Our score
9.2Star Wars: Imperial Assault
จุดเด่น
- สนุกสุด ๆ อินสุด ๆ
- คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม
- ได้ฟีล Star Wars มากมาย
- บอร์ดสวย หุ่นงาม การ์ดดี
จุดสังเกต
- กฎเยอะแยะยุ่บยั่บให้อ่าน
- ผู้เล่นฝ่ายตัวร้ายเหนื่อยทั้งกายและใจ
- ราคาแอบแพง
-
GAMEPLAY
8.5
-
PRESENTATION
10.0
-
FUN FACTOR
9.0
-
DEPTH
8.5
-
VALUE
10.0
ช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ของปี 2018 นี้ เกมเมอร์แฟน ๆ Star Wars อาจจะรู้สึกกร่อย ๆ หน่อยเพราะหนังภาคใหม่ก็ไม่มี ที่สำคัญกว่าคือเกมใหม่ก็ยังไร้วี่แวว ถึงจะมี Star Wars Battlefront II (เวอร์ชั่นที่โละระบบ Micro-transaction ไปชั่งกิโลขายเรียบร้อยแล้ว) ให้พอแก้ขัดได้บ้าง แต่สิ่งที่สาวกอย่างพวกเราต้องการจริง ๆ คือเกม Star Wars ที่เน้นการผจญภัยยาว ๆ ในเรื่องราวสุดเข้มข้นมากกว่า เกมที่มอบประสบการณ์แปลกใหม่ให้เรารู้สึก “ว้าว” ไปกับมนต์สเน่ห์ของจักรวาลแห่งนี้ได้อีกครั้ง และจะยิ่งเด็ดไปกว่านั้นอีกหากเราสามารถลากเพื่อน ๆ มาว้าวไปพร้อมกันได้ด้วย
หากนั่นคือสิ่งที่คุณตามหาจริง ๆ ล่ะก็ เราขอแนะนำให้คุณรู้จักกับเกมที่ชื่อว่า “Star Wars: Imperial Assault” มันไม่ได้มีกราฟิกอลังการ ไม่ได้มีเสียงเอฟเฟคต์เนียนกริ๊บ แต่มันมีหุ่นเท่ ๆ กระดานเจ๋ง ๆ และมีความสนุกจนเกินพิกัดสำหรับทั้งแฟน Star Wars และแฟนเกมวางแผนกลยุทธ์ แต่บอร์ดเกมชิ้นนี้จะพลังแก่กล้าแค่ไหน? มันจะสามารถดึงคุณเข้าสู่ด้านมืดของโลกบอร์ดเกมได้หรือไม่? (เล่นข้ามวันข้ามคืน ไม่หลับไม่นอน ไม่อาบน้ำ ฯลฯ) ลองไปสัมผัสด้วยกันดีกว่าว่าพลังสถิตอยู่ในบอร์ดเกมนี้หรือไม่
นานมาแล้ว… ในร้านบอร์ดเกมอันไกลโพ้น…
จริงอยู่ที่ Imperial Assault มีค่าหัว เอ้ย ราคาค่อนข้างสูงราว ๆ 4,000 บาท แต่ทีมพัฒนา Fantasy Flight เค้าก็ไม่ได้ตั้งราคาส่ง ๆ เนื่องจากเจ้าบอร์ดเกมตัวนี้มาพร้อมกับไอเท็มเด็ด ๆ เพียบ เริ่มตั้งแต่หุ่นฟิกเกอร์สวย ๆ กว่า 50 ตัว บอร์ดแผนที่จิ๊กซอว์มากกว่า 30 ชิ้น การ์ดกระดาษคุณภาพดีอีกเป็น 100 ใบ และทีเด็ดคือโหมดการเล่นที่มีให้เลือกถึง 3 โหมด! ได้แก่ โหมดแคมเปญแบบ 4 ปะทะ 1 ซึ่งเป็นโหมดหลักของเกมนี้ โหมด Skirmish แบบผู้เล่น 2 คนไฝ้กันเอง และโหมดแคมเปญ Co-op เต็มรูปแบบที่เล่นพร้อมกับ Application ให้ทีมผู้เล่น 4 คนฝ่าฟันภารกิจเนื้อเรื่องไปด้วยกัน ซึ่งแต่ละโหมดก็ไม่ได้ทำออกมาทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ
วิธีอธิบายเกมเพลย์ของ Imperial Assault ให้เกมเมอร์สายวิดีโอเกมเห็นภาพง่ายที่สุดก็คือการเอาเกมนี้ไปเปรียบกับเกม X-COM นั่นแล บอร์ดเกมนี้คือ X-COM ที่จำแลงมาในร่าง Star Wars ดี ๆ นี่เอง เพราะวิธีการเล่นรวม ๆ แทบจะเหมือนกันเด๊ะ ทั้งกฎการเล่นแบบผลัดตาและวิธีการออกแอ็คชั่น ต่างกันตรงที่คราวนี้คุณต้องใช้หุ่น บอร์ด กับลูกเต๋าเพื่อเล่นเกมแทนเครื่องพีซีหรือคอนโซล อ้อ แล้วคุณก็ควรหาเพื่อนมาเล่นด้วยอีก 2 คนเป็นอย่างน้อยด้วย เชื่อเหอะว่ามันจะทำให้เกมมีสีสันขึ้นอีกเยอะ
เริ่มจากโหมดแคมเปญแบบ 4 ปะทะ 1 ของ Imperial Assault กันก่อน โหมดนี้จะเปิดให้ผู้เล่นนั่งโจ้ด้วยกันได้สูงสุด 5 คน ผู้เล่นคนหนึ่งจะต้องสวมบทเป็นตัวร้ายฝ่ายจักรวรรดิในขณะที่ผู้เล่นที่เหลืออีก 4 คนจะต้องเลือกเล่นเป็นฮีโร่ฝ่ายกบฎคนละตัว โดยผู้เล่นจักรวรรดิจะถือหนังสืออธิบายแคมเปญเอาไว้ในมือและจะต้องคอยเดินเรื่องรวมถึงอธิบายว่าด่านนี้ต้องทำอะไรบ้าง จุดสนุกมันอยู่ตรงที่มีเพียงผู้เล่นตัวร้ายเท่านั้นที่รู้ว่าจะมีเหตุการณ์เซอร์ไพรส์อะไรเกิดขึ้นในด่าน ส่วนผู้เล่นตัวดีจะต้องพยายามด้นสดไปเรื่อยเพื่อทำภารกิจของด่านนั้นให้สำเร็จ ซึ่งสถานการณ์ที่ผู้เล่นหนึ่งคนผู้รู้ไต๋ทุกอย่างโดนผู้เล่นอีก 4 คนใช้สมองรุมตื้บก็ถือว่าสมดุลใช้ได้เลยทีเดียว
เรียนรู้วิถีแห่งพลัง
ก่อนจะได้เล่นแต่ละด่าน สมาชิกทุกคนจะต้องร่วมแรงร่วมใจกันนำบอร์ดจิ๊กซอว์มาต่อให้เป็นแผนที่ของด่านนั้น ๆ ก่อน โดยผู้เล่นตัวร้ายจะได้สิทธิ์ในการชี้นิ้วสั่งเพราะคนอื่นห้ามดูรายละเอียดแคมเปญ บอร์ดพวกนี้ลงสีมาอย่างสวยงาม แถมพวกมันยังมีจำนวนมากกว่า 30 ชิ้น แต่ละชิ้นสามารถพลิกใช้ได้ทั้ง 2 หน้า นั่นหมายความว่าคุณสามารถนำบอร์ดมาต่อเป็นแผนที่ต่าง ๆ ได้มากมายนับไม่ถ้วน หลังจากต่อเสร็จแล้วก็บรรเลงเพลงศึกกันได้เลย โดยผู้เล่นตัวร้ายและตัวดีจะต้องสลับตากันเล่นไปเรื่อย ๆ แบบไม่จำเป็นต้องเรียงลำดับว่าตัวละครตัวไหนเล่นก่อนเล่นหลัง (แต่ต้องสลับฝ่ายเล่นระหว่างตัวดีตัวร้ายทุกครั้งนะ) ผู้เล่นจะได้ควบคุมตัวละครแต่ละตัวให้เดินไปมาตามเส้นตารางบนบอร์ด เข้าแลกกระสุนบลาสเตอร์หรือควงดาบเข้าไปฟาดด้วยการทอยลูกเต๋าโจมตีและลูกเต๋าป้องกันใส่กัน รวมถึงใช้ความสามารถพิเศษสารพัดตามที่ระบุในการ์ดจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะชนะตามเงื่อนไขที่ด่านนั้นกำหนด
ฝ่ายจักรวรรดิจะมีข้อได้เปรียบตรงที่ได้รู้ว่าต่อไปจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น รวมถึงสามารถเรียกกำลังเสริมออกมาตื้บพวกกบฎสวะได้เรื่อย ๆ ในขณะที่ฝ่ายกบฏก็ไม่ใช่ขี้ ๆ เพราะฮีโร่แต่ละคนเก่งกาจและทนทายาดมาก ๆ และพวกเขายังมาพร้อมกับความสามารถพิเศษสุดโหดที่เอาไว้พลิกสถานการณ์ได้อีกหลายกระบวนท่า
ไม่ว่าฝ่ายดีจะเล่นแพ้หรือชนะ เกมเมอร์ทั้งคณะก็จะได้เล่นกันต่อไปอยู่ดี โดยเกมจะระบุเอาไว้ว่าหากฝั่งกบฏชนะต้องเล่นด่านไหนต่อและหากฝั่งจักรวรรดิชนะจะต้องเล่นด่านไหนแทน ซึ่งหมายความว่าคุณและเพื่อนสามารถลุยแคมเปญด้วยกันได้ 2 รอบโดยที่แทบจะไม่ต้องเล่นด่านซ้ำกันเลย หลังเล่นจบแต่ละด่าน เกมจะมีช่วงอัพเกรดตัวละครและเปิดตลาดช้อปปิ้งไอเท็มแบบในเกม RPG เพื่อให้ฝ่ายฮีโร่จัดทัพเตรียมสู้ศึกถัดไปตามสะดวก นอกจากนี้ระหว่างด่านของเนื้อเรื่องหลักก็จะมีภารกิจเสริมของทั้งฝั่งกบฏและจักรวรรดิมาคอยคั่นให้เล่นกันด้วย
สงครามดวงดาวสารพัดแบบ
สำหรับโหมดเล่นกับ App จะมีวิธีเล่นเหมือนกับแคมเปญ 4 ปะทะ 1 ทุกประการ เพียงแต่ให้คอมเป็นตัวร้ายแล้วให้ผู้เล่น 4 คนร่วมมือฝ่าด่านไปด้วยกัน (หรือจะใช้ App เพื่อเล่นเกมนี้คนเดียวก็ยังได้) โดยไม่ต้องมานั่งปวดหัวกับการจัดการว่าต้องเล่นด่านไหนต่อ จะมีเหตุการณ์อะไรโผล่ขึ้นมาบ้าง และไม่ต้องมานั่งจำว่าใครอัพเกรดอะไรไปแล้ว เนื่องจาก App จะจัดการให้ทุกอย่างรวมถึงให้คุณเซฟเกมได้ด้วย เพียงแต่คุณจะต้องโหลด App ที่ว่ามาจาก App Store (US), Play Store หรือ Steam ซะก่อน ข่าวดีก็คือคุณสามารถโหลด App ตัวนี้ได้ฟรี ๆ และมันยังมาพร้อมกับแคมเปญใหม่ที่มีเนื้อเรื่องต่างไปจากในหนังสือคู่มือซะด้วย
ส่วนโหมดสุดท้ายอันได้แก่โหมด Skirmish จะให้ผู้เล่นสองคนยกทัพฟาดกันให้จบในแมตช์เดียว ผู้เล่นจะได้เลือกจัดทัพของตัวเองก่อนว่าจะเป็นฝ่ายไหน ระหว่างกบฎ จักรวรรดิ หรือแก๊งนักล่าค่าหัว หลังจากนั้นก็มาเลือกตัวละครและการ์ดความสามารถพิเศษต่างๆ เพื่อเสริมทัพของตัวเอง จุดที่น่าสนใจคือชัยชนะของโหมดนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการตื้บทัพอีกฝ่ายให้ราบเพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับการเก็บคะแนนจากการทำภารกิจในด่านที่เลือกมา แน่นอนว่าการกำจัดยูนิตศัตรูจะทำให้คุณได้แต้ม แต่การแย่งกันยึดจุดยุทธศาสตร์หรือชิงทรัพยากรในด่านก็มอบแต้มให้ไม่น้อย โดยแมตช์ Skirmish จะกินเวลาแค่ 45 นาทีถึงชั่วโมงกว่า ๆ เหมาะสำหรับเกมไนท์ชิล ๆ แบบโจ้กันซักเกมแล้วค่อยแยกย้ายกลับบ้าน ช่วยเปลี่ยนอารมณ์จากแคมเปญที่ต้องทุ่มเทเวลากันเป็นเดือนได้เป็นอย่างดี
โหมดทั้งหมดทั้งมวลที่ว่ามานี้ต่างก็ให้อารมณ์ความสนุกคนละแบบ ซึ่งจัดหนักจัดเต็มขนาดนี้ไม่เรียกว่าคุ้มก็บ้าแล้ว เอาแค่เล่นแคมเปญอย่างเดียวให้จบบริบูรณ์ครบทุกฉากได้ก็น่าจะกินเวลา 2 – 3 เดือนได้แล้วมั้ง (ถ้าคุณลากเพื่อนมาเล่นด้วยกันได้ทุกสัปดาห์นะ) ทีเด็ดคือแต่ละด่านในแคมเปญต่างได้รับการออกแบบมาให้มีรูปแบบภารกิจที่ไม่ซ้ำกันเลย ทำให้ผู้เล่นต้องมานั่งลุ้นด้วยกันทุกด่านและได้สนุกไปเรื่อย ๆ โดยไม่รู้สึกจำเจแต่อย่างใด
“Star Wars” กว่านี้มีอีกมั้ย
การที่เกมนำธีม Star Wars มาครอบระบบการเล่นทั้งหมดเป็นเหมือนโบนัสที่ช่วยให้เกมเล่นได้สนุกขึ้น ดั่งคำสอนของปรมาจารย์โยดาที่ว่า The Force แฝงอยู่ในทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวเราและเชื่อมทุกอย่างเข้าด้วยกัน องค์ประกอบจากภาพยนตร์ Star Wars ใน Imperial Assault ก็เหมือนกับ The Force ที่ว่านั่นแล มันแฝงอยู่ในทุกอณูของบอร์ดเกมนี้ ทั้งตัวละครฮีโร่ที่มีทั้งนักขนของเถื่อนสาวบุคลิกแบบ Han Solo วู้กกี้ขาลุยแบบ Chewbacca และเจไดฝึกหัดแบบ Luke ทัพศัตรูก็ดูคุ้นหน้าค่าตามาก ๆ เพราะมีทั้ง Storm Trooper หุ่นพิฆาตขาไก่ AT-ST แม้แต่ท่านพ่อ Darth Vader ก็ยังลงมาลุยเองบางครั้ง
นอกจากนี้เอฟเฟคต์ของความสามารถพิเศษทั้งหลายก็ดัดแปลงมาจากสิ่งที่เราเห็นในหนังนั่นแล อย่างเช่น การใช้ Force เพื่อเปลี่ยนหน้าลูกเต๋าซะใหม่ ท่าควักปืน “ยิงก่อน” แบบ Han หรือท่าระเบิดตัวเองของหุ่น Probe Droid เป็นต้น สีสันจาก Star Wars ที่ว่านี้มีผลกว่าทำให้คุณและเพื่อน ๆ อินกับเกมตรงหน้ามากกว่าที่คิด เพราะถึงแม้แก๊งคุณจะไม่ได้เป็นแฟนพันธุ์แท้ Star Wars กันทุกคน แต่พวกเขาก็ต้องเคยเห็น Storm Trooper หรือ Luke Skywalker มาบ้างแหละ รวมถึงต้องรู้จักตัวละครดัง ๆ อย่าง Darth Vader แน่นวล และรู้ว่าถ้าท่านพ่อย่างกรายเข้ามาในฉากเองเมื่อไหร่ก็ได้เวลาเผ่นเป็นผึ้งแตกรังกันแล้ว จุดนี้ต้องขอชมทีม Fantasy Flight ที่ซื้อลิขสิทธิ์จักรวาลอันไกลโพ้นมาใช้กับเกม Imperial Assault เพราะมันเป็นจักรวาลที่ผู้เล่นบอร์ดเกมหน้าใหม่สามารถอินตามได้ง่ายกว่าโลกของอัศวินและพ่อมดที่ไหนไม่รู้
ด้านมืดแห่งพลังบอร์ด
ด้านมืดของ Imperial Assault ที่เห็นเด่นชัดยิ่งกว่าไลท์เซเบอร์สีแดงของเหล่าซิธก็คือการเรียนรู้วิธีการเล่นของมันนี่แหละ จริงอยู่ที่วิธีการเล่นเกมนี้ค่อนข้างตรงไปตรงมาและเข้าใจไม่ยากเลย แต่กว่าจะเล่นให้เป็นนี่ต้องอ่านคู่มือผสมกับนั่งงมจนไม่เกรนขึ้นได้เลยทีเดียว โดยเฉพาะผู้เล่นที่ต้องทำหน้าที่เป็นกองทัพจักรวรรดิในโหมดแคมเปญเพราะต้องสวมบทเป็นทั้งตัวร้ายและ Game Master พร้อมกันไปด้วย นั่นหมายความว่าต้องนั่งอ่านคู่มือ 3 เล่มจนเข้าใจทะลุปรุโปร่ง แถมต้องมานั่งจำคำนิยามเฉพาะของตัวละครต่าง ๆ รกเพียบ เพราะเขาหรือเธอคนนี้ต้องเป็นคนอธิบายให้เพื่อน ๆ อีก 4 คนฟังว่าเล่นเป็นฝั่งพระเอกต้องทำยังไงบ้าง ต้องอธิบายเงื่อนไขในการชนะของแต่ละฉาก คอยระลึกว่าจะมีเหตุการณ์เซอร์ไพรส์เกิดขึ้นช่วงไหนบ้าง สับไพ่เตรียมของให้ในช่วงอัพเกรดระหว่างด่าน และอื่น ๆ อีกมากมาย
เมื่อบวกกับการที่รูปแบบการวางเนื้อหาในคู่มือที่ไม่ได้เป็นมิตรกับผู้เล่นเท่าไหร่และการที่ประโยคอธิบายคำนิยามต่าง ๆ เขียนได้งงดีแท้ยิ่งทำให้ภาระในการเรียนกฎของผู้เล่นคนนี้ช่างหนักอึ้ง นี่ยังไม่นับช่วงที่เล่นแล้วโดนเพื่อนกวนประสาทอีกนะ (มั่วป่าวว้า? โกงอ้ะ! นี่เล่นถูกปะเนี่ย? บลา ๆๆ) ดังนั้นผู้ใดอยากเสียสละเล่นเป็นตัวร้ายก็ทำใจเอาไว้หน่อย เพราะพลังที่ยิ่งใหญ่มาพร้อมกับความรับผิดชอบอันใหญ่ยิ่ง แถมเมื่อใดที่คุณยอมเป็นตัวร้ายแล้ว คุณก็จะถูกเพื่อน ๆ ตราหน้าให้เป็นตัวร้ายไปตลอดกาล (เพราะคนอื่นในกลุ่มมันคุมแคมเปญไม่เป็น)
ด้านมืดจุดที่สองก็คือจังหวะตะกุกตะกักที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ ระหว่างการเล่น อย่างเช่น ช่วงที่ต้องมานั่งเตรียมแผนที่ก่อนจะได้ลุย ช่วงเตรียมของอัพเกรดระหว่างด่าน และช่วงที่เงื่อนไขของความสามารถบางอย่างดูจะขัดกันเอง เป็นต้น เรื่องนี้อาจฟังดูจุกจิกแต่มันทำให้เสียอารมณ์ระหว่างเล่นได้ไม่น้อย ลองจินตนาการดูว่าคุณกับเพื่อนกำลังอินกับสถานการณ์ตรงหน้าที่สูสีกันกันสุด ๆ แต่แล้วก็ดันไปเจอกับคำนิยามประหลาด ๆ จนต้องหยุดเกมมาช่วยกันนั่งตีความวิธีเล่นที่น่าจะถูกต้องแทน เจอแบบนี้ก็เจื่อนกันสิ อีกสถานการณ์ที่เจื่อนกว่าก็คือระหว่างเปลี่ยนด่านนั่นแล เพราะต้องเคลียร์ของเก่า จัดของใหม่ จดบันทึกรายละเอียดนู่นนี่นั่น ซึ่งบางทีก็กินเวลานานถึงครึ่งชั่วโมงเลยเชียว ดังนั้นผู้เล่นเกม Imperial Assault ควรพกความใจเย็นและความอดทนมาประมาณหนึ่งด้วย เพราะกว่าจะไปถึงโมเมนท์สนุกจนหยุดไม่อยู่ คุณต้องทนผ่านความยุ่งยากยุบยิบยุ่บยั่บไปให้ได้ก่อน แต่เชื่อเถอะว่ามันคุ้มค่า เพราะคุณและเพื่อน ๆ จะได้พบกับระบบการเล่นที่มีความยืดหยุ่น ผ่านการคิดมาแล้วเป็นอย่างดี แถมยังสมดุลไม่ใช่เล่น การันตีได้เลยว่าเล่นไปซัก 3 แมตช์ คุณจะได้เจอกับโมเมเนท์ลุ้นเส้นยาแดงผ่าแปดซัก 1 แมตช์แน่ ๆ
พลังสถิตอยู่กับผู้ที่มุ่งมั่น
จุดที่น่าสนใจของ Imperial Assault ซึ่งไม่รู้จะเรียกว่าเป็นข้อดีหรือข้อเสียของมันดีก็คือภูเขาภาคเสริมของเกมนี้นี่แหละ อย่างที่บอกไปแล้วว่าเกมนี้ซื้อกล่องแรกกล่องเดียวก็เล่นได้เกินคุ้ม แต่ถ้าใครเป็นนักสะสมสายเพอร์เฟคชั่นนิสต์แล้วดันถูกจริตเกมนี้เข้าอย่างจังก็เตรียมขายบ้านขายรถได้เลย เพราะเกมมีแพ็คเสริมทุกไซส์ทุกแบบ ไซส์เล็กก็เป็นฟิกเกอร์ตัวละครพิเศษที่แฟน ๆ ยากจะหักห้ามใจ เช่น Boba Fett หรือคู่หูดูโอ้ R2 กับ C3PO เป็นต้น ไซส์กลางก็จะเป็นพวกภาคเสริมเพิ่มแคมเปญไซส์พอดีคำ ให้คุณและเพื่อนที่ติดใจมีด่านให้เล่นเพิ่ม 4-5 ด่าน เและไซส์ใหญ่ก็จะเป็นแคมเปญเนื้อเรื่องยืดยาวตอนใหม่เอาไว้เล่นกันต่อเป็นเดือน แม้แต่ผ้าปูรองเล่นของเกมนี้ยังเป็นภาคเสริมให้ซื้อได้เลยเพราะมันพิมพ์แผนที่ Skirmish แถมมาด้วย เบ็ดเสร็จเก็บหมดก็หลักหมื่นแน่นอน ซึ่งถ้าคุณชอบเกมนี้มันก็เป็นเรื่องดีที่มี DLC ให้ซื้อมาเล่นเพิ่มได้เยอะ แต่ก็หักห้ามใจหน่อยละกันถ้าไม่อยากถังแตกจนต้องไปยืมตังค์ Jabba the Hutt
Imperial Assault ไม่ใช่บอร์ดเกมที่เล่นง่าย เข้าใจเร็วแบบปาร์ตี้เกมอย่าง Werewolf หรือ Monopoly มันเป็นเกมที่ต้องใช้ความพยายามในการเรียนรู้กฎ ใช้ความมุ่งมั่นที่จะเข็นแคมเปญให้จบ และใช้การตื๊อเพื่อลากให้เพื่อน ๆ ในกลุ่มยอมมานั่งเล่นกับคุณให้ได้ จะว่าไปก็เหมือนกับการเข้าเรียนหลักสูตรเจไดจากปรมาจารย์โยดาแหละมั้ง เพราะของที่ได้มาง่าย ๆ จะเป็นของดีได้อย่างไรล่ะ จริงไหม? แต่ถ้าคุณฮึดสู้ผ่านเรื่องจุกจิกยุ่งยากทั้งหลายของมันมาได้ คุณและสหายจะได้พบกับประสบการณ์สนุกสุดมันส์ไปทั้งกลุ่มแบบที่หาไม่ได้ง่าย ๆ ที่ไหน แถมยังได้อินกับสงคราม Star Wars แบบยาว ๆ เน้น ๆ ในแคมเปญที่เต็มไปด้วยการชิงไหวชิงพริบและการทอยเต๋าเสี่ยงดวง ทั้งคุณทั้งเพื่อนจะพากันอุทานโวยวายเมื่อได้เห็นตัวร้ายในตำนานอย่าง Darth Vader ออกมาแผลงฤทธิ์ หรือเมื่อตัวละครฮีโร่คนสุดท้ายคว้าชัยมาได้แบบเส้นยาแดงผ่าแปด มันเป็นความรู้สึกสนุกแบบเดียวกับยามที่คุณได้นั่งดู Star Wars ภาคใหม่ไปพร้อม ๆ กันกับเพื่อนในโรงหนัง แม้ว่าคุณจะต้องเหนื่อยกับการวิ่งเต้นจองตั๋วให้ทันบ้างก็เหอะ