Our score
7.5Super Monkey Ball Banana Rumble
จุดเด่น
- งานออกแบบฉากดี
- เกมเพลย์เข้าใจง่ายสนุก
จุดสังเกต
- กราฟิกธรรมดาไปหน่อย
- โหมดในเกมมีน้อยไปนิด
-
ภาพรวม
7.5
-
กราฟิก
7.0
-
เกมเพลย์
8.0
-
ความคุ้มค่า
7.5
‘Super Monkey Ball’ หนึ่งในเกมน่ารักที่ดังแบบเงียบ ๆ แต่ก็ขายดีจนออกภาคต่อมาอย่างยาวนาน เพราะความน่ารักของตัวเกม และรูปแบบการเล่นที่สนุกเข้าใจง่ายและเหมาะมากที่จะเล่นในงานปาร์ตี้ ทำให้ไม่แปลกที่ SEGA จะยึดเป็นหนึ่งในเกมทำเงินของค่ายที่ออกภาคใหม่มาตลอด
‘Super Monkey Ball’ ภาคแรกออกบนเกมตู้อาเขตในปี 2001 และมีการวางขายคอนโซลครั้งแรกบน Game Cube และออกบน PS2 ด้วย แต่เชื่อว่าคนไทยน่าจะคุ้นเคยกับภาคที่ออกวางขายบน Wii ที่มาในชื่อ ‘Super Monkey Ball: Banana Blitz’ ที่โด่งดังเพราะใช้ Wii Mote ในการควบคุม ส่วนภาคภาคล่าสุดที่จะรีวิวในวันนี้คือ ‘Super Monkey Ball Banana Rumble’ ที่ออกเฉพาะ Nintendo Switch
โดยในส่วนของเนื้อเรื่องที่ภาคนี้ถือว่า SEGA มีการลงทุนพอสมควร เพราะมีการใส่คัตซีนที่เป็นแอนิเมชันแบบจัดเต็ม ที่ปรกติจะไม่ค่อยเห็นในซีรีส์นี้ มีเพียงบางภาคที่ใส่เข้ามาเท่านั้นทำให้การเล่นในโหมดเนื้อเรื่องดูดีขึ้นมาก เพราะมีการเล่าเรื่องที่สมจริงมากกว่าเดิม ส่วนเรื่องราวในภาคนี้ผู้เล่นจะรับบทเป็นน้องลิงที่ต้องออกค้นหา Legendary Banana หรือกล้วยในตำนานผ่านการผจญภัยในหลากหลายภูมิประเทศ
กราฟิกอย่าคาดหวังจะไม่ผิดหวัง
งานด้านภาพไม่ใช่จุดขายของซีรีส์ ‘Super Monkey Ball’ อยู่แล้ว ทำให้ในภาคใหม่นี้ก็ยังคงไม่ได้โดดเด่น ยิ่งมาออกบน Nintendo Switch ที่ไม่ได้มีสเปกที่แรงอะไรมากมาย ทำให้รายละเอียดของฉากก็อยู่ในระดับธรรมดา แต่โดยรวมก็ถือว่าดูดีในระดับน่าพอใจ มันไม่ได้ย้อนยุคจนเกินไป เหมือนกับเกมยุค PS3 ที่มีความละเอียดระดับ HD และใส่แสงเงามาพอประมาณ
และอย่างที่บอกว่าไปแล้วว่าภาคนี้มีการลงทุนใส่คัตซีนแบบจัดเต็มและมีมาให้ชมตลอดการเล่นด้วย ทำให้โดยรวมงานด้านภาพมันไม่ได้ดูเชย ตัวละครน้องลิงของเราก็ทำออกมาได้น่ารักน่าชัง ถือว่างานด้านกราฟิกระดับนี้ทำออกมาดีแล้ว ส่วนเพลงประกอบทำออกมาแนวน่ารักเน้นช่วยเสริมการเล่นมากกว่าทำให้ไม่ได้มีเพลงธีมที่ติดหูอะไรนัก ซึ่งก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ภาคแรกแล้ว
เกมเพลย์สนุกเรียบง่าย
รูปแบบการเล่นของ ‘Super Monkey Ball Banana Rumble’ ในโหมดหลักเหมือนกับภาคก่อนหน้านี้ที่ผู้เล่นจะบังคับลิงที่อยู่ในลูกบอล แล้วกลิ้งบอลไปเข้าเส้นชัยก็ผ่านฉาก ฟังดูง่ายแต่การเล่นไม่ง่ายเลย เพราะว่าในฉากจะเต็มไปด้วยอุปสรรคกับดักโหด ๆ และยังมาพร้อมฉากที่ออกแบบมาซับซ้อน ซึ่งหากผู้เล่นกลิ้งแบบไม่ดูตาม้าตาเรือก็จะพลาดหลุดออกจากฉากแล้วเกมโอเวอร์ได้ง่ายดาย
และข้อดีสุด ๆ คือฉากที่สร้างด้วยไอเดียแปลกใหม่สนุกและหลากหลาย เพราะไม่ได้มีแค่การกลิ้งตัวไปตามพื้นเรียบ ๆ ยังมาพร้อมฉากที่เหมือนรางรถไฟ ทำให้เหมือนว่าเรากำลังเล่นรถไฟเหาะกันเลย และมีอะไรรอให้เราประหลาดใจอยู่เพียบในโหมดเนื้อเรื่อง ผู้เล่นต้องหาวิธีเล่นที่ซับซ้อนพอสมควร โดยเฉพาะฉากท้าย ๆ ที่โหดชนิดทำเอาหัวร้อนได้ อย่างไรก็ตามมันก็มีข้อเสียเพราะโหมดเนื้อเรื่องสั้นไปหน่อยเล่นไม่กี่ชั่วโมงก็จบหมดแล้ว ความจริงน่าจะทำให้ยาวกว่านี้สักหน่อยเพราะมันเหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากเล่นกับเพื่อน
และจุดเด่นของซีรีส์คือการใช้ระบบการบังคับด้วยจับการเคลื่อนไหว Accelerometer เพื่อบังคับตัวละคร ซึ่งเป็นความโดดเด่นอย่างมากในภาคที่วางขายบน Nintendo Wii และในภาคนี้ก็มีมาให้ใช้งานกันด้วย เพราะ Nintendo Switch ก็มีระบบจับการเคลื่อนไหวด้วยเช่นกัน แต่หากเล่นบนทีวีแนะนำให้ใช้ปุ่มกดธรรมดาเล่นน่าจะดีกว่า
โหมดน้อยไปหน่อย
โหมดการเล่นมีนอกจากเนื้อเรื่องที่จะได้เล่นเป็นหลักแล้ว ยังมาพร้อมโหมดเล่นกับเพื่อนที่เล่นได้สูงสุดพร้อมกัน 4 คนแบบแบ่งหน้าจอ และรองรับระบบออนไลน์ด้วย ซึ่งไม่ใช่ของแปลกเพราะเป็นจุดขายหลักของซีรีส์นี้มานานแล้ว อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าในภาค ‘Super Monkey Ball Banana Rumble’ จะมีโหมดย่อยมาให้เลือกเล่นน้อยไปหน้อย
โดยโหมดย่อยจะประกอบไปด้วยโหมด Battle ที่ผู้เล่นเลือกกฎการเล่นได้มากพอสมควร ไล่ตั้งแต่แบบ Race ที่แข่งเข้าเส้ยชัยแบบ ‘Mario Kart’ เพราะมีไอเทมไว้ใช้งานด้วย ต่อด้วย Banana Hunt ที่ผู้เล่นต้องแข่งเก็บกล้วยกันที่สนุกในการแย่งเก็บของในฉากเดียว ต่อด้วย Ba-Boom! ที่เป็นหลีกหนีจากตัวละครที่ถือระเบิดให้ห่างไกลที่สุด ซึ่งหากระเบิดอยู่กับตัวเราก็ต้องวิ่งไปชนตัวละครอื่นเพื่อส่งมอบระเบิดให้แล้วให้เราหนีห่างให้ไกลเพราะหากเวลาหมดก็จะระเบิด
ต่อด้วย Gold Rush ที่ผู้เล่นต้องแข่งกันกลิ้งตัวละครเข้าห่วงทอง ที่ใครได้คะแนนเยอะสุดก็จะชนะไป ปิดท้ายกับ Robot Smach ที่ในโหมดนี้เราต้องแข่งกับเพื่อนเพื่อโจมตีหุ่นยนต์ในฉากแบบลานประลองโดยการใช้การกลิ้งตัวชน ซึ่งในฉากจะมีไอเทมและสิ่งของที่ช่วยให้เราเก็บคะแนนได้มากขึ้นตามความรุนแรงของการเข้าโจมตีหุ่นยนต์
อย่างไรก็ตามแม้ในโหมด Battle จะมีตัวเลือกเยอะแต่ก็ดูธรรมดาหากเล่นคนเดียว ที่เหลือจะมีโหมด Mission ที่จะต้องทำตามภารกิจที่กำหนดในด่านที่ใช้เวลาเล่นไม่นาน และโหมด Style ที่เป็นการเปลี่ยนเสื้อผ้าของตัวละคร รวมทั้งเปลี่ยนตัวละครได้ และมีร้านค้าที่มีสิ่งให้ปลดล็อกมากมาย และยังมาพร้อมกับ DLC เสริมอย่างตัวละครลับเช่นเม่นสายฟ้า ‘Sonic’ มาให้เสียเงินซื้อเพิ่มด้วย
‘Super Monkey Ball Banana Rumble’ อาจจะไม่ใช่ภาคที่ดีที่สุดในซีรีส์ลิงกลิ้งลูกบอล แต่หากเล่นแบบไม่คิดอะไรมากมันก็มีความสนุกให้เล่นโดยเฉพาะในโหมดเนื้อเรื่องที่มีการออกแบบฉากที่ดี มีเนื้อเรื่องให้เสพ เสียดายที่ตัวเกมสั้นไปหน่อยและโหมดที่ใส่เข้ามาก็น้อยไปนิด แต่ด้วยการที่มันเล่นกับเพื่อนได้และมีโหมดออนไลน์ทำให้กลับมาเล่นได้หลายรอบ ใครเป็นแฟนซีรีส์ ‘Super Monkey Ball’ ไม่ควรพลาด