![[รีวิวเกม] Harvest Moon Skytree Village คืนความชุ่มชื่นให้กับซีรีส์ปลูกผักทำไร่](https://www.beartai.com/wp-content/uploads/2017/01/Harvest-Moon-Skytree-Village-Featured.jpg)
Our score
6.3Harvest Moon Skytree Village
จุดเด่น
- มีสิ่งให้ทำเยอะมาก
- เล่นง่ายไม่ซับซ้อน
จุดสังเกต
- งานออกแบบดูเชย
- ไม่มีอะไรแปลกใหม่
-
กราฟิก
5.0
-
เกมเพลย์
7.0
-
ความแปลกใหม่
6.5
-
ความคุ้มค่า
6.5
-
ภาพรวม
6.5
หลังจากทีมสร้างซีรีส์ Harvest Moon ได้แยกทางกันทำให้เกมปลูกผักทำไร่ในตำนานมีการออก 2 ภาค โดยต้นฉบับที่ทำโดยทีมงานเดิมได้เปลี่ยนไปใช้ชื่อ Story of Seasons (ในเวอร์ชั่นอังกฤษ) ส่วนอีกทีมก็ได้นำชื่อ Harvest Moon มาสร้างต่อเอง
โดยก่อนหน้านี้เป็นที่รู้กันว่าเกม Harvest Moon ภาคที่ไม่ได้สร้างโดยทีมงานเดิม ได้รับเสียงวิจารณ์ไม่ค่อยดีนัก อาจเป็นเพราะทีมงานยังใหม่ แต่เมื่อลงลึกในรายละเอียดมันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร ยิ่งภาคหลังๆถือว่าเริ่มเข้าที่เข้าทาง แต่อย่างไรก็ตามหลังจากเพิ่งได้เล่น Story of Seasons ภาคล่าสุดบน 3DS ไปทำให้การมาของ Harvest Moon Skytree Village ต้องถูกนำไปเปรียบเทียบกันอย่างช่วยไม่ได้
ก่อนอื่น Harvest Moon Skytree Village ยังคงเดินหน้าออกบนเครื่องเกม Nintendo 3DS เพราะทีมงานเชื่อว่ามันยังคงมีแฟนพันธุ์แท้ซีรีส์ปลูกผักยอมเสียเงินจ่ายเพื่อซื้อตัวเกมเต็มๆ ส่งผลให้กราฟิกของภาคนี้ก็ยังคงดูน่ารักไม่ได้อัพเกรดเป็น HD ตามยุคสมัย ที่ดีหน่อยคือการที่มันเป็นเกมสามมิติแท้ๆและเรายังปรับมุมกล้องภายในฉากได้ตามใจ ทำให้มันมีมิติกว่า Story of Seasons ที่เปลี่ยนมุมกล้องไม่ได้
ส่วนฉากทำไร่ที่มีการสร้างให้เป็นบล็อกๆเหมือนกับเกม minecraft ทำให้ดูง่ายโดยเฉพาะตอนปลูกพืช แต่เป็นที่น่าเสียดายที่มันไม่มีภาพแบบทะลุจอไม่ง้อแว่นของ 3DS ทุกอย่างดูเรียบไม่มีมิติ รวมทั้งเพลงประกอบที่ดูเรียบๆฟังแล้วชวนหลับ ไม่มีอะไรติดหู เสียงประกอบก็ดูเชยๆเหมือนเกมแจกฟรีบนมือถือ เมื่อพูดถึงการนำเสนอแล้วแม้ว่ามันไม่ได้เลวร้ายแต่ในยุคที่เกมบนสมาร์ทโฟนคือมาตรฐาน การนำเสนอของเกมนี้ถือว่าทำได้แค่สอบผ่านเท่านั้น
เปิดตัวภาคนี้เรื่องราวจะว่าด้วยดินแดน Skytree Village ที่มีต้นไม้ใหญ่พร้อมเทพที่คอยช่วยเหลือ แต่กลับเกิดเหตุการณ์บางอย่างทำให้ดินแห้งแล้งจนปลูกอะไรแทบไม่ขึ้น และตัวเอกมีหน้าที่คืนความเขียวชอุ่มให้กับพื้นดินอีกครั้ง ยิ่งเราคืนความชุ่มชื่นให้กับดินแดนนี้ได้มากเท่าไร เทพที่สิงอยู่ใน Skytree ที่จะค่อยๆอัพเกรดดินแดนเพิ่ม และยังมีภูตตัวจิ๋วหลายตัวที่จะออกมาช่วยเราดูแลพืชผลอีก
ประเด็นหลักของเกมจะอยู่ที่การปลดล็อกดินแดนใหม่ๆเพราะในช่วงแรกเราจะมีสถานที่จำกัดในการปลูกผักทำไร่ แต่เมื่อเล่นไปเรื่อยๆก็จะค่อยๆอัพเดทให้เราท่องไปยังโลกกว้างๆที่บอกไว้ก่อนว่า แม้ความหลากหลายจะไม่มากแต่ความกว้างของฉากก็ถือว่ามีอะไรให้สำรวจมากกว่าหลายภาคในซีรีส์ Harvest Moon
และนอกจากฉากที่ค่อยๆอัพมาให้เล่นแล้วตัวละครของเราก็มีระบบเลเวล ที่จะค่อยๆปลดล็อกความสามารถใหม่ๆ เพราะในตอนเริ่มเกมเราจะกระโดดไม่ได้ด้วยซ้ำทำให้เดินทางไปได้จำกัดมาก และเลเวลจะเพิ่มขึ้นเมื่อเราทำกิจกรรมเช่นการเพาะปลูก พืชชนิดต่างๆ หรือทำภารกิจหลักและภารกิจย่อย และยังมีสกิลที่จะค่อยๆเพิ่มขึ้นทำให้เราไปยังจุดที่ปรกติเดินทางไปไม่ได้ หรืออัพเกรดชนิดของพืชผลที่ปลูก รวมทั้งยังมีสกิลพิเศษเช่นทำอาหารที่ต้องฝึกฝนถึงจะทำได้ พร้อมกับการเดินเรื่องไปกับตัวละครในเมือง ที่มีการสานสายสัมพันธ์เพื่อทำกิจกรรม หรือสานต่อจนเป็นความรักจนถึงแต่งงานเหมือนกับซีรีส์ Harvest Moon ภาคก่อนแบบไม่มีอะไรโดดเด่นหรืออัพเกรดให้แตกต่าง
พืชผลที่เป็นสิ่งหลักของเกมก็ขนมาให้ปลูกกันสะใจ ไม่ว่าจะเป็นผัก,ผลไม้ หรือดอกไม้นานาชนิด มีให้เลือกปลูกกันหลายสิบประเภท แต่ละรูปแบบแม้จะแตกต่างกันแต่วิธีการปลูกก็แทบจะเหมือนกันหมด ตัวเกมไม่ได้ลงรายละเอียดในส่วนนี้เท่าไรนัก อาจเพราะผู้สร้างต้องการให้เกมเข้าถึงได้ง่าย เมื่อปลูกเสร็จแล้วจะเอาไปขายในเมืองหรือจะนำมาปรุงอาหารก็ได้ตามใจ
การปลูกพืชยังคงใช้การพรวนดิน หว่านเมล็ดพืช รดน้ำ ใส่ปุ๋ย ที่เข้าใจง่ายเหมือนเดิม เวลาในเกมเดินไปเรื่อยๆแบบอัตโนมัติเหมือนภาคก่อนๆแต่ดูเหมือนว่าแต่ละวันจะผ่านไปอย่างรวดเร็วมาก ดังนั้นจะทำอะไรก็ต้องรีบไม่เช่นนั้นจะหมดวันอย่างเร็ว และยังแบ่งออกเป็นฤดูที่ส่งผลกับการปลูก และยังมีการแต่งบ้าน และเลี้ยงสัตว์ที่จะค่อยๆเปิดให้ผู้เล่นได้สัมผัสกันทีละนิดๆ แต่ก็ต้องทำภารกิจหลักให้ผ่านก่อนถึงจะปลดล็อกออกมา
ส่วนเรื่องราวของตัวละครแต่ละตัวจะมีอีเว้นและเหตุการณ์สำคัญเมื่อเราทำภารกิจสำเร็จ ที่จะส่งผลกับการเดินเรื่อง และการปรับเปลี่ยนของสิ่งแวดล้อมภายในเกม รวมทั้งเพิ่มฉากใหม่ๆให้สำรวจเพิ่มเติม รวมทั้งบางตัวละครยังออกมาช่วยเราปลูกผักหรือเลี้ยงสัตว์ หรือช่วยสร้างสิ่งต่างๆในเมือง ที่ตอนแรกแทบจะเรียกได้ว่าเป็นเมืองร้าง จนกลายเป็นหมู่บ้านใหญ่ที่เต็มไปด้วยผู้คนและร้านค้า
ข้อเสียหลักๆคือการนำเสนอของเกม เพราะงานออกแบบและกราฟิกดูธรรมดาเหมือนเกมที่โหลดฟรีบนสมาร์ทโฟน มีกลิ่นของความเป็นตะวันตกมากกว่า Story of Seasons ทำให้แฟนๆที่ติดตามมาตั้งแต่ภาคแรกอาจจะไม่ถูกใจ การดำเนินเนื้อเรื่องที่เรียบๆไม่มีอะไรน่าสนใจแม้ว่าจะมีการผูกเรื่องราวกับเทพประจำต้นไม้ก็ตาม แต่ก็ไม่ได้ดึงดูดให้คนเล่นอินกับมันได้เท่าไร และภารกิจในเกมที่ดูไม่ชัดเจนว่าจะให้เราไปทำอะไร อีกทั้งการบอกใบ้ของตัวละครในเมืองยังต้องนำมาตีความ ยังดีที่แต่ละอย่างไม่ได้ซับซ้อนหรือยุ่งยากอะไร
แต่อย่างน้อยๆมันก็มีสิ่งที่ซ่อนรอให้เราไปปลดล็อกอย่างมากมาย เรียกว่าแม้ภายนอกมันอาจดูเหมือนไม่มีอะไร แต่พอได้เล่นจริงๆแล้วมันมีกิจกรรมให้ทำเยอะสมชื่อ Harvest Moon เกมยังคงรูปแบบของเกมที่เน้นการเล่นไปเรื่อยๆไม่มีอะไรให้เครียดมาก เงินก็หาได้ไม่ยาก ทำให้มันเหมาะกับมือใหม่ด้วยเช่นกัน
เอาเข้าจริงๆ Story of Seasons Skytree Village แม้จะไม่ได้สร้างโดยทีมงานดั่งเดิมของซีรีส์ปลูกผักทำไร่ แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร เกมเต็มไปด้วยรายละเอียดอย่างที่ควรจะมี และก็ไม่ได้ยุ่งยากจนเล่นแล้วปวดหัว แถมยังมีความยาวเล่นได้นานคุ้มค่ากับราคาที่ต้องซื้อแบบเต็มๆเกมไม่ได้ขายไอเทม ใครที่ติดตามมานานไม่น่าจะผิดหวัง แม้ว่าส่วนตัวแล้วคิดว่า Story of Seasons ยังทำออกมาได้ดีกว่า แต่ถ้าไม่คิดมากมันก็ยังคงมีความเป็น Harvest Moon อยู่ครบถ้วน
ขอบคุณร้านเกม Nadz Project ดิจิตอล เกตเวย์ ชั้น 2