[รีวิวเกม] Donkey Kong Country Returns HD ตำนานลิงยักษ์ กลับมาแบบ HD

รูปแบบการนำของเก่ามาขายใหม่แบบปรับภาพเป็น HD มาขายใหม่ถือว่าเป็นสิ่งที่ค่ายเกมนำมาหากินตลอด เพราะไม่ต้องลงทุนอะไรมากก็สามารถทำยอดขายได้ดีถ้าหากต้นฉบับเป็นของดีระดับตำนานที่มีฐานแฟนคลับอยู่จำนวนมาก แต่การกลับมาของ Donkey Kong Country Returns HD บน Nintendo Switch อาจจะมีประเด็นดราม่าเล็กน้อย

เพราะว่าเกม Donkey Kong Country Returns HD เป็นการเอามาขายหลายรอบแล้วโดยต้นฉบับออกบน Wii ในปี 2010 และตามมาด้วยการออกเวอร์ชันพกพาบน 3DS ในปี 2013 นอกจากนี้ยังมีมาให้เล่นบน Nvidia Shield TV วางขายในประเทศจีนด้วย ทำให้การกลับมาในรูปแบบ HD มันขาดความสดใหม่อย่างมาก

อย่างไรก็ตามเนื่องจากต้นฉบับมันเป็นหนึ่งในเกมแอ็กชันตะลุยด่านที่เป็นตำนานที่สนุกมากในตอนที่ออกบน Wii ทำให้มันยังพอจะน่าสนใจที่จะหยิบมาเล่น ส่วนเนื้อเรื่องในภาคนี้จะเริ่มขึ้นหลังจากตัวร้ายอย่าง Tiki ได้มาขโมยกล้วยของ Donkey Kong และ Diddy Kong และได้รุกรานบ้านเกิดทำให้ 2 ลิงยักษ์ในตำนานต้องจับมือกันอีกครั้งเพื่อทวงคืนกล้วยกลับคืนมา และต่อสู้กับกลุ่มตัวร้าย Tiki ที่น่ากลัวกว่าศัตรูที่เคยพบเจอมาก่อนหน้านี้

กราฟิกดูดีขึ้นแต่ปรับน้อยเกินไป

ภาพใน Donkey Kong Country Returns HD นำเสนอในรูปแบบ HD ตามสเปกเครื่องเพราะต้นฉบับบน Wii ไม่รองรับกราฟิกความละเอียดสูงส่วนบน 3DS ก็เป็นเครื่องพกพา ทำให้การมาบน Nintendo Switch เป็นการปรับภาพให้คมชัดขึ้น แต่มันก็ได้แค่ความชัดทุกอย่างยังคงอยู่ในกรอบเดิม ๆ ของต้นฉบับบน Wii ไม่เปลี่ยน

อีกทั้งผู้สร้างไม่ได้เพิ่มลูกเล่นเพื่อเสริมเช่นแสงเงาหรือพื้นผิวก็ใช้ของเดิม ทำให้มันก็เหมือนเล่นต้นฉบับที่ภาพชัดขึ้น ซึ่งถือว่าน่าผิดหวังเล็กน้อยเพราะอย่างน้อย ๆ น่าจะทำให้ได้เหมือนกับเกมที่ปรับภาพเป็น HD อย่าง The Legend of Zelda: The Wind Waker HD ที่ออกบน WiiU เพราะราคาขายของเกมลิงยักษ์ก็ไม่ได้ถูก ๆ ทำให้มันอาจจะดูไม่ค่อยคุ้มค่านัก

ส่วนเพลงประกอบก็ยกของเดิมมาทั้งหมดไม่ได้ปรับเปลี่ยนหรือใส่อะไรใหม่ แต่ของเดิมก็ถือว่าทำออกมาได้ดีระดับตำนานอยู่แล้ว มีเพลงธีมเพราะ ๆ ติดหูที่เราคุ้นเคยกันดี และยังมีเพลงในตำนานอย่าง Aquatic Ambience หรือเพลงที่ใช้ในฉากใต้น้ำที่เป็นหนึ่งในเพลงประกอบเกมที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาลใส่เข้ามาด้วย ส่วนการเล่าเรื่องเน้นแบบการ์ตูนไม่มีเสียงพากย์เพราะตัวเอกเป็นลิง โดยรวมเสียงประกอบทำได้ดีแต่ก็ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่

เกมเพลย์แอ็กชัน 2 มิติแบบคลาสสิก

รูปแบบการเล่นมาแนวทางคลาสสิกที่นิยมใช้ในยุค 80S-90S ที่เป็นเกมเพลย์แบบแอ็กชัน 2 มิติมุมมองด้านข้างแนวตะลุยด่าน ที่ตัวเอกต้องกระโดดไปตามพื้นผิว และใช้การกระโดดเหยียบหรือคว้างปาสิ่งของเพื่อโจมตีศัตรู นอกจากนี้ยังมีแอ็กชันสนุก ๆ อย่างการตีพื้นเพื่อทำให้ศัตรูมึนงง ซึ่งเราต้องใช้ทุกแอ็กชันของตัวละครเพื่อโจมตีศัตรู ทำให้แม้เกมเพลย์จะดูเชย ๆ แต่กลับมีอะไรซับซ้อนกว่าที่คิดไว้มาก

เพราะว่าการรับมือกับศัตรูต้องใช้วิธีการที่หลากหลาย บางต้วต้องใช้การตีพื้นให้มึนหรือหงายท้องถึงจะโจมตีเข้า บางตัวต้องเลือกกะจังหวะเพื่อโจมตีให้ตรงกับจุดก่อนถึงจะกำจัดได้ และบอสแต่ละตัวก็มาพร้อมกับรูปแบบที่ผู้เล่นต้องหาวิธีการจัดการมันที่ทุกตัวจะมีจุดอ่อนแตกต่างกัน ซึ่งทำให้เราต้องคิดวิเคราะห์เพื่อหาทางต่อสู้กันไปตลอดเกม เพราะไม่ว่าจะเป็นศัตรูทั่วไป (บางตัว) หรือบอสก็มีการนำเสนอที่หลากหลาย

ความยากจนหัวร้อนคือจุดเด่น

แต่จุดเด่นของซีรีส์นี้จริง ๆ คือ “ความยาก” ที่ผู้สร้างใส่มาแบบจัดเต็ม เพราะศัตรูมาแบบจัดเต็มพุ่งมาโจมตีได้ทุกทิศทาง บางตัวโผล่มาในจุดที้คาดไม่ถึงและมีวิธีรับมือที่ยากกว่าที่เห็น นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับดักหรืออุปสรรคโหด ๆ เช่นการที่ผู้เล่นต้องคอยหลบคลื่นยักษ์ที่ถาโถมเข้ามาแบบไม่หยุด หรือฉากที่เราต้องขี่ถังจรวดเพื่อท่องไปในฉาก หรือขับรถรางในเหมืองที่เต็มไปด้วยอุปสรรคสุดโหดที่ทำให้เราตายได้ตลอดเวลา

ที่ความยากของเกมอยู่ในระดับสูงเหมือนเกม 2 มิติในอดีต เพราะหากเราพลาดแม้แต่นิดเดียวก็จะตายได้อย่างง่ายดาย ยังดีที่มีโหมดตัวช่วยเช่นการใส่จุด Save เข้ามาในฉาก หรือการที่มีโหมดง่ายที่พลังชีวิตของเราจะมากขึ้น หรือมีตัวช่วยให้ผ่านด่านให้ง่ายขึ้นเช่นโหมดแนะนำที่เหมือนจับมือเล่นหากเราพลาดตายหลายรอบ แต่แนะนำว่าอย่าใช้ตัวช่วยเล่นแบบปรกติคุณจะพบกับความสนุกแบบคลาสสิก และสำหรับคนที่อยากสนุกกับเพื่อนเกมยังรองรับการเล่นแบบ 2 คนพร้อมกันในฉากเดียวด้วย (แต่น่าจะหัวร้อนกว่าเดิม)

อย่างไรก็ตามก็ต้องบอกตรง ๆ ว่าการมาขายใหม่ของ Donkey Kong Country Returns HD อาจจะไม่ค่อยคุ้มค่านัก เพราะนอกจากความคมชัดระดับ HD มันก็แทบจะเหมือนกับต้นฉบับที่ออกวางขายมาแล้วหลายรอบ กราฟิกเองก็ไม่ใชจุดขายเพราะไม่ได้ปรับไปมากนัก แต่หากคุณไม่เคยเล่นต้นฉบับมาก่อนก็ถือว่าพอจะคุ้มค่าอยู่ เพราะของเดิมมันก็คือตำนานของวงการเกมแอ็กชันอยู่แล้ว แต่หากเคยเล่นมาแล้วมันอาจจะไม่ใช้ตัวเลือกที่ดีนักเพราะราคาขายของเกมค่อนข้างสูง