Our score
8.0

Luigi's Mansion 2 HD

จุดเด่น

  1. โดดเด่นที่การเกมเพลย์เน้นสำรวจที่ซับซ้อนและสนุก
  2. ระบบเข้าใจง่าย มีโหมดออนไลน์ให้เล่นด้วย

จุดสังเกต

  1. กราฟิกอัปเกรดแต่ยังไม่เท่ากับภาค 3
  2. รูปแบบการเล่นไม่ได้อัปเกรดเพิ่มอะไรใหม่เข้าไป
  • กราฟิก

    7.5

  • เกมเพลย์

    8.5

  • ความคุ้มค่า

    8.0

  • ภาพรวม

    8.0

เชื่อว่าแฟนปู่นินที่เป็นเจ้าของ Nintendo Switch น่าจะเคยเล่น ‘Luigi’s Mansion 3’ เพราะว่ามันเป็นหนึ่งในเกมยอดเยี่ยมบนคอนโซลลูกผสม แถมยังทำกราฟิกออกมาสวยงามเกินหน้าเกินตาสเปกเครื่องเกมมาก จนทำให้ทำยอดขายถล่มทลายเกิน 12 ล้านชุด และเป็นซีรีส์ตะลุยบ้านผีสิงของปู่นินที่ขายดีที่สุดไปแล้ว

จึงไม่น่าแปลกใจที่ปู่นินจะปัดฝุ่นนำเกม ‘Luigi’s Mansion: Dark Moon’ ภาคที่ 2 ของซีรีส์ ที่เคยวางขายบน 3DS ในปี 2013 กลับมาแปะท้ายว่า HD นำมาขายใหม่บน Nintendo Switch อีกครั้ง แม้โดยรวมอาจจะไม่น่าเล่นนัก เพราะหากดูตัวอย่างก่อนเล่นจะพบว่ากราฟิกไม่ได้อัปเกรดมากนัก เกมเพลย์ก็เหมือนเดิมไม่ได้อัปเกรดเพราะไม่ได้เป็นการรีเมก แต่ต้นฉบับถือว่าเป็นเกมที่เล่นได้สนุกทำให้พอจะคุ้มค่าที่จะเล่นอีกครั้ง

ส่วนเรื่องราวใน ‘Luigi’s Mansion 2 HD’ จะเหมือนกับต้นฉบับไม่เปลี่ยน โดยเราจะได้เล่นเป็น Luigi น้องชายของ Mario ต้องออกไปสำรวจบ้านผีสิง และต้องต่อสู้กับ King Boo ที่ได้หลบหนีออกจากภาพวาดหลังถูกขังไว้ในภาคแรก และได้ออกอาละวาดทำลาย Dark Moon ทำให้ผีร้ายหลุดออกมาจำนวนมาก และเป็นหน้าที่ของ Luigi ที่ต้องออกไปไล่จับผี และต้องรวบรวมชิ้นส่วน Dark Moon เพื่อคืนความสงบสุขอีกครั้ง

กราฟิกดูดีในแบบรีมาสเตอร์ HD แต่ไม่เท่าภาค 3

ตามที่บอกไปว่า ‘Luigi’s Mansion 2 HD’ เป็นการหยิบเอาต้นฉบับที่ออกบน 3DS มาปรับภาพให้คมชัดให้อยู่ในระดับ HD เท่านั้นหรือที่เรียกว่ารีมาสเตอร์ภาพ ทำให้หากคุณคาดหวังว่ามันจะดูดีเท่า ‘Luigi’s Mansion 3’ ต้องผิดหวังแน่ เพราะพื้นผิวของเกมยังคงขาดรายละเอียดเหมือนต้นฉบับที่ออกมาเป็น 10 ปีแล้ว รวมทั้งแสงเงาของเกมที่ดูธรรมดามากเมื่อเทียบกับมาตรฐานภาพในเกมยุคนี้
แต่หากคุณไม่ได้คาดหวังในส่วนของภาพมันก็ถือว่าไม่ได้เลวร้ายอะไร

เพราะอย่างน้อย ๆ มันก็คมชัดระดับ HD และเกมนำเสนอกราฟิกแบบเกม ‘Super Mario’ ที่ออกมาเหมือนการ์ตูนอยู่แล้ว ทำให้โดยรวมถือว่าดีพอใช้ เพียงแต่อย่าเอาไปเทียบกับภาค 3 ก็แล้วกัน ส่วนเพลงประกอบก็มาแนวบ้านผีสิงแต่ไม่ได้มาแบบจริงจังเหมือนกับการ์ตูนผีแบบ ‘Scooby Doo’ มากกว่า ซึ่งก็ทำได้เข้ากับแนวเกมอย่างดี แถมมีเพลงธีมประจำเกมที่เราคุ้นเคยมาให้ฟังกันด้วย

เกมเพลย์เน้นสำรวจไล่จับผี

รูปแบบการเล่นสำหรับคนที่เคยสัมผัสต้นฉบับมาแล้วก็ไม่ต้องบอกอะไรมากเพราะมันเหมือนเดิม แต่หากไม่เคยเล่นซีรีส์นี้มาก่อนก็ขอบอกไว้ก่อนว่า ‘Luigi’s Mansion 2 HD’ จะเป็นเกมแอ็กชันที่เน้นไปที่การสำรวจมากกว่าต่อสู้ ทำให้เกมเพลย์จะไม่ได้รวดเร็วอะไร ฉากหลักของเกมจะอยู่ในคฤหาสน์ผีสิงขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนและห้องมากมาย

อีกทั้งฉากในเกมทั้งหมดดูแคบแถมยังจำกัดมุมกล้องที่ล็อกไว้อยู่มุมเดียวตลอดทั้งเกม ทำให้มันดูอึดอัดแต่ก็เป็นแนวทางของซีรีส์นี้มาตลอด ซึ่งหากชอบก็จะสนุกกับการหาความลับที่ซ่อนอยู่เพียบ แต่ต้องแก้ปริศนาหลายขั้นตอนด้วย ตรงจุดนี้ถือว่าเป็นเสน่ห์ของเกมมาตลอด และนอกจากฉากที่ซับซ้อนแล้ว อีกจุดที่เราต้องพบเจอตลอดคือ “ผีร้าย” ที่ซ่อนอยู่ในฉากมากมาย

โดยการต่อสู้กับมันก็จะคล้าย ๆ กับภาพยนตร์ดังอย่าง ‘Ghostbusters’ ที่ Luigi จะใช้ “Poltergust 5000” เครื่องดูดผี ที่ในเกมจะทำหน้าตาให้เหมือนเครื่องดูดฝุ่นเพื่อจับผีเข้าเครื่อง แต่การจับก็ไม่ได้ทำแบบง่าย ๆ เพราะต้องใช้ไฟฉายความแรงสูงมาก เพื่อยิงแสงไฟทำให้ผีชะงักก่อนถึงจะดูดมันเข้ามาในเครื่องได้ ฟังดูง่ายแต่พอเล่นไปสักพักจะพบผีหลากหลายรูปแบบ

นอกจากนี้วิธีการรับมือผีแต่ละตัวจะไม่เหมือนกัน บางตัวมาพร้อมอุปกรณ์ป้องกันแสงไฟทำให้เราต้องหาทางรับมือใหม่ และบางตัวยังโจมตีระยะไกลได้ด้วย และหากมันมาพร้อมกันหลายตัวก็ทำให้เกมมีความท้าทายมากขึ้น โดยเฉพาะศัตรูระดับบอสที่เป็นผีร้ายที่มีลูกเล่นมากมายที่ทำให้ Luigi ต้องหาทางกำจัดกันใหม่ตลอด

รูปแบบการเล่นแบบคลาสสิก การแก้ปริศนาที่ซับซ้อน

ในส่วนของการแก้ปริศนามีการใช้เครื่องดูดผีร่วมด้วย เพราะ “Poltergust 5000” นอกจากใช้ดูดแล้วยังเป่าลมได้ด้วย แน่นอนว่ามันมีไว้ใช้เปิดทางไปต่อ เช่น การเป่าให้พัดลมหมุนแล้วประตูจะเปิด นอกจากนี้แสงจากไฟฉายยังมีหลายรูปแบบคือแบบไฟฉายทั่วไป และไฟแบบพิเศษที่จะช่วยค้นหาไอเทมหรือประตูที่ถูกวิญญาณซ่อนอยู่ในฉาก

นอกจากนี้ส่วนที่ผู้สร้างตั้งใจใส่ไว้ในต้นฉบับคือรูปแบบเกมเพลย์แบบแบ่งเป็นด่าน ๆ เมื่อผ่านด่านแล้วจะกลับมาที่ฐานทัพของเรา เพื่อเอาเงินมาอัปเกรดความสามารถและปลดล็อกไปเล่นฉากต่อไป และผู้เล่นยังสามารถกลับไปเล่นด่านเก่า ๆ เพื่อเก็บเงินหรือไอเทมลับได้ ซึ่งตรงส่วนนี้เหมือนกับเกมยุคเก่า ที่ไม่ค่อยได้เห็นในเกมยุคใหม่ที่มักจะมีฉากกว้าง ๆ เพียงฉากเดียวและใส่จุด Save มาระหว่างการเล่น แต่ใน ‘Luigi’s Mansion 2 HD’ ก็ยังคงเกมเพลย์ที่แบ่งออกเป็นฉากอยู่

และข่าวดีสำหรับคนที่อยากเล่นกับเพื่อน เพราะตั้งแต่ต้นฉบับภาค ‘Dark Moon’ ก็มีการใส่โหมดเล่นกลายคนที่ผู้เล่นต้องร่วมมือกันแบบ Co-op ที่เรียกว่า “ScareScraper” ที่จะเล่นได้พร้อมกัน 4 คน โดยแต่ละผู้เล่นจะบังคับ Luigi ที่ต่างสีเสื้อกัน และเราต้องรับภารกิจสำรวจแต่ละชั้นของคฤหาสน์และต้องทำภารกิจให้สำเร็จในเวลาจำกัด ถือว่าเป็นโหมดแถมที่สนุกพอตัว และแน่นอนว่าสามารถเล่นผ่านระบบออนไลน์ได้ด้วย

การกลับมาของ ‘Luigi’s Mansion 2 HD’ บน Nintendo Switch ถือว่าปู่นินไม่ค่อยลงทุนนัก เพราะกราฟิกไม่ได้ปรับให้ดูดีเท่ากับ ‘Luigi’s Mansion 3’ แต่โดยรวมก็ไม่ได้ดูแย่อะไร เพราะแนวเกมแบบนี้ภาพระดับนี้ถือว่าดูดีแล้ว ส่วนเกมเพลย์แม้จะไม่ได้เข้าไปปรับอะไรมาก แต่ก็ยังเล่นได้สนุกในรูปแบบเกมแอ็กชัน เน้นสำรวจและต่อสู้กับผีร้ายในบ้านร้าง ที่หยิบมาเล่นในยุคนี้ก็ยังไม่เชย เพราะต้นฉบับทำออกมาได้ดี แฟนซีรีส์ ‘Luigi’s Mansion’ ไม่ควรพลาด