รีวิวเกม Kaze and the Wild Masks แอ็กชัน 2D แบบคลาสสิกของยุค 90s กลับมาแล้ว
Our score
8.0

รีวิวเกม Kaze and the Wild Masks แอ็กชัน 2D แบบคลาสสิกของยุค 90s กลับมาแล้ว

จุดเด่น

  1. แอ็กชัน 2D แบบเกมคลาสสิกในอดีตที่สนุกลงตัว
  2. กราฟิกน่ารักดูดี
  3. ระบบหน้ากากที่หลากหลาย

จุดสังเกต

  1. ระบบเสียงและเพลงประกอบที่เรียบ ๆ ไปหน่อย
  2. งานออกแบบตัวละครที่ไม่โดดเด่นไร้เสน่ห์

แนวทางการสร้างเกม 2D ยังคงเป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะค่ายเกมเล็ก ๆ เพราะไม่ต้องใช้ทุนสร้างเยอะ และมีต้นแบบเป็นเกมคลาสสิกมากมายให้ทำตาม และล่าสุดกับการมาของ Kaze and the Wild Masks เกมแอ็กชัน 2D ที่นำเอารูปแบบตำนานของนินเทนโดมาเป็นต้นแบบเสียด้วย และผู้สร้างอย่างค่าย Soedesco ทำออกมาได้สนุกไม่จะไม่เท่าต้นฉบับแต่ก็ถือว่าทำออกมาได้ดีจนต้องหามารีวิว

โดย Kaze and the Wild Masks เป็นการผสมผสานเอาแนวทางการสร้างเกมยอดนิยมในอดีตมาปรับเปลี่ยนโดยทีมงาน Soedesco ผู้สร้างเกมสยองอย่าง Remothered: Tormented Fathers ที่ภาค 2 รองรับภาษาไทยด้วย แม้จะไม่ใช้ค่ายเกมยักษ์ใหญ่อะไรแต่ก็พอมีประสบการณ์อยู่บ้าง และสำหรับ Kaze and the Wild Masks เป็นการนำแนวทางของตำนานของนินเทนโดอย่าง Donkey Kong Country มาเป็นต้นแบบสร้างเกมแอ็กชัน 2D แถมยังได้ใส่ของใหม่เข้าไปอย่างระบบหน้ากากด้วย และได้ออกวางขายบน PS4 , Xboxone และ Nintendo Switch รวมทั้ง PC ด้วย ข่าวดีคือมีการวางขายแบบตลับและแผ่นบนคอนโซลด้วย สายสะสมสามารถหามาเล่นได้

ภาพแนว 2D แท้ ๆ ที่ดูเชยแต่ลงตัว

Kaze and the Wild Masks มาแบบ แอ็กชัน 2D มุมมองด้านข้างและต้องกระโดดไปตามพื้นผิวแบบตะลุยด่านที่เดินตามรอย Donkey Kong Country สมัยออกบน Super Famicom โดยภาพจะเป็นการ์ตูนที่ดูน่ารัก ตัวเอกเป็นกระต่ายที่ดูดีแต่งานออกแบบและฉากดูเชยไปหน่อย เพราะมาแนวย้อนยุคแท้ๆ แต่ก็มีความคมชัดและดูดีบนหน้าจอทีวียุคใหม่ และเฟรมเรตก็ลื่นไหลดี ส่วนคัทซีนก็ใส่มาแบบการ์ตูน 2 มิติเช่นเดียวกับเกมเพลย์หลัก แต่ก็ไม่ได้ลงทุนอะไรมากและก็ไม่ได้มีความยาวอะไร อย่างไรก็ตามเพลงประกอบในเกมก็ไม่ได้มาแบบ 16Bit แบบเกมเก่ามีการใส่เพลงที่แต่งโดยเสียงของเกมยุคใหม่แล้ว อย่างไรก็ตามเพลงก็เรียบ ๆ ไม่ได้โดดเด่นติดหูแตกต่างจากเกมในอดีตที่มีดนตรีประกอบติดหูและเป็นตำนานจนถึงตอนนี้

เกมเพลย์ใส่ความคลาสสิกมาแบบจัดเต็ม

อย่างที่บอกว่า Kaze and the Wild Masks เอาต้นแบบมาจาก Donkey Kong Country ไล่ตั้งแต่ตัวละครในเกมที่เป็นสัตว์ (กระต่าย) และใช้การหมุนตัวเพื่อใช้หูโจมตีศัตรู และยังกระโดดแล้วใช้หูหมุนเป็นใบพัดเพื่อให้ลอยตัวกลางอากาศได้พักหนึ่ง และยังใช้หูปาสิ่งของได้ และยังมีการปีนป่ายเถาวัลย์ รวมทั้งค่าพลังชีวิตที่น้อยโดนอัดไม่กี่ทีก็ตาย ทำให้มันทั้งคล้ายกับเกมลิงยักษ์ของปู่นิน รวมทั้งยังยากท้าทายเหมือนกันด้วย อย่างไรก็ตามมันก็มีโหมดง่ายเข้ามาให้ผู้เล่นหน้าใหม่เล่นแต่บอกตรง ๆ ก็ไม่ได้ง่ายขึ้นมากมายอะไร ซึ่งส่วนตัวแล้วเป็นข้อดีเพราะมันคือความสนุกของเกมในอดีตที่ทำให้เราหัวร้อนกันตลอด และทีมงานก็ทำออกมาได้ใกล้เคียงเสียด้วย

นอกจากนี้ฉากในเกมยังมีการออกแบบด่านให้ต้องเล่นแบบรวดเร็ว เพราะมีการวางศัตรูหรือกับดักโหด ๆ ที่หากเรารอช้าก็จะพลาดตายได้ง่าย ๆ ในไม่กี่วินาทีเท่านั้น และยังมีการใส่ลูกเล่นในฉากที่มีความโดดเด่นเช่นการเปิดไฟให้ฉากสว่างแล้วศัตรูจะโจมตีเราไม่ได้ และยังมีการใช้การพุ่งตัวไปบนฉากที่เต็มไปด้วยเหวด้วยไอเทมที่คล้ายกับธนู ซึ่งจะทำให้ตัวละครหลักพุ่งตัวไปอย่างรวดเร็ว คล้ายกับระบบถังยิงในเกม Donkey Kong Country แบบตั้งใจ ซึ่งหากใครเคยเล่นต้นฉบับมาแล้วจะเข้าใจได้ในทันที และข่าวดีคือผู้สร้างสามารถถอดแบบมาได้อย่างดีในระดับน่าพอใจด้วย

ฉากออกแบบได้ลงตัวและหลากหลาย

ฉากในเกมเรียบง่ายแบ่งออกเป็นฉากย่อยที่ต้องกดไข้าไปเล่น และยังแบ่งเป็นฉากหลักแบบ World ที่มีบอสใหญ่อย่างท้ายฉากเหมือนเกมตะลุยด่านทั่ว ๆ ไปไม่ได้โดดเด่น และระหว่างฉากจะมีจุด Save ไว้สำหรับผู้เล่นที่พลาดตายก็จะได้ไม่ต้องเริ่มเล่นใหม่ทั้งฉาก และแต่ละฉากมีภูมิประเทศที่แตกต่างกันเช่นด่านป่าที่มีสิ่งให้ปีนป่ายมากมาย หรือฉากน้ำแข็งที่มีพื้นลื่นมาก ๆ และยังมีแท่งน้ำแข็งถล่มทับเรา หรือฉากพื้นเลื่อนสุดโหดที่ทำให้เราตายได้ง่ายดาย โดยในทุกฉากมีไอเทมซ่อนอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเพชรสีแดง หรือตัวอักษรที่ให้เราเก็บให้ครบ หรือด่านโบนัสที่ซ่อนอยู่ในฉากแต่บอกไว้ก่อนว่ามันโหดพอสมควรแค่เล่นให้ผ่านก็ยากแล้ว แต่หากจะให้สมบูรณ์แบบก็ควรเก็บของที่ซ่อนไว้ให้ครบ

ส่วนระบบบอสในเกมถือว่าเป็นการเอาความคลาสสิกของแอ็กชัน 2D ยุค 80s – 90s มาใช้งานอีกครั้งที่บอสในเกมจะมีรูปแบบการโจมตีที่ตายตัว และผู้เล่นต้องจับจังหวะเพื่อหลบหลีกและหาช่องโจมตีกลับ ที่ส่วนใหญ่จะเป็นการโจมตีจุดอ่อน และเราต้องกระโดดไปตามพื้นผิวที่เกมกำหนด และมีเวลาจำกัดทำให้เราต้องรีบหาช่องโจมตีกลับ ซึ่งผู้สร้างสามารถดึงเอาจิตวิญญาณของความสนุกในอดีตได้ดีในระดับน่าพอใจด้วย แม้จะมีบางอย่างยังไม่เทียบเท่าต้นฉบับได้ก็ตามแต่สำหรับเกมที่ไม่ได้สร้างโดยทีมงานยักษ์ใหญ่อะไรก็ถือว่าทำได้ดีมาก ๆ แล้ว

ระบบหน้ากากที่ทำให้เกมสนุกกว่าเดิม

และสิ่งใหม่ ๆ ที่ทำให้ Kaze and the Wild Masks แตกต่างจากเกม Donkey Kong Country คือระบบไอเทมพิเศษในเกมที่เป็นหน้ากากที่เมื่อเราสวมแล้วจะแปลงร่างและได้ความสามารถพิเศษเพิ่มเข้ามา และมันออกแบบมาให้เล่นกับด่านที่มีหน้ากาก เช่นด่านที่เต็มไปด้วยน้ำ ก็จะได้หน้ากากปลาฉลามที่ทำให้เราจะได้ความสามารถในการว่ายน้ำได้รวดเร็ว หรือหน้ากากเสือที่มีพลังโจมตีรุนแรงและเกาะกำแพงได้ หรือมีหน้ากากนกที่ทำให้ผู้เล่นมีปีกแล้วบินได้ และแน่นอนว่าแต่ละฉากจะออกแบบมาให้ใช้งานเฉพาะด่านเท่านั้นพลังของหน้ากากไม่สามารถเอาไปใช้ในด่านอื่นได้ ทำให้ขาดความหลากหลาย แต่ก็ถือว่าทำให้เราเล่นได้สนุกและมีอะไรให้ประหลาดใจตลอดการเล่นแถมยังมีความยากท้าทายแบบเกมในอดีตด้วย

โดยรวมแล้วเกม Kaze and the Wild Masks ถือว่าทำออกมาได้ดีเกินคาด เพราะในตอนแรกเห็นภาพในเกมแล้วเฉย ๆ มาก แถมมันก็ไม่ได้มีจุดเด่นอะไรให้น่าเล่นนัก แต่หลังจากลองเล่นแล้วถือว่าสนุกแบบเกมในอดีตที่ลงตัวทุกอย่าง แม้อาจจะไม่สุดเท่ากับของเดิม แต่ก็มีทุกอย่างที่เกมคลาสสิกควรจะมีครบ แถมเสริมด้วยระบบหน้ากากที่ลงตัวมาก และยังมีบอสที่ท้าทาย แต่สำหรับมือใหม่หรือคอเกมรุ่นใหม่ที่ไม่ถนัดเกมแนวตะลุยด่านก็สนุกไปกับมันได้เพราะมีโหมดง่ายให้เล่น สรุปแล้วใครอยากหาความสนุกแบบเดิม ๆ ลองไปโหลดมาเล่นได้เลยแถมราคาขายไม่แพงเสียด้วยยิ่งทำให้คุ้มค่าเข้าไปอีก

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส