Our score
7.5รีวิวเกม Panzer Paladin เกมหุ่นยนต์ 2D ที่เอาความสนุกยุค 80s มารวมกัน
จุดเด่น
- ระบบอาวุธที่หลากหลาย
- เกมเพลย์เข้าใจง่าย
- ฉากและบอสเยอะ
จุดสังเกต
- เกมเพลย์ 2D ยังไม่เทียบเท่ากับเกมคลาสสิก
- เพลงประกอบน่าจะทำได้ดีกว่านี้
ยังคงได้รับความนิยมต่อเรื่องสำหรับเกมแนว 2D ที่เน้นกราฟิก 8BIT ที่ค่ายเกมอินดี้ต่างยึดไปเป็นแนวทางการสร้างมาตลอด เพราะทำง่ายและหากมีไอเดียดีแล้วจะได้รับความนิยมอย่างง่ายดาย และล่าสุดหลังจากรอมานานเพราะประกาศเปิดตัวไปพักใหญ่ๆแล้ว เกม Panzer Paladin แนวแอ็กชัน 2D ก็ได้ออกวางขายบน PC และ Nintendo Switch
โดยเกม Panzer Paladin สร้างโดยทีมงานอินดี้อย่าง Tribute Games ที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักนัก แต่เกมได้รับความสนใจตอนเปิดตัวเพราะมันเอารูปแบบเกมแอ็กชัน 2D แบบ 8Bit ในอดีตมาต่อยอด ซึ่งในตอนแรกหากมองภายนอกอาจจะมีความคล้ายกับเกม Blaster Master รวมทั้งเกมในตำนานอย่าง Castlevania และ Rockman บนแฟมิคอม แต่พอได้เล่นมีสิ่งใหม่ ๆ เพิ่มไปพอสมควร
กราฟิกย้อนยุค 8Bit ตามสมัยนิยม
แน่นอนว่าเกม Panzer Paladin มาแนวย้อนอดีตไปสู่ยุค 80 สมัยแฟมิคอมที่ใช้กราฟิกแบบ 8Bit ทั้งเกม รวมทั้งตัวเกมเพลย์และคัทซีนของเกมที่เป็นภาพแบบดอตพิกเซล แต่ก็ใช่ว่ามันจะดูเชยเกินไป เพราะเกมใส่รายละเอียดตัวละครโดยเฉพาะบอสในเกมที่ตัวยักษ์ใหญ่ รวมทั้งการเคลื่อนไหวที่ดูดีกว่าเกมในยุคอดีต แต่ก็ไม่ได้หลุดออกมาจากรอบเกม 8Bit ซึ่งก็ไม่ได้แตกต่างจากแนวย้อนยุคทั่ว ๆ ไป
เพลงประกอบเกือบจะดีแล้ว
ดนตรีประกอบก็มาแบบเดียวกับกราฟิก ที่ยังมาในแบบ 8Bit สมัยแฟมิคอม ซึ่งหากใครจำได้จะรู้ว่าเพลงประกอบเกมในอดีตหากแต่งออกมาดีจะติดหูมากๆแต่ Panzer Paladin ทำออกมาเกือบจะดีเพราะผู้สร้างยังทำได้ไม่เทียบเท่ากับเกมในอดีต แต่ก็พอฟังได้เพลิน ๆ ไม่มีอะไรโดดเด่น ส่วนเสียงประกอบในเกมก็เหมือนกับเกมเก่าที่มีเสียงสุดเชยแต่เข้ากับแนวเกมย้อนยุค และแน่นอนว่าไม่มีเสียงพากย์ในเกมนะ
รูปแบบการเล่นผสมผสานหลายเกมรวมกัน
อย่างที่บอกว่าเป็นแนวแอ็คชั่น 2D มุมมองด้านข้าง ที่ผู้เล่นจะเป็นสาวน้อย Flame ที่ขี่หุ่นยนต์นามว่า Paladin ที่ต่อสู้กับผู้บุกรุกจากต่างดาวที่มาพร้อมกันหลายตัวที่และมีอยู่ทั่วทั้งโลก โดยการโจมตีหลัก ๆ คือการใช้อาวุธระยะสั้น ผ่านฉากที่เรียบง่าย และมีใส่อุปสรรคของเกมสองมิติทั่วไปเช่น เหวหรือบล็อกเลื่อน ที่เห็นได้บนเกมทั่ว ๆ ไปมายำรวมกัน รวมทั้งการเลือกฉากที่มีบอสเป็นไฮไลต์ประจำฉากที่อยู่บนแผนที่ซึ่งส่วนนี้คล้ายกับเกม Rockman อย่างไรก็ตามรูปแบบเกมเพลย์ไม่ได้ฉีกหรือโดดเด่นมากนัก หากคุณไม่ได้ชอบแนวนี้ก็อาจจะเฉย ๆ
หัวใจหลักของเกมคือ “อาวุธ”
อย่างไรก็ตามแม้เกม Panzer Paladin จะไม่ได้โดดเด่นเรื่องฉาก แต่เกมมีจุดเด่นอยู่ที่ระบบอาวุธในเกมที่มีนับร้อยชนิด โดยแบ่งเป็นประเภทเช่นดาบ , มีด , ไม้กระบอง , หอก และอีกเพียบที่มีทั้งได้จากศัตรู และซ่อนอยู่ในฉากและแน่นอนมีอาวุธเทพ ๆ ที่ได้จากบอสด้วย อย่างไรก็ตามอาวุธพวกนี้มีค่าพลังกำหนดใช้ได้ไม่นานก็พัง แต่ไม่ต้องห่วงเพราะอาวุธในเกมมีให้เก็บตลอด พังก็หามาใหม่ได้ต่อเนื่อง และเราเก็บไว้กับตัวได้มากอย่างจุใจด้วย และหุ่นของเราจะมาพร้อมกับ โล่ที่แข็งแกร่งไว้ป้องกันกระสุนและการโจมตีของศัตรูได้ แต่ศัตรูบางตัวก็มาพร้อมโล่ป้องกันเช่นกันทำให้เราต้องใช้อาวุธและหาช่องว่างในการโจมตี ส่วนนี้ทำให้เกมสนุกมากขึ้น
และด้วยจำนวนอาวุธที่เก็บได้มากมายและหาได้ง่าย ทำให้ในเกมได้ใส่ท่าปาอาวุธใส่ศัตรูที่จะเสียไปเลยหากโจมตีโดน และแน่นอนว่าจะสร้างความเสียหายมากกว่าโจมตีแบบปรกติ นอกจากนี้ยังมีท่าไม้ตายพังอาวุธเพื่อระเบิดพลังที่โจมตีได้แรงกว่า และยังมีระบบอัพเกรดตัวละครที่ยังใช้การเอาอาวุธไปแลก รวมทั้งจุด Save ในเกมที่มาแปลกมากเพราะต้องใช้อาวุธปักไว้ที่ Save และจะเสียอาวุธไป 1 ชิ้นเลยเพื่อ Save เกมเรียกว่าระบบอาวุธคือทุกสิ่งทุกอย่างใน Panzer Paladin เลยก็ว่าได้
นอกจากการบังคับหุ่นยักษ์แล้วยังมีระบบการออกจากหุ่น เพื่อเดินทางไปในจุดที่หุ่นยนต์ไปไม่ได้ รวมทั้งไปหาพลังงานเพื่อเติมให้หุ่นด้วย แต่เมื่อเราเป็นคนตัวเปล่าแล้วจะมีเพียงแส้เป็นอาวุธ และมีพลังที่น้อยกว่าหุ่นมากโดนอัดไม่กี่ทีก็ตายแล้ว ดังนั้นก็ต้องระมัดระวังอย่างมาก โดยส่วนนี้มีความคล้ายกับ เกม Blaster Master
ข้อดีและข้อเสียคือการควบคุมบับคับ ของเกมที่พยายามจะใส่ระบบที่หลากหลายเข้ามา เช่นการโจมตีได้หลายทิศทาง และเมื่อกระโดดพร้อมกับโจมตีด้านบนเราจะกระโดดสองจังหวะได้ ซึ่งมันจำเป็นต่อการเล่นมาก เพราะเกมมีการสร้างฉากมารองรับซึ่งหากฝึกฝนไม่ชำนาญแล้วก็จะพลาดตายได้ แนะนำให้ใช้จอยเกมที่คุณถนัดที่สุดในการเล่น เพราะผู้เล่นใช้ Joy-con เล่นไม่ค่อยถนัดและตายบ่อย แต่เมื่อใช้จอย Pro เล่นจะถนัดเล่นได้ลื่นไหลกว่ามาก รวมทั้ง PC ด้วยแนะนำให้ใช้จอยดี ๆ เล่น
สรุปแล้วมันคือเกม 2D ที่เกือบจะดีแล้ว
เกม Panzer Paladin สร้างออกมาโดยทีมงานที่รักเกม 2 มิติในอดีต ที่ทำออกมาได้ดีในระดับน่าพอใจ เพราะผู้สร้างพยายามใส่ความดีงามในอดีตมาอยู่ในเกมเท่าที่จะทำได้ แต่ยังไม่ดีเท่ากับต้นฉบับ และเกมเพลย์ที่ขาด ๆ เกิน ๆ ในหลายส่วน แต่เมื่อเทียบกับราคาตัวเกมที่ไม่ได้แพงอะไรแค่หลักร้อยบาท ใครชื่นชอบแนวทาง 2D ที่สร้างความสนุกในอดีตสมัยเรายังเด็กจะเสียเงินโหลดมาเล่นก็ไม่เสียหายอะไร
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส