[รีวิวเกม] Monster Hunter XX Nintendo Switch Ver. การกลับมาของเกมล่าแย้ฉบับ HD
Our score
8.2

Monster Hunter XX Nintendo Switch Ver.

จุดเด่น

  1. กราฟิกระดับ HD ที่ดูดีขึ้น
  2. ราคาแผ่นไม่แพง

จุดสังเกต

  1. ไม่มีอะไรใหม่มากพอสำหรับคนที่เคยเล่นบน 3DS มาแล้ว
  • กราฟิกและงานออกแบบ

    8.0

  • เกมเพลย์

    9.0

  • ความคุ้มค่า

    7.5

  • ความแปลกใหม่

    8.0

  • ภาพรวม

    8.5

เป็นที่รู้กันว่าซีรีส์ล่าแย้ จะกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ใน Monster Hunter World ในปี 2018 บน PS4 ,XboxOne และ PC ทำให้การมาของเกม Monster Hunter XX เหมือนกับการมาทิ้งทวนบนคอนโซลของค่าย นินเทนโด ก่อนที่จะออกไปท่องบนคอนโซลค่ายอื่น

แน่นอนว่าตามชื่อภาค Monster Hunter XX Nintendo Switch Ver. คือการพอรต์เอาภาคบน 3DS มาลง Nintendo Switch ทำให้ความสดใหม่มันขาดไปมากมายเพราะเอาแค่ภาค XX ก็เป็นแค่ภาคอัพเกรดของภาค X ที่มันเป็นภาคเสริมของภาค 4 อีกที ฟังดูไม่ค่อยน่าเล่นเพราะเหมือนเป็นการเอามาทำใหม่ซ้ำซ้อนหลายรอบ แต่อย่างน้อยๆการย้ายบ้านมาลงเครื่องเกมที่มีพลังมากกว่าเดิมกราฟิกก็ถูกยกระดับขึ้นมาพอสมควร

โดยกราฟิกของ Monster Hunter XX Nintendo Switch Ver. ถูกยกอยู่ในระดับ HD ที่มีความคมชัด และดูดีมากเมื่ออยู่ในโหมดต่อทีวีเล่น และนอกจากความละเอียดระเพิ่มขึ้นแล้ว องค์ประกอบของฉากถูกปรับเปลี่ยนใหม่โดยเฉพาะพื้นผิวมีการปรับให้คมชัดขึ้นมาก ตัวละครก็มีการปรับในบางจุด รับประกันว่ามันจะดูดีมากเมื่ออยู่บนจอ FullHD น่าเสียดายเล็กน้อยที่เฟรมเรตของเกมจะอยู่ที่ 30 FPS แต่มันก็ลื่นไหลไม่มีสะดุด โดยรวมแล้วกราฟิกของเกมถือว่าทำได้ดีในระดับ Nintendo Switch ทำได้ แต่ใครอยากเห็นกราฟิกที่ยกระดับมากกว่านี้คงต้องรอเล่น Monster Hunter World ละกัน

ส่วนรูปแบบการเล่นก็ยกมาจากเวอร์ชั่น 3DS แทบจะทั้งหมด แต่ที่ต้องพูดถึงก่อนคือการควบคุมบังคับ ที่คราวนี้เรามีทางเลือกมากมายในการเล่น เอาแค่ปุ่มกดบน Joy-con ของ Nintendo Switch ก็คือว่ามาแบบครบๆทุกปุ่มแบบไม่ต้องใช้ตัวเสริม และปุ่มกดก็มีขนาดใหญ่กว่าบน 3DS ทำให้การออกล่ามอนสเตอร์ทำได้สะดวกขึ้นมาก นอกจากนี้เรายังสามารถใช้จอย Pro controller ของ Switch มาเล่นรวมทั้งยังใช้ Joy Hori ได้ด้วย เรียกว่ามันเป็นภาคที่ควบคุมบังคับได้ถนัดมือที่สุดและยังเลือกได้หลายรูปแบบ

อย่างไรก็ตามในส่วนของเกมเพลย์ของ Monster Hunter XX Nintendo Switch Ver. ถือว่ายังคงเหมือนเดิมกับต้นฉบับบน 3DS ที่ในภาคนี้เราจะได้ท่องไปในดินแดนเดิมที่เต็มไปด้วยมอนสเตอร์ที่หลากหลาย และจุดเด่นของภาคนี้คือ Style ที่เสริมเพิ่มเข้ามา โดยมันคือรูปแบบของการเล่นเช่นเป็นท่าไม้ตายเพื่อโจมตี หรือช่วยเพิ่มค่าพลังเช่นความเร็ว

แน่นอนว่าแต่ละ Style จะเชื่อมต่อกับอาวุธในเกมทั้งหมด และภาค XX มี Style เพิ่มเติมเช่น Renkin Style ที่เหมือนเป็นส่วนเสริมให้การต่อสู้ง่ายขึ้น หรือ Brave Style ที่มีท่าไม้ตายที่มีพลังโจมตีมหาศาล และทำคอมโบได้ แถมการกดท่าก็ง่ายดาย (แต่ใช้ต่อเนื่องไม่ได้ต้องรอชาร์จพลัง) และเมื่อมารวมกันทั้งหมดในภาค XX จะมีรูปแบบท่าใหม่ๆรวมแล้วมากกว่า 50 แบบ โดยการใช้ท่าไม้ตายจะมีค่าพลังเป็นตัวกำหนดเหมือนกับส่วนอื่นของเกม Monster Hunter ทั่วไปซึ่งในเวอร์ชั่น Nintendo Switch ก็ยังคงมีมาครบแต่ไม่ได้อัพเดทอะไรเพิ่มขึ้นมา

และสิ่งที่เสริมเข้ามา ตั้งแต่เวอร์ชั่น 3DS ของภาค XX ก็คือฉากใหม่ๆภูเขาสูง นาม Igun Peak และฉากฐานของเราที่เปลี่ยนเป็นเรือเหาะลอยฟ้านาม Ryuushiki Ship และแน่นอนว่ายังคงมีภารกิจระดับ G-Rank มาให้ทำเช่นเดิม ส่วนมอสเตอร์ตัวใหม่ในภาคนี้คือ Ouma Diablos ที่มีความยากระดับสูง ไปจนถึงมังกรติดเครื่องไอพ่นอย่าง Balfark แน่นอนว่ามันมีมาตั้งแต่ภาค XX บน 3DS เช่นกัน

ส่วนอีกหนึ่งของดีของเวอร์ชั่น Nintendo Switch คือการที่มันสามารถโอน Save บน 3DS ไปเล่นต่อบน Nintendo Switch ได้ และยังเล่นกับเพื่อนที่มีเวอร์ชั่น 3DS ได้ ส่วนระบบออนไลน์ ที่ระบบทำออกมาได้ดีลื่นไหลเช่นเดิม ทำให้เราสามารถมาเล่นแบบจัด Party ร่วมกันออกล่าแย้กันเป็นทีมได้ โดยไม่มีการแบ่งแยก

สรุปแล้วสำหรับการมาของ Monster Hunter XX Nintendo Switch Ver. อาจจะดูไม่ได้คุ้มค่าหากคุณเล่นมาทั้งภาค X และ XX มาแล้วเพราะของที่เพิ่มมาก็มีน้อยมาก แต่หากมองในส่วนการเล่นแบบต่อทีวีได้ และยังพกพาไปเล่นนอกบ้านด้วยความละเอียดระดับ HD มันก็พอจะคุ้มค่าที่จะกลับไปลงสนามล่าแย้กันอีกรอบ ถือว่าเอาไว้ฆ่าเวลาไว้รอเล่น Monster Hunter World ต้นปี 2018

Play video