป็นฉากแบบ 3D ที่มีแอ็กชันมากกว่าเดิมด้วย จุดนี้ทำได้ดีมาก ๆ เพราะมีเกมเพลย์ที่น่าตื่นเต้นมากกว่าเดิม อย่างไรก็ตามมันยังคงมีข้อจำกัดด้วยระยะเวลาในการเล่นเพราะหากหมดวันจนมืดค่ำ ชินจังต้องกลับบ้านไปนอนไม่ว่าเราจะอยู่ในเมืองหลักหรือในเหมืองถ่านหินก็ตาม ทำให้ผู้เล่นต้องรีบทำภารกิจให้เสร็จก่อนหมดวัน

การกลับมาของเกม ‘Shin chan: Shiro of Coal Town’ ถือว่ายังคงเดินแนวทางเดิมที่เน้นสำรวจฉากทำเนื้อเรื่องเหมือนได้รับชมการ์ตูนชินจังที่เราคุ้นเคยกันดี และภาคนี้ยังเสริมด้วยเมืองใหม่ที่เต็มไปด้วยความลึกลับ ทำให้มีเกมเพลย์ที่หลากหลายขึ้น แม้ว่ารูปแบบการเล่นแบบนี้อาจจะไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคน และกระแสของเกมก็ไม่ได้มีเท่าภาคแรก แต่หากคุณชอบชินจังมันก็ยังคงมีความสนุกให้ค้นหาเหมือนเดิม