Our score
7.2LOLLIPOP CHAINSAW RePOP
จุดเด่น
- เกมเพลย์หลุดโลกที่เล่นได้สนุกอยู่
- เนื้อเรื่องแหวกแนวผลงานของ James Gunn
จุดสังเกต
- กราฟิกอัปเกรดเล็กน้อยเท่านั้น
- สิ่งที่เพิ่มเข้ามาน้อยเกินไป
-
กราฟิก
7.0
-
เกมเพลย์
7.0
-
ความคุ้มค่า
7.5
-
ภาพรวม
7.3
การรีมาสเตอร์เกมเก่าถือว่าเป็นรูปแบบการนำของเก่ามาขายใหม่ที่พบเห็นได้ตลอด ซึ่งหากมองว่าเราจะได้เล่นเกมเก่าในรูปแบบปรับภาพใหม่ก็ถือว่าเป็นเรื่องดี และสำหรับบางเกมยังเป็นการฟังเสียงแฟน ๆ ว่าต้องการให้ผู้สร้างทำภาคต่อหรือไม่ และนั้นอาจจะเป็นสาเหตุการมาของ LOLLIPOP CHAINSAW RePOP เกมแอ็กชันตะลุยดงซอมบี้ที่กลับมาขายใหม่อีกครั้ง

โดยต้นฉบับของเกม LOLLIPOP CHAINSAW ออกวางขายในปี 2012 บน PS3, Xbox360 และ PC โดยเป็นผลงานของค่าย Grasshopper Manufacture ที่ได้ผู้สร้างเกมสุดแนวอย่าง Suda 51 มากำกับซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง และก็มีข่าวลือว่าจะมีการสร้างภาคต่อมาตลอด ส่วนเวอร์ชันรีมาสเตอร์ในชื่อ RePOP วางขายใหม่บนคอนโซล PS5, PS4, Xboxone, Xbox Series X/S, Nintendo Switch และ PC

เนื้อเรื่องในเกมมาแนวหลุดโลกไม่ต้องสนใจความสมจริงอะไรทั้งสิ้น โดยตัวเอกอย่างสาวน้อยวัย 18 อย่าง Juliet Starling ที่เช้าวันเกิดของเธอเป็นวันเดียวกับการมาของกองทัพซอมบี้ล้างโลก และระหว่างการเดินทางไปโรงเรียนเธอได้พบกับแฟนหนุ่มนาม Nick Carlyle ที่โดยซอมบี้กัด และเพื่อปกป้องไม่ให้เขากลายเป็นซอมบี้ Juliet ได้ใช้เลื่อยไฟฟ้าตัดหัว Nick ออกก่อนไวรัสจะเข้าสู่สมอง แต่เขายังไม่ตายและทำให้ต้องหิ้วหัวเขาไปตลอดการเล่น ซึ่งถือเป็นเรื่องราวที่แปลกแหวกแนว ซึ่งอาจเป็นเพราะเกมได้ผู้กำกับหนังดังอย่าง เจมส์ กันน์ (James Gunn) เป็นผู้เขียนบทให้เกม LOLLIPOP CHAINSAW

กราฟิกปรับนิดหน่อยเท่านั้น
ภาพใน LOLLIPOP CHAINSAW RePOP เป็นการรีมาสเตอร์แบบง่าย ๆ ไม่ได้ปรับอะไรเยอะมาก ทำให้องค์ประกอบของภาพในเกมโดยรวมคือของเดิมเมื่อปี 2012 ที่เพิ่มความคมชัดขึ้นเท่านั้น ไม่ได้ลงทุนสร้างใบหน้าตัวละครใหม่หมดเหมือนเกมอื่น ทำให้ผู้ที่คาดหวังจะได้เห็นอะไรอัปเกรดจนจากเดิมแบบชัดเจนก็น่าจะผิดหวัง อีกทั้งต้นฉบับเป็นเกมเก่าที่ขายมาเกิน 10 ปีแล้วทำให้มันดูเชยไปหน่อยเมื่อหยิบมาเล่นในยุคนี้

โดยความละเอียดที่ปรับเพิ่มขึ้นคือ 1080p และเฟรมเรตระดับ 30 FPS ถือว่าน้อยไปและดูเหมือนว่าผู้สร้างจะไม่ค่อยลงทุนนักในส่วนนี้ ส่วนเพลงประกอบก็มาแนวทางเดิมไม่เปลี่ยน ที่จะมีเพลงแนว ร็อคเฮฟวี่เมลทัล ที่มีจังหวะรวดเร็วเร้าใจมาผสมผสานกับดนตรีแนวสนุกสนาน ซึ่งเข้ากับเกมเพลย์มากแม้อาจจะไม่ได้โดดเด่นติดหูนักก็ตาม ส่วนเสียงพากย์ก็ยกของเดิมใส่เข้ามาซึ่งก็ไม่มีอะไรให้ต้องติเพราะทำหน้าที่ของมันได้ดีอยู่แล้ว

เกมเพลย์แอ็กชันตะลุยดงซอมบี้
รูปแบบการเล่นยังคงเดิมที่มาแนวแอ็กชันตะลุยด่านที่เป็นเส้นตรง โดยเราจะบางตัวตัวละครสาวน้อย Juliet จะต้องใช้อาวุธหลักเป็นเลื่อยไฟฟ้าเพื่อโจมตีศัตรู และยังมีท่าต่อสู้ที่เหมือนเชียร์ลีดเดอร์ ที่ผู้เล่นสามารถสลับไปมาได้อย่างลื่นไหล และมีการกดเพื่อหลบหลีกที่มาแนวทาง hack and slash แม้จะไม่ได้มีการใช้ระบบหน่วงเวลาแบบเดียวกับเกมยุคใหม่ แต่โดยรวมก็ทำออกมาได้สนุกพอตัวแม้จะดูเชยไปหน่อยก็ตาม

นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับท่าไม้ตายพิเศษที่ต้องสะสมเกจค่าพลังให้เต็มแล้วถึงจะกดใช้งานได้ ซึ่งก็ไม่ได้แปลกใหม่อะไร แต่ความโดดเด่นคือมันมีความหลุดโลกและความฮาที่ผู้สร้างยัดใส่ความแปลกแต่สามารถเรียกเสียงฮาได้ตลอดการเล่น ซึ่งเป็นแนวทางของผู้สร้างหลักอย่าง Suda 51 อยู่แล้ว ที่เหมือนเราได้เล่นเกมไปพร้อมกับชมหนังซอมบี้แนวฮา ๆ ได้ก็ไม่แปลกเพราะเกมได้ เจมส์ กันน์ มาเขียนบทให้ซึ่งส่วนนี้ทำให้มันเป็นหนึ่งในภาพจำของเกม LOLLIPOP CHAINSAW ที่ทำให้มันแตกต่างจากเกมอื่น

ระบบการเล่นที่สนุกแต่เชยไปหน่อย
วกกลับมาที่เกมเพลย์ที่อาจจะเป็นข้อเสียคือความเป็นเส้นตรงแบบเกมตะลุยด่านทั่วไป โดยจะมีการแบ่งออกเป็นด่าน และไม่มีความซับซ้อนอะไรเลย แค่เดินไปต่อสู้กับศัตรูแล้วกำจัดให้หมดฉากก็ผ่าน และมีบอสรออยู่ท้ายฉากเมื่อกำจัดได้ก็ผ่านไปด่านต่อไป ทำให้มันดูเหมือนเกมย้อนยุคไปเลย อย่างไรก็ตามเมื่อลงลึกไปในรายละเอียดจะพบว่าในฉากก็พอจะมีสิ่งอื่นให้ทำนอกจากการต่อสู้กับซอมบี้อยู่บ้าง

เพราะผู้สร้างได้ใส่มินิเกมย่อยมาให้เล่น เช่นการกดปุ่มตามจังหวะเพื่อใช้เลื่อยไฟฟ้าเปิดทางไปต่อ หรือการใช้หัวของ Nick แฟนของเราไปใส่กับซอมบี้ที่หัวขาดแล้วจะสามารถบังคับให้ไปทำสิ่งที่เราทำไม่ได้ เช่นการเอาระเบิดผูกกับตัวเพื่อไปนำไประเบิดเพื่อเปิดทางไปต่อ ซึ่งเป็นไอเดียที่แปลกประหลาดและทำให้พอจะมีอะไรให้ทำนอกจากการต่อสู้อยู่บ้าง และสำหรับมือใหม่ก็มีโหมดง่ายมาให้เราเล่นแบบยังไงก็จบได้ แต่แนะนำให้เล่นแบบปรกติน่าจะดีกว่า เพราะหากเล่นแบบง่ายมันจะหมดสนุกไปเลย

โดยรวมแล้ว LOLLIPOP CHAINSAW RePOP เป็นการกลับมาของตำนานเกมซอมบี้ที่แปลกแหวกแนว ที่เหมือนเป็นข้อความที่ผู้สร้างเกมส่งถึงแฟน ๆ ว่าต้องการให้สร้างภาคต่อหรือไม่ ซึ่งหากมันขายดีก็ไม่แน่ว่าเราจะได้เห็นภาคต่อของสาวน้อยเลื่อยไฟฟ้าก็เป็นไปได้ แม้ว่าเกมเพลย์โดยรวมจะค่อนข้างเชยและกราฟิกก็ไม่ได้ปรับเปลี่ยนมากนักก็ตาม แต่หากไม่คิดมากมันก็ยังคงเป็นอีกเกมที่เล่นได้เพลิน ๆ เน้นเสพความแปลกหลุดโลกของเรื่องราวและตัวละครแทน