รีวิวเกม Close to the Sun ล่องเรือข้ามเวลาลัดขอบฟ้า

Our score

6.8

Close to the Sun

จุดเด่น

1. ภาพฉาก Art สวย
2. เพลงเพราะ
3. เนื้อเรื่องดัดแปลงจากประวัติศาสตร์จริง

จุดสังเกต

1. การเคลื่อนที่ตัวละครหน่วง อืดอาด
2. ขณะเล่นมีเฟรมตก
3. Gameplay ไม่มีอะไรแปลกใหม่
4. เกมจบเร็วเกินไปเหมือนตัดจบ

• Story

  7.6

• Gameplay

  5.0

• Graphics

  6.0

• Value

  8.6

เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินเรื่องราวลึกลับที่เกี่ยวกับ “มิติห้วงเวลา” กันมาบ้าง แน่นอนว่าเกมที่เราจะมาพูดถึงในวันนี้ก็เป็นแนวเกมที่เกี่ยวข้องกับเวลาแนวคิดเกมที่ใช้ Time Paradox มีไม่กี่เกมที่โด่งดังและดีจริง อย่างเกม BioShock Infinite ทั้งภาพทั้งเนื้อเรื่องที่ลงตัว จนมีถึง 3 ภาคให้เล่นด้วยกัน

และในเมื่อปี 2019 วันที่ 2 เดือนพฤษภาคม ทาง Wired Productions ได้ออกเกมที่มีชื่อว่า Close to the sun จากทีม Storm in a teacup ค่ายจากทางฝั่งอิตาเลียน เป็นแนวเกม FPS Horror Adventure ซึ่งทาง Steam นำมาวางขาย ไปเมื่อ วันที่ 5 พฤษภาคม 2020 ทำให้ชาว PC เพิ่งได้เล่นไปไม่นานนี้เอง

“Close to the sun เกมน้อง BioShock”

Close to the Sun จะพูดเต็มปากว่าเป็นเกมน้องของ BioShock เลยไหม ก็ไม่เชิงค่ะทั้งสองตัวเกมค่อนข้างที่จะคลับคล้ายคลับคลากัน เช่น การแต่งตัวของตัวละคร สถานที่ที่วิจิตรสวยงามรูปแบบยุคกลางสไตล์ Art Deco อย่างกับ Close to the Sun เป็นโลกเดียวกับ BioShock แต่เป็นคนละซีกโลก คนละสถานที่แค่นั้น

เนื้อเรื่องที่เปิดมาด้วย น้องสาวฉันอยู่ที่ไหน ?

ใช่ค่ะเนื้อเรื่องเกมนี้มาแบบบ้าน ๆ ไม่มีความหวือหวาแต่ต่อยหนัก โดยเริ่มแรกตัวละครหลักคือมีนามว่า Rose เป็นพี่สาวที่ทำงานเป็นนักข่าวสายลุย ได้รับจดหมายส่งมาจากน้องสาว Ada ผู้ทำงานอยู่ใน Lab ศึกษาวิจัยเกี่ยวกับเรื่องห้วงเวลาให้กับ Tesla สิ่งที่ Ada น้องสาวแนบมาให้ในจดหมาย ก็มีเพียงวิทยุสื่อสารบลูทูธ พี่สาวก็เตรียมตัวเตรียมใจเพื่อจะไปพบหน้าน้อง เมื่อเรือถึงฝั่งก็ทำการเดินไปตามทาง แต่ก็ต้องพบกับสิ่งผิดปกติหลายอย่าง เนื่องจากไม่มีผู้ใดอยู่เลยข้าวของเกลื่อนกระจาย รางรถกระเช้าไฟฟ้าก็พังอีกทั้งได้ยินเสียงคำรามแปลกน่ากลัว

ในที่สุดเมื่อเราได้เข้าไปข้างใน Acadamy ตัวละคร Rose ก็เห็นเป็นร่างผู้คนเลือนลางกำลังทำกิจวัตรประจำวัน แต่เหมืนกับว่าผู้คนเหล่านั้นมองไม่เห็นตัว Rose อีกทั้งเราได้ยินเสียงของน้องสาวขอความช่วยเหลือเนื่องจากเธอติดอยู่ภายในห้อง ไม่สามารถออกไปได้ จากจะไปพบน้องอย่างมีความสุขกลายเป็นว่าต้องบู๊ไปช่วยน้องแทน

Game Play ไปไม่สุด สะดุดที่กระโดดไม่ไกล

ขอชี้แจงก่อนเลยว่าเนื้อเรื่อง ฉากทุกอย่างสวยงามงาน Art มาเต็มแต่ สะดุดตรง การบังคับการเคลื่อนไหวของตัวละครที่ไม่ค่อย Make Sense เท่าไหร่ อืดอาด หนักขนาดที่หลุมเล็กอยู่ข้างหน้า หากคนปกติสามารถกระโดดข้ามผ่านไปได้แน่ แต่สำหรับ Close to the Sun นางเอกดันก้าวขาข้ามไปไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่เธอเองเป็นคนเก่งและชื่นชอบการผจญภัยอยู่แล้ว บางฉากสามารถเดินมุดข้ามไปได้ง่าย แต่เกมเหมือนกลั่นแกล้งน้อง Rose เธอต้องไปให้ถูกจุดเท่านั้น ตัวเกม Script Base มากเกินไป

แน่นอนว่าเกมต้องมีสคริปต์วางเพื่อให้เนื้อเรื่องดำเนินต่อ แต่เกมนี้เล่นแล้วรู้สึกถึงตัวละครนั้นหน่วงเกินไป มันช้า มันยืด หลายคนอาจจะไม่สนใจรายละเอียดนี้มาก แต่สำหรับเกมที่ค่อย ๆ เดิน ไม่ได้มีปีศาจไล่ทุกเวลา เกมไม่ได้จับเวลาที่เราต้องรีบ ไปให้ไกลจากสถานที่แห่งนี้ Close to the Sun ควรมีความอิสระในการสำรวจ ตัวละครกระฉับกระเฉง และการเคลื่อนที่ไม่จำกัดทิศทางให้มากกว่านี้ เพราะภายในเกมสถานที่ฉากต่าง ๆ จัดว่าสวยจนอยากเดินดูรอบ ๆ สำรวจปริศนาพื้นที่ตามซอกตามมุม แต่ก็ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากถูกจำกัดพื้นที่มากไป ไม่คุ้มงานศิลป์ที่ทำมา

Horror แบบไขปริศนาและการตุ้งแช่

แน่นอนว่าเกม Close to the Sun เป็นแนวเกม FPS ไขปริศนาเขย่าประสาท ระหว่างที่เราตามหาน้องสาว สถานที่ที่ไม่เป็นใจก็ต้องไขปริศนาหาทางออก ปริศนาภายในเกมทำออกมาไม่ง่ายไม่ยาก เรียกว่า Basic เลยก็ว่าได้ ในใจก็แอบอยากให้ไขยากกว่านี้อีกนิด ระหว่างทางก็เจอฉากตุ้งแช่บ้าง ทางค่าย Storm in a teacup ก็ทำออกมาได้พอเหมาะไม่เยอะจนน่ารำคาญ เพิ่มความระทึกเป็นช่วง ศพคน เลือดกระจาย สมเป็นเกม Horror เดินตามทางให้เราสยองเล่น ลอยเลือดที่เขียนไว้ เกิดคำถามในหัวเราเต็มไปหมด

หากเพิ่มการเขย่าขวัญด้วยวิธีอื่น อย่างการเจอปีศาจเดินมาให้เราหลบซ่อน หรือไฟดับแต่เราก็ต้องเดินไปหาทางไป คำแนะนำนี้อาจจะเพิ่มความละทึกให้กับ Close to the Sun ได้เล็กน้อย เพิ่มความใจสั่นได้อีกขั้นเป็นอีกวิธีนอกเหนือจากการใช้ Jump scare หรือฉากนองเลือดผีไล่ แต่ที่ชื่นชอบในเกมนี้คือ จดหมายก่อนตายที่แต่ละคนได้เขียนไว้ ทำให้หลอนพอ ๆ กับเลือดเลยทีเดียว อันที่จริงความกลัวไม่ได้มีแค่ เลือด ผี ตกใจ เพราะฉะนั้นหากคุณทำให้ผู้เล่นกลัว โดนมีสิ่งเหล่านี้เป็นเพียงส่วนประกอบเล็กน้อยถือได้ว่า เยี่ยมมาก อีกอย่างไม่ทราบว่าทีม Storm in a teacup รีบไปไหนจึงทำให้บาง Chapter จบแบบมาไวไปไวเหลือเกิน เหมือนกับคิดไม่ออกว่าจะมีลูกเล่นอะไรต่อดี ทำให้รู้สึกเวลาเล่นเกมนั้นสั้นเกินไป

นอกจากเนื้อเรื่องดี ภาพสวยงาม

มาที่ Graphic ภายในเกมที่ใช้ Unreal engine 4 ทางผู้พัฒนา Storm in a teacup เป็นผู้พัฒนาสายอินดี้ การจับ UE4 พูดตามตรงเลยว่าใช้พลาดพังทุกเกม นั้นจึงทำให้เวลาเล่น Close to the Sun กระตุก เฟรมตกเป็นบางช่วง ทั้งที่ PC ที่ใช้คือ GTX 1070Ti เป็นเสปคที่เล่นเกมนี้ได้สบาย กล่าวมาขนาดนี้ไม่ได้ว่าเกมนี้ทำออกมาแย่นะคะ เพียงแค่มันกระตุกบางช่วงเท่านั้น อย่างเวลาหนีปีศาจกับโหลดเกมมีเฟรมตกบ้าง ทั้งภาพ Graphic ก็ถือว่าดีระดับหนึ่งไม่ได้ หวือหวา แต่ก็ทำให้ ว้าว! ได้

ความน่าเล่นของเกม อาจเป็นเพราะงานศิลป์ยุคศริสต์ศตวรรษที่ 19 (ค.ศ. 1801-1900) เป็นความงามคลาสสิก เป็นเอกลักษณ์เฉพาะช่วงสมัยอยู่แล้ว ใน ค.ศ. นั้นก็เป็นช่วงเวลาที่ชาวฟิสิกส์ภาคภูมิใจ เพราะเป็นครั้งแรกที่บนโลกได้ทำการสร้างแบตเตอรี่ไฟฟ้าสำเร็จ แน่นอนว่า Close to the Sun ได้นำเรื่องราวเกี่ยวกับการผลิตกระแสไฟฟ้าคงนี้ มาเป็นแกนหลักทั้งเกมเลยก็ว่าได้

Close to the sun น่าซื้อไหม?

หากพูดว่าเพราะเป็นผู้พัฒนาทีมอินดี้ทำได้ขนาดนี้ก็ดีแล้ว เป็นคำพูดที่ดูถูกผู้พัฒนาอย่างแรง คิดว่าเราไม่น่าใช้คำนี้กับทีมไหนก็ตาม เพราะทุกทีมมีความสามารถเพียงแค่บางครั้งคุณต้องพัฒนาข้อเสียให้ดีมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นเกมที่วางขายใน Steam ราคาเพียง 289 บาท ราคาถูกและคุ้มคงต้องยกให้ Close to the Sun เกมที่หลายคนไม่ควรพลาด จะซื้อมาเล่นหรือเก็บไว้ก็ไม่ขาดทุนแน่นอนค่ะ

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส