Our score
9.0[รีวิวเกม] Bloody Bunny: The Game เกมแอ็กชัน ‘ต่ายดุสู้ฟัด’ จากคาแรกเตอร์ดังฝีมือคนไทย
จุดเด่น
- ความไหลลื่นของกราฟิกการต่อสู้ทำออกมาได้ดี
- เอฟเฟกต์ต่าง ๆ ภาพ เสียง สร้างประสบการณ์การต่อสู้ที่สนุก
- คาแรกเตอร์และเนื้อเรื่องโดดเด่น
- ราคาไม่แพง
จุดสังเกต
- รายละเอียดเสริมในด้านปฏิสัมพันธ์กับฉาก สิ่งของค่อนข้างน้อย ทำให้มิติการต่อสู้น้อยไปด้วย
Bloody Bunny: The Game เป็นเกมมาใหม่จากศูนย์นวัตกรรมการออกแบบดิจิทัลและเทคโนโลยี (DIDTC) ที่ร่วมมือกับทาง 2SPOT Studio เจ้าของลิขสิทธิ์คาแรกเตอร์ Bloody Bunny โดยจับมาทำเป็นเกมลงเครื่องนินเท็นโดสวิตช์ (Nintendo Switch) ในรูปแบบเกมแอ็กชันสไตล์ 3D Hack and Slash สุดมันส์
เจ้ากระต่ายดุสู้ฟัดที่คุ้นหน้าคุ้นตา
คาแรกเตอร์กระต่ายขาว Bloody Bunny นับเป็นหนึ่งในคาแรกเตอร์ที่อยู่คู่กับความทรงจำของผู้เขียนมาตั้งแต่สมัยวัยรุ่น จนตอนนี้… ไม่ขอพูดถึงอายุดีกว่า แต่ผ่านมาก็เป็นสิบกว่าปีแล้วแหละ ซึ่งยอมรับว่าที่บ้านมีของสะสม ข้าวของเครื่องใช้ กระดาษโน้ตต่าง ๆ ลวดลายคาแรกเตอร์นี้อยู่ไม่น้อยเลย จึงสามารถพูดได้ว่า คาแรกเตอร์กระต่ายดุสู้ฟัดฟาดกระบี่ตัวนี้โลดแล่นให้ได้เห็นหน้าเห็นตาเป็นระยะเวลานานพอสมควรที่ใครเห็นก็ต้องคุ้นเคย
โดย Bloody Bunny เป็นคาแรกเตอร์ลิขสิทธิ์ของ 2SPOT Studio ซึ่งมีทั้งสินค้าออกมาวางจำหน่าย และยังมีโพรเจกต์อนิเมชันที่ใช้ชื่อว่า BLOODY BUNNY the first blood โดยอัปโหลดลงบน Youtube ตั้งแต่ปี 2016 ปัจจุบันมียอดรับชมอยู่ที่ 8 ล้านกว่า (ไปดูมาแล้ว สนุก เจ๋ง และงานดีมาก) ซึ่งตัวเนื้อเรื่องของเกมในเวอร์ชันเครื่องสวิตช์นี้ก็จะอิงมาจากเรื่องราวจากแอนิเมชันนี้นั่นเอง
เนื้อเรื่องสนุก ค่อนไปทางเลือดสาด
ตัวคอนเซ็ปต์ของเจ้ากระต่ายดุสู้ฟัดตัวนี้คือความดุ โหด ฟาดไม่ยั้ง แน่นอนว่าเนื้อหาในเกมจะค่อนข้างมีเรตอายุผู้เล่นที่สูงสักหน่อย เนื้อเรื่องเกี่ยวกับเด็กผู้หญิงและน้องสาวที่ถูกองค์กรชั่วร้ายจับไปทดลองเอาดวงวิญญาณออกจากร่างมาใส่ไว้ในตุ๊กตา เมื่อเธอตื่นขึ้นในหลอดทดลองขนาดใหญ่แล้วพบว่าตัวเองอยู่ในร่างของตุ๊กตากระต่ายสีขาว เธอยังมีความทรงจำ และแน่นอน “ความแค้น” ติดตัวมาด้วย ภารกิจเดินหน้าคิดบัญชีเหล่าวายร้ายที่ทำให้เธอตกอยู่ในสภาพนี้จึงเริ่มต้นขึ้น ในขณะเดียวกันก็ต้องตามหาน้องสาวที่ถูกจับมาด้วยกันให้เจอ แล้วเธอกับน้องสาวจะหลบหนีจากองค์กรชั่วร้ายนี้หรือได้ล้างแค้นสมใจหรือไม่ ขอไม่สปอยล์ใด ๆ ทั้งสิ้น
และด้วยเนื้อเรื่องที่ดำเนินโดยตัวละครที่มีเจตนาจะแก้แค้น แน่นอนว่าการต่อสู้จะค่อนข้างหนักหน่วง รุนแรง เลือดสาดไม่น้อย แต่พูดเลย คอเกมแอ็กชันไล่ฟันคือสะใจแน่นอน
เกมแอ็กชันที่เน้นบู๊เป็นหลัก
หากใครที่ผ่านมือพวกเกมแนว ACTION RPG หรือจะเกมแนว ACTION Hack and Slash อื่น ๆ มาก็จะพบว่าเกมนี้อาจมีจุดต่างอยู่บ้าง เนื่องจากการดำเนินเรื่องของเกมจะเน้นการลุยผ่านฉากไปข้างหน้า ไม่ได้มี NPC หรือรายละเอียดในแมปให้สร้างปฏิสัมพันธ์เท่าไรนัก อย่างมากอาจมีการปามีดให้ท่อนเหล็กตกลงมา สร้างเป็นทางเดินไปข้างหน้า มีนู่นมีนี่ให้เปิด ให้ปิดนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษเพื่อสร้างความได้เปรียบเสียเปรียบในการต่อสู้ ไม่มีอะไรให้ฟาร์มด้วย แต่ลักษณะเกมแบบเดินหน้าสู้ อ่านการโจมตีของศัตรูและบอสต่าง ๆ เพื่อจับจังหวะหลบหลีก ตอบโต้ ก็ยังคงเป็นเอกลักษณ์ตามแบบฉบับเกมแนวนี้อยู่
เอาง่าย ๆ มันคือแอ็กชันแบบตรงไปตรงมา วิ่งไปหาศัตรู ฟัน ๆ แล้วก็วิ่งไปหาศัตรูตัวใหม่ ฟัน ๆ แม้ที่เล่ามาจะทำให้นึกสงสัยว่ามันน่าเบื่อไปหรือไม่ ความจริงก็ไม่ขนาดนั้นเสียทีเดียว ด้วยความที่เกมนี้เป็นเกมแอ็กชัน 3D มุมกล้องหมุนได้รอบทิศ ตัวละครถืออาวุธได้ 4 ประเภทสลับใช้ตามสถานการณ์ได้ เช่น ดาบสั้น ใช้สำหรับการโจมตีที่รวดเร็ว ทำคอมโบได้ถี่ ๆ ค้อนมีดาเมจรุนแรง ใช้สำหรับการทำลายเกราะ โล่ แต่ข้อเสียคือโจมตีได้ช้า บูเมอแรง ใช้สำหรับการขว้างเพื่อปัดศัตรูที่รุมล้อมออกไป สร้างระยะห่างระหว่างตัวละคร และมีดสั้น ที่ใช้ปาออกไปเพื่อโจมตีระยะไกล แต่ข้อเสียคือมีดาเมจที่ต่ำ
ในแง่ของการต่อสู้ ตรงนี้ต้องยอมรับว่าตัวเกมทำออกมาได้ค่อนข้างดี ทั้งกราฟิกคุณภาพดี ทั้งเซนเซอร์การสั่นไหวที่คอนโทรเลอร์ เสียงเอฟเฟกต์คมชัดส่งให้ผู้เล่นสัมผัสถึงความหนักเบาในการโจมตีออกไปได้ดีพอสมควร รวมไปถึงการสังหารหรือการกด ZR เพื่อปิดจ๊อบศัตรูจะมีคัตซีนฉากสังหารในรูปแบบต่าง ๆ สั้น ๆ ซึ่งนี่ก็ไม่ได้มีไว้เอาเท่อย่างเดียว แต่หลังจากสังหาร จะเป็นการเติมค่า HP ให้ตัวละครของเราบางส่วน ดังนั้นเราจะพบว่า แม้เกมจะไม่ได้มีอะไรให้ฟาร์ม ไม่ได้มียาให้ซื้อ เกมก็ส่งพวกศัตรูลูกกระจ๊อกนี่แหละ มาเป็นถังเลือดเคลื่อนที่ให้เราได้ฆ่าเพื่อต่อชีวิตของเราแทน อ่อ และหากปิดจ๊อบสังหารศัตรูโดยที่อยู่ใกล้ ๆ กับสิ่งของบางอย่าง สิ่งของนั้นจะช่วยทำดาเมจเพิ่มเติมให้ศัตรูรอบ ๆ ได้บางส่วน (เช่น พวกถังแก๊สจะระเบิดได้) แต่หากไม่ใช่การสังหารด้วย ZR ก็ไม่สามารถทำอะไรกับวัตถุเหล่านั้นได้นะ
รายละเอียดไม่มาก เน้นให้เราโฟกัสกับการต่อสู้
สรุปได้จากประสบการณ์การเล่นคือเกมนี้ตัดรายละเอียดของการมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นฉาก หรือสิ่งของ ไม่สร้างแมปที่ซับซ้อน ทำให้เราโฟกัสอยู่กับการต่อสู้ที่ต้อง ไล่ฆ่า ด้วยหลอดเลือดจำกัด ยาก็แทบไม่มีให้เก็บ ใช้ประโยชน์จากสภาพแวดล้อมแทบไม่ได้ แต่พอจะสามารถใช้ประโยชน์จากศัตรูได้ เช่น การฆ่าลูกกระจ๊อกเพื่อเติมเลือดอย่างที่กล่าวไป นอกนั้นคืออาศัยทักษะการเล่นของผู้เล่นแทบจะ 99 เปอร์เซ็นต์ ไม่ว่าจะเป็นการล็อกศัตรู เปลี่ยนมุมกล้อง กระโดด แดชหลบ แดชกลางอากาศ เลือกใช้อาวุธ หาจังหวะใช้สกิล ทุกอย่างต้องทำผสมผสานในเวลาเดียวกันแล้วนำมาใช้ทั้งการโจมตี หลบหลีก หรือหยั่งเชิงบอส
สำหรับคนที่ไม่ได้ถนัดเกมแนวแอ็กชันอย่างผู้เขียน หลังจากได้ลองเล่นก็พบว่าเกมไม่ได้ง่ายสำหรับมือใหม่เท่าไร ยิ่งถ้าเจอบอส หรือมินิบอสที่เคลื่อนที่ไปมาอิสระ เราจะต้องคอยล็อกเป้าหมายให้มุมกล้องเราหันตามไปด้วย คอยจับจังหวะสกิลบอสไปด้วย ต้องตัดสินใจว่าจะแดช จะกระโดด หรือจะทำทั้งสองอย่าง แล้วคอยหาโอกาสเข้าประชิดเพื่อทำดาเมจ ทั้งหมดนี้ก็แทบจะดึงทุกเซลล์สมองมาประมวลผลในการต่อสู้แค่ฉากเดียว เรียกได้ว่า ต้องได้ตายเพื่อเรียนรู้ไม่รู้กี่หน แต่พอจับทางได้ มันก็ได้เองแหละ สรุปคือ ตัวช่วยในการต่อสู้แทบไม่มี เน้นพึ่งพาไหวพริบและทักษะของผู้เล่น มือใหม่หรือคนไม่ถนัดแนวนี้จะรู้สึกท้าทายไปจนถึงยาก ส่วนคอเกมแนวนี้อาจมองว่าลูกเล่นน้อยไปหน่อย แต่เชื่อเถอะ ถ้าวัดกันที่แอ็กชันการต่อสู้ เกมนี้ทำได้ดี ขอชมจริง ๆ
สรุปแล้ว
เป็นเกมแอ็กชัน 3D ที่ระบบการต่อสู้ทำออกมาดี สู้สนุก ถึงใจ กราฟิกดี เสียงประกอบถูกที่ถูกเวลา แม้จะไม่ได้มีลูกเล่นหรือองค์ประกอบมากมายครบครันเหมือนเกมแนวเดียว ๆ กันเกมอื่น แต่ก็สร้างประสบการณ์การต่อสู้ได้สด สนุก ไม่ซับซ้อน ที่สำคัญคือไม่ง่ายจนทำให้เบื่อแน่นอน
ข้อสังเกต คือ เกมไม่ได้มีอะไรให้ปฏิสัมพันธ์มากนัก ฉาก สิ่งของ แทบไม่ได้มีผลหรือสร้างความได้เปรียบเสียเปรียบในการต่อสู้ ในแมปไม่ได้มีความซับซ้อนหรือใส่รายละเอียดอะไรให้ค้นพบ ค้นหาเท่าไร เน้นเดินหน้าไปเรื่อย ๆ ผู้เล่นที่ต้องการมิติที่หลากหลายของการต่อสู้อาจรู้สึกว่ายังไม่พอ
ดาวน์โหลด
Nintendo eShop
ภาพโดย : milet, Bloody Bunny OFFICIAL, Quantumpeaks
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส