[รีวิวเกม] Sega 3D Classics Collection 3 Final Stage ตำนานค่าย เซก้า ฉบับ 3 มิติทะลุจอ

Our score

6.8

Sega 3D Classics Collection 3 Final Stage

จุดเด่น

รวมเกมฮิตในอดีต
ภาพ 3 มิติที่ดูแปลกตา
ราคาไม่แพง

จุดสังเกต

เกมเพลย์ไม่ได้ปรับเปลี่ยน
ภาพ 3D ไม่ได้ดูดีทุกเกม

กราฟิก

6.5
เกมเพลย์

7.0
ความแปลกใหม่

6.0
ความคุ้มค่า

7.5
ภาพรวม

7.0

แม้ว่าทุกวันนี้ค่าย Sega จะไม่ได้ทำเครื่องเกมคอนโซลแล้วก็ตาม แต่อดีตอันหอมหวานก็ยังคงเป็นสิ่งที่อยู่ในใจคอเกมทั่วโลกที่เกิดทันเล่น ทำให้มีการขุดเอาเกมเก่าๆมาทำใหม่ในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการนำมาขายใหม่แบบไม่ได้ปรับอะไรเลย หรือทำภาคใหม่ในรูปแบบเดิมๆ

และอีกรูปแบบที่มีการนำเสนอคือการนำเกมเก่ามาปรับภาพให้มีมิติ 3D บน 3DS มาขายใหม่ในชื่อ Sega 3D Classics Collection 3 Final Stage โดยก่อนหน้านี้ได้ออกไปแล้ว 2 ภาค รวมทั้งมีการแยกย่อยขายในร้านค้าออนไลน์ของ Nintendo ในญี่ปุ่น และล่าสุดมันกลับมาอีกครั้งในภาคที่ 3 ของซีรีส์และตามชื่อภาคที่มันจะกลายเป็นภาคสุดท้ายแล้ว (เกมออกโซนญี่ปุ่นก่อน)

โดยการกลับมาในครั้งนี้เป็นการรวมเกมฮิตมากถึง 9 เกม และไม่ได้มีแค่บนเครื่อง Mega Drive เท่านั้นยังมีเวอร์ชั่นเกมตู้ แม้ว่าจะมีรายชื่อบางเกมอาจจะไม่เป็นที่รู้จักของเด็กรุ่นนี้บ้าง แต่โดยรวมแล้วหากใครเกิดทันในยุค 90 แล้วคงต้องเคยผ่านตามาบ้าง และแน่นอนว่ามันคือ Collection รวมฮิตเกมเก่ามาปรับกราฟิกเป็น 3D แบบมีมิติความลึกของภาพเท่านั้น ทำให้กราฟิกมันยังคงเหมือนเดิม รวมทั้งเพลงประกอบที่เสียงแบบ 16 Bit ที่เป็นเสน่ห์ของมันและติดหูมาจนทุกวันนี้

ขอบคุณร้านเกม Nadz Project ดิจิตอล เกตเวย์ ชั้น 2

After Burner II

โดยเกมแรกถือเป็นไฮไลท์ของภาคนี้ เพราะมันคือ After Burner II เกมเครื่องบินรบในตำนานที่สร้างชื่อเสียงจากการเป็นเกมตู้ที่จำลองมาจากห้องนักบินได้สมจริงสุดๆมาคราวนี้แม้จะอยู่บนหน้าจอ 3D เล็กๆของ 3DS มันก็ยังคงเป็นเกมที่สนุก จากการควบคุมบังคับที่เรียบง่าย แต่หลากหลายด้วยฉากที่ในยุคนั้นถือว่าทำได้สุดยอดแล้ว แถมกราฟิกยังถอดแบบมาจากเกมตู้ไม่ใช่ Mega Drive ด้วย และที่ต้องชมคือภาพแบบ 3D บนจอทำให้เกมดูมีมิติขึ้นมาก เห็นมิติของเครื่องบินชัดเจนมาก และการมาแบบเต็มๆเกมทำให้มันเป็นความคุ้มค่าที่สุดแล้วในภาคนี้

Streets of Rage 2

เกมแนว Final Fight หรือ Double dragon ที่มาแบบต่อยตีให้หมดฉากถึงจะผ่านไปได้ ที่ในอดีต Sega เคยหมายมั่นว่ามันจะมาเป็นอีกเกมฟอร์มยักษ์ของค่าย โดยภาคนี้นอกจากจะเลือกได้หลายตัวละครแล้ว เกมเพลย์ก็ยังอัพเกรดขึ้นมีท่าไม้ตายใหม่ๆที่ใช้แล้วเสียพลังชีวิต ด้วยศัตรูที่มาในรูปแบบที่หลากหลายและหลุดโลกมากขึ้น มีตัวที่บินได้ออกมาให้เราสู้ด้วย แต่ข้อเสียหลักๆคือความอืดอาดของเกมที่ติดมาจากยุค 90 หากเด็กรุ่นใหม่เล่นคงต้องทำใจในส่วนนี้ให้ได้ นอกนั้นถือว่าสอบผ่าน ส่วนภาพแบบ 3D ที่น่าประหลาดใจเพราะทำได้ลึกและมีมิติมากแม้ว่าจะเป็นเกม 2D ก็ตาม

Alien Syndrome

เกมที่สร้างมาตามกระแสหนังดังอย่าง Alien ที่เราได้รับภารกิจออกช่วยเหลือคนที่โดนเอเลี่ยนจับไป ในฐานทัพที่เต็มไปด้วยสัตว์ร้ายจากต่างดาว ที่มีรูปแบบเกมยิง 2D มุมมองด้านบน ที่ดูง่ายๆ แต่พอเล่นจริงๆบอกได้เลยว่ามันไม่ง่ายเลย เพราะศัตรูออกมาเป็นกองทัพ บอสในเกมแม้จะมีไม่กี่รูปแบบแต่ก็ล้วนหน้าตาประหลาดแต่ก็มีเสน่ห์ โดยในอดีตถือว่ามันเป็นเกมที่มีชื่อเสียงพอสมควรสำหรับเกมตู้ในยุคแรกๆ เสียดายมากที่ภาพ 3D ของ 3DS ดูไม่ค่อยมีความลึกเท่าไร แต่มันเป็นเวอร์ชั่นเกมตู้ทำให้กราฟิกออกมาดูดีกว่าที่คิดไว้มาก แถมมีเสียงพากย์ด้วย

Columns

เกมแนว puzzle ที่ค่าย Sega สร้างมาเพื่อเป็นคู่แข่งกับเกม Tetris ด้วยรูปแบบที่เรียบง่ายแค่เรียงเพชรให้สีตรงกัน 3 อันก็จะหายไป ที่ทุกวันนี้เกมแนวนี้หาเล่นได้ฟรีๆบนมือถือ แต่หากมองที่คุณค่ามันก็พอมีเพราะเกมมีความยากและท้าทายให้ได้สัมผัส แต่น่าเสียดายเช่นกันที่ภาพ 3D แทบจะไม่ได้ช่วยให้เกมดูดีเท่าไรนัก

Gunstar Heroes

เกมเทพที่เคยเป็นคู่แข่งของเกมยิง 2D แนวคอนทราในอดีต ที่ต้นฉบับถือเป็นหนึ่งในเกมบน Mega Drive ที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาล ด้วยความลื่นไหลในการเล่นที่เร็วกว่าคอนทรา และมีท่าไม้ตายและระบบอาวุธที่เป็นเอกลักษณ์เช่นตัวเอกสามารจับศัตรูทุ่มได้ด้วย ทำให้มันคือเกมหนึ่งในภาคนี้ที่ไม่ควรพลาด ส่วนภาพ 3D ของ3DS อยู่ในระดับกลางๆไม่ได้โดดเด่นเท่าไรนัก

Sonic the Hedgehog 2

หนึ่งในตัวละครมาสคอตของค่าย Sega ที่ในภาคนี้ Sonic มาพร้อมกับผู้ช่วยอย่าง Tails ที่มาพร้อมกับหางทรงพลังและบินได้ โดย Sonic the Hedgehog 2 ถือเป็นเกมในซีรีส์ Sonic ที่สนุกที่สุดภาคหนึ่ง เป็นรองแค่ Sonic CD เท่านั้น ด้วยรูปแบบแอ็คชั่น 2D มุมมองด้านข้างที่เราต้องวิ่งไปด้วยความเร็วสูงมาก และยังอัพเกรดด้วยฉากที่สร้างมารองรับ ไอเทมใหม่ๆรวมทั้งศัตรูใหม่ทำให้มันทั้งยากและสนุก และเช่นเดียวกับเกม 2D ที่ภาพ 3D บน 3DS ไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก

Super Hang-On

เกมตู้ที่จำลองการแข่งมอเตอร์ไซค์ มาโดยฉบับ อาเขต เปิดให้เล่นในปี 1987 เราจะได้ขี่มอเตอร์ไซต์จำลอง ที่เป็นต้นแบบของเกมตู้ในทุกวันนี้ และมาเล่นบน 3DS อาจจะดูธรรมดาไปหน่อยเพราะเกมเพลย์แนวรถแข่งแบบนี้ทุกวันนี้ดูเชยไปแล้ว แต่หากมองว่ามันความแปลกใหม่ของวงการเกมในอดีตทำให้มันยังคงหาความสนุกได้เพราะมันมาแบบเต็มๆเกมและมาครบทุกฉากแบบไม่ต้องเสียเงินโหลดเพิ่ม ยิ่งหากคุณเคยเล่นมาแล้ว มาอัพเกรดด้วยภาพ 3D ที่ทำให้การเล่นดูสมจริงขึ้นมาก และข้อดีของภาค 3DS คือเราสามารถปรับระดับความยากได้ทำให้มือใหม่สนุกไปกับมันได้

Thunder Force III

ภาคที่ 3 ของเกมยานยิง 2D สุดโหดที่เคยออกบน Mega Drive ในปี 1990 แม้ดูภายนอกจะไม่ได้โดดเด่นกว่า Gradius แต่มันก็มีจุดเด่น กราฟิกที่ดูแนวและอาวุธที่ปรับแต่งได้หลากหลาย และมีการยิงกระสุนไปด้านหลังที่เกมยิง 2D ไม่ค่อยเน้นนัก และเรายังเลือกฉากที่จะเล่นได้ รวมทั้งปรับความเร็วยานของเราได้ด้วย โดยรวมเกมทำได้โดดเด่นจนภาค 3 ถือเป็นหนึ่งในเกมยิงที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในยุคนั้นที่แม้ผู้เขียนเองก็เคยมีตลับแท้ไว้เล่น ส่วนภาพ 3D ก็ทำออกมาได้ดีเกินคาด ทำให้การเล่นดูมีมิติมากขึ้น

Turbo OutRun

ปิดท้ายด้วยตำนานเกมตู้ ที่ภาคนี้เป็นการอัพเกรดใหม่หมดทั้งฉาก และรถที่ขนมาแต่คันเทพๆโดยเกมเป็นเวอร์ชั่นเกมตู้ ที่เปิดให้เล่นในปี 1989 ทำให้กราฟิกออกมาดูดีกว่าบนคอนโซล และความรวดเร็วทันใจทำให้มันยังคงเป็นหนึ่งในเกมแข่งรถที่โดดเด่นและในภาคนี้เราจะได้ท่องไปทั่วอเมริกากับฉากที่หลากหลาย ส่วนในไทยก็เคยมีเปิดให้เล่นตามห้างดังในอดีต ส่วนเวอร์ชั่น 3DS แม้ว่าการเล่นบนจอเล็กๆไม่สามารถดึงเอาความสนุกของเกมตู้มาได้เต็มร้อยก็ตาม แต่ก็ถือว่าสนุกกว่าเกมรถแข่งในยุคนี้หลายเกม และเช่นเดียวกับภาคก่อนหน้านี้ที่ภาพ 3D บน 3DS ที่มีความลึกและทำให้การเล่นสมจริงขึ้นอย่างมาก

โดยรวมแล้วการปิดท้ายซีรีส์ในเกม Sega 3D Classics Collection 3 Final Stage ถือว่าเป็นการเดินทางมาช่วงท้ายยุคของ 3DS พอดี และเกมที่นำมารวมฮิตก็เป็นเกมฟอร์มยักษ์ในอดีตเกือบทั้งหมด แบบไม่มีเกมเล็กๆใส่มาเพื่อให้ครบๆ ใครเป็นแฟนค่าย Sega ไม่ควรพลาด เพราะนอกจากจะได้รับความสนุกแล้ว เกมยังถูกอัพเกรดด้วยภาพ 3D บนหน้าจอ สามมิติของ 3DS ที่ทำให้ดูดีขึ้นมาก

ขอบคุณร้านเกม Nadz Project ดิจิตอล เกตเวย์ ชั้น 2

Play video