Peaky Blinders: Master Mind จากซีรีส์สู่เกมวางแผน
Our score
8.8

Peaky Blinders: Master Mind จากซีรีส์สู่เกมวางแผน

PEAKY BLINDERS: MASTER MIND

Peaky Blinders: Master Mind แม้จะเป็นเกมขนาดเล็กก็ตาม หากมองในแง่ของเกม Stategy ทั่วไป ถือว่าทำออกมาค่อนข้างดี การไขปริศนาทำออกมาได้เยี่ยม เป็นเกมที่สมกับราคาเป็นอย่างมาก

จุดเด่น

  1. งาน Art กราฟิกไม่หนักเครื่อง
  2. เนื่อเรื่องค่อนข้างมีมิติ
  3. Game Play เข้มข้น

จุดสังเกต

  1. ตัวละครเดินอืดไป
  2. เล่นหลายตัวละครค่อนข้างมึน
  3. เล่นจบไม่มีแรงจูงใจกลับมาเล่นใหม่
  • เนื้อเรื่อง

    8.8

  • Game Play

    8.8

  • Graphic

    8.2

  • Vavle

    9.5

Every body want to rule the world ไม่ได้เป็นสโลแกนของ Peaky Blinders แต่อย่างใด แต่เป็นคำพูดในเนื้อเพลงของวง Tears for Fears ที่ผู้เขียนชอบ? ซึ่งมีความหมายที่ตรงตัวเลยว่าทุกคนต้องการครองโลก แล้วมันเกี่ยวอะไรกันกับเกม Peaky Blinders: Master Mind

สามหนุ่มกำลังวางแผน

แน่นอนหากใครชื่นชอบการดูซีรีส์แนวย้อนยุคเป็นชีวิตจิตใจ คงต้องได้ดู Peaky Blinders ผ่านหูผ่านตามาบ้าง หรือโฆษณาทาง YouTube (ที่ขึ้นมาบ่อยเหมือนบังคับให้เราซื้อพรีเมียม) จะขอเล่าเรื่องพอสังเขปสั้น ๆ ง่าย ๆ คือ Peaky Blinders เป็นชื่อที่ใครต่างกลัวเมื่อเอ่ยถึง เพราะเป็นชื่อของอัธพาลมาเฟีย ที่ปกครองโดยครอบครัว Shelby ครอบครัวนี้มีพี่น้องอยู่ด้วยกัน 6 ชีวิต ได้แก่ Thomas , Arthur , John , Fin , Ada , Polly เป็นแก๊งที่ปกครองแถบเบอร์มิงแฮมแห่งกรุงอังกฤษ

หากเล่นโหมดยากคงไม่รอด

โดยช่วงสมัยยุคที่เพิ่งจบสงครามโลกครั้งที่ 1 ไปไม่นาน เหล่าสุภาพบุรุษสกุล Shelby ที่เพิ่งกลับจากการรบก็เปิดบ้านของตัวเอง เป็นสนามแข่งม้าใต้ดินโดยมี Tommy พี่ชายคนที่สองเป็นตัวขับเคลื่อนธุรกิจ แต่ Shelby ก็ไม่ได้อยู่สุขขนาดนั้น เนื่องจากเป็นยุคที่คนมีอำนาจเท่านั้นถึงเป็นผู้ชนะ เมื่อแก๊งถูกเบียดเบียนเหล่า Peaky Blinders ก็ต้องสู้กลับจึงเกิดเรื่องราวมากมายในซีรีส์เราก็มิอาจสปอยล์ได้ ใครอยากติดตามเพิ่มเติมไปหาดูกันได้นะคะ พระเอกของเราคือ Cillian Murphy นักแสดงที่ติดตาจากบท The Scarecrow ในเรื่อง Bat Man และเหล่านักแสดงชั้นนำมากมาย เนื้อเรื่องโทนสี การต่อสู้เลือดสาด 18+ (ท่าไม้ตาย Peaky Blinders คือ เอาหมวกที่มีมีดโกนซ่อนไว้ปาดศัตรู) สำคัญเพลงประกอบต้องชูฮกให้เลย

กลับมาที่เนื้อเรื่อง Game Play ภายในเกม

เนื่องจาก Peaky Blinders: Master Mind เป็นเกมขนาดเล็ก จัดจำหน่ายโดย Curve Digital เนื้อเรื่องจึงไม่มีความซับซ้อนและเป็นเนื้อเรื่องที่ต้องการเอาใจคอซีรีส์ ตัวเกมเป็นเนื้อเรื่องก่อนกำเนิดแก๊ง Peaky Blinders การร่วมมือกับชาวจีน พี่น้องร่วมสายเลือดร่วมกันวางแผนสู้กับเหล่าผู้มีอำนาจกันลับ ๆ เล่นปลดล็อกเนื้อเรื่องได้เมื่อผ่านด่าน ตัวเกมเป็นแนวเกมผจญภัยไขปริศนาแข่งกับเวลา ควบคุมตัวละครได้หลายตัว ตัวละครแต่ละตัวเชื่อมโยงกันการเล่นจึงค่อนข้างมึน หากเล่นแล้วพักไว้กลับมาเล่นอาจไปไม่เป็น หรือลืมว่าตัวเองเล่นถึงไหนต้องเล่นใหม่หมด

ตัวละครเพิ่มขึ้นตามความยากของด่าน

Game Play อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นเกมนี้ไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร การเล่นก็เป็นแนวหาทางไปงัดสกิลของตัวละครนั้น ๆ ออกมา เราไม่สามารถเลือกตัวละครที่จะเล่นได้เองตัวเกมจะล็อกมาให้อยู่แล้ว เพียงเราต้องเลือกให้ตัวละครนั้นกระทำให้ทันตามกำหนด ใน Interface แสดง Key Frame ให้เห็นชัดเจนเพื่อกำหนดเวลาการกระทำของทุกตัวละคร เราสามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขได้ทุกเมื่อ หากเราย้อนไปตัวละครก็จะเริ่มทำ ณ จุดนั้นแทนและเราต้องเล่นจุดต่อไปใหม่หมด

ตัวเกมมีให้เลือกเพียง 2 โหมด

ตัวละครที่ยุ่งเหยิงเล่นทีมี งง ใครไม่ถนัดเล่นแนวนี้อาจมีท้อใจ เพราะบังคับตัวละครหลายตัว บังคับยากไม่เท่าไหร่แต่ละด่านนี่ค่อนข้างยาก เกมนี้มีให้เลือกโหมดยากง่ายเน้นการจับเวลาเป็นหลัก ยิ่งผ่านเร็วยิ่งดี การเดินของตัวละครอาจจะเดินช้าเพื่อให้เราลุ้นแข่งกับเวลา ยิ่งเดินเลี่ยงสิ่งกีดขวางแล้วมี NPC วิ่งตรวจเดินตรวจแล้วเราต้องหนีหัวใจแทบวาย เพราะโดนจับได้หรือไม่ทันเวลานี่เริ่มใหม่หมด ต้องหาว่าฉันพลาดตรงไหนไปนี่ ยังโชคดีที่โหมดง่ายทีมผู้พัฒนา FuturLab ใส่บาเรีย NPC มาให้ไม่เช่นนั้นด่าน 2 ก็คงไม่ผ่าน ใครเล่นโหมดยากผ่านได้ในรอบเดียวผู้เขียนต้องขอคารวะจากใจ

ตัวอย่างความสามารถของป้า Polly

ตัวละครแต่ละคนแบ่ง Character ชัดเจน ความสามารถที่แตกต่างแต่เชื่อมโยง ทุกด่านที่เราเล่นจะไม่มีตัวละครไหนไร้ค่าเด็ดขาด ทุกตัวมีค่าหมดต้องช่วยเหลือกัน โหมดง่ายเมื่อถึงเวลาที่กำหนดตัวเกมมีคำใบ้ซ่อนไว้ให้เรา ทั้งมีเวลากำหนดว่าตัวใดควรทำอะไรเมื่อไหร่ ก่อนการเล่นทุกครั้งมี Cut Scene ทุกคนคุยกันเป็นการวางแผนก่อนการเล่นให้ด้วย อีกนิดคือตัวเกมมีมินิเกมเป็นการเก็บนาฬิกาเป็น Challenge ให้เรานิดหน่อย แต่บอกตามตรงเลยว่าแค่เอาให้ผ่านก็เหงื่อตกแล้ว

กราฟิกที่ทำให้ผู้เล่นเหมือนผู้กำกับ

ใครที่ชื่นชอบเล่นเกมแนว Strategy วางแผน ต่างทราบกันดีว่าลักษณะการเล่นคือเรานั้นเป็นผู้กำหนดออกคำสั่งทั้งหมด ยกตัวอย่างเกมที่เป๋็นแนววางแผนที่ดังและเล่นง่ายอย่าง The Sims เรากดคำสั่ง Sims ก็จะทำโน้นทำนี่ตามที่เราทำ เกม Peaky Blinders: Master Mind ก็เช่นกัน แต่ความรู้สึกเมื่อเล่นตัวเกมกับทำให้เรามีความเป็นผู้กำกับหนังเลยทีเดียว

เก็บนาฬิกา Challenge เล็กน้อย

เหตุที่ทำให้คิดแบบนั้นเนื่องจาก Graphic ตัวเกม เป็นแนวย้อนยุคสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ฉากประกอบงาน Art สวยงามตามฉบับเมืองหลังสงครามขี้เถ้าจุดถ่านไฟ เมืองที่ไม่ได้มีสีสันแต่ก็ไม่ได้ทำให้เราหดหู่ ตำรวจทหารขี้โกงครองเมือง ฉากแสดงเป็นมุมสูงเราสามารถเลื่อนมองได้ทุกห้อง ตัวละคร NPC ไหลลื่นมีชีวิตชีวา ไม่มีการกระตุก ตัวละครเล็ก ๆ เดินไปเดินมาจะสั่งหยุดสั่งเดินได้หมด(อำนาจอยู่ในเงื้อมมือเรา?) เสียงประกอบทำให้เราตื่นเต้นไม่ปวดหัว ตอนเปิดเกมมาฟังแล้วทำให้ตัวเองเท่ห์ขึ้นมาทันที ซีรีส์เรื่องนี้เพลงเทพอยู่แล้ว เป็นไปไม่ได้ที่เพลงในเกมจะไก่กา ยิ่งเล่นไปเรื่อยวางแผนแล้วย้อนกลับมาดู Key Frame ยิ่งเหมือนกับเรานั่งดูหนังเลยค่ะ ไม่ก็อาจจะเป็นอิทธิพลจากซีรีส์ก็เป็นได้

“Don’t f**k with the Peaky Blinders.”

อย่ากวนประสาทเดี๋ยวพี่ใหญ่ Arthur จับฆ่าปาดคอ

จบท้ายด้วยสโลแกนประจำแก๊ง “Don’t f**k with the Peaky Blinders.” ผู้ใดที่ชอบแนววางแผน ไขปริศนา แข่งเวลา เนื้อเรื่องใช้ได้ กราฟิกงามไม่หนักเครื่องต้องจัดเกมนี้เลยขอแนะนำ อีกนิดคืออย่าเพิ่งใจร้อน ณ เวลาเล่น ค่อย ๆ ดูอย่าเพิ่งท้อเรามีหน้าที่ใช้ความสามารถตัวละครนั้นให้เต็มที่ ยกเว้นคนที่ต้องการเล่นเพื่อเสพเนื้อเรื่องอาจไม่ค่อยเหมาะเท่าที่ควร อาจจะมีเล่นแค่ครั้งเดียวแล้วพอเลย ส่วนใครชอบเน้น Game play ลูกเล่นแพรวพราวเกมนี้เหมาะอย่างแรงค่ะ สำหรับผู้เขียนเล่นจบแล้วขอพักก่อน ค่อยกลับมาเล่นให้เวลาดีกว่าเดิมทีหลัง มึนแต่สนุก อีกอย่างคือถ้าคุณเป็นครอบครัว Shelby คุณไม่ควรพลาดเกม Peaky Blinders: Master Mind ค่ะ

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส