Our score
8.6Super Famicom Mini
จุดเด่น
- เกมดังยุค 90 มารวมกัน 21 เกม
- มีจอยให้ 2 อัน พร้อมสายที่ยาวขึ้น
- ระบบ Rewind ที่ย้อนไปแก้ไขได้ตลอดเกม
จุดสังเกต
- ราคาแพงไปนิด(ในไทย)
- จำนวนเกมน้อยกว่า Famicom Mini
- ไม่มีหม้อแปลงไฟมาให้
-
งานประกอบ
9.0
-
จำนวนเกม
8.0
-
ความคุ้มค่า
8.5
-
อุปกรณ์ที่ให้มา
8.5
-
ภาพรวม
9.0
หลังจากประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายกับ Famicom Mini คอนโซลย้อนยุคที่ขายดีจนผลิตไม่ทัน แน่นอนว่าปู่นินต้องสานต่อความสำเร็จกับการมาของ Super Famicom Mini หรือ Super NES Classic Edition ในอเมริกา ที่วันนี้ทาง Beartai ได้เครื่อง โซนอเมริกา มารีวิวให้ชมกัน โดยหากคุณจำได้ในช่วงต้นยุค 90 มันคือเครื่องเกมยุค 16Bit ในตำนาน โดยในประเทศไทยตอนนั้นมีการวางขายทั้งโซนญี่ปุ่น และ อเมริกา ทำให้เชื่อว่าคอเกมชาวไทยที่เกิดทันคงจะคุ้นหน้าคุ้นตากันแน่
ตัวเครื่อง Super NES Classic Edition จะมีหน้าตาเหมือนกับต้นฉบับมาก ต่างกันที่ช่องเสียบจอย และช่องเสียบ USB และ HDMI โดยตัวเครื่องมีขนาดเล็กกว่ามาก เรียกว่าวางบนมือได้สบายๆ
ส่วนของที่ได้มาในกล่องจะมี ตัวเครื่อง Super NES Classic Edition , สาย HDMI 1 เส้น , สาย USB ไว้ชาร์จไฟ , จอยเกม จำนวน 2 จอย แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ในกล่องไม่มีหม้อแปลงไฟมาให้ แต่เราสามารถใช้ที่ชาร์จอันอื่นได้ไม่ว่าจะเป็นการใช้ไฟจากทีวีผ่าน USB และใช้หม้อแปลงไฟของโทรศัพท์มือถือได้เลย ผู้รีวิวใช้หัวชาร์จของ iPhone ซึ่งสามารถใช้ได้ไม่มีปัญหา
บนตัวเครื่องของ Super NES Classic Edition จะมีปุ่ม Reset และปุ่ม Power เหมือนกับต้นฉบับและมันสามารถใช้งานได้จริงๆ ส่วนปุ่ม Eject ไม่สามารถใช้งานได้ เพราะมันใส่ตลับไม่ได้ ส่วนข้อดีสุดๆ ของ Super NES Classic Edition คือตัวจอยเกมที่มีขนาดเท่ากับ ต้นฉบับ และยังมีสายยาวขึ้นกว่าเดิม ทำให้หมดปัญหาเวลาเราเล่นเกม เพราะในยุคนี้เราจะเล่นห่างจากทีวีพอสมควร ทำให้ต้องใช้สายจอยเกมที่ยาวขึ้น โดยช่องเสียบสายจะต้องแกะฝาด้านหน้าของตัวเครื่องมาจะพบกับช่องเสียบ 2 อันซึ่งเป็นแบบเดียวกับ จอย Wii Pro ที่ใครมีก็เอามาเสียบเล่นได้เช่นกัน
พูดถึงความจับถนัดมือของจอยถือว่าทำได้ดีมาก เหมือนกับเราได้ย้อนวัยไปในอดีต เพราะมันมีขนาดที่ใหญ่เท่ากับต้นฉบับ และการเรียงปุ่ม ABXY รวมทั้ง LR ที่ทำออกมาเป็นเอกลักษณ์และเป็นต้นแบบของจอยทุกวันนี้ รับประกันได้ว่าคุณจะสามารถสนุกไปกับการเล่นได้โดยไม่ติดขัด ไม่ว่าจะเป็นเกมแนว แอ็คชั่น , เกมต่อสู้ , เกม RPG ไปจนถึงการบังคับยานอวกาศอย่าง Star Fox ล้วนทำได้สะดวกลื่นไหลไม่สะดุด
ส่วนระบบเมนูการปรับภาพที่มีมาตั้งแต่ Famicom Mini คือโหมดปรับภาพที่มีทั้ง CRT Filter ที่จำลองทีวีรุ่นเก่า ที่มีภาพเป็นเส้นๆ และโหมด 4:3 ที่ปรับสัดส่วนหน้าจอให้เหมือนกับทีวีแบบเก่าแต่ภาพคมชัดขึ้น และปิดท้ายกับ Pixel Perfect ที่มีการปรับเม็ดพิกเซลให้เข้ากับหน้าจอ HD ที่ในโหมดนี้จะถือว่ามีภาพที่ชัดที่สุด แต่หน้าจอภาพจะมีขนาดเล็กลง ส่วนตัวแล้วชอบ โหมด 4:3 มากที่สุดเพราะได้หน้าจอที่ใหญ่สะใจกว่าแม้จะไม่ชัดเท่า Pixel Perfect ส่วนระบบเสียงเป็นอีกสิ่งที่ต้องชมเพราะแม้ว่ามันคือคอนโซลย้อนยุค แต่ก็มีระบบเสียงที่สามารถแยกเสียงออกลำโพงซ้ายขวาได้ ทำให้ส่วนเสริมให้การเล่นสนุกยิ่งขึ้น
ส่วนของใหม่ใน Super NES Classic Edition คือโหมด Rewind ที่เป็นการย้อนไปเล่นเพื่อแก้ไขในจุดที่เราเล่นผิดผลาดได้ เรียกว่าดีกว่า Save เกมได้ทุกที่ของ Famicom Mini นอกจากนี้เรายังสามารถเปลี่ยน Wallpaper ของหน้าจอได้ตามใจชอบด้วย
ส่วน Super Famicom Mini ที่บรรจุอยู่ในเครื่องจำนวน 21 เกม ไม่สามารถเพิ่มเกมได้เอง เพราะมันไม่รองรับตลับเกม และช่องทางอื่นก็เพิ่มไม่ได้ โดยจำนวนเกมแม้ว่าจะน้อยกว่า Famicom Mini แต่ก็มีหลายเกมที่สามารถเล่นได้ยาวนานเช่น Final Fantasy 6 หรือ EarthBound และมีหลากหลายแนว และหลายเกมสามารถเล่น 2 คนได้ ทำให้เราได้ใช้จอยเกมที่แถมมากับเครื่องได้อย่างเต็มที่
ส่วนไฮไลท์คือเมื่อคุณผ่านฉากแรกของเกม Star Fox ภาคแรก จะปลดล็อกเกม Star Fox 2 เกมที่ไม่ได้ถูกวางขายจริงมาให้เล่นถือว่าเป็นบทหนึ่งของประวัติศาสตร์เกมที่ถูกปัดฝุ่นมาให้คอเกมเล่นกัน
โดยรวมแล้วการกลับมาของ Super Famicom Mini หรือ Super NES Classic Edition ถือว่าคุ้มค่าไม่ต่างจาก Famicom Mini เพราะมันคือการรวมเอาความคลาสสิก มาอยู่ในคอนโซลตัวจิ๋ว และทางปู่นินได้ปรับแก้ในหลายจุดเช่น สายของจอยเกมที่ยาวเพียงพอ และระบบเกมที่ปรับให้เข้ากับการเล่นเกมของคนยุคใหม่ เช่นระบบ Rewind ส่วนราคาในไทยตอนนี้ราคาประมาณ 4,500 บาท ใครอยากย้อนวัยไปสู่ความคลาสสิกของยุค 90 ไม่ควรพลาด
รายชื่อ 21 เกมของ Super NES Classic Edition
- Contra III: The Alien Wars
- Donkey Kong Country
- EarthBound
- Final Fantasy 6 (ชื่อในอเมริกาคือภาค 3)
- F-ZERO
- Kirby Super Star
- Kirby’s Dream Course
- The Legend of Zelda: A Link to the Past
- Mega Man X (Rockman X)
- Secret of Mana
- Star Fox
- Star Fox 2 – มีฉากแรกของเกมให้เล่น (เกมไม่ได้วางขาย)
- Street Fighter II Turbo: Hyper Fighting
- Super Castlevania IV
- Super Ghouls ’n Ghosts
- Super Mario Kart
- Super Mario RPG: Legend of the Seven Stars
- Super Mario World
- Super Metroid
- Super Punch-Out!!
- Yoshi’s Island