[รีวิวเกม] Eiyuden Chronicle: Hundred Heroes เกมสุดท้ายของผู้สร้าง Suikoden

เชื่อว่าหลังจากการประกาศเปิดตัว ‘Eiyuden Chronicle: Hundred Heroes’ แฟนเกม RPG ยุค 90S ต้องดีใจแน่เพราะมันเป็นผลงานของ โยชิทากะ มูรายามะ (Yoshitaka Murayama) ผู้สร้างซีรีส์ ‘Suikoden’ ซึ่งน่าเสียดายที่เขาเพิ่งเสียชีวิตไปก่อนเกมจะวางขาย ยิ่งทำให้การมาของเกมนี้มีคุณค่าน่าเล่นขึ้นไปอีก

โดย ‘Eiyuden Chronicle: Hundred Heroes’ เดินรอยตามเกม ‘Suikoden’ แบบตั้งใจทั้งกราฟิกและเกมเพลย์ เพราะว่าผู้สร้างมีเจตนาเพื่อเอาใจแฟน ๆ ที่เคยเล่นมาก่อนแบบตรง ๆ ไม่อ้อมค้อม (อีกเหตุผลคือทางค่าย Konami ไม่ยอมสร้าง ‘Suikoden’ ภาคใหม่ด้วย) ซึ่งในตอนแรกมีการระดมทุนจากแฟน ๆ ทั่วโลก จนสามารถสร้างออกมาได้ โดยจะวางขายบน Nintendo Switch, PlayStation 4, PlayStation 5, Xbox One, Xbox Series X/S และ PC

การพัฒนา ‘Eiyuden Chronicle: Hundred Heroes’ เริ่มต้นจากการที่ผู้สร้างหลักอย่างมูรายามะได้ลาออกจาก Konami ในปี 2002 ผ่านมาหลายปี เขาอยากสานต่อความสนุกของเกมในอดีต และได้ประกาศระดมทุนผ่าน Kickstarter และได้รับเงิน 5 แสนเหรียญใน 4 ชั่วโมง และได้เงินทุนสร้างทั้งหมดรวม 4.5 ล้านเหรียญ ถือว่าเป็นเกมที่ได้รับเงินจากการระดมทุนมากเป็นอันดับ 3 และหลังจากใช้เวลาสร้างหลายปี ในที่สุดมันก็สามารถกลับมาสานต่อความสำเร็จของเกมเพลย์ที่แฟน ๆ คุ้นเคย

กราฟิกแบบคลาสสิกที่ยังดูดี

ตามแนวทางที่ผู้สร้างได้บอกตั้งแต่ยังไม่วางขายคือเกม ‘Eiyuden Chronicle: Hundred Heroes’ จะใช้งานออกแบบภาพแบบย้อนยุคที่คล้ายกับ ‘Suikoden’ แต่จะผสานรูปแบบกราฟิกของเกมยุคใหม่เข้าไป ซึ่งพอออกมาเป็นตัวเกมเต็ม ๆ แล้วถือว่าทำออกมาได้ดีในระดับน่าพอใจ มีงานออกแบบกราฟิกที่ผสมผสานระหว่างภาพแบบพิกเซล และมีมิติแบบเกมสมัยใหม่ได้ลงตัว

นอกจากนี้ยังมีความละเอียดแบบ HD ด้านงานออกแบบโดยรวมถือว่าสอบผ่าน แม้รายละเอียดของฉากจะดูธรรมดาไปหน่อย และเวอร์ชันบน Nintendo Switch พบปัญหาเฟรมเรตตกตลอดการเล่น แถมยังโหลดนานกว่าเวอร์ชันอื่นอีก โดยรวมภาพดูธรรมดาไปหน่อย ส่วนตัวชอบงานออกแบบของเกม ‘Octopath Traveler’ มากกว่า ที่นำเสนอแบบย้อนยุคที่ความละเอียดแบบ HD ซึ่งทำได้ดีกว่ามาก

ส่วนเพลงประกอบเนื่องจากต้นฉบับที่ผู้สร้างต้องการให้เป็นคือเกมที่วางขายบน PS1 ทำให้เพลงประกอบไม่ได้ย้อนยุคไปมากนักเพราะบน PS1 ใช้สื่อเป็น CD ที่ทำเพลงประกอบคุณภาพสูงได้แล้ว แต่เพลงที่แต่งเข้ามาไม่ได้อ้างอิงถึง ‘Suikoden’ และไม่ได้ติดหูเท่า แต่ก็มีดนตรีที่ฟังได้เพลิน ๆ เข้ากับแนวทาง RPG เทิร์นเบส และยังลงทุนใส่เสียงพากย์เข้ามาในบางจุดด้วย โดยรวมถือว่าลงทุนเมื่อเทียบกับทุนสร้าง

เกมเพลย์ RPG เทิร์นเบส แบบคลาสสิก

ด้วยตัวเกมต้องการเดินตามรอยต้นฉบับรูปแบบเกมที่ได้รับความนิยมในยุค 90S อย่าง RPG เทิร์นเบส ใส่คำสั่งแล้วผลัดกันโจมตี และใช้แบบรอเวลาไม่ได้เป็นแบบเรียลไทม์ ฟังดูเชยแต่ก็มีความรวดเร็วในการเล่นพอสมควร แม้จะมีการรอโหลดอยู่บ้าง ฉากต่อสู้มีมิติแบบ 3D และมีการปรับเปลี่ยนมุมกล้องแบบอัตโนมัติ พร้อมทั้งมีการซูมเข้าออกเวลาใช้ท่าไม้ตาย

ระบบต่อสู้ก็เรียบง่ายมีการโจมตีแบบธรรมดา และใช้เวทมนตร์ที่มีทั้งโจมตีและเติมพลังตัวละคร นอกจากนี้ยังมีท่าพิเศษที่จะผสานพลังของตัวละคร ทำให้เพิ่มความหลากหลายของเกมเพลย์ แต่ก็ไม่ได้แปลกใหม่อะไร ระบบอัปเกรดตัวละครก็ใช้เลเวลแบบธรรมดา เรียกว่าเหมือนกับ RPG ในยุค 90S มากจนขาดความโดดเด่น แต่ก็เป็นความต้องการของผู้สร้างอยู่แล้ว ดังนั้นใครที่ไม่ชอบก็ไม่ควรไปหามาเล่น

เกมเพลย์เข้าใจง่ายและมีอะไรให้ทำมากมาย

ต่อด้วยฉากหลักที่เป็นเมืองและดันเจี้ยนในเกมเป็นแบบ 3 มิติแต่ปรับมุมกล้องไม่ได้ ทำให้การเล่นในฉากดันเจี้ยนที่ซับซ้อนเต็มไปด้วยมุมอับสายตา ซึ่งผู้สร้างตั้งใจ เพราะมันเป็นที่ซ่อนของทางลับหรือไอเทมพิเศษ และส่วนนี้ทำออกมาได้ดี ฉากในเกมเต็มไปด้วยปริศนา ไม่ใช่แค่เดินไปต่อสู้กับบอสก็ผ่าน เพราะมันทั้งซับซ้อนและมีสิ่งที่ต้องทำแบบพัซเซิลเพื่อเปิดทางไปต่ออยู่ด้วย

นอกจากนี้ตัวเกมไม่ได้ง่าย เพราะมันมีความยากพอสมควร รวมทั้งมีบอสสุดโหดที่เราต้องหาจุดอ่อนเพื่อกำจัดมัน จะมานั่งสั่งคำสั่งโดยไม่คิดวางแผนไม่ได้ และยังต้องปรับตั้งค่าอัปเกรดตัวละครให้ดี ไม่งั้นก็จะโดนตบตายยกทีมได้ง่าย ๆ และหากรู้สึกว่ามันยังไม่ยากพอ เกมมีระบบปรับความยากให้โหดกว่าเดิมมาให้เลือกด้วย และมันไม่ได้มีเกมเพลย์แค่ RPG ธรรมดาเท่านั้น ‘Eiyuden Chronicle: Hundred Heroes’ ได้ใส่ฉากทำสงครามที่มาในรูปแบบวางแผนการรบมาให้เล่นด้วย ซึ่งระบบก็มาตามพื้นฐานที่เข้าใจไม่ยาก

ส่วนความโดดเด่นอีกจุดของ ‘Eiyuden Chronicle: Hundred Heroes’ คือตัวละครจำนวนมาก ซึ่งเหมือนเป็นการสานต่อตำนานของ ซีรีส์ ‘Suikoden’ ที่อ้างอิงถึงตำนาน “108 ผู้กล้าเขาเหลียงซาน” ทำให้ในเกมนี้มีตัวละครให้เลือกใช้งานจำนวนมาก และแต่ละตัวมีความสามารถแตกต่างกัน ผู้เล่นสามารถสร้างทีมที่แข็งแกร่งและอัปเกรดท่าไม้ตายใหม่ ๆ ได้มากมายอย่างเหลือเชื่อ และทำให้อยู่กับเกมได้นานหลายสิบชั่วโมงโดยไม่เบื่อ

การกลับมาของ ‘Eiyuden Chronicle: Hundred Heroes’ เป็นการเอาใจแฟน ๆ ที่ชอบความคลาสสิกของซีรีส์ ‘Suikoden’ ที่ทาง Konami ไม่ยอมสานต่อ เพราะมันแทบจะเหมือนภาคต่อทั้งเกมเพลย์และกราฟิกที่เดินตามรอยแบบตั้งใจ อย่างไรก็ตามความเชยของเกมเพลย์และกราฟิกยังคงตามมาด้วย ทำให้หากคุณไม่ได้ชอบต้นฉบับ มันอาจจะไม่เหมาะที่จะหามาเล่น แต่หากเป็นแฟนตัวจริง มันคือสิ่งที่ผู้สร้างตั้งใจทำมาให้โดยเฉพาะที่ไม่อยากให้พลาดไป