Our score
6.0รีวิวเกม Family Trainer เกมออกกำลังกายที่สนุกได้ทั้งครอบครัว
จุดเด่น
- มินิเกมสนุก ได้ออกกำลังกาย
- เล่นกับเพื่อนได้
จุดสังเกต
- ภาพในเกมดูเชยมาก
- โหมดและจำนวนมินิเกมมีน้อยเกินไป
หากจะพูดถึงเกมแนวออกกำลังกายแล้วคนส่วนใหญ่จะคิดถึงเกมจากค่ายนินเทนโด เพราะตั้งแต่อดีตสมัย Wii Fit ออกวางขายก็ประสบความสำเร็จขายดีแบบถล่มทลายมาแล้ว และมีการสานต่อมาจนถึงเกม Ring Fit แน่นอนว่าไม่ได้มีปู่นินเพียงค่ายเดียวที่ทำเกมแนวนี้ออกมาวางขาย ยังมีหลายค่ายที่ผลิตเกมที่ทำให้เราได้เสียเหงื่อกันอีกหลายเกม และล่าสุดกับการมาของ Family Trainer ที่วางขายเฉพาะ Nintendo Switch เท่านั้น
โดย Family Trainer สร้างโดยค่าย Bandai Namco Entertainment ที่ก่อนหน้านี้เคยออกวางขายมาตั้งแต่สมัยแฟมิคอมแล้ว ที่ยุคนั้นใช้เล่นร่วมกับ Power Pad ที่คล้ายกับแผ่นเกมเต้น ซึ่งบน Switch แนวทางของเกมยังคงเดินตามแนวทางของเกมออกกำลังกายทั่วไป ที่มีมินิเกมที่ให้ผู้เล่นได้เคลื่อนไหวร่างกายเพื่อบังคับตัวละครในเกม ซึ่งความพิเศษของเกม Family Trainer คือมันจะจับการเคลื่อนไหวของส่วนขาของผู้เล่นด้วย เพราะในกล่องจะแถมที่รัดขาที่ผู้เล่นต้องนำ Joy-con ของ Nintendo Switch ไปเสียบไว้เหมือนกับเกม Ring Fit แต่การจับการเคลื่อนไหวของส่วนบนของร่างกายจะใช้เพียง Joy-con อีกตัวเท่านั้นไม่ได้มีอุปกรณ์พิเศษอะไรเพิ่มเติมอีก เพียงแค่นี้เกมก็พร้อมเล่นแล้ว
กราฟิกในเกมย้อนไปไกลสมัย PS2
แม้ว่าเกมแนวออกกำลังกายกราฟิกจะไม่ใช่ประเด็นสำคัญนัก แต่ก็เชื่อว่าในยุค 4K แล้วจะมีเกมที่นำกราฟิกสมัย PS2 มาใช้อยู่แม้ความละเอียดของเกมจะดีอยู่ในระดับ HD แต่ทั้งตัวละครในเกมและฉากดูธรรมดามากเหมือนตัวการ์ตูนเชย ๆ ตกยุค เพราะแทบจะไม่มีอะไรเลย ตัวละครก็เรียบ ๆ เหมือนเกมเด็กแจกฟรีบนมือถือ ฉากก็ไร้สีสัน เพลงประกอบก็สุดเชย จริงอยู่คนที่เล่นอยากจะออกแรงมากกว่าเสพภาพสวย ๆ แต่อย่างน้อยน่าจะทำให้ดีกว่านี้สักหน่อย ดูอย่างเกม Ring Fit ที่มีงานออกแบบตัวละครที่ทำได้ดีกว่านี้มาก
รูปแบบการเล่นได้ออกแรงแถมเล่นกับเพื่อนได้
เกมเพลย์ของ Family Trainer เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้ใช้แรงกันทั้งร่างกายเพราะมีการจับการเคลื่อนไหวทั้งด้านบนและช่วงล่างไปพร้อมกัน ผ่านเกมเพลย์ที่เรียบง่ายที่เมื่อใส่สายรัด Joy-con ด้านซ้ายเสียบเข้าไปที่ขาแล้วก็เริ่มเล่นได้เลย โดยเกมจะมีการตรวจว่าจอยเกมอยู่ตำแหน่งที่กำหนดหรือไม่ ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในแนวตั้ง แต่ก็ไม่ได้ตรวจอย่างละเอียดนัก แต่ก็ต้องทำตามจริงจังหากอยากออกแรง และเมื่อจัดการเรียบร้อยก็เข้าสู่เกมกันเลยและตามปรกติที่จะมีโหมดฝึกสอนกันเพื่อให้เราชินกับเกมเพลย์
แน่นอนว่าสิ่งที่แฟนเกมสนใจคือการเล่นที่มีการขนมินิเกมสั้น ๆ มาให้เล่นกันมากมายถึง 15 รูปแบบ ที่มีทั้งการจำลองการเล่นหรือ กีฬาอย่าง สเก็ตบอร์ด ที่มีทั้งแบบทำความเร็วและให้ทำท่าตามที่เกมกำหนด หรือให้เราวิ่งแล้วกระโดดหลบท่อนซุง หรือบังคับรถราง หรือพายเรือล่องแก่ง รวมทั้งง่าย ๆ อย่างกระโดดเชือก และยังมีอีกหลากหลายรูปแบบ ที่ทั้งหมดจะใช้การจับความเคลื่อนไหวของผู้เล่นที่ส่วนใหญ่เราต้องยืนเล่น แต่ก็มีบางเกมที่สามารถนั่งเล่นได้ และข่าวดีคือเกม Family Trainer สามารถเล่นกับเพื่อนได้พร้อมกัน โดยมีทั้งแบบการแข่งกันและช่วยกันด้วย และเราก็ต้องมี Joy-con เพิ่มตามจำนวนผู้เล่นด้วย และต้องมีสายรัดขาเพิ่มด้วยเช่นกัน
การออกกำลังกายที่ไม่ได้ตรวจจับสมจริง
การเล่นเกม Family Trainer ต้องใช้ร่างกายของผู้เล่นบังคับทั้งหมดเช่นการวิ่งเราก็ต้องทำท่าทางวิ่งจริง ๆ แล้วกระโดดก็ต้องโดดกันจริง ๆ เช่นกันซึ่งหากเราทำจริงตามที่เกมกำหนดมันจะเหนื่อยมาก อีกทั้งเกมไม่มีการวอร์มก่อนเล่นดังนั้นเราอาจจะบาดเจ็บได้หากจริงจังกับการเล่นมาก แต่การเล่นจะมีเวลาไม่นานนักก็อาจจะไม่ต้องกังวลแต่ทางที่ดีผู้เล่นควรจะวอร์มร่างกายก่อนเล่นน่าจะดีกว่า
อย่างไรก็ตามเกม Family Trainer ไม่ได้มีการตรวจจับที่สมจริงนัก เราสามารถนั่งเล่นแล้วเขย่าจอยได้เช่นกัน ดังนั้นหากเราอยากออกแรงและสนุกไปกับเกมได้แบบเต็มร้อยก็ต้องซื่อสัตย์กับตัวเอง ส่วนสายรัดขาหากทำหายหรือหาอันที่สองเพื่อเล่นกับเพื่อนไม่ได้ก็สามารถใส่กระเป๋ากางเกงก็ได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามการเล่นหากจะเคลื่อไหวร่างกายให้เต็มร้อยตามที่เกมกำหนดก็ต้องมีห้องกว้าง ๆ สำหรับเล่นหน่อย และยิ่งเล่นหลายคนต้องเว้นระยะห่างกันนิดไม่งั้นอาจจะเกิดอุบัติเหตุชนกันบาดเจ็บได้
โหมดและมินิเกมน้อยไปหน่อย
ส่วนโหมดในเกมจะใส่มาแบบเรียบง่ายที่มีมาทั้ง Five Minutes a Day Quick Training ที่ตามชื่อที่เกมจะให้เราเล่นมินิเกมต่อเนื่องเป็นเวลา 5 นาทีต่อวันเพื่อให้เราได้ออกกำลังกาย และมีการจดสถิติไว้ด้วย ส่วนอีกโหมดจะเป็นการเล่นที่จะเป็นการจัดมินิเกมมาให้เราเล่นในชื่อ Overcome Inactivity ที่ไม่ได้โดดเด่นอะไรแค่เล่นไปเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตามผู้เล่นชาวไทยอาจจะลำบากกันหน่อยเพราะตัวเกมเป็นภาษาญี่ปุ่นล้วน ๆ และมีโอกาสจะไม่มีขายในเวอร์ชันอื่นด้วยถือว่าต้องทำความเข้าใจกับภาษากันสักหน่อย แต่ถือว่าโดยรวมเกมมีโหมดให้เล่นน้อยเกินไปหน่อย แต่อย่างน้อยราคาเกมไม่ได้แพงเท่ากับ Ring Fit เพราะอุปกรณ์เสริมมีเพียงสายรัดขาเท่านั้น
เกม Family Trainer เป็นอีกทางเลือกในการหากิจกรรมออกกำลังกายด้วยวิดีโอเกม ที่ในช่วงนี้การระบาดของ Covid-19 กลับมาอีกรอบทำให้การออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านอาจจะไม่สะดวกนัก ทำให้มันเป็นอีกเกมที่น่าสนใจแม้ความสนุกอาจจะไม่เทีบบเท่า Ring Fit ส่วนการตรวจจับการเคลื่อนไหวก็ไม่ได้ละเอียดนัก แต่อย่างน้อยก็สามารถเล่นกับเพื่อนได้ รวมทั้งมินิเกมที่ใส่เข้ามาก็สนุกพอตัวหากเราเคลื่อนไหวตามที่กำหนดจริง ๆ และเรียกเหงื่อได้เช่นกัน ใครอยากหาเกมออกกำลังกายบน Nintendo Switch ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส