[รีวิวเกม] FAIRY TAIL: Forces Unite! เกม MMORPG ลิขสิทธิ์การ์ตูนดัง สายอนิเมะไม่ควรพลาด

Our score

7.0

[รีวิวเกม] FAIRY TAIL: Forces Unite! เกม MMORPG ลิขสิทธิ์การ์ตูนดัง สายอนิเมะไม่ควรพลาด

จุดเด่น

ภาพและเสียงพากย์คุมธีมอนิเมะได้ดี
เกมเล่นง่าย ไม่ซับซ้อน

จุดสังเกต

ช่วงแรกง่ายเกินไปจนไม่ค่อยท้าทายเรื่องการวางแผน
ตัวหนังสือในเกมค่อนข้างเล็ก อ่านยาก

FAIRY TAIL: Forces Unite! มุ่งหน้าสู่โลกแห่งแฟรี่เทล

ล่าสุด ทางค่าย Garena ก็เปิดให้เล่น FAIRY TAIL: Forces Unite! เกมลิขสิทธิ์แท้จากอนิเมะและมังงะชื่อดังของฝั่งญี่ปุ่นเป็นที่เรียบร้อย ส่วนตัวรู้จักการ์ตูนเรื่องนี้พอประมาณ เลยขอหยิบมาเล่น ลองระบบและสำรวจโลกเวทมนตร์ของแฟรี่เทลดูเสียหน่อย

แนวเกม MMORPG ที่ดึงเราเข้าไปในอนิเมะ

เกมนี้เป็นเกมแนว Turn-Based MMORPG ที่เราจะรับบทเป็นผู้เล่น ผจญภัยในโลกเวทมนตร์ตามท้องเรื่องของแฟรี่เทล แรกเริ่มเราต้องเลือกตัวละครตั้งต้น ที่จะเป็นตัวละครหลักของเรา ซึ่งจะแบ่งเป็น 8 ตัวละคร 9 สายเวท ได้แก่ เวทเสริมพลัง เวทปืน เวทลม เวทหิมะ เวทคลื่นเสียง เวทพิทักษ์ เวทอักขระ เวทยา และเวทฟื้นฟู ให้เราได้เลือกเล่น

หลังจากนั้น เควสต์และกิจกรรมในเกมจะนำพาสมาชิกทีมซึ่งเป็นนักเวทตัวใหม่ ๆ มาให้เรานำมาร่วมผจญภัย โดยจะมาจากตัวละครในแฟรี่เทลที่เป็นที่รู้จัก ไม่ว่าจะเป็น นัตสึ ลูซี่ เอลซ่า เวนดี้ และอีกมากมาย แต่ละตัวจะมีสายเวทที่แตกต่างกัน เราสามารถเลือกนำเข้าทีมตามความต้องการได้เลย โดยเหตุการณ์ต่าง ๆ ในเควสต์จะค่อย ๆ สอนเทคนิคการเล่นไปในตัว เราจะได้เรียนรู้การอัปเกรดตัวละคร และระบบต่าง ๆ แต่ในส่วนของสายเวทของนักเวทในเกม เราต้องจับลงสนามแล้วพยายามเรียนรู้สกิลเอง บางสายมีการโจมตีที่รุนแรง บางสายสร้างสถานะผิดปกติได้ บางสายให้บัฟสนับสนุนได้ และบางสายก็รักษาฟื้นฟูได้ เรียกได้ว่ามีครบทุกความต้องการ อยากจัดทีมแบบไหนให้ลองเอานักเวทแต่ละตัวมาใช้ดู

เนื้อเรื่องจะเหมือนเป็นการดูอนิเมะเรื่องหนึ่ง ด้วยลายเส้นลิขสิทธิ์และเสียงพากย์ญี่ปุ่นต้นฉบับ แมปต่าง ๆ จะยึดสถานที่จากการ์ตูน ส่วนตัวคิดว่าทำออกมาได้ดีทีเดียว ภาพไม่ได้ดีจัด แต่ก็ไม่แย่ เอฟเฟกต์สกิลสวยใช้ได้ คอการ์ตูนแฟรี่เทลน่าจะชอบไม่น้อย

แนว Turn-Based เน้นวางแผน

เกมนี้เป็น Turn-Based MMORPG การเดินเควสและทำกิจกรรมต่าง ๆ จะอยู่ในโลกภายในเกม และเมื่อมีการต่อสู้จะตัดเข้าสู่ฉาก Battle ที่สลับกันตี เลือกใช้สกิลในแต่ละตัวละครนักเวทในทีม โดยเราสามารถกำหนดและควบคุมได้ทั้งหมด

ช่วงแรก การต่อสู้จะค่อนข้างง่าย นักเวทที่ได้มาในต้นเกมสามารถจับใส่ทีมลงสู้ได้หมด ซึ่งนักเวทที่ได้มาทุกตัวจะมีเลเวลเท่ากับตัวละครหลัก เราสามารถเปิดออโต้ให้ทีมของเราสู้เองได้ แต่เมื่อเริ่มจับทีมลงดันเจี้ยนยาก ๆ อาจต้องเลือกสกิลใช้งานดี ๆ ยิ่งคนที่เล่นสายสนับสนุน หรือสายที่สร้างสถานะ ต้องเลือกตัวใช้สกิลกันบ้างแหละ

อีกเรื่องหนึ่งที่ผู้เล่นควรรู้นอกจากการเลือกนักเวทมาจัดทีมแล้ว คือการจัดรูปแบบทีมให้ได้เปรียบ ยกตัวอย่างเช่น ทีมทะลวง ทีมผจญภัย ทีมแยกเงา ซึ่งแต่ละรูปแบบจะมอบบัฟให้แก่สมาชิกทีมแตกต่างกัน บางรูปแบบเพิ่ม speed บางรูปแบบเพิ่ม damage และแต่ละรูปแบบจะมีชนะทาง-แพ้ทางกันด้วย เราจึงควรจัดรูปแบบทีมเผื่อไว้หลาย ๆ แบบ ให้เหมาะกับการเลือกใช้ โดยจะมีสลอตให้เราเซฟรูปแบบทีมไว้ใช้ 3 สลอต (ในตอนนี้)

ส่วนตัวละครหลักของเราจะมีพาหนะมาให้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ขี่ไปจนกระทั่งรถมอเตอร์ไซด์ เราสามารถใส่บัฟได้ 4 อย่าง และสามารถอัพสเตตัสพาหนะได้ ทั้งพลังโจมตี พลังรักษา โอกาสผนึก (ใช้กับสกิลประเภทกักขังศัตรู) และพลังป้องกัน เราสามารถเลือกอัพให้เข้ากันกับสายของตัวละครหลักของเราได้เลย สเตตัสตรงนี้ก็จะไปบวกกับสเตตัสหลักอีกที อย่างผู้เขียนเล่นเวทอักขระ เน้นใช้สกิลกักขังศัตรู ก็อัปสเตตัส โอกาสผนึก เข้าไปเพิ่มโอกาสกักขังสำเร็จได้นั่นเอง

ตัวเกมสนับสนุนระบบสังคมในเกมมาก

อย่างแรกเลยคือระบบความสัมพันธ์เช่น ครู-ศิษย์ ระบบคู่ชีวิต ซึ่งจะมีภารกิจและเควสร่วมกัน หากเราทำสำเร็จก็จะมีของรางวัลพิเศษให้

ต่อไปคือการตั้งทีม ซึ่งมีประโยชน์มากในการลงดันปราบปีศาจ เนื่องจากเราจะสามารถแชร์ความสามารถกับเพื่อน ๆ จากสายเวทอื่น ๆ ได้ และถึงแม้เราจะไม่มีทีมประจำ ไม่มีเพื่อนที่เล่นด้วยกัน ก็มีระบบจัดทีมออโต้ให้เรียบร้อย ดังนั้น ใครที่เลือกตัวหลักเป็นสายสนับสนุนหรือสายสร้างสถานะ ก็สามารถใช้ประโยชน์จากระบบทีมนี้ได้ ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่มีใครทำดาเมจ

อ่อ อีกอย่างคือมีระบบสื่อสารด้วยเสียง เราสามารถใช้ไมค์พูดคุยกับเพื่อนทั้งเซิร์ฟเวอร์และในทีมเดียวกันได้ตลอด ตรงนี้ก็ลองใช้ดูแล้ว ค่อนข้างโอเคทีเดียว เสียงใสชัดเจน คุยกันรู้เรื่อง และบางทีก็แอบฟังคนในเซิร์ฟเวอร์คุยกัน ได้รู้ข้อมูลเกมต่าง ๆ เผลอ ๆ สงสัยระบบอะไรตรงไหนก็ลองเปิดไมค์ถามออกไปก็มีคนตอบด้วย เรียกได้ว่า ช่วงเกมเปิดใหม่ คนเต็มเซิร์ฟ คึกคักสุด ๆ

นอกจากนี้ ในเกมยังมีระบบซื้อขายระหว่างผู้เล่นโดยตรง เรียกว่าตลาดเวท ยิ่งให้ความรู้สึกแบบเกม MMORPG จริง ๆ ขึ้นมาทีเดียว ซึ่งช่วงแรกยังไม่ค่อยมีอะไรเด็ด ๆ มาวางขายหรอกนะ เกมเพิ่งเปิด

เกมเปิดใหม่ กิจกรรมเยอะ ของแจกเยอะ

ตอนนี้ถ้าใครเข้าไปเล่น เรียกได้ว่าเล่นกันอย่างสบายเลย เพราะของแจกเยอะมาก และมีกิจกรรมให้ทำเยอะ แถมยังแจกนักเวทตัวดี ๆ และอสูรเวท ที่เป็นเหมือนสัตว์เลี้ยงช่วยสู้ให้ด้วย เอาง่าย ๆ คือเข้าไปเล่นแล้วเกมมีอะไรให้ทำ ก็ทำมันให้หมด กอบโกยวัตถุดิบในการพัฒนาตัวละคร พัฒนาทีมกันไว้เลย

คนเยอะ ก็ตามมาด้วยเซิร์ฟแน่นตามระเบียบ ตรงนี้แนะนำให้ให้ปรับกราฟิกซ่อนการแสดงผลบางประเภทกันเอา เช่น ซ่อนผู้เล่นอื่นบนแมป เพราะถ้าแสดงผลหมด อาจทำให้เครื่องช้าหรือร้อนได้ ถ้าเครื่องไม่แรงจริง

สรุปแล้ว

เกมนี้เหมาะกับแฟนอนิเมะที่ชอบเกมแนว MMORPG เน้นจัดทีมลุยแบบ Turn-Based และตัวเกมสนับสนุนให้มีปฏิสัมพันธ์กับผู้เล่นคนอื่น ๆ มันจึงเป็นเกม Multiplayer ที่จะเล่นโซโล่ก็ได้ เล่นไปกับเพื่อนร่วมเซิร์ฟก็ดี มีระบบกิลด์ สงครามกิลด์ ระบบศิษย์-อาจารย์ที่จะมีผลประโยชน์แก่ตัวละครของเรา การต่อสู้ค่อนข้างเข้าใจง่าย ซึ่งช่วงแรก ๆ ง่ายจนแทบไม่ได้ท้าทายอะไรเลย ต้องรอเจอดันโหด ๆ ศัตรูเลเวลสูง ๆ เควสต์ยาก ๆ ก็จะเริ่มได้ตั้งใจเล่น

ข้อสังเกตที่ชัดเจนเลยคือตัวหนังสือในเกมเล็กมาก ถึงจะเป็นภาษาไทย แต่ไซส์ตัวหนังสืออ่านค่อนข้างยาก อ่านเควสต์ อ่านเนื้อเรื่องลำบาก (ขนาดผู้เขียนยังไม่แก่ ก็ว่าแย่แล้ว) อีกอย่างคือความง่ายปานจับวางในช่วงแรก ๆ ที่เกมแทบจะเซตทุกอย่างไว้ว่าเราต้องเล่น ต้องไปในแพทเทิร์นแบบนี้ มีทีมแบบนี้ ตรงนี้เลยอาจทำให้ผู้เล่นหน้าใหม่ที่ขี้เบื่อเลิกเอาก่อนที่เกมจะสนุกได้เลย