[Review] Home Sweet Home เกมที่จะทำให้คุณได้เล่นซ่อนแอบกับผี

Our score

7.5

Home Sweet Home

จุดเด่น

บรรยากาศดั้งเดิมแบบไทยๆ ที่คุณได้เห็นกันในชีวิตประจำวัน ต้องมีขนลุกกันบ้างล่ะ
เสียงประกอบฉาก ที่ทำออกมาได้ค่อนข้างดี
ตัวเกมนั้นค่อนข้างมีความเป็นเอกลักษณ์สูง หากไม่นับเรื่อง Gameplay
ผีนางรำ....

จุดสังเกต

ตัวเกมที่สั้นมาก และมีองค์ประกอบในการปะติดปะต่อเนื้อเรื่องที่น้อยมาก
Performance ที่ทำมาได้แย่มากๆ ทั้งอาการกระตุก การโหลดฉากที่นานมาก และใช้สเปคเครื่องสูงมากเกินไป
ฉากบางฉากของเกม ที่ไม่จำเป็นต้องใส่มาก็ได้
Checkpoint สุดแสนจะปวดหัว
Unreal Engine 4

GAMEPLAY

8.0
STORY

7.0
GRAPHICS

9.0
PERFORMANCE

6.0
VALUE

7.5

ต้องบอกเลยว่าตัวผมเองนั้นเป็นเกมเมอร์ที่ไม่ถูกโรคกับเกมแนว Horror เป็นอย่างมาก หากเข้าไปเปิดหน้า Steam Profile ของผม ท่านผู้อ่านก็จะได้พบเจอกับ List เกม Horror ที่ยังเล่นไม่จบ หรือมีชั่วโมงเล่นไม่ถึง 2 ชั่วโมง บางเกมยังไม่ได้ Install เลยก็มี และเกือบทุกๆครั้งทีเวลามีเกม Horror เกมใหม่ๆเข้ามาตัวผมเองก็จะเสียตังให้กับเกมแนวนี้ทุกที เพราะด้วยความที่ตัวเองอยากลอง อยากล่าท้าผี หรือไม่ก็ไปดูคลิปวิดิโอตาม Youtube และก็ลงเอยด้วยเสียตังให้เกือบทุกครั้ง แต่สุดท้ายแล้วเกมพวกนี้ก็จะไปดองอยู่ใน Steam บางทีตัวผมเองก็ยังคิดเลยว่า การที่ผมยอมเสียตังกับเกมพวกนี้ มันยังน่ากลัวยิ่งกว่าผีในเกมเสียอีกด้วยซ้ำไปครับ

และการมาของ Home Sweet Home ก็ทำให้ผมวนลูปเขาสู่วงวนเดิมอีกครั้ง แต่การก้าวเข้าสู่วังวนของผมครั้งนี้มันมีอะไรมากกว่าเกม Horror ธรรมดาๆ ที่ผมเคยได้ลองเล่นมา เพราะนี้มันเป็นเกมที่มาจากทีมงานสัญชาติไทยแท้ๆนั้นเองครับ เบื้องต้นต้องขอบอกตามตรงเลยว่า ผมนั้นแทบจะไม่ได้คาดหวังอะไรจากผลงานชิ้นนี้เลยแม้แต่น้อย เพราะเนื่องจากผลงานของทีมงานสัญชาติไทยที่ผ่านๆ มาในแต่ละค่ายนั้น ทำออกมาได้ค่อนข้างน่าผิดหวัง แต่สำหรับ Home Sweet Home นั้น ตัวผมเองคงต้องเปลี่ยนความคิดซะแล้ว

หมายเหตุ: บทความนี้รีวิวจากตัวเกมในเวอร์ชั่นแรกที่วางจำหน่ายประจำวันที่ 27 ก.ย. 2017

บ้านคือวิมาน – Home Sweet Home

Home Sweet Home เป็นเกมแนว Adventure-Horror Puzzle มุมมองบุคคลที่หนึ่ง โดยมีพื้นฐานมาจากผีไทย ความเชื่อแบบไทยๆ แน่นอนว่าภาษาและโลกภายในเกมก็จะเป็นประเทศไทย เพราะฉะนั้นตลอดทั้งเกมผู้เล่นจะได้พบเจอกับบรรยากาศของหนังผีไทยที่หลายๆคนคุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็นฉากในมหาลัยหรือหอพัก ฉากโรงพักร้าง ฉากบ้านไม้เก่าๆ รวมไปถึงผีไทยต่างๆ ที่มีครบทุกรส ทุกอารมณ์ ต้องขอชมทีมงานที่สามารถนำเสนอสิ่งเหล่านี้ได้ดีจนแทบจะไม่มีคำติเลยล่ะครับ

เล่าเรื่องผ่านทาง Collectable หรือ File ต่างๆในเกม

ตัวเกมจะเล่าเรื่องผ่านตัวละครหลัก “ติม” เมื่ออยู่มาวันนึงเขาตื่นนอนขึ้นมาและพบว่าตัวเองอยู่ในสถานที่แปลกๆ พร้อมกับโดนวิญญานผีสาวคอยตามทำร้าย พร้อมกับตามหาภรรยาที่หายตัวไป และนั้นล่ะครับคือ Plot เรื่องของตัวเกมทั้งหมด ตลอดทั้งเกมผู้เล่นจะต้องคอยตามหาภรรยา พร้อมกับคอยหลบหนีการตามล่าจากผี แต่ถึงแบบนั้นตัวเกมก็จะมีไดอารี่ของเจน,หนังสือพิมพ์,วิทยุข่าว ต่างๆที่จะคอยเล่าเรื่องให้ผู้เล่นได้นำมาปะติดปะต่อกันเองตลอดทั้งเกมครับ

ซึ่งในจุดนี้ผมชอบมากเนื่องจากว่ามันจะทำให้เราเหมือนได้สวมบทบาทในตัวของติมเอง โดยบทบาทของติมภายในเกมนั้นมีแค่ตัวตายตัวแทนเมื่อผู้เล่น Game Over เท่านั้น นอกจากนั้นไม่ว่าจะเป็นการกระทำ หรือแม้กระทั่ง “ความคิด” ต่อสิ่งต่างๆ ความรู้สึก หรืออะไรก็ตามจะเป็นตัวผู้เล่นเองเกือบทั้งหมด

นอกจากนั้นเองในส่วนของบทพูดที่ผมขอชมเชยทีมงานที่ทำออกมาได้ดี บทคำพูดตามสถานการณ์ต่างๆของติม มันแทบจะตรงกับปากของผู้เล่น ณ เวลานั้นมากๆ รวมไปถึงการพากย์เสียงที่ทำออกมาได้ดี มีอารมณ์ร่วม และที่ผมชอบมากๆก็คือ เสียงของผีนักศึกษาสาว ที่มาพร้อมกับเสียงกรีดคัดเตอร์และคำพูดสุดคลาสสิคอย่าง “ไหนบอกว่าจะอยู่ด้วยกัน” “เธออยู่ที่ไหน” “กลับมาหาฉัน” ลองคิดดูเองละกันครับว่ามันหลอนขนาดไหน!

Gameplay: รูปแบบการเล่นของ Home Sweet Home

หลังจากนี้ 3 วิ จะเกิดอะไรขึ้นคงรู้กันนะ

มาพูดถึงในส่วนของ Gameplay กันบ้าง จริงๆแล้วมันก็คือส่วนหลักๆที่สำคัญมากที่สุดของตัวเกมเลยก็ว่าได้ เนื่องจากว่าเกมนี้เป็นเกมแนวมุมมองบุคคลที่หนึ่ง อาวุธของผู้เล่นในเกมนี้ก็คือความอดทนครับ เพราะเราเป็นเพียงแค่คนธรรมดา ทำอะไรไม่ได้นอกจาก หนี กับ ซ่อน เท่านั้น หรือถ้าหากผู้เล่นโดนผีจับได้ ผู้เล่นก็ต้องกด QTE โดยการรัวปุ่ม E ย้ำๆ เพื่อที่จะสลัดตัวให้หลุดและหนีไปซ่อนให้ทันเวลาครับ นอกจากนั้นโดยรวมแล้ว Gameplay หลักๆจะเป็นการ Stealth ในฉากที่มีผีอยู่ โดยการ Stealth ของเกมนี้นั้นก็ทำออกมาได้เกือบจะดี แต่หลังจากผ่านการเล่นมายาวนานทำให้สามารถจับทริคได้ไม่ยาก และจะพบว่า ตัว AI ของผีสาวนั้นค่อนข้างจะมีปัญหาในการตรวจสอบสิ่งรอบข้างมากๆเลยล่ะครับ

มีอยู่ฉากนึงที่ผมจำได้สนิทเลยก็คือฉากที่ผมโดนผีสาวจับตัวได้ หลังจากกดปุ่ม QTE เสร็จแล้ว ผมตัดสินใจเข้าไปซ่อนตัวในตู้ Locker ที่อยู่ด้านหลังเธอ แต่เธอกลับไม่เห็นผม และวิ่งไปทางอื่นซะงั้น ตอนนั้นจากที่กลัวๆกลายเป็นหัวเราะแทนซะงั้นเลย

Stealth คือเกมเพลย์หลักๆ

นอกจากการ Stealth แล้ว แน่นอนว่าก็จะมี Puzzle หรือ ปริศนา มาให้ผู้เล่นได้แก้ไขกันตามฉาก สำหรับปริศนาในเกมนี้แล้วนั้นถือว่าสอบผ่านครับ ถือว่าไม่ยาก และไม่ง่ายจนเกินไปมากนัก มีความคิดสร้างสรรค์ในการนำเสนอเป็นอย่างมาก สิ่งที่ผมชอบที่สุดก็คือปริศนาตู้เซฟนี่ล่ะ ที่ทำเอางงไปอยู่พักนึงได้ แต่ก็มีบางอันที่ดูเหมือนจะยากมากๆ แต่แท้จริงแล้วมันก็ไม่มีอะไรเลยเช่นกันครับ

Atmospheric: บรรยากาศของ Home Sweet Home

อ้าวว ว่าไงเพื่อน !!

นอกจากตัว Gameplay เองที่สำคัญต่อการเล่นเกม Horror แล้ว “บรรยากาศ” ในเกมเองก็สำคัญเช่นกันครับ ในส่วนนี้ผมจะไม่ขอพูดถึงในด้าน Graphic มากนัก แต่จะพูดถึงเรื่องการทำบรรยากาศให้เข้ากับฉากและตัวเกมมากกว่าครับ เริ่มจากฉากมหาวิทยาลัย ซึ่งผมคิดว่ามันน่าจะเป็นสถานที่อันดับท้ายๆแล้วนะที่จะนำมาสร้างเรื่องเล่าสยองขวัญ แต่สำหรับเกมนี้ก็ตีโจทย์แตกและสร้างมหาวิทยาลัยที่ชาตินี้ผมจะไม่มีทางเข้าไปเหยียบออกมาได้เป็นอย่างดี

คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี

ต่อมากับฉากสถานีตำรวจ ในฉากนี้เราจะไม่ได้เจอกับผีนักศึกษาสาว แต่เราจะได้เจอกับผีเปรต พร้อมกับ Boss Fight ที่ผู้เล่นจะต้องหาเครื่องเซ่นไหว้มาให้ และฉากสุดท้ายของเกม บ้านไม้เก่าๆ กับวิญญานผีนางรำ ที่ผมของบอกเลยว่า มันเป็นสิ่งที่สุดยอดที่สุดในเกมนี้แล้วล่ะ เพราะไม่ว่าจะเป็นบ้านไม้ที่สร้างออกมาได้เหมือนจริง ฉากทางเดินต่างๆ ความมึด ความกดดัน เสียงหมาหอน เสียงฟ้าผ่า เสียงสวดมนต์ เสียงเพลงไทยที่ใช้เปิดตอนรำไทย และการโผล่มาแบบไม่ทันตั้งตัวของผีนางรำ ทำให้ผมไม่กล้าที่จะเล่นมันต่อได้อีกแล้วล่ะครับ

ไม่มีคำจะอธิบาย…

สิ่งที่น่าแปลกใจมากกว่านั้นคือ ฉากนี้เป็นฉากสุดท้ายของเกมก็จริง แต่ก่อนหน้านั้นผู้เล่นก็ได้พบเจอกับความน่ากลัว ความกดดันมามากมายเกือบตลอดทั้งเกมแล้ว แต่ทีมพัฒนาก็ยังสามารถยัดเอาสิ่งเหล่านี้กลับมาให้ผู้เล่นหลอนอีกได้ นับว่าเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมในจุดนี้จริงๆ

เข้าใจตรงกันนะ ….

“ไม่ว่าเกมจะดีแค่ไหนยังไงก็ต้องมีข้อเสีย”

ทีนี้เราลองกลับมามองข้อเสียหรือจุดที่ต้องปรับปรุงกันบ้าง สำหรับ Home Sweet Home นั้นต้องบอกเลยครับว่า “มีเยอะมาก”

อื้มมมม

อย่างแรกเลยคือเรื่อง Performance ของตัวเกม ผมได้ปรับความละเอียดภาพไปอยู่ในระดับสูงทั้งหมด ก็สามารถเล่นได้ที่ 60 FPS จริง แต่เมื่อปรับสูงสุด กลับตกมาเหลือที่ 40-50 ทั้งที่มันไม่น่าจะใช้สเปคเยอะขนาดนั้น นอกจากนั้นยังมีอาการกระตุกมาตลอดทั้งเกม โดยสาเหตุที่ผมพอจะเดาได้ก็คือการโหลด Object ในฉากของเกมที่จะมีการกระตุกทุกครั้งเวลามีการโหลด Object เพิ่มเติมเข้ามาในฉาก อาการแบบนี้มันคุ้นๆมาก

จนเมื่อผมได้รู้ความจริงว่าตัวเกมรันโดย Engine สุดฮิตอย่าง Unreal Engine 4 ก็ทำให้ผมถึงบางอ้อเลยทันทีครับ ที่ไม่แปลกใจเลยว่าตัวเกมจะมีอาการ Performance ตกอยู่บ้าง ในส่วนนี้คงต้องให้ทีมงานปรับปรุงและออก Patch มาแก้ไขโดยเร็ววัน เพราะเกือบตลอดทั้งเกมเลย ผมสามารถเดาได้ตลอดเมื่อมีอาการกระตุกจึงรู้ว่ามันจะต้องมีอะไรเกิดขึ้นสักอย่างแน่ๆ มันทำให้ความตื่นเต้นหายไปค่อนข้างเยอะมากๆครับ

!@#$%^&*()_(*&^%^!@#$&*!%^@*(

อย่างที่สองคือการที่ตัวเกมนั้นโคตรสั้น ชนิดที่ว่าหากเล่นดีๆ ก็สามารถจบได้ภายใน 4-5 ชั่วโมงหรืออาจจะ 3 ชั่วโมงเลยด้วยซ้ำไป แต่นั้นอาจจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่นักสำหรับเกมเมอร์ชาวไทย เพราะตัวเกมนั้นมีราคาถูกมากเพียงแค่ 329 บาท อย่างไรก็ตามนั้นราคาของฝั่ง US นั้นสูงถึง 16.99 USD ซึ่งนั้นเป็นราคาที่สูงมากอยู่สำหรับเกมเมอร์ต่างประเทศกับเกม 4 ชั่วโมงนี้ อีกทั้งยังไม่มีแรงดึงดูดให้กลับไปเล่นซ้ำอีกเท่าไรนัก และยังมีการบอกเล่าเรื่องที่ไม่เคลียร์มากๆ ทั้งความไม่ค่อยจะเข้ากันของตัวละครแต่ละตัวสักเท่าไร

ผมว่านี่น่าจะเป็นฉากที่น่ากลัวที่สุดในเกมนี้แล้วล่ะ

พร้อมกับทิ้งท้ายไว้ว่า To Be Continued on Episode 2 ซึ่งในส่วนนี้ตัวผมเองก็ยังไม่ทราบว่าทีมงานมีแผนที่จะปล่อย Episode 2 มาฟรีๆ แบบเกมดังๆอย่าง Life is Strange, The Walking Dead หรือจะวางขายแยกเป็นอีกเกม หรือเป็น DLC กันแน่ แต่ส่วนตัวสำหรับผมเองแล้วอยากจะได้ตัวเกมเต็มที่เล่าเรื่องให้ครบ และเคลียร์มากกว่านี้ให้เกมหลัก ไม่ใช่หั่นเนื้อหาหลัก ไปเป็น DLC หรือขายแยกอีกเกมครับ

อย่างที่สาม เรื่องการโหลด และ Checkpoint ของตัวเกม อันนี้จะเรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่ชวนหงุดหงิดใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวครับ เริ่มต้นด้วยการโหลดในเกมที่โหลดนานมากๆ เหตุผลที่ผมพอจะเดาได้จากการที่มันโหลดนานขนาดนี้ก็น่าจะมาจากการที่ตัวเกมต้องโหลดฉากใหม่หมดตั้งแต่ต้น ซึ่งนั้นเป็นปัญหาของ UE4 อยู่แล้ว แต่ประเด็นเลยก็คือเจ้า Checkpoint นี่ล่ะครับ ตลอดทั้งเกมผมไม่รู้เลยว่าตัวเกมมัน Save ไว้อยู่ในจุดไหนบ้าง เพราะไม่มีสัญลักษณ์อะไรมาแสดงให้เห็นเลยสักนิด ถึงแม้อาจจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่มาก แต่อย่างน้อยก็น่าจะเพิ่มในจุดเข้าไปสักนิดหน่อย ที่ผมเดาได้ว่าตัวเกมมีการ Save ก็คือ เกิดอาการกระตุกเมื่อมีการโหลดอะไรสักอย่างนี่แล่ะ(ตลกดี)

เชื่อว่าหลายคนก็น่าจะวนอยู่ฉากนี้หลายรอบ

นอกจากนั้นยังไม่พอครับ ในส่วนนี้ผมไม่แน่ใจว่าทีมงานได้เอาใจใส่ใจเรื่องนี้มากน้อยแค่ไหนนะ ยกตัวอย่างฉากที่ผมเจอมา ใน Boss Fight เปรต ในฉากนี้ผู้เล่นจะต้องเปิดประตูเข้าไป และพบกับ เจน ที่วิ่งหนีเราเข้าไปอีกประตูนึง ฉากนี้ตัวเกมจะตัดเข้าสู่ Cutscreen โดยตัวละครเราจะตะโกนเรียก “เจน” และ เจนก็จะตอบกลับเรามาว่า “ไม่ติม อย่าตามมา” ติมก็จะพูดว่า “เจนนี่ผมเอง” และตามด้วยเจนก็จะพูดว่า “อย่าเข้ามาาาาาาาา” และก็จะเข้าสู่ Gameplay ที่ผู้เล่นจะต้องเข้าไปรวบรวมสิ่งของมาทำเครื่องเซ่นไหว้ให้กับเปรตเพื่อที่จะให้มันสงบ

และเราจะได้เปิดประตูไปต่อได้ ปัญหาคือระหว่างฉากนี้ผู้เล่นจะไม่ได้วิ่งไปรวบรวมอย่างสบายใจครับ เพราะผู้เล่นก็ต้องคอยหลบการโจมตีของเปรตอีกด้วย หากโดนโจมตีเมื่อไร ก็จะตายทันที และผมก็ต้องมานั่งรอให้ตัวเกมโหลด(ซึ่งมันโหลดนานมาก) พร้อมกับเปิดประตูเข้ามาเจอฉาก Cutscreen พร้อมกับ Dialogue ชุดเดิมแบบนี้ทุกๆครั้งที่ผมพลาด Game Over (พลาดจนผมจำ Dialogue ได้ทั้งหมดนี่แล่ะ)

จารย์คงน่าจะเป็นผู้สนับสนุนหลักของเกมนี้

และที่ยิ่งตลกไปมากว่านั้น ในฉากเดียวกัน ผู้เล่นจะต้องเก็บลูกกุญแจ 2 ดอกไปเปิดตู้ครับ ในตู้แรกจะเป็นเพียงแค่ Collectable ที่เก็บได้ตามฉากไม่มีผลต่อการดำเนินของเกม กับตู้ที่สอง ที่จะมี Item สำคัญสำหรับการดำเนินของเกมอยู่ ในฉากนี้ตัวเกมจะบังคับให้ผมไปเก็บกุญแจดอกแรกมาไข เพื่อเข้าไปเก็บ Collectable ก่อน ถึงจะมีกุญแจดอกที่สองโผล่มาให้ไปใช้ไขเพื่อเก็บ Item สำคัญมาได้ครับ

จะมีของแบบนี้ให้เก็บตลอดทั้งเกม

แต่ประเด็นคือ เมื่อผมเก็บ Collectable มาเสร็จแล้ว ในระหว่างนั้นหากผมพลาดตาย ตัวเกมก็โหลด Checkpoint ไปเริ่มใหม่ตั้งแต่เปิดเข้าประตู พร้อมกับวิ่งมาเก็บกุญแจใหม่ ที่ตลกสุดๆเลยคือไอ่ collectable ที่ว่ามันดันอยู่ในตัวผมไปแล้ว เพราะก่อนหน้าที่ผมจะพลาดตาย ผมเก็บเข้าตัวมาแล้ว แต่ตัวเกมก็ยังบังคับให้ผมเก็บกุญแจเปิดตู้ Collectable เป็นตู้แรกก่อนซะงั้น แน่นอนว่าเปิดมาก็ไม่มีอะไรให้เก็บ นอกจากทำให้ สคริปของตัวเกมมันทำงานต่อไปได้นั้นล่ะครับ ฟังดูอาจจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่นัก แต่ผมคิดว่ามันสร้างความรำคาญให้ผู้เล่นมากพอตัวเลยล่ะ

สรุปแล้ว Home Sweet Home ก็เป็นอีกหนึ่งเกมที่ดี น่าเก็บมาไว้ประจำ Account ของเกมเมอร์ทุกๆท่านนะครับ ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องบอกก่อนว่าตัวผมเองไม่ได้มอง หรืออวยเกมนี้ว่าเป็นเกมไทยแต่อย่างใด แต่ผมมองว่าเป็นเกม Horror เกมนึงเท่านั้น นอกจากปัญหาที่ผมได้บ่นไปด้านบนแล้ว ข้อดีของเกมนี้ก็สามารถกลบอะไรหลายๆอย่างได้เป็นอย่างดี และเชื่อว่าน่าจะทำให้เกมเมอร์ต่างประเทศประทับใจได้ครับ