
Our score
8.0รีวิวเกม Burnout Paradise Remastered Nintendo Switch ค่าย EA ก็ทำเกมดีๆให้ปู่นินได้
จุดเด่น
- ตัว DLC มาครบๆไม่ต้องโหลดเพิ่ม
- เกมเพลย์สนุกไม่เชย
- ภาพสวยคมชัด เฟรมเรตลื่นไหล
จุดสังเกต
- เกมออกมานานไม่สดใหม่
- ราคาเกมเต็มๆแพงกว่าเครื่องเกมอื่น
เป็นที่รู้กันว่าค่าย EA game ไม่ค่อยทำเกมลงคอนโซลนินเทนโด โดยเฉพาะในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อาจจะเพราะหลังจากยุค Wii คอนโซลปู่นินไม่ค่อยประสบความสำเร็จ และไม่ได้มีสเปคแรงอะไร ทำให้ค่าย EA ไม่ค่อยสร้างเกมดัง ๆ ป้อนให้ และต่อให้ทำให้ก็จะพบว่ามันไม่ค่อยเต็มใจสร้างให้นักเพราะมีการลดทอนอะไรหลายส่วนเช่นเกม FIFA บน Nintendo Switch ที่ตัดหลายส่วนไปจนไม่น่าเล่น

ทำให้การมาของเกมรถซิ่งที่ออกมาหลายปีแล้วอย่าง Burnout Paradise Remastered ที่กลับมาขายใหม่บน Nintendo Switch ดูไม่น่าสนใจในตอนแรก แต่เมื่อได้เห็นกระแสสื่อต่างประเทศล้วนส่งเสียงชื่นชม ทำให้อดใจไม่ไหวที่จะหามาลองเล่นดู แม้เกมจะมีราคาแพงเมื่อเทียบกับบนคอนโซลอื่นก็ตาม

เกม Burnout Paradise ต้นฉบับออกบน PS3 และ Xbox360 ในปี 2008 ถือเป็นอีกภาคที่ประสบความสำเร็จ และได้รับเสียงชื่นชมมาก และถูกนำมารีมาสเตอร์ใหม่อีกรอบบน PS4 และ Xboxone รวมทั้ง PC ในปี 2018 และการมาอีกรอบบน Nintendo Switch ถือว่านำฉบับรีมาสเตอร์บน PS4 ไม่ใช่บน PS3

กราฟิกดูดีเฟรมเรตลื่น
แม้ว่าเกม Burnout Paradise จะมีต้นฉบับบนคอนโซลรุ่นเก่า แต่สำหรับการมาบน Switch เป็นเวอร์ชันเป็นการนำฉบับปรับภาพใหม่มาแล้วทำให้กราฟิกไม่ได้ย้อนยุคจนเกินไปแน่นอน และสัมผัสแรกภาพในเกม Burnout Paradise Remastered บนคอนโซลของนินเทนโด ถือว่าดูดีกว่าที่คาดหวังไว้พอสมควร รายละเอียดยกระดับจากเดินทั้งพื้นผิวและแสงเงา ดูดีขึ้น และที่ต้องชมคือเฟรมเรตที่นิ่งอยู่ที่ 60 FPS ที่ลื่นกว่าเกมที่ย้ายจากเครื่องอื่นมาลง Switch

และความละเอียดของภาพเมื่อต่อกับ Dock เชื่อมกับทีวีจะมีความละเอียดที่ 1080p หรือ FullHD แต่หากเล่นแบบพกพา จะมีความละเอียดที่ 720p ตามหน้าจอของ Nintendo Switch โดยรวมถือว่าดูดีแม้ว่าจะไม่อาจจะเทียบกับคุณภาพของกราฟิกเกมในปี 2020 ได้แต่สำหรับบนคอนโซลที่ไม่ได้แรงอะไรอย่าง Switch ถือว่าดูดีกว่าที่คาดไว้แล้ว และเป็นผลงานของค่าย EA ที่ไม่ค่อยจะลงทุนกับนินเทนโดเท่าที่ควร

เพลงประกอบมันส์สะใจ
ส่วนเพลงในเกม จะมาในรูปแบบเพลง Rock แบบจัดเต็ม มีทั้งเพลงที่มันส์สะใจเข้ากับรูปแบบการเล่นของเกมแบบเต็มสูบ โดยนำเสนอแบบดีเจที่เราขับรถจะต้องเปิดวิทยุฟังอยู่แล้ว ที่คล้ายๆกับเกม GTA ระบบเสียงทั้งเครื่องยนต์ และการเสียงประกอบตอนรถชนกันก็อลังการจัดเต็ม ใครมีเครื่องเสียงดี ๆ รับประกันความสะใจแน่นอน

เกมเพลย์แนว Open World ฉบับรถแข่ง
รูปแบบการเล่นของ Burnout Paradise ฉบับปรับภาพใหม่ก็ไม่แตกต่างจากต้นฉบับ ที่เป็นแนวแข่งรถที่เน้นความสนุกมันส์สะใจมากกว่าสมจริง โดยในภาคนี้จะมีความโดดเด่นอยู่ที่ฉากในเกมที่อยู่ในเมือง Paradise ที่ผู้เล่นสามารถขับรถไปได้อย่างอิสระ แต่ในฉากจะมีจุดให้ทำภารกิจอยู่ และเมื่อขับไปถึงก็ให้กดรับภารกิจ ที่มีทั้งวิ่งแข่งกันแบบปรกติ หรืออัดรถคู่แข่งให้หมด รวมทั้งแน่นอนว่ามีภารกิจที่ทำการกระโดดแบบผาดโผนตามจุดบนแผนที่ และที่โดดเด่นคือความไม่จริงจังทำให้เราสนุกได้โดยไม่ต้องคิดถึงความสมจริง

เกมมีสถานที่ทำภารกิจที่อยู่จุดต่างๆในเกมจำนวนมาก และจะค่อยๆปลดออกมาให้เล่นกันตลอด และยังมีระบบเพิ่มเลเวลของตัวละครที่เมื่อเล่นไปเรื่อยๆระดับความสามารถของผู้เล่นจะค่อยๆเพิ่มขึ้น และจะมีจุดภารกิจใหม่ๆมาให้ และยังมีสถานที่จำเป็นต่อการเล่นเช่นปั๊มน้ำมัน และจุดซ่อมแซมอัปเกรดรถอยู่ด้วย นอกจากนี้ยังมีระบบออนไลน์ที่ดีเพราะสามารถกดเข้าไปเล่นแข่งกับเพื่อนได้ทั่วโลกได้แทบจะตลอด แถมระบบออนไลน์ยังถือว่าลื่นใช้ได้อีกด้วย แม้โดยรวมเกมอาจจะไม่ได้สดใหม่แต่เอามาเล่นในปี 2020 ก็ยังสนุกอยู่

ราคาแพงแต่มาพร้อม DLC ครบๆ
แม้จะมาช้ากว่าชาวบ้าน แต่เกม Burnout Paradise Remastered มาพร้อมกับตัวเกมเต็ม ๆ และมาพร้อมกับตัวดาวน์โหลดเสริมจำนวน 8 DLC ครบๆรวม Big Surf Island, Burnout Bikes และโหมด the Cops and Robbers และมีฉากใหม่ ๆ โหมด challenges และที่สุดยอดคือมีรถมาให้ใช้งานรวมมากกว่า 130 คัน รวมทั้งรถคลาสสิกที่ขนมากันครบแบบไม่ต้องเสียเงินเพิ่มด้วย

สรุปเกมดีแต่แอบแพงไปหน่อย
อย่างไรก็ตามราคาขายของเกม Burnout Paradise Remastered บน Switch ต้องจ่ายราคาเต็ม ๆ เท่ากับเกมเพิ่งออกใหม่ ซึ่งสำหรับเกมที่ออกมาหลายปีแล้วมันดูแพงไปมาก และเกมที่ออกมาหลายเวอร์ชันทำให้บนคอนโซลอื่นราคาถูกลดลงไปมากแล้ว หากคุณไม่ได้สนใจเอาไปเล่นนอกบ้านและมีหลายเครื่องเกม ก็แนะนำให้เล่นบนเครื่องอื่นประหยัดเงินกว่าเยอะ แต่หากคุณมี Nintendo Switch แล้วอยากได้เกมรถแข่งดีๆ โดยไม่เคยเล่นเวอร์ชันอื่นมาก่อนถือว่ายังพอคุ้มค่าอยู่
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส