Our score
6.8Home Sweet Home Episode 2
จุดเด่น
- กราฟิกที่สวยสมจริง ช่วยทำให้ความน่ากลัวของเกมทรงพลัง
- ปริศนาในเกมที่ออกแบบมาได้กำลังดี ไม่ง่ายหรือยากจนเกินไป จัดลำดับมาได้เหมาะสมกับการเรียนรู้ของผู้เล่น
- เห็นถึงความมั่นใจในการนำเสนอเรื่องราวของผีและความเชื่อแบบไทยๆออกมาได้อย่างไม่เคอะเขิน เกิดเป็นเสนห่์เฉพาะตัวที่เกมสยองขวัญจากชาติไหนๆก็ทำตามไม่ได้
- งานออกแบบคิวของภาพและเสียงเพื่อเล่นกับระบบเกมและกดดันแก่ผู้เล่นได้อย่างคมชัด
จุดสังเกต
- งานเขียนบท ทั้งเนื้อเรื่อง บทพูด และข้อความต่างๆในเกมที่ขาดความสมจริงสมจัง
- งานพากย์ที่ขาดซึ่งความเข้าถึงบทและตัวละคร ไม่มีชีวิตชีวามากพอที่จะทำให้คนเล่นรู้สึกเข้าอกเข้าใจและอยากติดตามเรื่องราวของตัวละคร
- แก่นของเกมที่ไม่ชัดเจน ให้ความสำคัญกับเนื้อหาของผีแต่ละตัวที่ออกมามากเกินจนไปบดบังเนื้อเรื่องของตัวละครหลัก
- การเก็บงานด้านกราฟิกในบางส่วนยังมีความหยาบและการออกแบบที่แปลกประหลาดอยู่บ้าง
-
บทและการเล่าเรื่อง
5.0
-
ระบบการเล่น
7.0
-
ภาพและงานกำกับศิลป์
8.0
-
ดนตรีและเสียงประกอบ
7.0
-
การนำเสนอ
7.0
กลับมาอีกครั้งกับเกมผีฝีมือคนไทย Home Sweet Home EP.2 ภาคต่อของเกมสยองขวัญในชื่อเดียวกันที่เคยสั่นประสาทผู้คนไปมากมายและสร้างชื่อให้กับทีมพัฒนา Yggdrazil Group ด้วยจุดเด่นที่ทีมงานจัดเต็มจัดหนักให้กับการใส่เรื่องราวของความเชื่อและผีแบบไทยๆ ที่ทั้งน่ากลัวและเป็นเอกลักษณ์ไม่แพ้ชาติไหน ๆ มาในภาค2 นี้ก็ยังคงสานต่อเรื่องราวที่จบลงอย่างค้างคาในภาคแรก โดยในตอนนี้ตัวเกมยังเปิดให้เล่นแค่ในตอนแรกของเกมที่มีความยาวประมาณ 3-5 ชั่วโมงโดยประมาณเท่านั้น แล้วจึงจะอัปโหลดตอนต่อๆ ไปในภายหลัง โดยตอนที่2 นั้นจะเปิดให้โหลดในวันที่ 31 ตุลาคม 2019 นี้ เรียกว่าข้ามเดือนกันไปเลย ทางแบไต๋ของเราจึงขอถือโอกาสรีวิวให้ส่วนของพาร์ตแรกนี้ก่อนว่าตัวเกมเป็นอย่างไรกันบ้าง
Home Sweet Home EP.2 นั้นเป็นภาคต่อโดยตรงของภาคแรกที่ยังคงดำเนินเรื่องตามตัวละครเอก ติม (Tim) ชายหนุ่มผู้บ้างาน ที่กำลังดำเนินเรื่องตามหา เจน (Jane) แฟนสาวของตนที่หายไปตัวอย่างไม่ทราบสาเหตุ ก่อนที่เหตุการณ์จะค่อย ๆ แปลกประหลาดขึ้น เมื่อในขณะติมที่กำลังพยายามหาเบาะแสจากสมุดไดอารี่ของเจนในบ้านของทั้งสอง เขาก็สลบลงและตื่นขึ้นมาสถานที่อื่น ๆ ที่เขาจะต้องพบเอาตัวรอดจากภยันตรายของวิญญาณร้ายในตำนานของผีไทยต่าง ๆ ไปพร้อม ๆ การตามหาความจริงว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ เกี่ยวพันกับการหายตัวไปของเจนอย่างไรกันแน่
เหล่าผีที่โผล่ออกมาเล่นงานหลอกคุณราวกับท่องอยู่ในบ้านผีสิง
สำหรับเนื้อเรื่องในภาค2 นั้น ยังคงปัญหาเดิมที่ผู้เขียนรู้สึกมาตั้งแต่ภาคแรก นั่นคือการที่สถานที่ต่างๆและผีที่เราได้พบเจอระหว่างเรื่องนั้นดูจะถูกยัดเข้ามาอย่างงงๆโดยไม่มีความเกี่ยวข้องกันกับเรื่องราวของติมและเจนมากนัก ผีแต่ละตัวมีเรื่องราวแยกเป็นเอกเทศและจบในตัวเอง แม้จะดูเหมือนว่าเรื่องราวเหล่านี้ดูจะมีความคล้ายคลึงกันในแง่ที่เกี่ยวข้องกับผลของการทำคุณไสยหรือพิธีกรรมการบนบานต่าง ๆ ที่ดูจะถูกออกแบบมาเพื่อปูพื้นฐานให้ผู้เล่นที่ไม่คุ้นเคยกับความเชื่อแบบไทย ๆ เหล่านี้ได้เข้าใจที่มาที่ไปว่าทำไมองค์ประกอบเหล่านี้ถึงได้น่ากลัวสำหรับคนไทย แล้วจึงค่อยๆเชื่อมโยงกลับไปยังเรื่องราวเจนที่ท้ายที่สุดแล้วน่าจะเข้าไปพัวพันกับเรื่องเหล่านี้เช่นกัน แต่ในเมื่อเรื่องราวเหล่านั้นมันไม่ได้เกี่ยวข้องหรือสืบเนื่องไปถึงเรื่องราวของติมและเจนโดยตรง มันจึงขาดความสมเหตุสมผลที่ผู้เล่นจะต้องไปประสบพบเจอกับเรื่องราวต่าง ๆ เหล่านั้น เมื่อเราต้องหนีและรับรู้เรื่องราวของผีที่ไม่ได้ทำให้เรารู้อะไรเกี่ยวกับติมและเจนมากขึ้นเลยเป็นเวลา 1ชั่วโมง – 2ชั่วโมง ต่อเนื่องกัน มันก็ย่อมส่งผลให้ความรู้สึกร่วมกับตัวละครมันขาดตอนและความเชื่อว่าเราไปอยู่ในสถานที่นั้นๆจริง ๆ ลดถอยลงไป แทนที่เราจะเล่นเกมนี้ไปด้วยความกลัวปนความอยากรู้อยากเห็น อยากไขปมปริศนาของเรื่อง กลับกลายเป็นเรารู้สึกเหมือนกำลังเล่นบ้านผีสิงที่เราต้องคอยแก้ปริศนาไปด้วยเท่านั้นเอง
อีกอย่างหนึ่งที่ดูจะมีปัญหาชัดเจนคือบทพูดและข้อความต่าง ๆ ที่ถูกเขียนโดยตัวละคร (จำพวกจดหมาย, ไดอารี่ เป็นต้น) สิ่งเหล่านี้แม้จะเป็นเทคนิคการเล่าเรื่องที่ดีที่ช่วยปูบริบทของเรื่องราวและความสัมพันธุ์ของตัวละคร แต่มันก็ขาดความเป็นมนุษย์ ขาดความน่าเชื่อและสมจริงสมจังมาก ผู้เขียนไม่สามารถเชื่อได้เลยว่าตัวละครต่างๆ ในเรื่องเป็นคนจริงๆ อาจเพราะเป็นคนไทยที่คุ้นเคยกับภาษาไทยในชีวิตประจำวันด้วยทำให้อ่อนไหวกับเรื่องนี้มากกว่าเมื่อเทียบกับเกมในภาษาอื่น ๆ แต่อย่างน้อย ๆ ก็พูดได้ว่าบทต่างๆ ที่ออกมานั้นไม่ใช่งานระดับมืออาชีพแน่นอน ซึ่งน่าเสียดายมากสำหรับเกมที่โปรดักชันค่อนข้างใหญ่แบบนี้ที่น่าจะสามารถจ้างคนเขียนบทมืออาชีพให้เข้ามาดูแลได้ ยิ่งตัวเกมไม่ได้มีบทพูดเยอะมากเหมือนเกมเนื้อเรื่องแล้วด้วย ซึ่งเรื่องนี้ก็จะเกี่ยวพันไปถึงงานพากย์ที่เราจะพูดถึงกันในลำดับถัด ๆ ไปอีก
แม้ข้อเสียหลักๆทางเนื้อเรื่องเหล่านี้จะไม่ได้ส่งผลถึงความน่ากลัว ณ ขณะตอนเล่นมากนัก เนื่องจากความน่ากลัวของ HSH2 นั้นเกิดจากระบบการเล่นเป็นหลัก มากกว่าจากบรรยากาศและเนื้อเรื่อง แต่มันก็ทำให้เกมขาดสเน่ห์ของความน่าพิศวงชวนให้ติดตามไป และความกลัวนั้นก็ส่งผลแค่ในช่วงเวลาสั้นๆ ไม่ได้ติดตาหรือเป็นที่น่าจดจำนัก หรือต่อให้ในพาร์ทต่อๆ ไปของตัวเกมอาจจะเฉลยความเชื่อมโยงลึกๆ ของผีแต่ละตัวที่มีต่อเนื้อเรื่องหลักของติมและเจน ตลอดระยะเวลา 1 ภาคกับอีกกว่า 3 ชั่วโมงในภาคนี้ มันก็ล้มเหลวในการสื่อสารปมให้แก่ผู้เล่นที่ดีพออยู่ดี แต่ก็หวังว่าอย่างน้อยๆ อะไรๆ จะชัดเจนขึ้นในพาร์ทต่อๆไปของเกม
HSH2 ยังคงรูปแบบเกมเพลย์แทบจะเหมือนเดิมจากภาคแรกทั้งหมด ด้วยการควบคุมแบบมุมองบุคคลที่หนึ่งที่แอ็กชันหลัก ๆ ของตัวละครนั้นจะมีเพียงการเดิน วิ่ง ก้ม และสำรวจหรือหยิบสิ่งของต่างๆ เพื่อการแก้ปริศนาเท่านั้น แต่ในภาคนี้ได้เพิ่มระบบหลอดพลังชีวิตเข้ามาพร้อมกับที่เราสามารถเก็บยาฟื้นพลังที่เรียกว่า ยาเม็ดลูกกลอน สำหรับฟื้นพลัง รวมไปถึงเราสามารถที่จะลอบฆ่าผีได้หากมี ตะปูสังฆวานร ซึ่งจะมีบทบาทในการใช้แก้ปริศนาและต่อสู้กับผีระดับบอสอีกด้วย ระบบเหล่านี้ช่วยให้ผู้เล่นมีตัวเลือกมากขึ้นพร้อมกับปริศนาของเกมที่มีลูกเล่นหลากหลายขึ้นนิดหน่อย ซึ่งหลาย ๆ อย่างนั้นก็ทำออกมาได้สนุกและมีชั้นเชิงดี ลำดับของลูกเล่นและปริศนาในเกมเองก็คิดมาค่อนข้างดี ตลอดการเล่นผู้เขียนรู้สึกลื่นไหลไปกับการเรียนรู้ระบบและอ่านปริศนาที่อยู่ตรงหน้าอย่างไม่มีติดขัด ไม่ค่อยมีจุดที่รู้สึกว่าตัวเกมมันก้าวกระโดด โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิธีการที่ตัวเกมใช้สอนวิธีการอ่านคิวของภาพและเสียงที่จะบ่งบอกถึงตำแหน่งและเวลาที่ผีจะปรากฏตัวออกมาเพื่อให้สามารถวิ่งหนีหรือหาที่หลบได้ทันนั้น ทำออกมาได้ค่อนข้างเป็นธรรมชาติและเข้าใจได้ง่าย ซึ่งก็เป็นที่สิ่งที่ผู้เขียนคิดว่าทำมาได้ดีตั้งแต่ภาคแรกแล้ว
เกมเพลย์ที่ลึกขึ้น แลกมาด้วยความสมจริงสมจังที่หายไป
น่าเสียดายที่ส่วนตัวผู้เขียนนั้นไม่ชอบที่มีการเพิ่มระบบหลอดพลังชีวิตมาเป็นรูปธรรมมากนัก คือในภาคแรกนั้นเอาเข้าจริงๆ ตัวเกมก็เสมือนมีหลอดพลังชีวิตล่องหนที่จะช่วยให้เราสามารถหนีจากการถูกผีจับได้ในครั้งแรก ๆ และจะส่งผลต่อความสามารถในการวิ่งของตัวละคร (เช่นเดียวกับในภาคนี้เวลาที่พลังชีวิตของเราเหลือน้อย เราก็จะวิ่งไม่ได้หรือวิ่งได้ช้าลง) แต่หากหลบหรือปล่อยพักสักหน่อยก็จะหายเป็นปกติ แต่ด้วยความที่มันเป็นระบบที่มองไม่เห็น สัมผัสได้ผ่านการเล่นการควบคุมตัวละครเท่านั้น ทำให้เรายังรู้สึกว่าอาการเหล่านั้นมันเป็นส่วนหนึ่งของโลกในเกมได้แนบเนียนกว่า พอมีหลอดพลังชีวิตรวมไปถึงไอเทมสำหรับฟื้นพลังมาให้ชัดเจนแบบนี้ มันเหมือนกับว่าเราถูกย้ำเตือนตลอดๆว่านี่คือวิดีโอเกม มันมีค่าสถานะ มีไอเทมเติมเลือด มันเป็นระบบที่มีตัวเลขและโปรแกรมควบคุม ความรู้สึกว่าตัวเกมมันจำลอง (simulate) ประสบการณ์ของตัวละครอย่างสมจริงสมจังนั้นมันลดทอนลงไป ซึ่งไม่ใช่ว่าเกมสยองขวัญจะมีระบบนี้ไม่ได้ แต่ด้วยความที่เป้าหมายหลักของเกมเพลย์แบบ HSH2 นั้นมันคือการใช้กราฟิกที่สมจริงร่วมกับมุมมองบุคคลที่ 1 ทำให้ผู้เล่นเสมือนสวมตัวเองไปกับตัวละครจริงๆเพื่อให้ผีและความน่ากลัวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมัน ระบบที่ทำให้คนเล่นรู้สึกถึงความเป็นและเพิ่มระยะห่างระหว่างโลกในเกมและความเป็นจริงแบบนี้ มันจึงกลายเป็นดาบสองคมในตัวเองไป
นอกจากนี้ ผู้เขียนมองว่าเนื้อหาส่วนใหญ่ในพาร์ทแรกนี้นั้นอาศัยการสร้างความกลัวและความกดดันจากการลดความสามารถในการมองเห็นของผู้เล่นมากเกินไปหน่อย คือฉากส่วนใหญ่ในพาร์ตนี้มักจะเป็นที่มืดแทบจะสนิทและมีระยะการมองเห็นให้กับผู้เล่นค่อนข้างสั้น ซึ่งช่วยสร้างโอกาสให้กับการเล่นทีเผลอใส่ผู้เล่นและทำให้ผู้เล่นหวาดระแวงเป็นพิเศษ ไปด้วยกันได้ดีกับคิวของเสียงเอฟเฟกต์เมื่อถูกผีมองเห็นได้ดีมาก เพราะถึงจะรู้ว่าถูกมองเห็น ก็อาจจะไม่รู้ว่าผีจะมาจากทางไหนและเราต้องวิ่งไปทางไหน ช่วยทำให้ความตื่นตระหนกนั้นทวีคูณไปอีก แต่ปัญหาก็คือมันเยอะจนเกินไป มันเยอะมากจนกลายเป็นความน่ารำคาญ เพราะมันดันไปส่งผลถึงการสำรวจฉากเพื่อตามหาของหรือจุดเกิดเหตุการณ์ที่จะทำให้เนื้อเรื่องดำเนินต่อไปอย่างการแอบมองรูบนผนังบ้านตามจุดต่าง ๆ หลายครั้งมากที่ผู้เขียนติดอยู่ในที่เดิมๆ เป็น 20-30 นาทีเพราะไม่รู้ว่าจะต้องเก็บของตรงไหนหรือสำรวจรูบนผนังอันไหน และเมื่อกลายเป็นว่าเราต้องพยายามเอาหน้าไปไถทุกอย่างในฉากเพราะระยะการมองเห็นที่สั้น ก็ทำได้การเล่นมันชวนเวียนหัวเอาดื้อ ๆ อีก เรียกว่าทรมานมากกว่ากลัวซะอย่างนั้น ผู้เขียนจึงมองว่าลูกเล่นแบบนี้มันทำได้ แต่ต้องทำในปริมาณที่พอควรหรือเว้นช่วงมากกว่านี้เพื่อไม่ให้ผู้เล่นรู้เหนื่อยที่จะเล่นไป
ในด้านของคุณภาพกราฟิกนั้นยังคงทำได้ค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับราคาและขนาดของทีมพัฒนาเหมือนกับที่ภาคแรกทำได้ แม้คนที่ผู้เขียนรู้จักบ้างจะบอกว่าคุณภาพลดลงจากภาคแรก แต่สำหรับผู้เขียนไม่รู้สึกว่ามันถึงขนาดสังเกตได้มากนัก อย่างน้อย ๆ ก็ในฉากที่เป็นภายในอาคารหรือบ้านต่าง ๆ ที่การปั้นโมเดลและแปะเท็กซ์เจอร์ของของต่าง ๆ นั้นยังทำออกมาได้สวยงาม ช่วยผลักดันความสมจริงสมจังของการเข้าไปอยู่ในสถานที่นั้น ๆ ได้ดี ที่จะมีปัญหาชัดเจนคงมีเพียงพวกใบ้ไม้และเท็กซ์เจอร์ก้อนหินต่าง ๆ ในฉากป่าช้าตอนต้นเกมที่ยังอยู่หยาบ ๆ จนสังเกตได้อยู่หน่อย แต่สำหรับผู้เขียนนั้นถือว่าเป็นอะไรที่พอจะให้อภัยได้ เพราะรู้ว่าในทางเทคนิคนั้นการทำฉากแบบนี้ให้ดูสมจริงนั้นยากกว่าการทำฉากภายในอาคารมาก
ความงามที่น่าขนลุก
ในแง่งานออกแบบต่าง ๆ นั้นโดยภาพรวมไม่ได้มีอะไรหวือหวาเป็นพิเศษ เนื่องจากตัวเกมอาศัยสถาปัตยกรรมและสิ่งของต่างๆ ที่มีอยู่จริง ใช้งานจริงและเป็นที่คุ้นเคยอยู่แล้วสำหรับคนไทย หลักๆจึงมีเพียงการทำออกมาให้สมจริงเท่านั้น แต่ที่ชื่นชอบหน่อยก็คงจะเป็นงานออกแบบฉากตอนสู้บอสช่วงท้ายของเนื้อเรื่องพาร์ตนี้ ที่ทำออกมาได้ดูทั้งอลังการ น่าขนลุก แต่ก็ดูน่าค้นหา มีเรื่องราวสะท้อนความเป็นมาของผีที่เรากำลังเผชิญหน้าอยู่ได้ดี ผู้เขียนถึงกับว้าวตอนฉากนี้เปิดตัวครั้งแรกเลยทีเดียว
อีกสิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนค่อนข้างชอบคือการเล่นกับแสงเงาเพื่อหลอกให้ผู้เล่นตกใจกับองค์ประกอบต่าง ๆ ภายในฉากและทำให้ผู้เล่นรู้สึกไม่ปลอดภัยอยู่เสมอแม้จะอยู่ในฉากที่มีเพียงการแก้ไขปริศนาโดยไม่ถูกผีไล่ตามก็ตาม ซึ่งสิ่งนี้ก็เป็นผลมาจากการออกแบบโครง (Silhouette) ของผีและสิ่งต่าง ๆ ที่ชัดเจนน่าจดจำจนทำให้ผู้เล่นรู้สึกระแวงและติดตาไปตลอดการเล่น
มีข้อติที่อาจจะดูจู้จี้นิดหน่อย คือผู้เขียนไม่ชอบใจและงงเป็นพิเศษกับการเรนเดอร์กระจกเงาต่างๆ อย่างพวกกระจกห้องน้ำ ซึ่งดูเหมือนจะถูกออกแบบมาอย่างเจาะจงให้ทำการสะท้อนสิ่งอื่นๆในฉากตราบใดที่ผู้เล่นไม่ได้ควบคุมให้ติมเดินเข้าไปมองเห็นตัวในกระจก หากทำเช่นนั้นตัวกระจกก็จะปรากฏเป็นผืนถมดำไปแทน ซึ่งเป็นอะไรที่ดูไม่เป็นธรรมชาติเอามาก ๆ คือผู้เขียนเข้าใจหากทีมงานต้องการจะหลีกเลี่ยงการที่กระจกจะสะท้อนตัวละครติมออก ไม่ว่าจะเพราะต้องการปกปิดเอาไว้ หรือเพราะทีมงานไม่ได้ปั้นโมเดลของติมอย่างเป็นเรื่องเป็นร่างไว้ก็ตาม แต่หากต้องการทำเช่นนั้นจริงๆ ก็ทำให้กระจกมันดำทะมึนอยู่ตลอด หรือไม่ก็เปื้อน หรือเบลอจนไม่สามารถเห็นสิ่งที่สะท้อนอยู่ได้ไปเลยเสียดีกว่า การที่ต้องเดินผ่านกระจกแล้วเห็นจากกระจกที่สะท้อนฉากได้มาเป็นแถบปื้นสีดำนั้นเป็นอะไรที่ทำให้เสียสมาธิไม่น้อยเลย
เสียงประกอบใน HSH2 นั้นใช้เสียงเดิมที่เคยใช้ไว้ในภาคแรกเยอะพอสมควร ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องไม่ดีอะไร เพราะเสียงเหล่านี้ค่อนข้างมีความชัดเจนในการสื่อสารมากอยู่แล้ว ทั้งเสียงตอนถูกผีพบตัว เสียงเพลงตอนกำลังถูกผีไล่ตาม มันชวนให้ตกใจและเป็นคิวเสียงที่คมชัดเพื่อบอกให้ผู้เล่นรู้ว่าต้องทำอะไรในเวลาเดียวกัน แต่นั่นก็ทำให้งานออกแบบเสียงใน HSH2 นั้นโดนรวมไม่มีอะไรโดดเด่นหรือพัฒนาขึ้นจากภาคแรกเท่าไหร่
แต่ที่มีปัญหาต่อยอดมาจากเรื่องของการเขียนบทพูดตัวละครก็คือเรื่องเสียงพากย์ตัวละคร ที่ก็ออกมาคุณภาพด้อยพอๆกัน ผู้เขียนไม่อยากโทษผู้พากย์เสียงตัวละครต่างๆในเกมนี้ เพราะมันดูจะเป็นปัญหาของทีมพัฒนาที่เหมือนจะไม่ยอมจ้างทีมพากย์มืออาชีพและปล่อยให้งานที่ฟังดูยังไงก็รู้แล้วว่ามันมีปัญหาออกมาเสียมากกว่า ผู้เขียนไม่รู้สึกถึงความเป็นมนุษย์ อารมณ์และลักษณะนิสัยจริง ๆ ของตัวละครผ่านบทพากย์เลยแม้แต่น้อย ซึ่งทั้งหมดนี้มันน่าเสียดายมากเมื่อเทียบกับคุณภาพกราฟิกของเกมที่ทำออกมาได้ดี หากได้รับการเอาใจใส่เรื่องนี้เข้าไปอีกหน่อยมันจะช่วยยกระดับประสบการณ์การเข้าถึงของผู้เล่นได้อีกมาก
สิ่งที่ผู้เขียนชื่นชมมากที่สุดอย่างหนึ่งใน HSH ทั้งภาคแรกและภาคนี้ คือความที่ทีมพัฒนานำเสนอเรื่องราวของความเชื่อแบบไทย ๆ ได้ออกมาอย่างเข้มข้นและไม่เคอะเขิน เราเห็นถึงความสนุกสนานของทีมงานที่จะนำเสนอประเพณี ตำนาน ความเชื่อเรื่องภูติผีต่างๆ ให้คนต่างชาติและใครที่ไม่คุ้นเคยกับเรื่องพวกนี้ได้รู้จัก ทีมงานมีความใส่ใจที่จะยัดสิ่งเหล่านี้เข้าไปมาตลอดตั้งแต่ภาคแรกของเกมจนภาคนี้เราก็ยังรู้สึกได้
เรื่องราวสยองขวัญที่เต็มไปด้วยพลังงานและความมั่นใจ
อย่างไรก็ตาม ดุเหมือนว่าผลที่ตามมาของความมั่นใจนั้น กลับดูเหมือนว่าจะทำให้ตัวเกมขาดความใส่ใจในการทำอะไรที่เป็นตัวของตัวเองจริง ๆ อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วในส่วนของเนื้อเรื่องว่าเรื่องราวของผีแต่ละตัวที่ติมต้องเผชิญนั้นดูจะไม่เกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของเจนมากนัก ผีที่ออกมากล้วนแต่มีเรื่องราวที่จบในตัวเองที่ทีมงานดูจะภาคภูมิใจในการนำเสนอเอาเสียมาก ๆ มากจนแต่ละก้อนของเรื่องราวเหล่านี้มันไปเบียดบังเรื่องราวหลักของตัวเกมจริง ๆ มันทำให้ภาพรวมของเกมเป็นเหมือนการยัดเยียดให้ติมต้องไปเจอกับสถานการณ์ที่ต้องหนีผีแต่ละตัวอย่างไม่มีเหตุผล บังคับให้ตัวเกมกลายเป็นเหมือนโชว์บ้านผีสิงที่แค่ให้ผู้เข้าชมสามารถมีส่วนร่วมไขปริศนาไปด้วยได้เท่านั้น มันไม่ได้มีความหมายความผูกพันต่อผู้เล่นจากแก่นและเรื่องราวต้นฉบับที่ออกมาจากใจของทีมงานจริงๆ ซึ่งถ้าหากทีมงานตัดเรื่องราวของติมและเจนออกไปและทำให้เกมนี้เป็นเหมือนรวมมิตรเรื่องราวของผีแบบไทย ๆ ไปเลยมันก็อาจจะไม่ติดปัญหานี้เพราะมันทำให้การเล่าเรื่องราวของผีแต่ละตัวนี่แหละคือแก่นของเกม แต่พอมันมาทรงนี้มันเลยทำให้อารมณ์ของเกมมันครึ่ง ๆ กลา งๆ จะมีเรื่องราวของตัวเองไม่เชิง จะขายผีไทยกันมาเป็นทีมเป็นเซ็ตก็ไม่เชิง
ในทางเทคนิคนั้น สิ่งที่ผู้เขียนมองว่าเป็นปัญหาอีกข้อก็คือการที่ตัวเกมไม่มีหัวข้อ การตั้งค่า (Setting) ต่างๆเมื่อทำการเข้าหน้าเมนูขณะอยู่ภายในเกม จะทำได้ก็ต่อเมื่ออกมาหน้าเมนูเท่านั้น ซึ่งเอาเข้าจริง ๆ ก็เป็นเรื่องเล็กน้อยพอสมควรที่บางคนอาจจะไม่มีปัญหาเลยก็ได้ แต่เนื่องจากเกมเน้นบรรยากาศอย่าง HSH แบบนี้ การรักษาสมาธิของผู้เล่นเอาไว้ไม่ให้ขาดตอนนั้นค่อนข้างสำคัญ การที่ผู้เล่นจะต้องออกจากเกมไปตั้งค่าและโหลดเซฟมาต่อนั้นเป็นอะไรที่ยุ่งยากเกินจำเป็นสำหรับผู้เขียนไปหน่อย อย่างน้อยมันก็เป็นข้อขัดใจที่จดจำได้ข้อหนึ่ง
นอกนั้นตัวเกมที่เปิดวางขายในทีแรกนั้นก็ยังมีบักต่าง ๆ อยู่พอสมควร แต่ในช่วงเวลาที่ผู้เขียนได้ทำการรีวิวนั้นดูเหมือนจะมีแพตช์แก้บักทยอยออกมาแล้ว และเนื่องจากตัวเกมจะมีการอัพเดตเนื้อหาต่อ ๆ ไปอีก จึงจะขอละเอาไว้ไม่ใช่ปัญหามากเท่าไหร่ อย่างน้อย ๆ ตลอดการเล่นของผู้เขียนก็ไม่ประสบกับบักที่ส่งผลต่อการเล่นมากนัก ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของการโหลดเท็กซ์เจอร์และกราฟิกต่าง ๆ มากกว่า
Home Sweet Home 2 พาร์ทแรกยังคงเป็นโพรเจ็กต์เกมโดยคนไทยที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยานเหมือนอย่างภาคแรก ด้วยกราฟิกที่ดูสวยสมจริงเต็มไปด้วยรายละเอียด และการนำเสนอเรื่องราวของผีไทยได้อย่างสนุกสนาน เต็มไปด้วยความมั่นใจที่จะทำให้ผู้เล่นและชาวต่างชาติหันมาสนใจทั้งความเชื่อแบบไทยๆ และผู้พัฒนาเกมสัญชาติไทยอย่างเข้มข้น แต่ถึงกระนั้นตัวเกมก็ยังขาดซึ่งความละเอียดอ่อนในการออกแบบประสบการณ์ของผู้เล่น มันยังมีความครึ่ง ๆ กลาง ๆ ที่เกิดจากความด้อยของคุณภาพการเขียนบท งานออกแบบพฤติกรรมของผู้เล่น และงานพากย์ที่ฉุดรั้งตัวเกมไม่ให้โดดเด่นสู้เกมสยองขวัญอื่นๆในช่วงเวลาเดียวกันนี้อย่าง Blair Witch หรือเทียบชั้นกับเกมรุ่นพี่อย่าง Outlast หรีือ Alien Isolation ได้ แน่นอนว่าผู้เขียนไม่ได้ต้องการให้เกมมันใหญ่หรือดูสวยเท่าเกมเหล่านั้น ด้วยงบประมาณการสร้างและประสบการณ์ของทีมงานที่ต่างกันมันจึงไม่สมเหตุสมผลอยู่แล้ว แต่สิ่งเหล่านี้มันสามารถหักลบกลบหนี้กันได้ด้วยความละเอียดและงานออกแบบเกมที่เป็นเอกลักษณ์ที่ไม่จำเป็นจะต้องทำให้ทีมงานทุ่มแรงไปกับการทำภาพและบรรยากาศที่สมจริงแต่มาพร้อมกับเนื้อเรื่องและงานพากย์ที่ดันไปลดระดับของเกมลง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายไม่น้อยเลย
ทั้งนี้ทั้งนั้น ผู้เขียนก็ยังสนับสนุนให้ใครก็ตามที่สนใจเกมนี้ ลองหาซื้อมาลองเล่นดู เพราะจะดีจะร้ายยังไง HSH2 ก็เป็นดั่งหัวหอกของวงการพัฒนาเกมในไทย รวมไปถึงตัวเกมก็ยังเต็มไปด้วยความตั้งใจของทีมงานที่เต็มเปี่ยม ซึ่งมันก็มากเพียงพอต่อการสนับสนุนเพื่อเป็นกำลังใจให้แก่ทีมงานได้เดินหน้าต่อและปรับปรุงขัดเกลาฝีมือและผลงานของตนเองไปเรื่อยๆ ทางผู้เขียนเองก็จะรอเล่นพาร์ตต่อๆไปของ HSH2 และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะรวมถึงเกมฟอร์มใหญ่ต่อ ๆ ไปของ Yggdrazil Group อีกด้วย
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส