[รีวิวเกม] Marvel vs. Capcom Fighting Collection: Arcade Classics รวมฮิตเกมต่อสู้ข้ามค่าย

การนำเกมเก่ามาขายใหม่ในรูปแบบรวมฮิตแบบไม่ได้ปรับอะไรมากนักถือเป็นรูปแบบที่นิยมใช้กัน เพราะไม่ต้องลงทุนเยอะ แม้ว่ามันอาจจะดูเหมือนหากินง่าย ๆ ไปหน่อย แต่เชื่อว่าหากมันเป็นการรวมฮิตเกมดังระดับตำนานแฟน ๆ ก็พร้อมจะเสียเงินซื้อมาเล่นอีกรอบ และล่าสุดค่าย Capcom เตรียมคืนชีพเกมต่อสู้ข้ามค่ายที่ได้รับความนิยมอย่างมากในอดีตกลับมาขายใหม่อีกครั้ง

โดย Capcom ได้เปิดตัว Marvel vs. Capcom Fighting Collection: Arcade Classics หรือเป็นการรวมฮิตตำนานข้ามค่าย Capcom ที่จับมือกับ Marvel เริ่มเดิมทีจะนำตัวละครจากการ์ตูนดังมาทำเป็นเกมก่อน และหลังจากประสบความสำเร็จก็เริ่มมีการครอสโอเวอร์ข้ามค่าย นำตำนานของ Capcom มาต่อสู้กับซูเปอร์ฮีโร่ของ Marvel และมันก็ประสบความสำเร็จมากจนเป็นตำนาน (เกมวางขายบน Nintendo Switch, Xbox One, PlayStation 4 และ PC)

ซึ่งหากใครเกิดทันคงจะจำได้ว่าในยุคนั้น Marvel ยังไม่ได้ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์จักรวาล MCU เหมือนในตอนนี้ ตัวละครบางตัวหากไม่ดังจริง ๆ คนทั่วไปอาจจะไม่รู้จักต่างจากยุคนี้ ทำให้การกลับไปเล่นฉบับรวมฮิตขายใหม่เชื่อว่ามันจะเข้าถึงคนได้ง่ายกว่าเดิม เพราะหลายตัวละครก็มีชื่อเสียงโด่งดัง ทำให้การกลับมาเล่นอีกครั้งคุ้มค่าน่าเล่นกว่าเดิมมาก

กราฟิกเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน

ตามแนวทางเกมรวมฮิตเฉย ๆ ไม่ได้รีเมกหรือรีมาสเตอร์ ทำให้ภาพมันก็คือการยกต้นฉบับเกมต่อสู้แบบ 2 มิติที่ใช้กราฟิกเป็นพิกเซลอยู่ แต่ในภาคหลัง ๆ เริ่มมีการออกแบบฉากให้มีมิติด้วยโพลิกอนมากขึ้น แม้มันจะไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไรแต่ก็ดูคลาสสิก และ Capcom ยังคงใส่โหมดปรับภาพหลากหลายรูปแบบแต่ไม่ได้ทำให้ชัดขึ้น แต่ปรับให้เหมือนเล่นบนจอ CRT และยังมีโหมดปรับให้พิเซลดูเนียลขึ้น แต่โดยรวมมันก็คือของเดิม

ส่วนเพลงประกอบก็เหมือนเดิม แต่ของเดิมก็ดีอยู่แล้วเพราะเป็นคุณภาพระดับเกมตู้ และยังมีเพลงธีมในตำนานยัดใส่เข้ามาแบบจัดเต็ม แถมยังมีโหมดรวมเพลงเอาไว้ฟังเล่น ๆ กันด้วย ส่วนของแถมที่มีมาให้ตลอดคือภาพงานออกแบบศิลป์ของเกมต้นฉบับ ทำให้โดยรวมพอจะมีความคุ้มค่าในส่วนของการนำเสนอทั้งภาพและเสียง

เกมต่อสู้ในตำนานกลับมากันครบ

จุดเด่นที่สุดของ Marvel vs. Capcom Fighting Collection: Arcade Classics คือการรวบรวมเอาเกมระดับเรือธงในอดีตมา 7 เกมรวมอยู่ในชุดเดียว ซึ่งจะประกอบไปด้วยเกมต่อสู้ 6 เกม และแนวต่อยตี Beat ’em up อีก 1 เกม ซึ่งก็คือ THE PUNISHER การเล่นก็เรียบง่ายโดยเราจะรับบทเป็น Nick Fury และ THE PUNISHER และต่อยตีกับศัตรูให้หมดฉาก จุดเด่นคือเกมเพลย์ที่ลื่นไหลและเข้าใจง่าย แถมในเกมนี้ยังมีโหมดย้อนเวลาไว้ให้เราแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดได้ และ Save ได้ตลอดการเล่นด้วยทำให้เล่นยังไงก็จบ เพราะเราสามารถ Continue ได้ไม่จำกัดด้วย

ต่อด้วยเกมต่อสู้ 6 เกมที่ขอเริ่มด้วย X-MEN CHILDREN OF THE ATOM จุดเริ่มต้นที่ Capcom นำฮีโร่จาก X-Men มาทำเป็นเกมต่อสู้ที่วางขายในปี 1994 ทำให้ระบบของเกมยังคงไม่ได้รวดเร็วเท่าภาคอื่น ตัวละครก็มีให้เลือกแค่ 10 ตัว แต่ก็โดดเด่นที่การเข้าถึงง่าย และมีเหล่ามนุษย์กลายพันธุ์ ที่มีท่าไม้ตายตามในการ์ตูนถือเป็นการเริ่มต้นที่สำหรับผู้ที่ไม่เคยเล่นซีรีส์นี้มาก่อน

ต่อด้วยการรวมตัวละครจากค่าย Marval มาเป็นเกมต่อสู้ในชื่อ MARVEL SUPER HEROES เกมเพลย์แม้จะไมได้ยกระดับจาก X-Men มากแต่ก็เสริมด้วยตัวละครให้มากขึ้นและหลากหลายกว่าเดิม แม้จะเลือกเล่นได้แค่ตัวเดียวอยู่แต่ก็เพิ่มความรวดเร็วมากขึ้น มีท่าคอมโบกลางอากาศที่ดุดันและมี Infinity Stone มาให้ใช้งานเพื่อเพิ่มค่าพลังในส่วนต่าง ๆ

จุดเริ่มต้นของการครอสโอเวอร์

จุดเริ่มต้นของการครอสโอเวอร์คือเกม X-MEN VS. STREET FIGHTER การพบเจอกันของตัวละครของเกมต่อสู้จาก Capcom และมนุษย์กลายพันธุ์ ทำให้คราวนี้มีตัวละครมาให้เลือกเพิ่มเป็น 16 ตัวละครและความรวดเร็วในการเล่นเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม และเลือกเล่นได้ทีมละ 2 ตัวละครและเราเลือกสลับเปลี่ยนออกมาต่อสู้ได้ ท่าไม้ตายส่วนของ STREET FIGHTER ปรับให้อลังการงานสร้างเทียบเท่ากับ X-MEN เพื่อให้เท่าเทียมกัน ถือเป็นอีกภาคที่สนุกและโดดเด่น

ต่อกับเกม MARVEL SUPER HEROES vs. STREET FIGHTER ภาคที่อัปเดตเพิ่มเอาฝั่งของ Marvel เพราะขนมาทั้งค่ายไม่ใช่แค่ X-MEN แล้ว และเกมเพลย์ก็ปรับให้รวดเร็วและเพิ่มตัวละครเป็น 17 ตัว และมีการเพิ่มท่าไม่ตายใหม่ และต่อคอมโบได้ลื่นไหลขึ้น แม้จะใช่ภาคที่ดีที่สุดก็ตามแต่ก็ไม่อยากให้พลาดไป

และตามมาด้วย MARVEL vs. CAPCOM CLASH OF SUPER HEROES ที่คราวนี้ Capcom ขนมาทั้งค่ายเพื่อต่อกรกับ MARVEL และภาคแรกมีตัวละคร 15 ตัวซึ่งอาจจะไม่มากนัก แต่ก็โดดเด่นจากทาง Capcom ที่ขนตัวละครที่ไม่ได้อยู่ในซีรีส์ต่อสู้มาให้เลือกเช่น Rockman ส่วนภาคต่ออย่าง MARVEL vs. CAPCOM 2 New Age of Heroes ที่ถือเป็นภาคที่ดีที่สุดในซีรีส์ ที่นอกจากเกมเพลย์จะจัดเต็มที่สุดมาพร้อมกับการต่อคอมโบกลางอากาศระดับมหาเทพแล้ว ยังมาพร้อมกับตัวละครมากถึง 56 ตัว และภาค 2 ยังเลือกเพื่อนในทีมได้มากถึง 3 ตัวด้วย

แม้จะไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไรมากแต่การกลับมาของ Marvel vs. Capcom Fighting Collection: Arcade Classics ถือว่าคุ้มค่าน่าเล่นมากเพราะมันเป็นการรวมเอาตำนาน 7 เกมรวมในชุดเดียวในราคาที่ไม่แพง แถมมีการใส่โหมดออนไลน์เข้ามาให้เล่นด้วย ใครเคยเล่นต้นฉบับมาแล้วถือว่าคุ้มที่จะหามาเล่นเพื่อรําลึกความหลังในอดีต ส่วนเด็กรุ่นใหม่ก็ไม่อยากให้พลาดเพราะมันคือตำนานของเกมต่อสู้ที่ภาคหลัง ๆ ยังไม่สามารถเทียบเท่าได้