คิดว่าหลายคนคงจะพอรู้แล้วว่าเดี๋ยวนี้บอร์ดเกมกลายเป็นกิจกรรมยามว่างที่ฮอตฮิต​มากในหมู่คนรุ่นใหม่ เพราะนอกจากมันจะเล่นสนุก​ ​ช่วยฝึกรอยหยักในสมอง​ ยังเป็นกิจกรรมที่ดีสำหรับใช้นัดรวมกลุ่มเพื่อนมาเฮฮาปาร์ตี้​ ​แต่สิ่งที่น้อยคนน่าจะรู้ก็คือ​เดี๋ยวนี้บอร์ดเกมไทย​เค้าไปไกลไม่แพ้บอร์ดเกมอินเตอร์ทั้งหลายแล้วนะ​ เกมกระดานบ้านเราไม่ได้มีแค่เกมเศรษฐี​ บิงโก​ ​หรือเกมบันไดงู​​ แต่มีทั้งบอร์ดเกมประลองจริงจัง​ ​การ์ดเกมปาร์ตี้ขำ ๆ​ และเกมนอกที่ซื้อลิขสิทธิ์มาแปลเป็นภาษาไทยอีกเพียบ​ ว่าแล้วก็รวบรัดตัดความไปดูกันดีกว่าว่ามีบอร์ดเกมไทยน่าเล่นเกมไหนที่ยังไม่ผ่านตาคุณบ้าง

*เนื่องจากหลายคนอาจจะคุ้นกับการ์ดเกมชื่อดังที่ประจำอยู่ทุกร้านบอร์ดเกมคาเฟ่อย่าง​ มนุษย์หมาป่า​ (Werewolf), เกมโค่นอำนาจ​ (Coup) หรือเหมียวระเบิด​ (Exploding Kitten) อยู่แล้ว​ ดังนั้นในบทความนี้เราจะขอแนะนำเกมสนุกๆ​ ที่คุณอาจยังไม่เคยเล่นกันมั่งนะครับ​ 🙂 

2 บอร์ดเกมฝีมือคนไทย​ 100%

Reboot (โรบอร์กซ่าบ้าพลัง)​

เหมาะกับใคร: คนที่ชอบไฝ้กับเพื่อนและชอบเกมแนว​ Battle Royale หรือ​ Deathmatch

ค่าตัว: 1,450 บาท

บอร์ดเกมสนุกๆ​ เล่นง่ายๆ​ สำหรับคนที่ชอบไฝว้กับเพื่อนเอามันส์​ กฎใหญ่ของเกม​โรบอร์กซ่าบ้าพลังก็คือทำยังไงก็ได้ให้หุ่นของคุณเหลือรอดเป็นตัวสุดท้าย​ หรือถ้าจะพูดเป็นภาษาวิดีโอเกม​ Reboot​ ก็คือบอร์ดเกมแนว Battle Royale นั่นแหละ​ โดยเกมจะให้ผู้เล่นจำนวนสูงสุด​ 6 คนเลือกก่อนว่าจะเล่นเป็นทีมหรืออัดกันมั่ว​ จากนั้นก็เลือกหุ่น​ “โรบอร์ก” (คิดว่าน่าจะเป็นพันธุ์ผสมระหว่างหุ่นยนต์กับไซบอร์กมั้ง)​ ที่ชอบๆ​คนละตัว​ จะเลือกตัวไหนก็เอาที่สบายใจเลย​เพราะทุกตัวความสามารถเหมือนกันหมด​ ต่างกันแค่ความหล่อความสวย​ จากนั้นก็เลือกจุดเกิดบนบอร์ดลายตารางแล้วก็เริ่มเดินหน้าตื้บกันได้เลย​ 

ในแต่ละตาผู้เล่นจะสามารถเลือกทำอะไรก็ได้​ 3 อย่าง​ ไม่ว่าจะเป็นการเดิน การโจมตี หรือการเก็บการ์ดจากกล่องที่กระจายอยู่ทั่วฉาก​ ซึ่งการ์ดพวกนี้ก็จะทำให้โรบอร์กของคุณเก่งขึ้น​ เช่น​ การ์ดปืนเลเซอร์ก็จะช่วยให้หุ่นของคุณอัดได้แรงขึ้น​ การ์ดเกราะเหล็กก็จะช่วยให้หุ่นคุณอึดขึ้นนิดหน่อย​ และการ์ดพลังงานจะช่วยเพิ่มเลือดให้หุ่นของคุณ​ เป็นต้น​ และเมื่อใดที่คุณเดินไปจนถึงระยะ​ตีคู่ต่อสู้ก็หยิบลูกเต๋ามาทอยวัดกันได้เลย​ว่าหุ่นคุณจะตีเข้าหรือไม่​ และอัดหนักแค่ไหน​ ที่สำคัญยิ่งเวลาผ่านไป​ เกมก็จะมีเหตุภัยพิบัติเกิดขึ้นที่ขอบนอกของบอร์ดเยอะขึ้น​ และจะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ​ จนอาจทำให้โรบอร์กที่ตกอยู่ในพื้นที่นั้นเจ็บหนักได้​ บีบให้ผู้เล่นทุกคนต้องมุ่งหน้ามาที่จุดกึ่งกลางแผนที่และตัดสินให้รู้ดำรู้แดงกันไปข้างในช่วงท้ายเกม​ (เหมือน​ PUBG ไหมล่ะ)​

อีกจุดเด่นของเกม​ Reboot​ นอกจากความเล่นง่ายของมันก็คือลายเส้นการ์ตูนสีสันสดใสออกแนวกวนๆ​ ฝีมือคนไทยนี่แหละ​ นอกจากนี้ใครเป็นสายชอบเก็บหุ่นฟิกเกอร์สวยๆ​ ก็สามารถซื้อโมเดลโรบอร์กแต่ละแบบที่เค้าขายแยกมาทาสีเองได้ด้วยนะ​ ใครที่อยากหาบอร์ดเกมแนวมัลติเพลเยอร์เดธแมตช์เอาไว้เล่นกับเพื่อนกลุ่มใหญ่ก็จัดกันมาเลยครับ​ ถือว่าได้สนับสนุนงานคนไทยด้วยนะ

Super power 8

เหมาะกับใคร: คนที่อยากหาเกมไพ่เอาไว้เล่นกับแก๊งเพื่อนระหว่างทริป

ค่าตัว: 800​ บาท

เกมไพ่นับแต้มสัญชาติไทย​ 100% ที่เอาไว้เล่นล้อมวงกับเพื่อนขำ ๆ​ ก็ได้​ หรือจะเอาไว้เล่นจริงจังแบบคิดกลยุทธ์ดักล่วงหน้า​สิบห้าตลบ​ (ก็เกินไป)​ ก็ดี​ จุดเด่นของ​ Super​ Power 8​ อยู่ที่ความเล่นง่ายของเกม​ ความสั้นกระชับ​ที่สามารถเล่นจบได้ในเวลาแค่​ครึ่งชั่วโมง​ และอุปกรณ์สำหรับการเล่นที่มีแค่ไม่กี่ชิ้น ทำให้สามารถพกไปเล่นกับเพื่อนเวลาไปเที่ยวได้ง่ายๆ 

เกม Super​ Power 8​ สามารถเล่นได้ตั้งแต่ 3-6 คน อารมณ์การเล่นมีกลิ่นอายของไพ่​ Dummy หรือ​ Poker อ่อนๆ​ เพราะต้องใช้ทักษะอ่านใจคู่แข่งนิดหน่อย​ แต่ก็ไม่ได้จริงจังอะไรขนาดนั้น​ เนื่องจากเกมเติมลูกเล่นให้มีส่วนผสมของการวัดดวงเข้ามาพอสมควร​ วิธีการเล่นแบบสั้น ๆ​ ง่าย ๆ​ ได้ใจความก็คือผู้เล่นทุกคนจะมีไพ่ในมือทั้งหมด​ 8​ ใบ​ เรียงลำดับตั้งแต่เลข​ 1-8 ในทุกรอบ​ จากนั้นเกมจะให้สุ่มหยิบการ์ดแต้มออกมาจากกอง​เท่ากับจำนวนผู้เล่น​ การ์ดแต้มพวกนี้จะมีเลขคะแนนแตกต่างกันไป แน่นอนว่ายิ่งเลขคะแนนบนการ์ดสูงแค่ไหนก็ยิ่งช่วยให้ผู้เล่นคนนั้นๆ​ มีโอกาสชนะตอนจบเกมมากขึ้น​เท่านั้น​ แต่การจะตัดสินได้ว่าใครจะได้หยิบการ์ดแต้มใบไหนก่อนนั้นขึ้นอยู่กับว่าใครทิ้งการ์ดเลขสูงสุดลงมาบนโต๊ะในตานั้น​ (ทุกคนต้องนำการ์ดเลขของตัวเองลงมาหมอบไว้ก่อนแล้วเปิดพร้อมกัน)​ ผลัดกันหยิบการ์ดแต้มกันแบบนี้​ 5 ตา​ 2 รอบ​ ใครได้คะแนนรวมสูงสุดในตอนท้ายก็ชนะ​ เอวังด้วยประการฉะนี้

ฟังดูเหมือนทื่อ ๆ​ แต่จุดสนุกมันอยู่ตรงลูกเล่นป่วน ๆ​ ที่เกมเติมเข้ามานี่แหละ​ ทั้งเรื่องความสามารถการ์ดเลขแต่ละใบที่ใช้หักล้างความสามารถของการ์ดอื่นได้​ (เช่น​ การ์ดหมายเลข​ 2 จะเปลี่ยนเป็นการ์ดหมายเลข​ 8​ ทันทีเมื่อมีผู้เล่นคนอื่นส่งการ์ดหมายเลข​ 8​ ลงมา​ หรือการ์ดหมายเลข​ 1 ที่สามารถสุ่มสลับการ์ดแต้มกับผู้เล่นอีกคนได้​ เป็นต้น)​ นอกจากนี้ยังมีการ์ด​ Evil​ Event​ ที่สุ่มเงื่อนไขประหลาด ๆ​ ออกมาในแต่ละตาอีก​ ไล่ตั้งแต่สลับให้คนลงการ์ดเลขต่ำหยิบการ์ดแต้มก่อนซะงั้น​ หรือสุ่มการ์ดหมายเลขที่ผู้เล่นจะลงได้​ สุ่มการ์ดแต้มที่ผู้เล่นจะหยิบได้ นอกจากนี้ผู้เล่นยังมีปัจจัยเรื่องที่ผู้เล่นจะได้รับคะแนนโบนัสจากการเลือกการ์ดแต้มให้ตรงชุดสีอีกด้วย​ ซึ่งลูกเล่นเล็ก ๆ​ น้อย ๆ​ เหล่านี้เองที่ช่วยให้ผู้เล่นมีอะไรให้คิดมากกว่าแค่ลงการ์ดเลขสูงเพื่อแย่งการ์ดแต้มสูง​ กันอย่างเดียว

ความเพลินของ​ Super​ Power 8 คือมันทำให้ผู้เล่นแต่ละคนชั่งใจว่าจะลงการ์ดหมายสูง ๆ​ ตาไหนดี​ รวมถึงเดาใจและพยายามดักทางเพื่อนไปด้วย​ แต่สุดท้ายกลยุทธ์ที่วางมาก็มีสิทธิ์ล่มไม่เป็นท่าได้​ หากเกมสุ่มการ์ด​ Evil​ Event​ แปลก ๆ​ ออกมา​ หรือโดนความสามารถบนการ์ดของเพื่อนเล่นงาน​ ทำให้เกมนี้เล่นแล้วไม่เครียดเกินไป นอกจากนี้งานศิลป์บนการ์ดฝีมือคนไทยก็แนวดีแท้​​ ปัจจัยทั้งหลายทั้งปวงนี้ทำให้​ Super​ Power 8 เป็นเกมไพ่อีกตัวเลือกที่เอาไว้เล่นเพลิน ๆ​ กับเพื่อนแก๊งใหญ่ ๆ​​ จะได้มีเกมใหม่ ๆ​ มาแก้เบื่อบ้าง​ ไม่ต้องนั่งเล่นแต่​อีแก่กินน้ำ​ สลาฟ หรือป๊อกเด้งกินเงินกันอย่างเดียว

 

3 บอร์ดเกมแปลไทยสนุกๆ

Zombicide Black Plague เวอร์ชันภาษาไทย

เหมาะกับใคร: คนที่อยากลงดันเจี้ยนตีซอมบี้ร่วมกับเพื่อน

ค่าตัว: 3,500​ บาท

บอร์ดเกมภาษาไทยที่น่าจะมีราคาแพงที่สุดในตอนนี้แล้วล่ะ สาเหตุก็เพราะมันเป็นบอร์ดเกมแนวตะลุยดันเจี้ยนเต็มรูปแบบที่มีตัวตุ๊กตุ่นสวย ๆ​ มาให้เป็นกองพะเนิน​เทินทึก โดยเกมจะให้ผู้เล่นสูงสุดถึง​ 6 คนเลือกฮีโร่ที่ตัวเองชอบคนละตัว​ แล้วจับดาบตะลุยฝ่าดงซอมบี้ใน​ยุคมืดไปด้วยกัน​ โดยในระหว่างทางพวกเขาก็จะต้องต่อกรกับไพ่​ AI​ ที่จะส่งขบวนพาเหรดซอมบี้เข้ามาในบอร์ดแบบไม่เกรงใจผู้เล่นกันเลยทีเดียว

​จุดเด่นที่สุดของ​ Zombicide​ ก็คือความจัดหนักจัดเต็มในทุกองค์ประกอบในเกมของมันนี่แหละ​ ฮีโรแต่ละคนจะมาพร้อมกับโมเดลสวย ๆ​ ที่ไม่ซ้ำกัน​ 6 แบบ​ หุ่นซอมบี้ศัตรูก็มีอีก​ 60​ กว่าตัว​ ​ลูกเต๋าอีก​ 6 ลูก​ บอร์ดแผนที่​สองหน้าอีก​ 9​ แผ่น​ ฯลฯ​ นอกจากนี้เกมยังมาพร้อมโหมดแคมเปญให้เล่นตามเนื้อเรื่องถึง​ 10 ด่าน​ และคู่มือการเล่นหนา​ 56 หน้า! โชคยังดีที่ตอนนี้มีทีมคนไทยเขามาช่วยแปลให้อ่านเข้าใจง่ายกันหมดทั้งเล่มแล้ว​ ไม่งั้นคนที่ไม่เคยเล่นมาก่อนนี่คงต้องติววิธีเล่นกันหน้ามืดประหนึ่งจะไปสอบ IELS, TOEFL แน่นวล​ และถึงแม้จะไม่ได้แปลออกมาเลิศเลอระดับภาษานวนิยาย​ แต่จุดนี้ถือเป็นฟีเจอร์ช่วยชีวิตสำหรับเกมเมอร์ที่ไม่ค่อยถนัดภาษาปะกิด​ และการที่เนื้อเรื่องของเกมมาในรูปแบบภาษาไทยยังทำให้กรุ๊ปบอร์ดเกมของคุณอินไปกับการผจญภัยง่ายขึ้นด้วย

สำหรับคนที่กลัวความ​ “เยอะ” ของ​ Zombicide​ Black Plague ก็อย่าได้กังวลไป เพราะถึงเกมจะดู​เยอะแยะยุ่บยั่บแต่พอเล่นจริง​ ๆ​ แล้วก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากมายอะไรขนาดนั้น​ เลือกแอ็กชันที่จะทำ​ เดิน​ ตีซอมบี้​ เก็บของ​ วนไปเรื่อย ๆ​ จัดกันแบบนี้แค่ด่านสองด่านก็น่าจะเล่นกันได้เพลิน ๆ​ แล้ว​ ​ที่สำคัญเกมยังเน้นให้ผู้เล่นสุมหัวช่วยกันทำภารกิจให้สำเร็จมากกว่าการไล่ฟันซอมบี้ไปวัน ๆ​ และเกมก็ยังมีความลุ่มลึกอยู่พอสมควรจากระบบอัปเกรดตัวละครและการเก็บไอเทมในฉากมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด​ ใครที่อยากได้บอร์ดเกมแนวผจญภัยสำหรับใช้เล่นกับกลุ่มเพื่อนแบบยาว ๆ​ (เป็นเดือน)​ ก็จัดไปเลยอย่าให้เสีย​ แต่ซื้อมาแล้วก็อย่าลืมหากลุ่มเพื่อนที่เหนียวแน่นจนสามารถชวนมาเล่นบอร์ดเกมด้วยกันได้บ่อย ๆ​ นะ​ ไม่งั้นเล่นเป็นปีก็คงไม่จบหรอกจ้ะ

 

Pandemic​ (เกมโรคระบาด)​

เหมาะกับใคร: คนที่ชอบเกมวางแผนเน้นกลยุทธ์แบบช่วยกันเล่น

ค่าตัว: 1,500​ บาท

บอร์ดเกมแบบช่วยกันเล่นที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในบอร์ดเกมที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา​ ทั้งจากคอมมูนิตี้ผู้เล่นและสื่อสารพัดสำนักทั่วโลก​ เพราะ​ Pandemic​มีทั้งระบบการเล่นที่แน่นปึ้ก​ เรียบง่ายแต่ลุ่มลึก​ ​ท้าทายแต่ไม่ยากแบบไร้เหตุผล​ ที่สำคัญกฎของเกมยังเข้าใจได้ง่ายจนน่าแปลกใจ​ ทั้งหลายทั้งปวงนี้ล้วนดีขึ้นกว่าเดิมเมื่อเกมมีเวอร์ชันไทยออกมาช่วยทลายกำแพงภาษา​ ช่วยให้เกมเมอร์ไทยเข้าถึงเรื่องราวการยับยั้งโรคระบาดในครั้งนี้ได้ง่ายขึ้นอีก

เกมโรคระบาดจะให้ผู้เล่นสูงสุดจำนวน​ 4 คนต่อกรกับโรคร้ายสายพันธุ์ใหม่ที่กำลังแพร่กระจายไปทั่วโลก​ผู้เล่นจะต้องรวบรวมการ์ดโรคร้ายสีต่าง ๆ​ ให้ครบตามจำนวน​ที่กำหนด (ด้วยการหยิบคนละใบจากกองกลางทุกตา)​ แล้วนำมาสร้างวัคซีนรักษาโรคทั้ง​ 4 แบบออกมาให้ทันก่อนที่โรคสีใดสีหนึ่งจะระบาดจนหมดกอง​ หรือก่อนที่ความรุนแรงของโรคระบาดทั่วโลกจะทะลุระดับที่มนุษยชาติจะรับไหว​ ในระหว่างนั้นกองการ์ด​ AI​ ก็จะสุ่มโรคระบาดออกมาตามประเทศต่าง ๆ​ ซึ่งในระหว่างนี้ผู้เล่นก็ต้องหาทางไปกักกันโรค​ประหนึ่งการถ่วงเวลาเอาไว้จนกว่าจะผลิตวัคซีนออกมาได้ แต่ถ้าแจ็คพ็อตสุ่มได้การ์ดระบาดหนัก​ (Epidemic)​ ออกมาเมื่อไหร่​ ความร้ายแรงของวิกฤติทั่วโลกก็จะเพิ่มเป็นทวีคูณ​ (เช่นเดียวกับความปวดหัวในการเล่น)​ ​ผู้เล่นจะมีแต้มต่อตรงที่ตัวละครที่มีให้เลือกแต่ละตัวต่างมีความสามารถในการรับมือโรคแตกต่างกันไป​ เช่น​ นักวิจัยโรค​จะสามารถใช้การ์ดโรคร้ายจำนวนน้อยกว่าชาวบ้านเพื่อสร้างวัคซีน​ ทหารเสนารักษ์ก็จะมีจำนวนแอ็กชันในแต่ละตาเยอะกว่าคนอื่น​ เป็นต้น​ แต่สิ่งที่ไม่ต่างกันก็คือทุกคนจะต้องแข่งกับเวลาไปด้วยกันและใช้ทุกรอยหยักในสมองเพื่อขบคิดกลยุทธ์เอาชนะเกมให้จงได้

จุดเด่นที่สุดของเกมโรคระบาดน่าจะเป็นการที่มันแทบไม่มีปัจจัย​เรื่องการเสี่ยงดวงใด ๆ​ อยู่ในเกมเลย​ ดังนั้นคุณและผองเพื่อนจะไม่สามารถโทษได่ว่าที่แพ้วันนี้เป็นเพราะดวงทอยเต๋าไม่ได้เรื่อง​ หรือหยิบได้แต่ไพ่ห่วยๆ​​​ 90% ของผลแพ้ชนะในเกมนี้ขึ้นอยู่กับว่าผู้เล่นตัดสินใจได้ถูกที่ถูกเวลาและ​รู้จักบริหารความเสี่ยงได้ดีแค่ไหน​ จริงอยู่ที่การที่ระบบเกมแน่นปึ้ก​ No​ Bullshit ขนาดนี้อาจทำให้เวลาเล่นเกมค่อนข้างเครียดและไม่ค่อยมีช่วงฮา ๆ​ แบบบอร์ดเกมตัวอื่น​​ แต่ความรู้สึกเวลาเอาชนะโรคระบาดได้เพราะความสามารถของกลุ่มเราล้วน ๆ​ มันก็ฟินอย่าบอกใครเชียวล่ะ​ สำหรับใครที่อยากหาบอร์ดเกมท้าทายที่ช่วยเพิ่มรอยหยักในสมอง​ ลองชวนเพื่อน ๆ​ สู้กับโรคระบาดในนัดครั้งถัดไปดูสิครับ​ ได้ความสนุกแบบหน้านิ่วคิ้วขมวดกันถ้วนหน้าแน่นอน

 

King of Tokyo ราชันแห่งโตเกียว

เหมาะกับใคร: คนที่อยากได่ปาร์ตี้เกมมันส์ๆ​ แบบเด็กเล่นได้​ ผู้ใหญ่เล่นดี

ค่าตัว: 1,450 บาท

ถ้าเกมโรคระบาดเป็นบอร์ดเกมสุดสมดุลที่ระบบแน่นปึ้ก​ ราชันย์แห่งโตเกียวก็คงเป็นเกมขั้วตรงข้ามที่เน้นดวงเป็นหลัก​ กลยุทธ์เป็นรอง​ เอาไว้ให้คุณกับเดอะแก๊งเล่นขำ ๆ​ เพื่อพักหัว​และสบถใส่กันเอามันส์​​ ประหนึ่งนั่งดูหนังก็อดซิลล่าสู้กับสัตว์ประหลาดยักษ์จนบ้านเมืองพังราบคาบฆ่าเวลา​ โดยคุณและเพื่อน ๆ​ จำนวน​ 2-6 คนนี่แหละที่จะได้สวมบทเป็นไคจูแล้วทอยลูกเต๋ากัดกันให้หมอบกันไปข้าง

วิธีเล่นเกมนี้ก็ทั้งง่ายทั้งตรงไปตรงมา​ หยิบสัตว์ประหลาดยักษ์ที่ชอบ ๆ​ กันขึ้นมาคนละ​ 1 ตัว​ จากทั้งหมด​ 6 ตัว​ (แต่ละตัวนี่ก็มาแบบสูตรสำเร็จเลย​ ทั้งกิ้งก่ายักษ์​ กอริลล่าไซส์เป้ง​ มังกรไซบอร์ก​ เพนกวิ้นควงปืนคู่​ (???)) จากนั้นก็ทอยเต๋า​ เปลี่ยนหน้าเต๋า​ แล้วอัดมั่วใส่กันโลด​ ไคจูผู้ชนะคือตัวที่สามารถยืนหยัดอยู่ได้เป็นตัวสุดท้าย​ หรือตัวที่มีเก็บดาวได้มากพอจนได้รับสมญานาม​ว่า “ราชันแห่งโตเกียว” ​ แผนที่ในเกมจะถูกแบ่งออกเป็นสองโซนใหญ่ ๆ​ ได้แก่​ นครโตเกียวและอ่าวโตเกียว​ เป้าหมายของสัตว์ประหลาดทุกตัวคือเข้าไปยืนผงาดอยู่กลางนครโตเกียวให้ได้นานที่สุด​ เพราะจะทำให้สัตว์ประหลาดตัวนั้นได้ดาวและเข้าใกล้ชัยชนะมากขึ้น​ นอกจากนี้เมื่อสัตว์ยักษ์ของคุณอยู่ในโตเกียว​ การทอยเต๋าโจมตีจะทำให้คุณโจมตีโดนสัตว์ประหลาดทุกตัวที่ยืนออกันอยู่กลางอ่าว​ แต่ราคาที่ต้องจ่ายก็คือคุณจะโดนสัตว์ประหลาดตัวอื่นทุกตัวรุมตื้บอยู่ตัวเดียวเช่นกัน​ นอกจากการทอยลูกเต๋าตีกันไปตีกันมา เกมจะให้คุณเก็บสัญลักษณ์หัวใจจากหน้าเต๋ามาใช้ฟื้นฟูพลังชีวิต​และเก็บสัญลักษณ์สายฟ้าเอาไว้ซื้อการ์ดความสามารถพิเศษให้ไคจูของตัวเองปล่อยพลังพิเศษได้ด้วย​​ ซึ่งก็ช่วยเพิ่มสีสันให้การเล่นให้เฮฮาขึ้นอีกได้

สรุปสั้น ๆ​ ราชันย์แห่งโตเกียวก็คือปาร์ตี้เกม​วัดดวง​ ให้อารมณ์เหมือนคุณและเพื่อนได้เป็นก็อดซิลล่ามากัดกันกลางโตเกียว​ จุดเด่นของมันก็คือกฎการเล่นที่เรียบง่ายมากๆ​ ​ซึ่ง​การที่เกมได้รับการแปลเป็นภาษาไทยด้วยยิ่งทำให้มันเล่นง่ายขึ้นอีก​ ทั้งนี้การที่เกมหนึ่งสามารถใช้เวลาเล่นสั้น ๆ​ กัน​แค่ครึ่งชั่วโมง​ยิ่งทำให้มันเหมาะที่จะใช้เล่นกับเพื่อนก็ได้​ หรือเล่นกับลูกหลานเหลนโหลนก็ดี​ ถึงแม้เกมจะไม่ได้มีความลุ่มลึกอะไรแต่ถ้ากะเล่นเอามันส์นี่สัตว์ประหลาดพูดไทยตัวนี้กินขาดครับผม

 

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส