[รีวิวเกม] ‘Umamusume Pretty Derby – Party Dash’ เกมจากการ์ตูนที่มาแนวคุนิโอะรวมกีฬา

เป็นเรื่องปรกติที่จะเห็นเกมที่สร้างจากการ์ตูนหรือการ์ตูนที่สร้างจากวิดีโอเกม แต่การมาของ ‘Umamusume Pretty Derby – Party Dash’ อาจจะไม่ค่อยเหมือนเกมอื่น เพราะมันถูกสร้างเป็นเกมบนสมาร์ตโฟน ระบบ ios และ Android และมีการสร้างเป็นการ์ตูนออกฉายมาหลายซีซัน และล่าสุดมีการเปิดตัวบนคอนโซล Nintendo Switch, PS4 และ PC

โดย ‘Umamusume Pretty Derby’ ที่มีชื่อไทยว่า “สาวม้าโมเอะ” ที่เกิดขึ้นในโลกสมมุติ ที่มีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า “สาวม้า” ที่มีหูรวมทั้งมีหางเหมือนม้า และไม่ใช่แค่รูปร่างเหมือนแต่ยังมาพร้อมกับพลังที่แข็งแกร่งเหมือนม้าเช่นกัน และสาวม้าเหล่านี้จะถูกส่งไปฝึกฝนที่โรงเรียน Tracen Academy ในโตเกียว และที่ทุกสาว ๆ ทุกคนล้วนมีความฝันเป็นนักแข่งรวมทั้งไอดอลที่มีชื่อเสียงโด่งดัง

ส่วนเวอร์ชันวิดีโอเกมที่จะมาในชื่อ ‘Umamusume Pretty Derby – Party Dash’ จะเล่าเรื่องในการแข่งขันในโรงเรียน Tracen Academy ที่มีชื่อรายการว่า Slapdash Grand Prix ซึ่งเป็นเทศกาลการแข่งกีฬาภายในของโรงเรียนที่มีกิจกรรมการแข่งกีฬาสุดโหด 4 รูปแบบ และสาวม้าของเราต้องแข่งกันเพื่อชิงเหรียญทอง

กราฟิกแบบพิกเซลที่น่ารัก

ภาพใน ‘Umamusume Pretty Derby – Party Dash’ จะใช้แนวทางย้อนยุคไม่ได้มาเป็น 3 มิติหรือใช้โพลิกอนเพื่อสร้างภาพการ์ตูน ทำให้ทุกอย่างในเกมมาแนวพิกเซลเหมือนภาพในเกมบน Super Famicom แต่มันไม่ได้ตั้งใจทำให้เหมือนเกมบนคอนโซลในอดีตแบบ 100% เพราะรายละเอียดของฉากในเกมทำออกมาดีกว่า มีการใส่ลูกเล่นเอฟเฟ็กต์แสงที่ทำให้มันดูดีกว่าเกมในยุคก่อนอย่างเห็นได้ชัด

ซึ่งกราฟิกแบบนี้ก็เข้ากับแนวทางของเกมที่เป็น 2 มิติและมีความลื่นไหลแบบสุด ๆ เรียกว่าเล่นได้ลื่นไม่มีอะไรติดขัด และแน่นอนว่าในเมื่อมันสร้างจากการ์ตูนมันก็โดดเด่นในการเล่าเรื่อง แม้จะไม่ได้มีคัตซีนการ์ตูนแต่ก็มีการใส่ฉากเพื่อเดินเรื่องและมีการใส่เสียงพากย์เข้ามาด้วย ส่วนเพลงประกอบก็มาแนวเกมปาร์ตี้ที่มีเพลงธีมสดใส ซึ่งก็เข้ากับเกมเพลย์ดีแต่ไม่มีอะไรโดดเด่นส่วนนี้เหมือนเกมมือถือทั่วไปมากกว่า

เกมเพลย์รวมกีฬาฉบับสาวโมเอะ

รูปแบบการเล่นของ ‘Umamusume Pretty Derby – Party Dash’ ถ้าจะอธิบายให้ฟังสั้น ๆ ก็คือการนำแนวทางของตำนานในยุค Famicom อย่าง “คุนิโอะรวมกีฬา” ที่เป็นการนำการแข่งขันกีฬาในโรงเรียนมาปรับให้ดูหลุดโลกและสามารถโจมตีกันได้แบบไม่มีข้อจำกัด ฟังดูอาจจะเชยแต่ก็มีความลื่นไหลและความเร็วในการเล่นสูงมากทำให้ดูไม่เชยจนเกินไป

เกมกีฬา 4 ชนิดให้เลือกเล่น

โดยเกมกีฬาจะใส่มาให้เล่น 4 ชนิดอย่างแรกคือเกม “Huntling Hurdles” ที่เหมือนเป็นการวิ่งแข่งมาราธอน ที่การวิ่งไม่ได้จำกัดอยู่ในสนามแข่งเท่านั้น ยังมีการวิ่งผ่านสถานที่แปลก ๆ เช่นวิ่งผ่านตลาด ที่มีอุปสรรคแปลก ๆ เช่นกำแพงที่ต้องปีนข้าม และมีแท่นที่เพิ่มความเร็วในการวิ่งที่เกมเพลย์ส่วนนี้จะเหมือนกับเกมแข่งรถแบบ 2 มิติที่แน่นอนว่ามีการแกล้งเพื่อนเช่นการใช้ไอเทมเพื่อโจมตีได้แบบไม่มีการฟาวล์ เกมนี้ยิ่งเล่นกับเพื่อนยิ่งสนุกมาก

ต่อด้วย “Blazing Baskets” เกมบาสเกตบอลแบบหลุดโลก ที่มีความโดดเด่นที่สามารถเล่นแบบ 4 VS 4 ได้ลงตัวในฉากเดียว ที่เสริมความโหดด้วยแป้นบาสที่ใส่เข้ามาซ้อนกันหลายอัน และหากผู้เล่นยิ่งแป้นที่อยู่สูงก็จะได้คะแนนมากกว่า นอกจากนี้ในฉากยังใส่กับดักและอุปสรรคแปลก ๆ เช่นลมพายุที่ทำให้ให้เสียจังหวะและโดนคู่แข่งแย่งลูกบาสไปได้ หรือพื้นเลื่อนที่ทำให้วิ่งได้ลำบาก โดยรวมแล้วมันดูแปลกแต่ขาดความหลากหลายไปนิด

ตามมาด้วยเกม “Dodgeball Demolition” ก็ตามชื่อมันคือเกมกีฬา “ดอดจ์บอล” เราจะต้องปาลูกบอลโจมตีใส่กัน และเราสามารถใช้ท่าไม้ตายที่อลังการงานสร้างที่ทำให้สามารถปาโจมตีได้แรงขึ้นมากกว่าเดิม และก็คล้ายกับคุนิโอะดอดจ์บอลในส่วนของท่าไม้ตาย แต่ก็มีความแตกต่างจากเกมทั่วไปเพราะปรกติแล้วดอดจ์บอลจะมีการแบ่งสนามแข่งเป็น 2 ส่วนแต่ในเกมนี้จะไม่มีการแบ่งข้าง ทำให้การเล่นยิ่งดูวุ่นวายกว่าเดิมแต่โดยรวมก็สนุกพอตัว

ปิดท้ายกับ “Gourmet Gauntlet” ที่เป็นการแข่งกินอาหารที่ใครกินได้มากที่สุดก็จะชนะไป ที่ในญี่ปุ่นถือเป็นการแข่งขันยอดนิยมเช่นในรายการทีวีแชมป์เปียนส์ ที่ในเกมนี้เราจะรับบทเป็นเด็กเสิร์ฟอาหารให้ผู้แข่งขันที่นั่งอยู่บนโต๊ะให้กิน และเราต้องเสิร์ฟให้ทันความต้องการ ฟังดูง่าย ๆ แต่ผู้สร้างได้ใส่ลูกเล่นแปลก ๆ เช่นการเพิ่มความเร็วในการวิ่งเสิร์ฟ และยังมีการสะสมค่าพลังเพื่อทำให้กินอาหารได้รวดเร็วขึ้นด้วย

ซึ่งทุกเกมกีฬา และทุกโหมดการเล่นจะสามารถเล่นแบบออฟไลน์ที่แบ่งออกเป็นโหมดเนื้อเรื่อง ที่มีเรื่องราวสนุก ๆ มาให้เสพซึ่งถือว่าทำออกมาได้ดีพอตัว และยังมีการเล่นออฟไลน์แบบทัวร์นาเมนต์ที่เล่นแข่งกับตัวละคร NPC แน่นอนว่ามีระบบออนไลน์มาให้เล่นกับเพื่อนทั่วโลกได้ด้วย ปิดท้ายกับการใส่มินิเกมเข้ามาให้เล่นกันพอหอมปากหอมคอ ซึ่งแฟนเกมคลาสสิกน่าจะชอบเพราะมาแนวแอ็กชันผสมกับยิงแบบ 2 มิติ และยังมีโหมดตกแต่งห้องของทีมเราด้วย

โดยรวมแล้ว ‘Umamusume Pretty Derby – Party Dash’ เป็นเกมที่เดินมาในแนวทางยอดนิยมในอดีตอย่าง “คุนิโอะรวมกีฬา” ที่ปรับให้น่ารักด้วยตัวละครสาว ๆ โมเอะ และความลื่นไหลของเกมเพลย์ที่ทำออกมาดีแถมกราฟิกมาแนวย้อนยุคซึ่งเข้ากับแนวทางการเล่นเข้าไปอีก เสียดายที่เกมสั้นไปและมีกีฬามาให้เล่นเพียง 4 ชนิดเท่านั้นซึ่งในอดีตอาจจะพอแล้วแต่เมื่อเทียบกับมาตรฐานเกมยุคนี้ถือว่าน้อยไปหน่อย แต่โดยองค์รวมแล้วถือว่าเป็นเกมที่เล่นได้สนุกและจะยิ่งสนุกมากหากได้เล่นกับเพื่อน