[Review] Call of Duty: Warzone Mobile เกมที่หยิบเอาเวอร์ชัน PC, Console มาไว้บนมือถือแบบ 100%
Our score
7.7

Call of Duty: Warzone Mobile

จุดเด่น

  1. ทำออกมาได้เหมือนกับเวอร์ชัน PC,Console แถบจะทั้งหมด เหมือนเล่นเกมเดียวกันเลย
  2. ระบบ Cross-Progression ที่ทำให้รู้สึกน่าเล่นขึ้นเยอะ สำหรับคนที่เล่นแต่บน PC,Console
  3. เล่นโหมด Multiplayer ได้ฟรี ๆ ไม่เสียเงินสักบาท
  4. รองรับการใช้ Controller อย่างเต็มที่

จุดสังเกต

  1. ทำมือถือร้อนมาก ๆ และเกิดอาการกระตุกตลอดทั้งเกม
  2. ใช้พื้นที่ค่อนข้างเยอะ รวม 9.38GB บน iOS
  3. ยังไม่รองรับระบบ Cross-Platfrom
  • GAMEPLAY

    9.0

  • GRAPHICS

    7.0

  • PERFORMANCE

    7.0

Call of Duty ซีรีส์เกมเดินหน้ายิงที่อยู่คู่กับวงการเกมมายาวนาน ได้เปิดตัว Call of Duty Warzone Mobile ซึ่งเป็นการนำเอา Call of Duty ฉบับ PC ,Console ที่เราเล่นกันอยู่ทุกวันนี้ ย่อขนาดมาไว้ในมือถือ โดยความเจ๋งของ Warzone Mobile นั้นก็คือ ตัวเกมรองรับระบบ Cross-Progression ทำให้เราสามารถแชร์ความคืบหน้าระหว่าง PC, Console บน iOS, Andriod ได้ด้วย นับว่าเป็นอะไรที่ดีมาก ๆ สำหรับคนที่อยู่นอกบ้าน และอยากจะเข้ามาเล่น Call of Duty สักหน่อย อุปกรณ์และของทุกอย่างที่เราชื้อจากร้านค้า ก็จะมาอยู่บนมือถือของเรา และค่าประสบการณ์ Level Battle Pass ทุกอย่างที่เราเล่นบนมือถือ มันก็จะแชร์ความคืบหน้าไปอย่าง PC, Console ด้วย จะเรียกได้ว่ามันเป็นเกมเดียวกันเลยก็ได้ เพียงแค่ Port เอามาลงมือถือเท่านั้นครับ

Call of Duty Warzone Mobile นั้นทำออกมาได้ดีมาก ๆ ในมุมมองของเกมมือถือ เพราะว่าตัวเกมสามารถทำทุกอย่างที่ Call of Duty เวอร์ชัน PC,Console ทำได้หมดเลย ผมเองยังรู้สึกประทับใจ + แปลกใจ ว่าเกมมือถือมันทำได้ขนาดนี้เลยหรอเนี่ย ความรู้สึกตอนเล่น มันไม่แตกต่างอะไรกับตอนเล่นบน PC เลยสักนิด จะมีก็เพียงแต่กราฟิกที่ถูกปรับลงมาอย่างมาก และความร้อนของ iPhone 13 ที่ผมใช้เล่น พร้อมอาการกระตุกบ่อย ๆ ที่น่าหงุดหงิดใช้ได้ แต่โดยรวมแล้ว มันก็ถือว่าสอบผ่านเลย สำหรับแฟน ๆ Call of Duty ที่อยากเล่นเกมนี้นอกบ้าน เพราะนอกจากโหมด Warzone ที่มีให้เล่นฟรีแล้ว มันก็ยังมีโหมด Multiplayer ในด่าน Shoot House กับ Shipment มาให้เล่นกันฟรี ๆ ด้วยนะ!

ผลงานจากทีมภายใน Activision Blizzard

Call of Duty Warzone Mobile เป็นผลงานจากทีม Activision Shanghai และทีมอื่น ๆ ภายใน ที่คราวนี้เป็นการร่วมพัฒนากันเองโดยใช้ทีมงานที่ไว้ใจได้ และมีเป้าหมายในการนำเอา Call of Duty Modern Warfare 3 มาย่อขนาดมาไว้ในมือถือ ซึ่งมันจะแตกต่างกับ Call of Duty: Mobile ฉบับปี 2019 ที่เป็นผลงานของ TiMi Studios โดยร่วมมือกับ Tencent Game แน่นอนว่าในเวอร์ชัน 2019 มันก็ทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว แต่สิ่งที่ Warzone Mobile นั้นแตกต่างไป คือคราวนี้เป็นผลงานทีมภายในแบบ 100% โดยไม่ได้มี Tencent มาเกี่ยวข้องครับ

ถึงตรงนี้เราต้องขออธิบายให้เข้าใจกันชัด ๆ อีกทีเพื่อความไม่งงและสับสน Call of Duty: Mobile ฉบับปี 2019 หรือในบ้านเราที่ทาง Garena เอามาเปิดให้บริการในชื่อ Call of Duty: Mobile – Garena เป็นผลงานของ TiMi Studios ที่มีบริษัทแม่คือ Tencent Game โดยเป้าหมายคือการสร้างเกม Call of Duty ฉบับมือถือออกมาให้ดูดีและมอบประสบการณ์ให้ไม่แพ้การเล่นบน PC, Console ส่วน Call of Duty Warzone Mobile ที่เราพูดถึงกันวันนี้นั้น เป็นผลงานจากทีม Activision Shanghai และทีมอื่น ๆ ภายในค่าย โดยเป้าหมายของเกมนี้ ก็คือการนำเอา Call of Duty Modern Warfare 3 มาไว้บนอุปกรณ์มือถืออย่าง iOS, Andriod พร้อมกับมีระบบ Cross-Progression นั่นเอง ทำให้สองเกมนี้เป็นคนละเกม คนละผู้พัฒนา และมีแนวทางต่างกันโดยสิ้นเชิงเลยล่ะ

Gameplay

Call of Duty Warzone Mobile เอาเข้าจริง ๆ มันก็คือ MW3 เวอร์ชันตัดโหมดเนื้อเรื่องและโหมด Zombie, DMZ ออกไป เหลือไว้เพียงแค่ Battle Royale และโหมด Multiplayer เท่านั้น และพิเศษคือเราสามารถเล่นโหมด Multiplayer ได้แบบฟรี ๆ ด้วยนี่ล่ะ สำหรับคนที่เล่นอยู่แล้วบน PC, Console ก็ใช้ Activision ID Login ในเกมได้เลย และตัวเกมมันก็จะเชื่อม ID เราให้ทันที พวกของแต่งตัว สกินปืน Level และทุก ๆ อย่างก็จะเหมือนกับใน PC,Console ทั้งหมด ไม่ต้องไปเริ่มเล่นใหม่เก็บอะไรใหม่ สามารถมาเล่นต่อได้เลย

ถ้าเราวัดแค่ภาพรวมของเกมแล้ว ต้องบอกว่ามันทำออกมาได้ดีเกิดคาด เอาจริง ๆ ตอนแรกผมไม่ได้คาดหวังอะไรเลย เพราะคิดว่ามันก็น่าจะเป็นแค่เกมมือถือธรรมดา ๆ ที่อาจจะเทียบคุณภาพได้พอ ๆ กับ Apex Legends Mobile แต่พอได้ลองเล่นจริง กลับรู้สึกว้าวขึ้นมาทันที ตัวเกมมันจำลองการเล่นได้เหมือนเล่นบน PC,Console เป๊ะ ๆ ทั้งนี้ผมเล่นผ่านใช้ Blackbone Controller เป็นจอยมือถือสำหรับเล่นเกมที่ Warzone Mobile ก็รองรับแบบ 100% เหมือนกับยกเอาเครื่อง PS5 มาไว้บนมือเลยทีเดียว

จนในที่สุดก็รู้ว่า มันก็คือเกมเดียวกันเลย ไม่ได้มีการปรับแต่งอะไรในด้าน Gameplay ทุกอย่างมันก็คือ Call of Duty MW3 ที่เราเล่น ๆ กันมาตลอดนี่ล่ะ เพียงแค่ถูกย่อมาไว้ในมือถือเท่านั้น และก็เพิ่มระบบช่วยเล่นสำหรับมือถือเข้ามา เช่น Auto Run ใน Battle Royale ระบบช่วยเก็บของให้ ระบบช่วยเล็ง และระบบช่วยยิง นอกจากนั้นมันก็คือเกมเดิมเลยล่ะครับ

Performance

และแน่นอนว่าเมื่อมาอยู่ในมือถือ ปัญหาที่ต้องเจอกันแน่ ๆ ก็คือ Performance ของเกม โดยทดสอบครั้งนี้ผมลองเล่นบน iPhone 13 ธรรมดา ๆ ที่พอเข้าเกมมาครั้งแรก พี่แกก็ปรับกราฟิกไว้ให้แบบระดับสูง พร้อมกับโหมด Frame Rate 60FPS ให้ทันที ผลที่ตามมาคือ มันร้อนมาก ๆ และมีอาการ “กระตุก” ตลอดทั้งเกม โดยเฉพาะในโหมด Battle Royale มันกระตุกทั้งเกมเลยจริง ๆ เล่นไปก็รู้สึกหงุดหงิดไป แต่พอมาเล่นโหมด Multiplayer อาการกระตุกก็หายไปบ้าง นั่นเป็นเพราะว่าฉากมันไม่ได้ใหญ่มาก และไม่ได้มีคนเยอะสักเท่าไร

นอกจากนี้ปัจจัยการเล่นเกมมือถือ ความร้อนเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ ถ้าหากเราเล่นนอกบ้านในอากาศที่ร้อน ๆ เกมมันจะกระตุกมากจนเล่นไม่ได้เลย ไม่ว่าจะโหมดอะไรก็ตาม แต่ถ้าหากเล่นในห้องแอร์ที่อากาศเย็นหน่อย มันก็จะช่วยได้เยอะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น มันก็คือขึ้นอยู่กับมือถือของแต่ละคนด้วย ท้ายสุดแล้วก็คือเรื่อง Battery ครับ ที่ผมบอกเลยว่ามันกินแบตมาก ๆ แค่เปิดเกมมาแต่งของแต่งปืน ก็ใช้แบตไปเยอะมาก ๆ iPhone 13 ของผมก่อนเล่น มีแบตอยู่ประมาณ 60% และเล่น Multiplayer ไปได้ 2 Match ประมาณ 20 นาที แบตลดมาเหลือ 35% ก็ตกใจอยู่เหมือนกันว่าอะไรมันจะรับประทานแบตมากขนาดนี้

ในส่วนของกราฟิกนั้น ด้วยการที่มาอยู่ในมือถือ ความเบลอ ๆ มันก็จะมีให้เห็นอยู่บ้าง แต่ก็ไม่เบลอหนักเท่าเกมอย่าง Apex Legends Mobile ที่รายนั้นเบลอจนเล่นไม่ได้ สำหรับเกมนี้ต้องอาศัยเปิดแสงจอให้สุด และเล่นในที่แสงไม่เยอะมาก ก็จะเล่นได้ไม่มีปัญหา ส่วนภาพรวมนั้น ก็ถือว่าทำออกมาได้ดีตามมาตรฐานเกมมือถือ ไม่ได้รู้สึกว้าวอะไร แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันแย่ครับ แต่ถึงแบบนั้นก็ต้องขอชมทีมงานนะ ที่เอาสภาพแวดล้อมของแผนที่อย่าง Verdansk มายัดใส่ในมือถือได้แบบไม่ตัดอะไรออกไปเลย แถมยังรองรับการเล่นมากกว่า 120 คนด้วย (ขอย้ำ 120 คน บนมือถือ)

แต่น่าเสียดายที่ตัวเกมตอนนี้ยังไม่รองรับ Cross-Platfrom แต่คิดว่าในอนาคตก็อาจจะเป็นไปได้ เพราะ Base ของเกมนั้นมันไม่ต่างอะไรกันเลย แถมยังรัน Season ไปพร้อม ๆ กับชาว PC,Console ด้วย และในวันที่ 4 เมษายน 2023 นี้ก็จะเป็นวันเปิดตัว Season 3 ของ Modern Warfare 3 แล้ว ทั้งชาว PC,Console และ iOS,Andriod ก็จะได้เริ่มพร้อมกันไปเลยล่ะ

Verdict

โดยรวมแล้ว Call of Duty Warzone Mobile ทำออกมาได้ดีเลยล่ะ ปัญหาที่เจออยู่แค่อย่างเดียวเลยก็คือ เกมมันทำเอามือถือผมร้อนมาก ๆ iPhone 13 ที่น่าสงสารเอาไม่อยู่ ขนาดเล่นในห้องแอร์ก็ยังมีกระตุกบ้าง และถ้าเล่นข้างนอกที่ร้อน ๆ นี่ ก็ไม่ต้องเล่นกันแล้วล่ะ แต่สำหรับเกมเมอร์คนอื่น ๆ ที่น่าจะมีอุปกรณ์ที่ดีกว่านี้ ก็น่าจะสนุกกับมันได้ และได้รับประสบการณ์ที่ไม่แตกต่างอะไรกับการเล่นบน PC,Console เลยล่ะ