PlayStation Classic เครื่องเกมจิ๋วที่ย่อส่วน PlayStation รุ่นแรกลงมาให้เหลือขนาดแค่ฝ่ามือ มาพร้อม 20 เกมพร้อมเล่น ซึ่งจะวางจำหน่ายพร้อมกันทั่วโลกวันจันทร์ที่ 3 ธันวาคมนี้ (ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ PlayStation รุ่นแรกขายเมื่อปี 1994 หรือ 24 ปีที่แล้ว) และนี่คือรีวิวเครื่อง PS Classic เวอร์ชั่นขายจริงในเมืองไทยจากแบไต๋ครับ ก็ต้องขอขอบคุณทาง Sony Thai สำหรับการอนุเคราะห์เครื่องรีวิวในครั้งนี้
กล่องของ PlayStation Classic เหมือนกล่องเวอร์ชั่นญี่ปุ่น
กล่องที่ขายในไทยนั้นดีไซน์เหมือนกล่อง PlayStation รุ่นแรกโซนญี่ปุ่น ที่ดีไซน์เป็นเอกลักษณ์เส้นๆ แบบนี้ ซึ่งจะว่าไปก็คลาสิกกว่าทางโซนอเมริกาจะเป็นภาพเครื่องเกมชัดๆ ซึ่งเครื่องนี้เราได้มาจากทาง Sony Thai โดยตรง จึงมีสติกเกอร์ภาษาไทยที่ผ่านกฎหมายไทยเรียบร้อย พร้อมขายในไทย ซึ่งด้านหลังกล่องเป็นรายชื่อเกมในเครื่องนี้ เป็นเกมโซนเดียวกับที่ขายในอเมริกา (แต่กล่องเป็นเหมือนโซนญี่ปุ่น งงม่ะ)
รายชื่อเกมใน PlayStation Classic (ข้อมูลจาก Wikipedia)
ดูรายชื่อเกมแล้วก็ใช้ได้อยู่ อย่างแอดนี่รักเกม Rayman มาก เป็นเกมแพลทฟอร์มเกมแรกๆ ในชีวิตที่เล่นจบ ด้วยความยากระดับหัวร้อนในยุคนี้ ซึ่งเอามาเล่นใหม่บน PlayStation Classic ก็ยังสนุกอยู่ดี แต่ก็น่าเสียดายที่ไม่มีเกมในใจคนไทยหลายเกม เช่น Winning 3, Harvest Moon, Castlevania, Crash Badicoot, Chocobo Racing เป็นต้น และย้ำว่าใส่แผ่นเกมหรือใส่เกมเพิ่มไม่ได้นะ (ถ้าถูกกฎหมายนะ)
ส่วน Sony เลือกเกมเข้าเครื่องยังไงบ้าง โซนี่บอกว่าใช้ความนิยมของแต่ละโซน แต่เกมดังๆ ของคนไทยอาจจะไม่ติดโผเท่าไหร่ เพราะตอนนั้นเรายังเล่นเถื่อนกันอยู่เยอะมาก คนทำเกมไม่รู้ว่าเกมตัวเองดังในไทย แต่ใน PS4 เราเล่นแท้กันจนน่าชื่นใจ มีเกมภาษาไทยออกมาเพียบเลย
ในกล่อง PlayStation Classic มีอะไรบ้าง
แกะกล่องเลย มีคู่มือภาษาไทยด้วย โซนี่ไทยเอาใจใส่ดีจริงๆ น่าสนับสนุนให้ซื้อเครื่องไทยมากๆ ตัวเครื่องเล็กนิดเดียว เหมือนของ Nintendo ที่ทำออกมาก่อนหน้านี้ แต่ก็เก็บรายละเอียดได้สมบูรณ์ พลาสติกตัวเครื่องดูดี คือเป็นได้ทั้งเครื่องเล่นเกมตัวเล็ก และของสะสมที่เอาไปตั้งโชว์ในตู้ก็สวย
ที่น่าสนใจคือให้จอย PlayStation Controller มา 2 จอย แถมหัวต่อเป็น USB สามารถเสียบใช้งานเป็นจอยสำหรับเครื่องคอมได้ด้วย ดีงามตรงนี้ ให้สายยาว 1.5 เมตรด้วย แต่เป็นจอยรุ่นแรกของ PlayStation นะ ไม่มีระบบสั่น ไม่มีก้านอนาล็อก เวลาเอาไปต่อคอมก็ต้องทำใจนิดหนึ่ง อาจจะเหมาะสำหรับเล่นเกมกระโดดๆ ข้ามหลุมมากกว่า
และที่เหมือนกันกับเครื่องของ Nintendo คือไม่มีหัวชาร์จ USB จ้า แต่ให้สาย MicroUSB และ HDMI มา ก็หาปลั้กชาร์จมือถือมาเสียบได้ หรือเสียบกับ Power Bank เล่นก็ได้ ต้องการไฟ 5V 1A เท่านั้นเอง
เล่าสเปคเครื่องนิดหนึ่ง แหม่ยังกับรีวิวมือถือ PlayStation Classic ใช้หน่วยประมวลผล MediaTek 8167a 4 แกนสมอง ความเร็ว 1.3GHz พร้อมหน่วยประมวลผลกราฟิก Power VR GE8300 มีหน่วยความจำ 16 GB และแรม 1 GB แล้วใช้ PCSX ReARMed เป็นแกนหลักในการประมวลผลเกม พูดง่ายๆ ก็ใช้ Emulator ในการรันเกมขึ้นมานั้นแหละ ซึ่งเรื่องนี้ก็มีดราม่ากันใหญ่โต แต่เราให้ความเห็นไม่เห็นจะเป็นไรเลย ใช้ Emulator ยังไงมันก็เป็นของถูกลิขสิทธิ์
เปิดเครื่อง PlayStation Classic กัน
ลองเปิดเครื่องกันเลย หลังจากเสียบไฟไปสักแป๊บ ปุ่ม Power ที่ตัวเครื่องจะเปลี่ยนเป็นสีส้ม แล้วก็กดเปิดเครื่องได้ ก็จะเปลี่ยนเป็นสีเขียว เสียงเปิดเครื่องนี่คลาสสิกจนน้ำตาไหล เครื่องก็จะบอกรายละเอียดของปุ่มต่างๆ รอบตัวเครื่อง มีปุ่ม Reset ไว้ออกจากเกม ปุ่มเปลี่ยนแผ่นเกมสำหรับเกมที่มีหลายแผ่นอย่าง Final Fantasy VII
ลองเข้าเกมดู จะเห็นว่าเกมเหมือนเล่นบนเครื่อง PlayStation แรกจริงๆ ภาพแตกยังไงก็อย่างนั้น ไม่มีการใส่ฟิลเตอร์เพิ่มความละเอียดให้เลย และไม่มีโหมดการแสดงภาพอื่นๆ เหมือนที่เครื่อง Nintendo ปรับได้ด้วย ซึ่งรีวิวเมืองนอกก็บอกว่าเกมประมาณครึ่งหนึ่งที่อยู่ในเครื่องนั้นไม่ใช่เกมโซนอเมริกา แต่เป็นเกมโซนยุโรป ทำให้แสดงผลภาพที่ PAL 50 fps เท่านั้น ไม่ใช่ NTSC 59.96 fps แต่สำหรับเราประเทศที่ใช้ระบบทีวีมาตรฐานเป็น PAL มาตลอด ก็ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรกับเรื่องนี้เลย เกมก็ยังเล่นแล้วลื่นไหลดีออก
และเมื่อออกจากเกม เครื่องจะจำสถานะการเล่นล่าสุดเอาไว้ ก็ย้อนกลับมาเล่นได้ แต่ไม่มี save stage หลายช่องให้เลือกสลับนะ มีแค่ช่องเดียวที่จะเซฟอัตโนมัติตอนออกจากเกมนี่แหละ แต่ก็ยังมีก็ระบบเซฟลง memory Card ตามปกติ ให้พื้นที่เซฟเกมละ 1 ตลับเลย ตลับเซฟแยกกันทุกเกม
ภาพพักหน้าจอเป็นเกมเล่นไปเล่นมาก็ไม่มี ตรงนี้แตกต่างจาก Nintendo ที่ขยันสร้างประสบการณ์ตรงนี้มากกว่า ส่วน PlayStation Classic คือทำให้เล่นได้เฉยๆ
สรุป PlayStation Classic คุ้มไหม
ก็ต้องบอกว่าคุ้มกับราคา 3,590 บาท ถ้าหารราคาเครื่องออกมาด้วย 20 เกม ก็เกมละ 180 บาทเอง ซึ่งนี่ได้จอยมาอีก 2 ตัวไว้เสียบคอมได้ด้วยนะ ที่สำคัญเครื่องนี้ Sony Thai เอาเข้ามาขายโดยตรง ก็หาซื้อได้ทั่วไปตามร้านเกม หรือ Sony Store ไม่เหมือนเครื่องของ Nintendo ที่ต้องหิ้วมาลูกเดียว
เอาเป็นว่าถ้าคุณเคยมีประสบการณ์วัยเด็ก หรือวัยรุ่นเมื่อ 20 ปีก่อนกับเครื่อง PlayStation รุ่นแรก เจ้าเครื่อง PlayStation Classic ก็เหมาะสำหรับคุณครับ (คิดว่าไถ่บาปการเล่นเถื่อนในวัยเด็กก็ได้) อาจจะไม่มีเวลาเล่น แต่แค่เห็นมันก็นึกถึงคืนวันเก่าๆ แล้ว