Our score
7.9Star Wars Battlefront 2
จุดเด่น
- กราฟิกงามๆ ทั้งโหมดเนื้อเรื่องและออนไลน์
- โหมดเนื้อเรื่องน่าติดตาม
จุดสังเกต
- โหมดเนื้อเรื่องสั้นไปหน่อย
- ระบบ Microtransaction
-
กราฟิก
9.0
-
ระบบการเล่น
8.0
-
ความคุ้มค่า
7.5
-
ความแปลกใหม่
7.5
-
ภาพรวม
7.5
เรียกว่าเป็นเกมที่มีดราม่าตั้งแต่วันแรกที่ออกวางขายสำหรับเกม Star Wars Battlefront 2 ที่มีทั้งเรื่อง การปลดล็อกตัวละคร และการจ่ายเงินเพื่อซื้อของในเกมเพิ่มเติมมากเกินความจำเป็นทำให้มีหลายคนลังเลว่าจะซื้อดีหรือไม่ (เกมวางขายบน PS4 , XboxOne และ PC)
แต่อย่างน้อยๆแฟน Starwars อย่างผู้เขียนก็ต้องหามาลองเล่นให้ได้ และสัมผัสแรกก็สร้างความประทับใจมากมาย เพราะกราฟิกในเกมถูกยกระดับจากภาคแรกอย่างเห็นได้ชัด ดูดีทั้งรายละเอียดของฉากที่มีแสงเงาที่สมจริง ตัวละครในเกม ก็ถอดแบบมาจากเวอร์ชั่นภาพยนตร์ได้อย่างสมบูรณ์ เรียกว่าในส่วนนี้ไม่มีที่ติ เช่นเดียวกับเพลงประกอบที่ยกความดีความชอบมาจากเวอร์ชั่นหนังที่เป็นผลงานคลาสสิกของ John Williams มาเสริมให้การท่องไปในโลกในเกมสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
รูปแบบการเล่นยังคงเหมือนกับภาคแรก ที่มีทั้งรูปแบบเกมยิงมุมมองบุคคลที่ 1 , มุมกล้องแบบเกมยิงมุมมองบุคคลที่ 3 และเกมแอ็คชั่นที่เราต้องรับบทเป็น Jedi หรือ Sith lord รวมทั้งฉากยานอวกาศที่ขนยานระดับตำนานมาให้เราได้ใช้งานกันทั้งฝ่าย Galactic Empire และฝ่ายกบฏ โดยการบังคับทำได้ดีตามมาตรฐานเกมระดับ AAA ที่ทุกอย่างดูลื่นไหลและบังคับได้ง่ายไม่ยุ่งยาก แต่ก็ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นกว่าภาคที่แล้วมากนัก
ส่วนของใหม่ที่แฟนเกมอยากให้มีในภาคแรกอย่าง โหมดเนื้อเรื่อง ก็ถูกใส่เข้ามาในภาค 2 โดยเราจะได้รับบทเป็น Iden Versio commander หน่วยรบพิเศษของ Imperial ที่ต้องมาสานเรื่องราวต่อจากเหตุการณ์ที่เกิดหลังจาก Star Wars EP6 Return of the Jedi และก่อนจะเกิด Star Wars: The Force Awakens ที่มีการเล่าเรื่องที่เข้มข้นและยังมีตัวละครในตำนานของซีรีส์ StarWars มาให้เราสวมบทบาทด้วย ในส่วนของโหมดเนื้อเรื่องถือว่าทำได้ดีกว่าที่คาดเสียอย่างเดียวมันสั้นไปหน่อยเล่นได้ไม่กี่ชั่วโมงก็จบแล้ว
และแน่นอนว่าประเด็นหลักของเกมคือโหมดเล่นกับเพื่อนผ่านระบบออนไลน์ ที่ส่วนตัวแล้วภาคนี้ทำได้ดีเช่นเดิม (มองเฉพาะโหมดการเล่นไม่นับการเติมเงิน) เพราะฉากในเกมยังเต็มไปด้วยรายละเอียด ลูกเล่นของอุปกรณ์ประกอบฉาก รวมทั้งกราฟิกที่ยังคงดูดีมากๆแม้จะเป็นโหมดออนไลน์ และไม่ต้องรอนานเพื่อหาเพื่อนเล่นแถมความลื่นไหลอยู่ในระดับดีมาก ทำให้การท่องไปในโลกของ Starwars กับเพื่อนทั่วโลกถือว่าทำได้ดีไม่มีอะไรติดขัด โหมดในเกมอาจจะมีไม่ได้มากมายหรือแปลกใหม่ อะไรแต่การเล่นอยู่ในระดับมาตฐานของเกมยิงดีๆควรจะมี แถมยังออนไลน์ได้สูงสุดมากถึง 40 คน และยังโหมดออนไลน์แบบ 4VS4 ที่จะแบ่งเป็นทีมฮีโร่และตัวร้าย , โหมด Strike ที่ทั้งสองทีมต้องแข่งกันทำภารกิจ , โหมด Blast ที่เป็นการดวลกันโดยมีจำนวนตัวกำหนดซึ่งถ้าทีมไหนพลาดตายจำนวนจะค่อยๆลดไปเรื่อยๆซึ่งถ้าทีมไหนหมดก่อนก็จะแพ้ นอกจากนี้ยังมีโหมดอาเขตที่มาท้าทายด้วยภารกิจโหดๆ ที่เราสามารถเล่นกับเพื่อนได้ 2 คนพร้อมกันแบบแบ่งหน้าจอด้วย
ส่วนประเด็นดราม่าของเกมที่อาจทำให้ผู้เล่นต้องเสียเงินเพิ่มกับระบบ Micro transaction ซึ่งในตอนที่ผู้เขียนเล่นทาง EA ได้ปิดการจ่ายเงินเพื่อปลดล็อคกล่องสุ่มไอเทมไปแล้ว ทำให้ไม่สามารถวิจารณ์ในส่วนนี้ได้ อย่างไรก็ตามระบบที่เกี่ยวข้องกับการสุ่มรางวัลคือ Star Card ที่ช่วยอัพเกรดตัวละครของเราได้ โดยมันมีทั้งระบบอัพเกรดความสามารถใหม่ๆของตัวละคร และเพิ่มสกิลใหม่ๆได้ ก็ถือเป็นระบบที่ทำให้เราสามารถปรับแต่งตัวละครและอยู่กับเกมได้ยาวนานมากขึ้น
โดยการเล่นแบบออนไลน์ ผู้ที่มี Card ดีกว่าจะได้เปรียบ อย่างไรก็ตามผู้เล่นที่มีฝีมือดีก็ยังสามารถชนะคอเกมทั่วไปที่มี Card ดีๆได้ แต่หากทั้ง 2 คนมีความสามารถเท่ากันคนที่มี Card จะได้เปรียบกว่า แน่นอนว่าเราสามารถอัพเกรด card แต่ละใบให้ดีขึ้นได้อีก ส่วนการปลดล็อคตัวละครด้วยคะแนนที่ทาง EA ยอมลดจำนวนที่ใช้ลงแล้วทำให้ไม่น่าจะมีประเด็นดราม่าอีก โดยมีการนำเอาตัวละครในตำนานของซีรีส์ Starwars มาทั้งยุคเก่าและยุคใหม่มาให้ใช้กันแบบจุใจ คาดว่าในอนาคตจะตามมาอีกหลายตัวแน่
หากเอาเรื่องดราม่าออกไปเกม Star Wars Battlefront 2 ถือเป็นเกมที่สนุกพอตัว โหมดเนื้อเรื่องทำออกมาได้ดี ส่วนระบบออนไลน์ก็มีความลื่นไหล รวมทั้งเกมมีอะไรให้ปลดล็อคกมากมายทำให้เราอยู่กับเกมได้ยาวนาน ก็ต้องรอในอนาคตว่าทาง EA จะทำอย่างไรกับระบบ Micro transaction และระบบกล่องรางวัลแบบสุ่มต่อไป ซึ่งหากปรับให้เหมาะสมแล้วเกมจะลงตัวกว่านี้มาก แต่สำหรับแฟน Starwars แค่โหมดเนื้อเรื่องก็คุ้มแล้ว เพราะมีสิ่งที่เอาใจแฟนๆอยู่มากมายและช่วยเสริมเติมเต็มจักรวาล Starwars ให้สมบูรณ์มากขึ้น