Release Date
31/03/2020
แพลตฟอร์ม
PlayStation 4
แนวเกม
Role-playing, social simulation
ผู้พัฒนา
P-Studio, Atlus
Our score
9.9[REVIEW] Persona 5 Royal หนึ่งในเกม JRPG ที่ดีที่สุด “น้ำพริกถ้วยเก่า ที่หยิบมาทำให้อร่อยกว่าเดิม”
เตรียมตัวโดนเหล่า Phantom Thieves ขโมยหัวใจอีกครั้งได้เลย!
จุดเด่น
- เกมเพลย์ที่เร้าใจ แม้จะเป็นเกมแบบ Turn-Based
- ระบบของเกมอันยอดเยี่ยม จนคุณอาจจะลืมดูนาฬิกาในโลกความเป็นจริงไปสักพักนึง
- เนื้อเรื่องที่ไฮป์ได้ตลอดเวลาตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง
- เพลงประกอบอันยอดเยี่ยม
- ความละเอียดของตัวเกมจะทำให้คุณต้องทึ่ง
จุดสังเกต
- เนื้อเรื่องใหม่เพิ่มเติมค่อนข้างสั้นไปหน่อย รวมถึงการแทรกแซงระหว่างเนื้อเรื่องใหม่ และเก่า ไม่ค่อยมีผลอะไรเท่าไหร่ (เนื้อเรื่องใหม่สั้นไป ยังไม่จุใจเลย!)
- ระยะเวลาในการเคลียร์เกมนั้นยาวมาก คุณจะต้องเสียเวลามากกว่า 100 ชั่วโมงเพื่อเคลียร์เกมนี้
-
เกมเพลย์ และระบบของเกม (Gameplay / System)
10.0
-
เนื้อเรื่อง (Story)
9.5
-
การนำเสนอ (Presentation)
10.0
-
กราฟฟิก (Graphic)
10.0
-
เนื้อหาของเกม (Content)
10.0
-
เพลงประกอบ (Soundtrack)
10.0
Persona 5 The Royal เป็นส่วนหนึ่งของแฟรนไชส์ Megami Tensei จากผู้พัฒนา Atlus ที่เรียกกันว่าเป็นหนึ่งในเกม JPRG (และจีบสาว) ที่ดีที่สุดเกมหนึ่งเลยก็ว่าได้ แถมเป็นแฟรนไชส์ที่อยู่กับเกมเมอร์มายาวนานถึง 20 ปีแล้วด้วย! ด้วยสไตล์เกมเพลย์แบบ Turn Based, ระบบบริหารเวลาในแต่ละวัน, รายละเอียดเกมเพลย์ที่ละเอียด, เนื้อเรื่องที่ทำออกมาได้ดีมาก ๆ และความเป็น JRPG จ๋า หลังจากเราเล่นเกมนี้มาอย่างหนักหน่วง วันนี้ #beartai จะรีวิวเกมนี้อย่างละเอียดให้อ่านกัน จะได้ตัดสินใจกันได้ว่าจะซื้อเกมนี้เล่นดีไหม หรือใครที่เคยเล่นภาค 5 มาแล้ว จะซื้อเป็นภาค Royal มาเล่นดีไหม มาหาคำตอบกันเลย!
Story
เนื้อเรื่องยังคงเค้าโครงเดิมจากภาคปกติอย่าง Persona 5 ซึ่งเป็นเนื้อเรื่องเกี่ยวกับกลุ่มเด็กนักเรียนชั้นเรียนมัธยมปลาย ที่อยู่ ๆ ก็ถูกรับเลือกให้สามารถใช้พลัง Persona ในอีกโลก หรือ Metaverse ได้ ซึ่งพลังของ Persona จะแสดงออกถึงความเป็นตัวเองของผู้ใช้งาน ที่สามารถนำมาปราบเหล่า Shadow ในโลกของ Metaverse ได้
โดยเราได้รับบทเป็นพระเอก หรือ Joker (ตัวเกมให้เราตั้งชื่อพระเอกเอง แต่หากอิงตามอนิเมะ พระเอกจะใช้ชื่อว่า Ren Amamiya ส่วนในมังงะจะใช้ชื่อว่า Akira Kurusu) เป็นเด็กวัยรุ่นต่างเมือง ที่โดนใส่ร้ายหลังจากเข้าไปช่วยหญิงสาวจากชายปริศนาคนหนึ่งที่กำลังทำร้ายหญิงสาวคนนั้น จึงทำให้มีคดีติดตัว และถูกย้ายมาอีกเมือง และโรงเรียนใหม่เพื่ออยู่ภายใต้การดูแลเป็นพิเศษโดยคุณลุง Sojiro Sakura ที่ได้รับว่าจ้างจากผู้ปกครองของพระเอกให้เลี้ยงดูแทนนั่นเอง
หลังจากพระเอกได้ถูกรับเลือกให้เป็นผู้ใช้งาน Persona เหล่าคนรอบข้างที่เป็นเพื่อนของพระเอกก็สามารถใช้ Persona ได้เช่นเดียวกัน จากการที่หลงเข้าไปใน Palace ของครูสอนวิชาพละคนหนึ่งที่ชื่อ Suguru Kamoshida โดย Palace นั้นคือสถานที่ตั้งอยู่ใน Metaverse ที่ถูกสร้างขึ้นมาจากจิตใต้สำนึกที่บิดเบี้ยวของผู้ใหญ่ที่มีนิสัยเลว ๆ โดยได้รับความช่วยเหลือจากผู้ใช้ Persona ผู้รอบรู้ ที่เป็นแมวชื่อ Morgana และเหล่าผองเพื่อนอย่าง Ryuji Sakamoto และ Ann Takamaki ที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำอันชั่วร้ายของครู Kamoshida รวมถึงพระเอกเองที่โดนใส่ร้ายต่าง ๆ นา ๆ ว่าที่ถูกย้ายมากลางคันเพราะกระทำสิ่งผิดกฏหมายรุนแรง
ซึ่ง Morgana ก็อธิบายว่า ผู้ใช้งาน Persona สามารถเปลี่ยนแปลงจิตใจของเจ้าของ Palace ได้ ด้วยการขโมยสมบัติที่อยู่ใน Palace เป็นสิ่งที่สะท้อนถึงกิเลสของเจ้าของ Palace นั่นเอง และเมื่อคน ๆ นั้นถูกพรากกิเลสออกไป ก็จะกลับตัวกลับใจ สำนึกผิดกับสิ่งที่ตัวเองเคยทำชั่ว ซึ่งสุดท้ายทั้ง 4 คนก็สามารถปราบ Kamoshida ได้สำเร็จ และ Kamoshida ก็ได้เข้ามอบตัวกับตำรวจ เพื่อชดใช้ผิดในสิ่งที่ตัวเองเคยทำเอาไว้
หลังจากนั้นทั้ง 4 คนก็ได้ตกลงกันที่จะตั้งกลุ่มจอมโจร The Phantom Thief ที่จะออกมาขโมยหัวใจ และเปลี่ยนแปลงจิตใจอันชั่วร้ายของเหล่าผู้ใหญ่เลว ๆ เพื่อดำรงเจตจำนงที่ต้องการแต่แรก และหลังจากนั้่นเหล่าจอมโจรก็ได้เจอมิตร และศัครูใหม่ ๆ มากมาย จนบทสรุปของเรื่องที่ทำเอาว้าวมาก
ซึ่งใน Persona 5 Royal มีการแทรกเสริมเนื้อเรื่องใหม่เข้าไปจากเดิมพอสมควร โดยการใส่ตัวละครใหม่อย่าง Kasumi Yoshizawa นักเรียนในชั้นรุ่นน้องของพระเอก และคุณหมอ Takuto Maruki เข้ามาสอดแทรกเนื้อเรื่องเดิม และจะเป็นตัวละครหลักที่นำไปสู่บทสรุปของเรื่องแบบใหม่ในตอนท้าย ที่แบบ!!
โลกแห่งความจริง ก็เป็นสิ่งที่เป็นจริงในท้ายที่สุดนั่นแหละ
เนื้อเรื่องของ Persona 5 นั้นเขียนออกมาได้ดีเอามาก ๆ สะท้อนสังคมอย่างเห็นได้ชัด ทั้งการเล่นประเด็นต่าง ๆ ที่เป็นปัญหาอยู่ในสังคมจริง ๆ ของญี่ปุ่น กลุ่มวัยรุ่น และเด็กนักเรียนที่ไม่รู้เรื่อง และต้องมารับผลกระทบจากการกระทำอันเลวร้ายของผู้ใหญ่ในสังคม จึงทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า การแหกคอก หรือกบฏของเด็ก ๆ เหล่านี้ ที่ลุกขึ้นมาเพื่อยืนหยัดต่อความถูกต้อง ต่อสู้กับความชั่วร้ายของผู้ใหญ่ เรียกได้ว่าเป็นเสน่ห์อย่างนึงของเกมนี้เลยก็ว่าได้
Presentation
สิ่งหนึ่งที่ผมชอบมาก ๆ ของเกมนี้คือระบบวัน เดือน ปี การบริหารเวลานี่แหละ ที่ทำให้ตัวเกมมันดึงดูดให้เราเล่นไปเรื่อย ๆ ด้วยความที่ตัวเเกมมีรายละเอียดเยอะมาก ทั้งในส่วนของชีวิตประจำวัน และส่วนของ Metaverse จนทำให้เราต้องเลือกทำตามความจำเป็น ที่เหมาะสมกับช่วงเวลา เช่นหากเราต้องทำภารกิจหลัก ก็ต้องไม่ลืมการเรียน และต้องวางแผนให้ทันก่อนจะหมดเวลาของภารกิจหลัก และหากไปตกลงอะไรกับใครไว้ ก็ต้องอย่าลืมว่าตกลงไว้วันไหน เพราะวันนั้นจะโดนแย่งเวลาทำกิจกรรมไปแล้ว เรียกได้ว่าจะทำอะไรต้องคิดก่อนแทบตลอด
ซึ่งมากกว่า 60% ของเกมนี้คือการใช้ชีวิตประจำวัน และเนื้อเรื่อง ส่วนอีก 40% คือการใช้เวลาอยู่ใน Palace และ Mementos (Mementos คือ Palace ของคนทุกคนในเมือง) ซึ่งหากคุณเป็นผู้ที่ไม่ได้ชื่นชอบการเสพเนื้อเรื่องเยอะ ๆ ละเอียด ๆ อาจจะน่าเบื่อไปสักนิด เพราะฉากบทพูดที่ให้อ่านมีเยอะมาก ๆ
โดยในหนึ่งอาทิตย์ของนักเรียนมัธยมปลายจะต้องไปโรงเรียนทั้งหมด 6 วัน ในช่วงเปิดเทอม ซึ่ง 6 วันนี้เราจะไม่สามารถทำอะไรตอนช่วงเช้า และบ่ายเพราะจะต้องเข้าเรียน จึงเหลือเวลาให้ทำกิจกรรมต่าง ๆ แค่ช่วงเย็นเท่านั้น เพราะการเลือกตกลงทำ 1 กิจกรรม ก็จะกินเวลาทั้งช่วงนั้นไปเลย ส่วนวันอาทิตย์ และช่วงปิดเทอม จะสามารถทำกิจกรรมได้ทั้งวัน
ซึ่งหลังจากเล่นไปสักพัก จะสามารถออกข้างนอกช่วงกลางคืนได้จากการประพฤติตัวดีตามเนื้อเรื่อง และอีกหนึ่งอย่างที่น่าสนใจคือระบบอีเวนต์ที่อิงตามปฏิทินกิจกรรม เสมือนเราต้องรับบทเป็นเด็กมัธยมปลายจริง ๆ วันไหนสอบก็ต้องเข้าไปสอบจริง ๆ ซึ่งคำถามในข้อสอบจะอ้างอิงจาก Quiz ที่อยู่ในช่วงการเข้าเรียนตอนเปิดเทอม ส่วนวันไหนต้องไปทัศนศึกษาก็ต้องไปตามกิจกรรมนั้น ๆ ในปฏิทินเลย และยังมีอีเวนต์ตามวันสำคัญต่าง ๆ อย่างวันวาเลนไทน์ ก็จะมีกิจกรรมพิเศษให้ทำอีกด้วย
ซึ่งกิจกรรมต่าง ๆ นั้นมีเยอะมาก จนเล่นรอบเดียวก็ไม่น่าจะทำทุกอย่างหมด ประกอบไปด้วยการสานสัมพันธ์กับตัวละครต่าง ๆ ด้วยการ Hnag Out, การทำงานเสริมหารายได้, การเข้าไปสำรวจ Palace เพื่อหาสมบัติ, การทำภารกิจพิเศษใน Mementos หรือการทำรีเควสต์จากแฟนคลับ
ซึ่งกิจกรรมทุกอย่างจะตั้งอยู่ในเมือง และพื้นที่ต่าง ๆ เช่น เมือง Shibuya, Shinjuku, Akihabara, Harajuku และอีกมากมาย ขึ้นอยู่กับว่ากิจกรรมนั้นคืออะไร ต้องไปทำที่ไหน โดยสถานที่ต่าง ๆ ในเกมก็ถอดแบบออกมาจากสถานที่จริง ๆ ได้แทบจะ 100% รวมถึงบ้านของคุณลุงที่ดูแลพระเอกก็มีอยู่ในสถานที่จริง ๆ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของเกมเลยทีเดียว
Gameplay / System
อย่างว่า แฟรนไชส์ Persona เป็นการนำตัวเกมแบบ Turn Based มาผสมกับแนว Life Simulation และเกมจีบสาว ได้อย่างลงตัวมาก ๆ ไหนจะเนื้อหาที่มีความสำคัญกับการผูกมิตรเป็นสิ่งที่ผลักดันทำให้ตัวเอกเก่งขึ้นไปเรื่อย ๆ ทำให้ระบบในตัวเกมนั้นมีมากมาย และละเอียดมาก
ในส่วนนี้จะมาพูดถึงระบบใหม่ ๆ ที่เพิ่มเติมมาจากภาคดั้งเดิมแล้วกันนะครับ (ผมอาจจะเก็บข้อมูลตรงนี้ไม่ครบนะครับ ระบบใหม่มันมีเยอะมากจริง ๆ อาจจะจดมาไม่หมด)
- ความสามารถในการใช้ Grappling Hook | เป็นความสามารถที่เพิ่มเข้ามาใหม่ประจำภาคนี้ ซึ่งมีผลต่อการดีไซน์แมปของ Palace ใหม่ด้วยในบางส่วน
- Will Seed – เมล็ดพันธุ์ตัณหา | เป็น items รูปแบบใหม่ที่จะมีเฉพาะใน Palace ของแต่ละคนครับ จะมีอยู่ 3 เมล็ดด้วยกันในหนึ่ง Palace เมื่อเราเก็บได้ครบแล้ว จะสามารถนำไปแลกเป็น Accessories พิเศษที่จะให้พลังที่แตกต่างกันได้
- พื้นที่ในแมปใหม | เนื่องจากภาคนี้เพิ่ม items อย่าง Will Seed เข้ามาด้วย ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงพื้นที่บางส่วนให้แตกต่างจากภาคมากพอสมควรเลย
- Disaster Shadow | Disaster Shadow เป็นชนิดของชาโดว์แบบใหม่ ที่จะทำให้การต่อสู้สนุก และท้าทายมากขึ้นมาก โดยมันจะพิเศษกว่าชาโดว์ตัวอื่นตรงที่มันจะตีสลับเทิร์นกับเราแบบตัวต่อตัว โดยที่ไม่ให้หมดเทิร์นก่อนทั้งทีม ทำให้การวางแผนในการโจมตีนั้นยากขึ้นมาก ๆ ซึ่งหากเราตีมันตายแล้ว มันจะระเบิดทำความเสียหายแก่ชาโดว์ปกติที่อยู่รอบข้าง พร้อมดรอป item ให้เราหนึ่งชิ้นด้วย เพราะฉะนั้นหากเจอ Disaster Shadow อย่าลังเลที่จะฆ่ามันก่อนเป็นตัวแรก
- Technical Attack | เป็นการโจมตีศัตรูหลังจากที่ศัตรูติด status ต่าง ๆ ส่งผลให้เพิ่มค่าความเสียหายมากขึ้น หรือมีสิทธ์ถึงขั้น Knock Down ศัตรูเพิ่มทำ Attack All-Out ได้เลย ทำให้ระบบต่อสู่สนุกขึ้นเยอะมาก
- Showtime | Showtime เป็นท่าใหม่ในการช่วยทำความเสียหายแก่ศัตรูแบบใหญ่หลวงเลยทีเดียว ซึ่งเป็นท่าแท็กคู่ของตัวละครแบบเท่ ๆ และจะปลดล็อกตามเนื้อเรื่อง และสามารถกดใช้ได้ในฉากต่อสู้
- Mementos และ Jose | น้อง Jose เป็นตัวละครใหม่ที่จะพบเจอได้ใน Mementos เท่านั้น ซึ่งการมาของน้อง Jose จะทำให้การสำรวจ Memenstos มีชีวิตชีวาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ด้วยเควสต์ใหม่, แสตมป์ และ item ดอกไม้สีเหลือง ที่จะสามารถนำมาใช้อัปเกรด Memenstos ได้ ทำให้การลงสำรวจมีความสนุกมากขึ้นอย่างมาก
- Challenge Battle | โหมดใหม่สำหรับฝึกต่อสู้กับชาโดว์โดยเฉพาะ โดยจะได้ของรางวัลตอบแทนหากทำความเสียหายได้ครบตามที่กำหนด ในโหมดนี้หากใครได้ซื้อ Ultimate Edition จะสามารถต่อสู้กับตัวเอกภาค 3 และ 4 ได้ด้วย
- Calling Cutscenes ฉากโทรหา | ในภาคนี้หลังจาก hang out กับตัวละครเสร็จ จะมีฉากโทรหาก่อนที่เราจะเดินเข้าบ้าน ซึ่งบทสนทนาจะทำให้เราได้ค่า Confidant เพิ่มด้วย
- Thieves Den หรือ Palace ของ Joker | Thieves Den เป็นโหมด miscellaneous ของเกม ที่สามารถให้เราเข้าถึงเนื้อหาต่าง ๆ เช่นฉากแอนิเมชั่นที่เล่นไปแล้วในเนื้อเรื่อง เพลงประกอบ หรือเนื้อหาจากตัวละครเช่น Persona ของตัวละครอื่น ๆ และเรายังสามารถแปลงร่างเป็นตัวละครในกลุ่มเพื่อนของเราได้ด้วย และยังมี Mini Games Card ให้เล่นอีกต่างหาก ซึ่งสถานที่แห่งนี้ของ Palace ของพระเอกนั่นเอง
- Barton Pass แบบใหม่ | Barton Pass ใหม่จะสามารถใช้ได้ตั้งแต่เริ่มเกม หากเราโจมตีโดนจุด weak point ของศัตรู แต่จะแข็งแกร่งมากขึ้นหากเรามี Confidant มากขึ้น หรือเลือกที่จะ hang out แบบกลุ่มไปเล่น Dart Games ซึ่งเป็นมินิเกมใหม่สำหรับเพิ่มความสามารถ Barton Pass โดยเฉพาะที่เมืองใหม่ Kichijoji
- เมือง Kichijoji | เป็นสถานที่ใหม่ที่เราสามารถไปสำรวจได้ โดยมีสถานที่ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจเช่น Temple, Jazz Club และ Dart and Billiard games
- Velvet Room ที่ช่วยให้คุณผสม Persona ได้สนุกขึ้นเยอะ | ระบบ Advanced Fusion และ Alarm Time จะทำให้การนำ Persona มาผสมสนุกขึ้นมาก ระบบ Advanced Fusion เป็นเเป็นการผสม Persona แบบกลุ่ม 3 ตัวเพื่อได้ Persona ที่แข็งเกร่งมากขึ้น และหากยิ่งทำในช่วงเวลา Alarm Time จะทำให้ได้ exp ที่มากขึ้นตามไปด้วย ซึ่ง Alarm Time จะเปิดขึ้นมาเองหากลงต่อสู้ใน Palace หรือ Mementos ไปสักพัก
- บอสประจำ Palace ที่ออกแบบใหม่ | หากคุณเป็นผู้เล่นเก่า แล้วต้องกลัวกับการเล่นเกมทั้งหมดใหม่ซ้ำ ๆ เดิม ขอให้สบายใจได้ นอกจากตัวเกมจะเพิ่มอะไรเข้ามาอีกมากมายแล้ว ยังมีการปรับเปลี่ยน move set หรือพลังใหม่ ๆ ให้กับบอสประจำ Palace ด้วย (ผมเชื่อว่าทุกคนต้องมีหัวไหม้กับบอสประจำ Spaceport Palace แบบใหม่แน่นอน)
- Hang Out กับเหล่า Wardens | ในภาคนี้เราจะสามารถรับทำเควสต์พิเศษที่เป็นการพาเหล่าน้อง ๆ Wardens ออกไป Hang Out ได้ เพื่อแลกกับ Skill Card (Lavenza ก็พาไปได้ด้วยนะ)
Graphics
กราฟฟิกใน Persona 5 Royal ได้รับการพัฒนาขึ้นจากเดิมพอสมควร เนื่องจาก Persona 5 ภาคเก่าเป็นเกมที่คร่อมยุคแบบ Cross Gen เพราะเริ่มพัฒนาในช่วงของเครื่อง PS3 จนสุดท้ายก็นำมาลงให้กับเครื่อง PS4 ด้วย จึงมีภาพที่ดูค่อนข้างจะตกยุคไปหน่อย แต่ในภาค Royal ได้มีการปรับปรุงภาพให้ดูดีมากขึ้น รวมถึงภาพ Portrait ของตัวละครต่าง ๆ ก็ได้มีการปรับปรับปรุง ไปจนถึงวาดใหม่เพื่อนำมาใช้ในเกมเลยทีเดียว
Overview
โดยรวม Persona 5 Royal ยังเป็นเกมที่ยังสนุกมากที่จะกลับมาเล่นอีกครั้ง แม้จะเล่นภาคดั้งเดิมจบไปแล้วหนึ่งรอบ เกมยังคงความเป็น JRPG แบบที่ทุกคนยังโหยหา ความเป็น Turn-Based ที่เป็นเอกลักษณ์ เสน่ห์ของธีมของตัวเกมที่เท่ และมีสไตล์ไม่เหมือนใคร เพลงประกอบที่ฟังสนุก เนื้อหาที่กระชับ และเร้าใจ ระบบของเกมอันยอดเยี่ยม ละเอียด ละเมียดละไม รู้สึกได้ถึงความละเอียดของผู้พัฒนาจริง ๆ ทำให้เกมนี้ขึ้นเป็นหนึ่งในเกมในดวงใจของใครหลาย ๆ คนได้ไม่ยาก หากตัดสินใจหยิบนำมาเล่น เรียกได้ว่าเป็นอีกเกมหนึ่งที่ผมแนะนำ อยากให้ทุกคนได้ลิ้มลองสักครั้งจริง ๆ
แล้วยิ่งหากคุณเป็นแฟนเกม Persona อยู่แล้ว หรือกำลังตัดสินใจจะเข้ามาลองเล่นแฟรนไชส์นี้ Persona 5 The Royal เป็นเกมที่เหมาะสมที่สุดเลยแหละครับ รับรองว่าเมื่อเล่นจบคุณจะอิ่มกับการเล่นเกมไปอีกนาน (จนต้องร้องขอ Atlus ว่า ปล่อยภาค Scramble เวอร์ชัน ENG มาให้ผมเล่นต่อที)
Persona 5 Royal กำลังวางจำหน่ายบน PlayStation Store (PS4) ด้วยราคา 1,790 บาท https://store.playstation.com/en-th/product/HP0177-CUSA17544_00-ASIAFULLGAME0000
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส