[รีวิวเกม] Gundam Breaker 4 ปลุกวิญญาณ “กันพลา” ในตัวคุณให้ตื่นขึ้นอีกครั้ง

เมื่อพูดถึงหุ่น Gundam กับวิดีโอเกม ถือว่าไม่ใช่ของแปลก เพราะตั้งแต่ยุค 80S ก็มีการนำหุ่นยนต์ในตำนานมาสร้างเป็นเกมให้เล่นต่อเนื่อง และแยกย่อยเป็นหลายซีรีส์ซึ่งก็ประสบความสำเร็จพอตัว แต่ก็มีหลายเกมไม่ได้ไปต่อ อย่างไรก็ตามในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีเกม Gundam ที่โดดเด่นจนมีการสร้างภาคต่อออกมาหลายภาค

ซึ่งก็คือซีรีส์ Gundam Breaker ที่เพิ่งเปิดตัวภาค 4 วางขายบน Nintendo Switch, PlayStation 4, PlayStation 5 และ PC แม้อาจจะเป็นเกมที่ไม่ได้โด่งดังมาก แต่การที่จำลองการเล่นด้วยการใช้กันพลาเป็นไอเดียหลักในการเล่นทำให้มันเป็นอีกหนึ่งเกมที่แฟน Gundam ต้องอยากเล่น แถมภาคนี้ยังรองรับภาษาไทยเต็มรูปแบบด้วย ทำให้สำหรับชาวไทยยิ่งน่าเล่น

ส่วนเนื้อเรื่องในภาคนี้จะเกิดหลังจากภาค 3 เป็นเวลา 6 ปี เราจะได้เล่นเป็นตัวละครใหม่ ที่มาร่วมทดสอบตัวเบตาของเกม และร่วมกลุ่มกับตัวละคร NPC ในเกมเป็นแคลน ที่มีทั้ง Tao ซึ่งเชี่ยวชาญด้านกันพลา SD และ Lin นักรบสาวสุดแกร่ง และมีการเล่าเรื่องที่น่าสนใจเพราะเราต้องรับภารกิจและตะลุยกำจัดศัตรูและต่อสู้กับแคลนอื่น เนื้อเรื่องยังเล่าผ่านคัตซีนและมีเสียงพากย์ด้วย แถมยังมีซับไทยให้อ่านกันทำให้เราเข้าใจเนื้อเรื่องแบบ 100%

กราฟิกธรรมดาแต่ไม่ใช่ข้อเสีย

สิ่งหนึ่งที่อาจจะทำให้แฟนที่ชอบกราฟิกงาม ๆ ระดับสูงต้องผิดหวัง เพราะภาพในเกมมันดูธรรมดาไปหน่อยเมื่อเทียบกับมาตรฐานเกมที่วางขายในปี 2024 เพราะตัวละครก็ขาดรายละเอียด และฉากในเกมที่โล่ง ๆ ทำให้มันดูเชยไปหน่อย เรียกว่าเกมบนสมาร์ตโฟนบางเกมมีคุณภาพสูงกว่านี้เลยด้วยซ้ำ ยิ่งบน Nintendo Switch ยิ่งดูแย่กว่าเวอร์ชันอื่นจนเหมือนเล่นเกมย้อนไปยุค PS3

แต่ที่บอกว่ามันไม่ใช่ข้อเสียเป็นเพราะตัวเกมสร้างโดยอ้างอิงว่าตัวละครหุ่นยนต์ในเกม Gundam Breaker สร้างมาจากกันพลา หรือหุ่นของเล่นยอดนิยมของ Bandai ที่ได้รับความนิยมมายาวนาน ซึ่งรายละเอียดของตัวละครระดับนี้ถือว่ายอมรับได้ ที่ต้องชมคือความลื่นไหลที่ทำได้ดีในระดับน่าพอใจ แม้ฉากที่มีศัตรูออกมาเยอะเฟรมเรตก็ไม่ตกมากนัก

ส่วนเพลงประกอบก็อยู่ในระดับกลาง ๆ ไม่ได้ดีมากแต่ก็ไม่ได้แย่ เพลงในเกมทำมาเพื่อเข้ากับแนวทางการเล่นที่ต้องบังคับหุ่นยนต์เข้าต่อสู้กับกองทัพศัตรู ทำให้มันเป็นส่วนเสริมที่ไม่ได้มีเพลงธีมที่โดดเด่นติดหู แต่ก็ช่วยเสริมให้การเล่นสนุกขึ้น และยังมาพร้อมกับเสียงพากย์แบบจัดเต็มด้วย อย่างไรก็ตามตัวเกมใช้แนวทางการที่ตัวเอกไม่มีเสียงพากย์แบบเดียวกับ Dragon Quest และ Zelda ทำให้อาจจะดูแปลกสำหรับผู้ที่ไม่คุ้นกับแนวทางนี้

เกมเพลย์แอ็กชัน 3D ที่เข้าใจง่ายดูเชยแต่สนุก

ในเมื่อกราฟิกไม่ใช้จุดขายรูปแบบการเล่นจึงถูกคาดหวังว่าจะออกมาสนุก ซึ่งหลัก ๆ แล้วมันคือเกมแอ็กชัน 3 มิติที่เราต้องบังคับหุ่นยนต์รบจากซีรีส์ Gundam ออกต่อสู้กับศัตรูในฉากที่จำกัด และถูกแบ่งออกเป็นภารกิจที่ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนนัก ส่วนใหญ่ก็จะเป็นการกำจัดหุ่นของอีกฝ่ายให้หมดฉากที่มาเป็น Wave ที่แบ่งออกเป็นช่วง ๆ แล้วจะมีบอสสุดโหดรอเราอยู่ท้ายด่าน

แต่ก็มีบางภารกิจต้องทำตามที่กำหนดไว้เล่นการปกป้องฐานทัพ แต่โดยรวมหากเอามาตรฐานเกมเพลย์ยุคนี้เกมเพลย์ไม่ได้โดดเด่นนัก เพราะมันเป็นรูปแบบที่ใช้มาเป็นสิบปีและใช้ในหลายเกม ซึ่งหากสัมผัสแค่ผิวเผินอาจจะคิดว่ามันเป็นเกมเชย ๆ และไม่น่าจะเล่นได้สนุก แต่พอเล่นแบบจริงจังแล้วถือว่าซีรีส์ Gundam Breaker มีอะไรดีกว่าที่คิดมาก

อย่างแรกที่น่าประทับใจคือหุ่นกันพลาของเรามีอาวุธที่หลากหลาย และผู้เล่นสามารถสลับเปลี่ยนออกมาใช้ได้อย่างรวดเร็วทำให้เกิดเป็นท่าแบบคอมโบเทพ ๆ ที่โจมตีได้อย่างต่อเนื่อง เช่น การใช้ดาบเลเซอร์เพื่อโจมตีแล้วพุ่งตัวหลบออกมายิงปืนระยะไกล ถือว่าเป็นการผสมผสานได้อย่างดีและทำให้การต่อสู้กับศัตรูสนุกมากขึ้น

โดดเด่นที่การต่อสู้และปรับแต่งกันพลา

แม้เกมเพลย์อาจจะดูธรรมดาแต่มันโดดเด่นที่การปรับแต่งหุ่นของเราที่เป็นกันพลา และสามารถสร้างได้อย่างละเอียดมากไม่ว่าจะเป็นการปรับตัวหุ่นที่สามารถเปลี่ยนได้ตามใจ และสามารถเอาชิ้นส่วนที่ได้มาจากการต่อสู้มาใส่หุ่นของเราได้ และการปรับแต่งทำได้อิสระขนาดที่เอาหัวของ Zagu มาใส่ Gundam ก็ได้

และยังปรับอาวุธได้หลากหลายตามใจ ไม่ว่าจะเป็นปืนไว้ยิงระยะไกล หรืออาวุธระยะประชิดที่มีมาให้เลือกหลายร้อยแบบ นอกจากนี้ยังสามารถปรับแต่งสีของหุ่นของเราได้แบบละเอียดมาก เพราะมันใช้รูปแบบเดียวกับการตกแต่งกันพลาของจริง และเชื่อว่าในส่วนนี้จะทำให้แฟนเกมเสียเวลาไปกับการปรับแต่งหุ่นไปมากกว่าออกต่อสู้เสียอีก ปิดท้ายกับการใส่ระบบออนไลน์ที่เราจะสามารถรวมทีมกับเพื่อน ๆ เพื่อทำภารกิจได้ซึ่งเป็นของที่ต้องมีในเกมยุคนี้อยู่แล้ว

โดยรวมแล้ว Gundam Breaker 4 ยังคงสานต่อความสนุกสำหรับผู้ที่ชอบแอ็กชันสนุก ๆ ที่สามารถปรับแต่งตัวละครได้เยอะมาก แม้ภารกิจและเกมเพลย์ในเกมอาจจะดูธรรมดา แต่ก็ยังคงมีความสนุกในแบบแอ็กชัน 3D ที่ไม่ต้องคิดอะไรมากเน้นต่อสู้เป็นหลัก แถมยังมาพร้อมกับชิ้นส่วนกันพลามากมายรอให้เราค้นหามาประกอบ แถมยังรองรับภาษาไทยเต็มรูปแบบและแปลออกมาดีด้วย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเกมที่หามาเล่นได้แบบไม่เสียดายเงิน