Our score
6.5รีวิวเกม COLLECTION of SaGa FINAL FANTASY LEGEND การกลับมาของ 3 เกม RPG ในตำนาน
จุดเด่น
- รวมสามเกม RPG คลาสสิกในชุดเดียว
- มีโหมดปรับขยายภาพหน้าจอทำให้เล่นพกพาได้ง่าย
- มีโหมดเพิ่มความเร็วในการเล่นเกม
จุดสังเกต
- ภาพในเกมเหมือนเดิมสมัยเกมบอยขาวดำ
- ไม่มีโหมด Save ได้ตลอดเวลา
- ราคาแพงไปนิดเมื่อเทียบกับของที่ได้มา
การเอาของเก่ามาขายใหม่ยังคงมาต่อเนื่องในปี 2020 แม้ว่าจะเป็นเดือนสุดท้ายก็ตาม และล่าสุดค่ายเกมยักษ์ใหญ่อย่าง square enix ได้ปล่อย COLLECTION of SaGa FINAL FANTASY LEGEND เกมรวมฮิตที่นำตำนาน RPG สามภาคยอดฮิตในอดีตมารวมกันขายใหม่แบบแทบไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไรไปเลย บนคอนโซลลูกผสมอย่าง Nintendo Switch
โดยเกม Final Fantasy Legend เป็นชื่อฉบับภาษาอังกฤษของเกม RPG ในตำนานอย่าง SaGa ที่วางขายครั้งแรกบนเกมบอย ก่อนที่จะมีภาค Romancing SaGa ออกบน Super Famicom และเกมซีรีส์ SaGa ออกบน เกมบอยทั้งหมด 3 ภาค โดยออกไล่เรียงมาตั้งแต่ปี 1989 จนถึง 1991 (ในญี่ปุ่น) ส่วน COLLECTION of SaGa FINAL FANTASY LEGEND เป็นการรวมเฉพาะเวอร์ชั่นเกมบอยขาวดำไม่ได้มีการเอาฉบับสร้างใหม่บน DS ที่เคยวางขายมารวมอยู่ด้วยทำให้มันดูไม่ค่อยคุ้มค่านัก
กราฟิกเหมือนเดิมทุกอย่างเพิ่มแค่โหมดนิดหน่อย
แน่นอนว่ามันไม่ใช่การรีเมค และไม่ใช่รีมาสเตอร์ดังนั้นทุกอย่างที่อยู่ในเวอร์ชันเกมบอยก็ถ่ายทอดมาสู่ Nintendo Switch ทั้งหมดดังนั้นภาพในเกมเป็นแบบ 8Bit แถมยังเป็นแบบขาวดำไม่ได้ใส่สีเข้าไป ซึ่งทั้ง 3 ภาคก็เหมือนกันหมดและไม่ได้ดูดีแน่หากคุณเป็นแฟนเกมรุ่นใหม่คงจะรับกับภาพไม่ค่อยได้ แต่หากเป็นแฟนเก่ารุ่นคุณพ่อคงจะชอบแน่เพราะเหมือนเราย้อนเวลาไปสมัยได้เล่นต้นฉบับสมัยยังเป็นเด็ก อย่างไรก็ตามเกมมีโหมดปรับภาพให้เข้ากับหน้าจอโดยเราเลือกได้ว่าจะขยายภาพให้มีขนาดใหญ่ขึ้นได้และทำให้เราเล่นโหมดพกพาได้สะดวกมากและยังสามารถเลือกปรับภาพในแนวตั้งได้ เพื่อเล่นในโหมดแท็บเล็ตได้ในอีกมุมมองด้วย
แน่นอนว่าภาพเหมือนเดิม เพลงในเกมก็เหมือนเดิมเช่นกันโดยยกเอาเสียงเพลงจากต้นฉบับมาครบหมด แต่ของเดิมสำหรับยุคนั้นก็ถือว่าดีเยี่ยมและติดหูอยู่แล้ว และถือเป็นตำนานของวงการเกม และในฉากเปิดตัวจะมีการเอาธีมเพลงเดิมมาปรับเปลี่ยนเสียงใหม่ให้เข้ากับยุคสมัยด้วย ถือว่าเอาใจแฟน ๆ และสิ่งที่ดีมากคือเกมนี้มีโหมดปรับความเร็วแต่เพลงในเกมก็ยังคงฟังรู้เรื่องไม่ได้เร็วจนฟังไม่รู้เรื่องเหมือนเกมเก่าบางเกมที่เอากลับมาขายใหม่ และโหมดเพิ่มความเร็วไม่ได้ทำให้เกมเร็วเกินไปจนเล่นไม่ทันและของแนะนำให้กดใช้เพราะเกมเพลย์จะเร็วขึ้นจนแฟนรุ่นใหม่เล่นได้โดยไม่ติดขัด
SaGa FINAL FANTASY LEGEND
ภาคแรกเปิดตัวบนเกมบอยในปี 1989 ในปีแรกที่เกมบอยเปิดตัว และถือว่าเหมือนเป็นการนำเกมแนว Final Fantasy มาลงเครื่องเกมพกพาเป็นครั้งแรก โดยรูปแบบการเล่นเป็น RPG แบบใส่คำสั่งและต้องรอเวลา ที่มีฉากหมู่บ้าน ฉากแผนที่และมีดันเจี้ยนให้เราตะลุยกัน และจะเจอศัตรูแบบสุ่มซึ่งเมื่อตัดเข้าฉากแล้วจะเป็นมุมมองที่เห็นแค่ตัวศัตรูคล้ายกับเกม Dragon Quest โดยในเกมจะมีระบบที่แตกต่างจาก Final Fantasy พอสมควร เพราะเกมไม่มีระบบเลเวล และไม่มี MP การโจมตีท่าพิเศษจะนับจำนวนครั้ง และค่าพลังจะค่อย ๆ เพิ่มจากหลากหลายวิธี
นอกจากนี้เรายังสามารถเลือกสายพันธุ์ของตัวละครได้หลากหลายมากเช่นการเลือกเป็น มนุษย์ หรือเป็นพวกกลายพันธุ์ และเป็นสัตว์ประหลาด หรือมีซอมบี้มาให้เลือกด้วยรวมทั้งมีหุ่นยนต์ให้เลือกเล่นได้ โดยจะเลือกเพื่อนร่วมทีมได้ 4 คน และการพัฒนาร่างของตัวละครจะมีการกินเนื้อของศัตรู รวมทั้งหากเป็นหุ่นจะใช้ชิ้นส่วนมาปรับแต่งได้ด้วย ซึ่งนับเป็นของแปลกในยุคนั้นมาก แต่ก็มีข้อเสียเพราะเกมจะขาดความเป็นตัวละครหลักเพราะรูปร่างจะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ แต่ก็ถือว่ามีอะไรให้ผู้เล่นลุ้น ส่วนเกมค่อนข้างดูเชยพอสมควรเพราะฉากในเกมยังโล่ง ๆ เข้าใจได้ว่าเป็นช่วงแรกของยุคทำให้ขาดรายละเอียด ระบบเมนูดูยุ่งยากแต่ก็เป็นอีกภาคที่สนุกและเป็นต้นกำเนิดของซีรีส์ SaGa
SaGa FINAL FANTASY LEGEND 2
ต่อเนื่องด้วยภาคสอง ที่วางขายบนเกมบอยในปี 1990 ที่มีการปรับเปลี่ยนหลายส่วนแต่พื้นฐานแล้วเป็นเกมแนว RPG ที่ใช้การใส่คำสั่งแล้วผลัดกันโจมตีกับศัตรูเหมือนภาคแรก และภาคนี้มีการพัฒนาภาพในเกมเล็กน้อยแต่ที่โดดเด่นคือภาพในฉากต่อสู้ที่ทำออกมาได้ดี มีแอ็กชันของตัวละครมากขึ้นแต่ก็ยังไม่ค่อยแตกต่างจากภาคแรกมากนัก แต่โดยรวมทำให้เข้าใจง่ายขึ้นกว่าเดิม
และเกม SaGa 2 ยังคงใช้ระบบการเลือกสายพันธุ์ของตัวละคร ที่มีมาให้เลือกหลากหลายเหมือนเดิม และได้ปรับให้ยืดหยุ่นกว่าเดิมเข้าใจง่ายขึ้น แต่ระบบอาวุธยังคงใช้การใส่รวมกันในเมนูเดียวเหมือนกันภาคแรก รวมทั้งระบบพัฒนาตัวละครที่มีการกินเนื้อของศัตรู หรือเอาชิ้นส่วนมาอัปเดตเหมือนเดิม และมีตัวละครสายพันธุ์ใหม่มาให้เลือกให้ลุ้นตอนเปลี่ยนร่างเหมือนกับภาคแรก ส่วนฉากในเกมมีความกว้างและเล่นได้ยาวนานขึ้นกว่าเดิม โดยรวมภาคสองดีขึ้นพอตัวแต่ระบบยังดูเชยเมื่อเทีบบกับเกมยุคนี้
SaGa FINAL FANTASY LEGEND 3
ปิดท้ายกับภาค 3 ที่แค่เปิดมาก็น่าสนใจเพราะมีการเล่าเรื่องราวน้ำท่วมโลกและการย้อนเวลา ทำให้มันซับซ้อนมากกว่าเดิม อีกทั้งกราฟิกในเกมถูกพัฒนาให้ดูดีฉากเริ่มมีรายละเอียดและมีการเคลื่อนไหวมากขึ้น และที่ชอบมาก ๆ คือฉากต่อสู้ที่มีรายละเอียดมากขึ้นเพราะภาคนี้เห็นตัวละครของเราแล้ว และยังมีแอ็กชันการโจมตีศัตรูแบบชัด ๆ แม้ว่ารูปแบบการเล่นจะเป็น RPG แบบใส่คำสั่งเหมือนเดิมแต่ก็สนุกและลื่นไหลกว่า 2 ภาคแรก
อีกทั้งระบบการเล่นยังปรับให้เหมือนเกม RPG ทั่วไปมากขึ้น และมีระบบเลเวลแล้วรวมทั้งมี MP รวมทั้งการใส่อาวุธเครื่องป้องกัน และพลังพิเศษได้แยกออกจากกันแล้วไม่ได้รวมกันเหมือนในเมนูเดียวแบบ 2 ภาคแรก ส่วนการพัฒนาตัวละครที่ต้องกินเนื้อของศัตรู หรือเอาชิ้นส่วนมาเปลี่ยนร่างยังคงอยู่และเพิ่มความหลากหลายของประเภทการเปลี่ยนร่างของสายพันธุ์ทำให้เล่นง่าย และเปลี่ยนร่างได้สนุกกว่าเดิม เช่นบางครั้งเมื่อเลเวลขึ้นร่างก็จะเปลี่ยนเองเลย และส่วนตัวแล้ว SaGa ภาคสามถือว่าสนุกลงตัวมากที่สุดแล้วเมื่อเทียบกับเกมยุคนี้
เกม COLLECTION of SaGa FINAL FANTASY LEGEND อาจจะเป็นการเอาของเก่ามาขายใหม่แบบแทบไม่ต้องลงทุนอะไรมากนัก เพราะระบบเกมแทบไม่เปลี่ยนนอกจากโหมดปรับขนาดภาพ และเพิ่มความเร็ว ความจริงน่าจะเพิ่มการ Save ได้ตลอดเวลาแม้แต่ในฉากต่อสู้จะดีกว่านี้มาก เพราะจุดที่ขัดใจเล็ก ๆ ของเกมคือการพัฒนาตัวละครที่มาแบบสุ่มทำให้หลายครั้งเราได้ตัวละครใหม่ที่แย่กว่าเดิม ซึ่งหากมีระบบ Save ทุกที่ทำให้เราเล่นได้ลื่นมากกว่าเดิม
โดยรวมแล้วเกม COLLECTION of SaGa FINAL FANTASY LEGEND เป็นการเอาใจแฟน ๆ เกม RPG ในตำนานมากกว่าจะหาแฟนกลุ่มใหม่ เพราะมันไม่ได้เปลี่ยนแปลงจากต้นฉบับ ดังนั้นใครอยากเล่นเกมภาพสวย ๆ เกมเพลย์ลื่นคงต้องข้ามไปหาเกมอื่นมาเล่น แต่หากคุณเคยเล่น SaGa บนเกมบอยในวัยเด็กและอยากสานต่อความสนุกในอดีตอีกครั้งมันก็พอจะคุ้มค่าอยู่ (ราคาเกมประมาณ 600 บาท วางขายบน e-shop Nintendo Switch)
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส