[รีวิวเกม] Sonic X Shadow Generations หนึ่งในเกม Sonic ที่คุ้มค่าที่สุด

สำหรับคอเกมที่โตมาในยุค 90S ต้องรู้จักเม่นสายฟ้า Sonic เกมเรือธง และเป็นตัวมาสคอตของ SEGA ที่โด่งดังไม่แพ้ Super Mario ของปู่นิน แม้ว่าในช่วงหลังซีรีส์นี้อาจจะไม่ได้โด่งดังเท่าสมัยก่อน แต่ก็ยังออกภาคใหม่มาให้เล่นอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดในปี 2024 ทาง SEGA ได้คืนชีพตำนาน Sonic กลับมาอีกครั้งแถมยังเพิ่มสิ่งใหม่เข้าไปด้วย

และเกมนั้นคือ Sonic X Shadow Generations ที่วางขายบน PS5, PS4, Xbox one, Xbox Series X/Series S, Nintendo Switch และ PC ด้วย โดยมันเป็นการหยิบเอา Sonic Generations ที่เคยวางขายในปี 2011 มาปรับภาพใหม่ในรูปแบบรีมาสเตอร์ และมีการสร้างเรื่องราวของ Shadow เข้าไปเสริม ทำให้มันเป็นมากกว่าแค่การเอาของเก่ามาขายใหม่

ส่วนเนื้อเรื่องจะแบ่งเป็น 2 ส่วน โดยในส่วนของ Sonic Generations จะเป็นการเอาของเดิมมาโดยไม่ได้ปรับแต่ง คัตซีนก็เอาของเดิมมาแต่มันก็ยังดูไม่เชยมาก โดยมันโดดเด่นที่การรวมเอาเม่น Sonic 2 ยุคมาพบเจอกัน เพราะตัวร้ายอย่าง The Time Eater ที่เนื้อเรื่องโดยรวมเป็นของเดิม แต่จุดเด่นของภาคนี้คือเรื่องราวใหม่ในส่วนของ Shadow ที่จะมีการเชื่อมต่อเนื้อเรื่องกับภาค Generations ด้วย แต่ในส่วนนี้จะมีความเข้มข้นกว่า และมีการลงทุนสร้างคัตซีนใหม่ และข่าวดีคือเกมรองรับภาษาไทยด้วย และแปลออกมาได้ดีพอตัวเสียด้วย

กราฟิกยังคงดูดีในรูปแบบ Sonic

เช่นเดียวกับเนื้อเรื่อง กราฟิกของเกมนี้ก็จะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือเกม Sonic Generations ที่จะมีการปรับกราฟิกให้คมชัดและใส่รายละเอียดไปมากขึ้น แต่ยังอยู่ในกรอบเดิมซึ่งเรียกว่ารูปแบบ “รีมาสเตอร์” แต่ SEGA ทำออกมาได้ดีกว่าที่คิดเพราะในส่วนเกมเพลย์ทำออกมาได้ดีมากจนเกือบจะเหมือนเกมใหม่ แต่ในส่วนของคัตซีนไม่ได้ปรับเปลี่ยนมากนักแต่โดยรวมก็สอบผ่าน และเป็นส่วนเสริมให้เกมดูดีขึ้น

ส่วนกราฟิกของภาค Shadow ทำออกมาได้ดีตามมาตรฐานเกมยุคนี้ ที่เต็มไปด้วยรายละเอียดและความคมชัด และมีความลื่นไหลแม้เกมเพลย์จะมีความรวดเร็วมากก็ตาม นอกจากนี้ในส่วนของเพลงและเสียงประกอบก็ทำได้ดีงามตามมาตรฐาน ทั้ง 2 เวอร์ชันมีการใส่เพลงธีมที่สนุกสนานและมีเพลงในตำนานใส่เข้ามาด้วย และยังคงมีการลงทุนใส่เสียงพากย์เข้ามาตลอดการเล่นด้วย

เกมเพลย์ส่วนของภาค Sonic Generations

รูปแบบการเล่นในส่วนของเม่นสายฟ้า จะเป็นของเดิมที่ยกมาจากต้นฉบับ ที่สามารถผสมผสานความคลาสสิกของ Sonic ยุคเก่าที่นำเสนอในรูปแบบ 2 มิติ เข้ากับเกมเพลย์แบบ 3 มิติได้ลงตัว แม้จะไม่ได้แปลกใหม่แล้วในยุคนี้ แต่หากคุณเคยเล่นมาตั้งแต่สมัย Mega Drive แล้ว มันคือเกมที่เราคุ้นเคย เพราะเรายังคงได้บังคับตัวละครให้วิ่งด้วยความเร็วสูงแบบ 2D ที่ถือว่าขึ้นหิ้งเป็นเกมคลาสสิกไปแล้ว

ในส่วนของเกมเพลย์แบบ 3D ที่มีใน Sonic ภาคหลัง ๆ ก็ยังทำออกมาได้ดีงาม เพราะในฉากมีการใส่ลูกเล่นของฉากแบบ 3 มิติที่ผู้เล่นจะมีทิศทางในการบังคับที่มากกว่า และยังคงมีความรวดเร็วเหมือนเดิม ส่วนฉากในเกมจะแบ่งออกเป็น Act เหมือนเดิมที่เราจะค่อย ๆ ปลดล็อกออกมา และมีตัวละครในตำนานของซีรีส์ Sonic อยู่ในเกมด้วย

เกมเพลย์ส่วนของภาค Shadow

รูปแบบการเล่นของ Shadow เป็นไฮไลต์ประจำภาคนี้ เพราะนอกจากจะเป็นเกมใหม่แล้ว ยังมาพร้อมกับการใส่ความสนุกแบบจัดเต็ม และมีท่าไม้ตายใหม่ ๆ ที่ Sonic ไม่มีเช่นพลังไฟฟ้า หรือท่าหน่วงเวลา และอีกหลายท่าที่จะค่อย ๆ ปลดล็อกออกมา ฉากในเกมเต็มไปด้วยไอเดียเดิมผสมกับความแปลกใหม่ ที่ใส่เข้าไปแบบไม่ยั้ง แม้จะยังอยู่ในกรอบเดิม ๆ ของ Sonic แต่บอกได้เลยว่ามันสนุกกว่า

โดยฉากในส่วนของ Shadow จะแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ ได้แก่ ด่านปรกติแบบแอ็กชัน 3 มิติที่ต้องวิ่งไปให้สุดทางแบบเกมทั่วไป ยังมีส่วนของฉากแผนที่หลักที่มีความกว้าง แม้จะไม่ได้เป็นแบบ Open World แต่ก็มีสิ่งให้เราวิ่งสำรวจได้มากกว่าเกมแอ็กชันทั่วไป และบนแผนที่จะมีประตูเข้าด่านที่เราต้องกดเข้าไปทำภารกิจเพื่อปลดล็อกด่านใหม่ ๆ ด้วย ซึ่งเกมในส่วนนี้ทำให้เกมเพลย์ของ Shadow ดูไม่เชยและมีอะไรให้ทำมากมาย

และเมื่อรวมกัน 2 เกมถือว่าคุ้มค่ามาก เพราะในส่วนของ Sonic คือความคลาสสิกแม้จะไม่ได้ยาวอะไรนัก และในส่วนของ Shadow ทำออกมาได้ดีมีความยาวและมีอะไรให้สำรวจมากมาย อย่างไรก็ตามหากคุณไม่ใช่แฟนซีรีส์นี้และไม่ชอบเกมที่มีความเร็วสูงอาจจะหงุดหงิดในฉากที่เราต้องแข่งกับเวลาอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้ยากเย็นจนเกินไปหากจับจุดได้ก็จะสามารถผ่านไปได้แบบไม่หัวร้อนมากนัก

เกม Sonic X Shadow Generations ถือว่าเป็นตัวอย่างที่ดีในการนำของเก่ามาขายใหม่ที่อยากให้ค่ายอื่นทำตาม เพราะนอกจากจะมีเกมคลาสสิกที่ปรับกราฟิกให้ดูดีขึ้นแล้ว ยังมาพร้อมกับเกมใหม่ใน Part ของ Shadow ที่ยกระดับความสนุกของซีรีส์ Sonic ใส่เข้ามาด้วย ถือเป็นเกมแนวแอ็กชันอีกเกมที่ทำออกมาได้ดีกว่าที่คาดไว้ ใครเป็นแฟนเม่นสายฟ้าไม่ควรพลาด