[REVIEW] Pandemic Legacy Season 1 ไล่กำราบโรคร้ายทั่วโลกในทีวีซีรีส์ เอ้ย บอร์ดเกมสุดมันส์
Our score
9.0

Pandemic Legacy Season 1

จุดเด่น

  1. ระบบเกมแน่นปึ้ก เข้าใจง่ายแต่เล่นไม่ง่าย
  2. ประสบการณ์และเนื้อเรื่องที่ไม่ซ้ำใคร
  3. ผลแพ้ชนะขึ้นอยู่กับฝีมือและการวางแผนของผู้เล่นเป็นหลัก
  4. เอาชนะได้แต่ละทีช่างเป็นอะไรที่ฟินยิ่งนัก

จุดสังเกต

  1. เล่นนานๆ แล้วเครียดดดด
  2. ด่านหลังๆ เริ่มซ้ำซาก
  3. ความติสต์ของระบบที่ทำให้เล่นยาวๆ ได้รอบเดียวแล้วจบกัน
  • Gameplay

    9.5

  • Presentation

    8.0

  • Fun factor

    9.5

  • Depth

    10.0

  • Value

    8.0

ในช่วงที่ไวรัสโคโรนา COVID-19 กำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลก สิ่งหนึ่งที่เกมเมอร์สามารถทำได้​ (นอกจากใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ ส่งกำลังใจให้จีนและเจ้าหน้าที่แพทย์​ ฯลฯ)​ ก็คือการไล่กำราบโรคระบาดด้วยมือตัวเอง! ในเกมนะจ๊ะไม่ใช่ในชีวิตจริง​ ซึ่งแทนที่จะเราแห่ไปนั่งเล่นเกมแบบ Plague Inc. อยู่คนเดียวบนพีซี​ (แถมเกมนั้นให้เราเล่นเป็นเชื้อโรคอีก ช่วงนี้มันต้องมาไล่ฆ่าเชื้อโรคสิ จะไปเป็นพวกเดียวกับมันทำไหม) ทำไมเราไม่มาสุมหัวขจัดโรคร้ายทั่วโลกไปพร้อมกับเพื่อน ๆ ในบอร์ดเกมระดับตำนานอย่าง “Pandemic” หรือเกมโรคระบาดกันล่ะ?

ถึงเวลาที่เกมเมอร์จะต้องจับมือสู้โรคระบาดกันแล้ว!

แต่จะให้เล่นเวอร์ชันธรรมดาแบบจบในตาเดียวมันสมศักดิ์ศรีเกมเมอร์ฮาร์ดคอร์อย่างเราที่ไหน มันต้องลองเวอร์ชันยาก ๆ เล่นแล้วหัวร้อน แถมมีเนื้อเรื่องยาว ๆ ให้เซอร์ไพรส์กันตลอดเกม ให้อารมณ์เหมือนได้นั่งดูทีวีซีรีส์สิ! ใครคิดแบบนั้นเหมือนกันก็ขอเชิญพบกับเรื่องราวการปราบมหันตภัยโรคระบาดร้ายในบอร์ดเกม Pandemic Legacy Season 1 กันเลยดีกว่า ถึงเวลาจับมือสู้โรคไปพร้อมกับผองเพื่อนแล้ว

นี่แหละนิยามของบอร์ดเกมที่ “เล่นง่าย” แต่ “เล่นชนะ” ไม่ง่าย

ปะทะโรคระบาดด้วยระบบเกมสุดแน่นปึ้ก

พูดถึงบอร์ดเกม​ คนส่วนใหญ่ก็มักจะนึกถึงการทอยเต๋าหรือการจั่วการ์ดพลังมาไฝว้กันใช่มะ​ แต่​ Pandemic​ Legacy Season 1​ ไม่มีอะไรแบบนั้นเลยจ้า​ วิธีเล่นของมันต่างออกไปจากบอร์ดเกมอื่น ๆ​ อย่างสิ้นเชิง​ เนื่องจากเกมต้องการลดทุกองค์ประกอบที่อาจทำให้ดวงมีผลมากกว่าฝีมือของผู้เล่น​​ แต่​ในขณะเดียวกันก็ยังคงเก็บปัจจัยของความคาดเดาไม่ได้เอาไว้พอกล้อมแกล้ม​ เพื่อให้ผู้เล่นยังได้ลุ้นกันตัวโก่งตลอดเวลา​ เรียกได้ว่าเกมนี้เป็นเกมที่มีความแฟร์แก่ผู้เล่นและยังมีความท้าทายแบบจัดหนักจัดเต็มซะด้วย

ตัวละครแต่ละตัวจะมีความสามารถพิเศษเด็ดๆ ไม่ซ้ำกันสำหรับใช้ต่อกรกับโรคระบาด

ในเกม​ Pandemic​ ผู้เล่นจำนวน​ 2-4 คนจะได้เลือกตัวละครของตนเอง​ซึ่งแทนด้วยหมากสีต่าง ๆ ออกเดินทางไปทั่วโลก​ในภารกิจช่วยกัน (Co-op) ปราบโรคร้ายหลายชนิดที่กำลังแพร่ระบาดไปทุกหนทุกแห่ง​ ซึ่งปกติแล้วในแต่ละตาผู้เล่นจะสามารถเลือกทำอะไรก็ได้​ 4 อย่าง​เช่น​ เดินทางข้ามประเทศ​ รักษาโรคระบาด​ (ด้วยการหยิบเม็ดสีของโรค​ ออกจากประเทศนั้นๆ)​ คิดค้นวัคซีนรักษาโรค​​ เป็นต้น​ เป้าหมายหลักของทุกคนคือพยายามช่วยกันคิดค้นยารักษาโรคให้ทันเวลา​ ด้วยการจั่ว​ หา​ หรือแลกไพ่สีเดียวกับโรคนั้นให้ครบ​ 5 ใบ​ ขณะเดียวกันก็ต้องพยายามควบคุมโรคร้ายไม่ให้ระดับการระบาดเข้าขั้นวิกฤติจนประชากรโลกเกินจะทนไหว​ ซึ่งในทุกตาที่ผู้เล่นคนหนึ่งเล่นจบ​ เกมจะบังคับให้จั่วไพ่โรคระบาดที่จะระบุว่างานกำลังจะเข้าประเทศไหน​ และถ้าผู้เล่นมือดีคนไหนจั่วได้การ์ด​ “EPIDEMIC” สีเขียวๆ​ ขึ้นมา​ระดับความระบาดของโรคก็จะพุ่งขึ้นเป็นทวีคูณ​ หากโป๊ะแตกไปตรงกับประเทศไหนที่กำลังมีโรคระบาดหนักอยู่แล้ว​ ระดับความวิกฤติของสถานการณ์โลกก็จะรุนแรงขึ้นอีกขั้น​ และเชื้อดังกล่าวก็จะแพร่กระจายไปประเทศเพื่อนบ้านด้วย​ ซึ่งเชื่อเถอะว่าคุณและแก๊งไม่ต้องการอะไรแบบนั้นแน่

อย่างไรก็ตาม​ ตัวละครแต่ละตัวที่ผู้เล่นเลือกมาก็จะมีความสามารถพิเศษเฉพาะซึ่งสามารถใช้รับมือสถานการณ์คับขันได้​ อาทิเช่น​ นักวิจัยคนนี้อาจจะใช้ไพ่แค่​ 4 ใบในการคินค้นวัคซีนรักษาโรค​ เสนารักษ์คนนี้สามารถรักษาเม็ดโรคได้ทีเดียว​หมดทุกเม็ด​ เจ้าหน้าที่สื่อสารคนนั้นสามารถสั่งให้เพื่อนทำอะไรก็ได้​ 1 อย่างแทนตัวเอง​ เป็นต้น

ไม่ว่าจะรักษายังไงโรคร้ายก็จะผุดขึ้นมาราวกับอกเห็ด สิ่งที่คุณทำได้มีแค่ปฏิบัติภารกิจให้เสร็จก่อนที่เวลาจะหมดเท่านั้น

ปัญหามันอยู่ที่ว่าเชื้อโรคห่านพวกนี้มันผุดขึ้นมาไม่หยุดพร้อมกันทีละหลาย ๆ​ ประเทศ​​ ดังนั้นผู้เล่นจึงต้องวางแผนกระจายตัวกันออกไปทำงานอย่างชาญฉลาด​ เพื่อซื้อเวลาให้ได้นานพอที่จะหาวัคซีนปราบโรคให้ทันและคว้าชัยในแต่ละเกม (ก่อนที่ไพ่ที่แต่ละคนต้องจั่วขึ้นมาจะหมดกอง หรือระดับการระบาดทั่วโลกจะวินาศเละเทะเกินเกณฑ์ที่กำหนด) ซึ่งต้องขอชมทีมออกแบบเกมนี้จากใจเลยที่สามารถทำให้กฎของเกมเข้าใจง่าย ตรงไปตรงมา ในขณะเดียวกันก็มีความลุ่มลึกและความท้าทายแฝงอยู่อย่างชัดเจน 

แต่แค่นี้ยังไม่จบ… ​ เพราะอย่าลืมว่าเกมนี้มีชื่อภาค​ “Legacy Season 1” ห้อยอยู่ด้วย​ ซึ่งมันช่วยเปลี่ยนเกมโรคระบาดธรรมดา​ให้กลายเป็นซีรีส์เรื่องราวสู้โรคระบาดสุดเข้มข้น​ เต็มไปด้วยจุดหักมุมมากมายให้สนุกสนานปนระทึกกันแบบยาว ๆ เลยล่ะ

มีอะไรซ่อนอยู่ในการ์ดที่เรายังไม่ได้แกะกันน้าาา

เปิดซีรีส์โรคระบาดบทใหม่ที่คุณ (และเพื่อน) คือผู้กำหนด

ทันทีที่คุณและผองเพื่อนเล่นจบ​ 1 เกม​ ไม่ว่าผลจะออกมาแพ้หรือชนะ​ เกมก็จะให้คุณเดินหน้าต่อไป​ (โดยระดับความยากง่ายของเกมก็จะปรับขึ้นลงตามไปด้วย​)​ คุณและผองเพื่อนจะมีเวลาทั้งหมด​ 12​ เดือนตามเนื้อเรื่องในเกมเพื่อหาต้นตอของเหตุการณ์ระบาดร้ายแรงที่กำลังอุบัติขึ้นทั่วโลก​ หากเดือนไหนเล่นชนะ​ คุณก็จะได้ข้ามไปเล่นในเดือนถัดไปเลย​  แต่ถ้าเดือนไหนแพ้​ เกมก็จะให้คุณเล่นแก้มืออีกซักรอบ​ นั่นหมายความว่าภาค​ Legacy Season 1 จะมีความยาวทั้งหมดประมาณ​ 12-24​ เกม​ (แต่ละเกมยาวประมาณชั่วโมงครึ่ง)​ แล้วแต่ฝีมือของผู้เล่น​ ​ซึ่งความสนุกที่ไม่แพ้กับการลงไปไล่ขจัดโรคระบาดในบอร์ดก็คือช่วงคั่นระหว่างเกมนี่แหละ​ เพราะมันจะมีเหตุการณ์ต่าง ๆ​ เกิดขึ้นมากมาย​ให้ผู้เล่นได้อ่าน​ แกะ​ แปะ​สติกเกอร์ลงในเกมบอร์ดอย่างสนุกสนาน​ แถมบางครั้งมันยังเปลี่ยนวิธีการเล่นเกมไปอย่างถาวรเลยด้วย

สิ่งที่เกมโรคระบาดภาคธรรมดาไม่มีก็คือกล่องเล็กกล่องน้อยที่ให้คุณแกะมาเจอของใหมเรื่อยๆ นี่แหละ

ภายในกล่องของ​​ Pandemic​ Legacy Season 1 จะมีของกล่องเล็กกล่องน้อยเรียงรายอยู่มากมาย​ ยั่วให้ผู้เล่นอยากแกะมาดูว่ามันใส่อะไรอยู่ข้างใน​ ซึ่งหนังสือคู่มือเกมและการ์ดเนื้อเรื่องใบใหม่ๆ​ ที่ผู้เล่นได้มาจะคอยบอกเงื่อนไขให้ทราบว่าต้องแกะกล่องไหนออกมาใช้เมื่อไหร่​ บางกล่องก็จะเปิดเหตุการณ์สำคัญ​ให้เส้นเรื่องเข้มข้นขึ้น​ บางกล่องก็จะเผยถึงภารกิจใหม่​ และบางกล่องก็จะเผยถึงวิกฤติครั้งใหม่ที่จะทำให้กลุ่มของคุณอุทานพร้อมกันว่า​ “นี่เกมมันยังยากไม่พออีกเรอะฟระ!?” ข้อดีของระบบนี้ก็คือมันทำให้เกมเปลี่ยนแปลงไปมาตลอดเวลา​ และยังทำให้ทุกคนอยากเล่นต่อไปเรื่อยๆ

ระบบเซฟเกมแบบของแท้และดั้งเดิม สมุดกับปากกาจร้า

นอกจากนี้​ Pandemic Legacy ยังมีส่วนผสมของเกม​ RPG​ เข้ามาปะปนอยู่ด้วย​ โดยในระหว่างเกม​ คุณและเพื่อนจะได้อัปเกรดความสามารถให้ตัวละคร​ เลือกตัวช่วยใหม่ ๆ​ ที่ทำให้คุณสู้กับโรคร้ายได้สะดวกขึ้น​ หรือเปลี่ยนเอาตัวละครหน้าใหม่มาเล่นเลยก็ยังได้​ แต่ที่สนุกไปกว่านั้นคือเกมจะให้ผู้เล่นได้แปะสติกเกอร์ลงไปในบอร์ดรวมทั้งฉีกการ์ดบางใบทิ้งไปเลย​ ซึ่งนอกจากการสนองความมันส์สะใจส่วนตัว​ มันยังเปลี่ยนสไตล์การเล่นในเกมถัดไปไปตลอดกาล​ แถมการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ขึ้นอยู่กับผลงานการเล่นของกลุ่มคุณเป็นหลัก​ ไม่ได้วางตายตัวมาแต่แรก​ นั่นหมายความว่าเกม​ Pandemic​ Legacy Season 1 กล่องที่คุณซื้อมาจะมอบประสบการณ์การเล่นให้กับกลุ่มของคุณแบบที่ไม่ไม่มีทางซ้ำกับชาวบ้าน! 

เหนื่อยแล้วนะ… แกะยังไงก็ไม่หมดซะที

ระบาดซ้ำ ๆ​ ซาก ๆ​ ทีเดียวจบ! 

ระบบ​เกมที่ให้ผู้เล่นแกะไป​ แปะไป​ ฉีกไป​ ถือเป็นหนึ่งในจุดเด่นที่สุดของเกมนี้ เพราะมันทำให้เกมมีสีสันและทำให้คุณอยากให้โจ้กันต่อไปไม่หยุด อย่างไรก็ตาม​ ระบบที่ว่านี้ก็เป็นดั่งดาบสองคม​ เพราะการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นบนบอร์ดส่วนใหญ่คือการเปลี่ยนแปลงถาวร​ หมายความว่าคุณสามารถเล่น​ Pandemic​ Legacy Season 1 ได้เพียงรอบเดียวเท่านั้น! (แต่กว่าจะเล่นจบรอบนึงก็กินเวลาหลายเดือนอะนะ)​ แม้แต่การเอาบอร์ดมาเล่นเป็นเกมโรคระบาดแบบธรรมดา​ก็ยังทำได้ยากเลย​ เพราะมันจะมีองค์ประกอบบางอย่างในเกมที่ขาด ๆ​ เกิน ๆ​ ไปแล้ว​​ ดังนั้นสายคุ้มที่ต้องการบอร์ดเกมแบบที่หยิบมาเล่นเมื่อไหร่ก็ได้​อาจจะไม่เหมาะกับเกมนี้เท่าไหร่

ทุกครั้งที่ “งานเข้า” ประเทศไหน คุณก็จะได้เอา “สติ๊กเกอร์” พวกนี้มาแปะเข้าไปบนบอร์ด ซึ่งมันจะเปลี่ยนวิธีการเล่นเกมต่อจากนี้ไปด้วย

นอกจากนี้​ ถึงแม้เกมจะมีของเล่นใหม่โผล่มาให้เล่นเรื่อย ๆ​ เกือบทุกเกม​ แต่การเปลี่ยนแปลงที่มันเติมเข้ามานั้นออกแนวสีสันที่ทำให้เกมสนุกขึ้นมากกว่าการพลิกวิธีเล่นเกมจากหน้ามือเป็นหลังมือ​ บางทีคุณอาจจะมีงานใหม่ให้ทำอย่างการสร้างสถาบันวิจัยโรคเพิ่ม​ ตามหาบุคลากรทางการแพทย์ให้เจอ​ หรือปิดเมืองคุมโรคให้ได้มากพอ​ ฯลฯ​ แต่สุดท้ายสิ่งที่คุณต้องทำในแต่ละเกม​ก็ยังเหมือนเดิม​ นั่นก็คือการกระจายตัวออกไปควบคุมโรคระบาดเพื่อถ่วงเวลาให้ทุกคนทำภารกิจให้สำเร็จก่อนที่โลกจะระเบิดบึ้มเป็นโกโก้ครันช์

จำไว้ให้ดีนะเด็กๆ จั่วได้การ์ดสีเขียวๆ แบบนี้ขึ้นมาคือ “งานเข้า” นะจ๊ะ

อีกจุดหนึ่งที่อาจเป็นปัญหาสำหรับผู้เล่นสายบันเทิงก็คือเกมนี้ค่อนข้างท้าทายและทุกคนต้องใช้เซลล์สมองให้ครบแสนล้านเซลล์จึงจะสามารถพิชิตเกมได้ (โดยเฉพาะเกมหลัง ๆ​ ที่โหดเอาการ) เมื่อบวกกับการที่มันไม่มีระบบทอยเต๋าหรือจั่วการ์ดเอามันส์ ทำให้การเล่นเกมนี้ติดกันนาน ๆ แล้วเครียดชิบเป๋ง ยิ่งถ้าวันไหนเล่นแพ้ติดต่อกันนี่ได้หัวร้อนระอุกันทั้งกลุ่มแน่นวล​ นอกจากนี้ภาค​ Legacy​ ยังไม่มีการแปลเป็นภาษาไทย​ ถึงแม้ข้อความภาษาอังกฤษในเกมนี้จะเข้าใจง่ายและตรงไปตรงมา​ แต่ใครที่ไม่ถนัดภาษาฝรั่งจริง ๆ​ ก็อาจจะมีตะกุกตะกักระหว่างเล่นได้

ครั้งหนึ่งแก๊งเราเคยช่วยกันสู้โรคระบาดจนชนะมาแล้วนะ… ถึงแม้จะมีช่วงล้มลุกคลุกคลานกันบ้างก็เหอะ

เรื่องราวการสู้โรคระบาดที่คุณและเพื่อน ๆ จะจดจำไปอีกนาน

จริงอยู่ที่บอร์ดเกมนี้มีจุดอ่อนอยู่บ้างตรงความซ้ำซากและเล่นนาน ๆ แล้วเครียด แต่เรื่องเล็ก ๆ​ น้อย ๆ​ เหล่านี้ก็ไม่สามารถบดบังรัศมีของระบบเกมที่แน่นปึ้กและระบบซีรีส์เนื้อเรื่องที่ลุ่มลึกได้เลย ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกมแต่ละกล่องสามารถมอบประสบการณ์การเล่นให้กับผู้เล่นแต่ละกลุ่มแบบไม่ซ้ำใครยิ่งทำให้มันมีความพิเศษมากขึ้น​ 

กาลครั้งหนึ่ง… แก๊งพวกเราก็เคยร่วมกันสู้กับโรคร้ายจนชนะมันได้นะ…

Pandemic​ Legacy​ Season 1 (โอย​ ชื่อยาวจริ ง)​ จะทำให้ทั้งคุณและเพื่อน​ “จดจำ” ได้ว่า​ ครั้งหนึ่ง… ก๊วนเราเคยร่วมมือกันต่อกรโรคร้ายจนเอาชนะได้อย่างฉิวเฉียดในตอนท้ายเดือน​ หรือจำแม่นว่าทั้งกลุ่มโดนโรคร้ายสารพัดถล่มเละเทะจนโลกแทบแตก​​ ซึ่งนั่นคือจุดเด่นที่พิเศษที่สุดที่เกมเกมหนึ่งจะสามารถทำให้ผู้เล่นได้แล้ว​ แถมเกมเกมนี้ยังสามารถมอบประสบการณ์ที่น่าจดจำแบบนี้ให้กับคุณและแก๊งได้หลายครั้งซะด้วย​ 

ขอแค่คุณมีกลุ่มเพื่อนที่พร้อมจะเล่นบอร์ดเกมไปด้วยกันยาว ๆ​ และไม่ยั่นหากจะเจอความยากบ้างอะไรบ้าง​ คุณจะพบว่าการร่วมมือร่วมใจกันสู้โรคระบาดในซีรี่ส์เรื่องนี้สนุกไม่ซ้ำใครเชียวล่ะ

 

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส