[รีวิวเกม] Arc The Lad R เกมมือถือ Tactics RPG แบบฉบับญี่ปุ่นแท้ ๆ เปิด Global แล้ว

Our score

9.0

[รีวิวเกม] Arc The Lad R เกมมือถือ Tactics RPG แบบฉบับญี่ปุ่นแท้ ๆ เปิด Global แล้ว

จุดเด่น

เกม JRPG แนว Tactics ที่มีระบบและ UI สุดคลาสสิก
ความสามารถที่โดดเด่นของแต่ละตัวละครช่วยให้ออกแบบการต่อสู้ได้หลากหลาย
ให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับการเล่นเกมคอนโซล

จุดสังเกต

ระบบเควสต์ค่อนข้างน่าสับสน เล่นใหม่อาจงงได้
เกมหลักในญี่ปุ่นกำลังจะหยุดให้บริการ เวอร์ชันนี้อาจไม่ได้มีการพัฒนาไปมากกว่าเดิม

Arc The Lad R เกม JRPG สุดเก๋าในเวอร์ชันมือถือ สุดท้ายก็เล่นได้ทั่วโลก

ค่อนข้างสวนกระแสทีเดียวกับเกม Arc The Lad R หลังจากทาง Forwardworks ผู้พัฒนา ได้ตัดสินใจยุติให้บริการในประเทศญี่ปุ่นในเดือนมิถุนายนที่จะถึง แต่โชคยังดี เพราะทาง Boltrend Games ได้ต่อชีวิตเกมนี้โดยนำมาเปิดให้บริการในรูปแบบ Global แทน และปัจจุบันก็เปิดให้บริการในสโตร์ไทยเป็นที่เรียบร้อยพร้อมภาษาอังกฤษให้คนที่ยังอยากสัมผัสเกม JRPG มือถือสุดจะคลาสสิกได้เล่นกัน

แค่เริ่มเล่นก็รู้สึกญี่ปุ๊น ญี่ปุ่น

เกมนี้จัดเป็นเกมแนว JRPG บนมือถือขนานแท้ที่ไม่ว่าจะเป็นเนื้อเรื่อง คาแรกเตอร์ตัวละคร รูปแบบการเล่นแนวตั้ง และ UI ต่าง ๆ ที่หากเป็นสายเกม RPG ปั้นตัวละครสู้ทางฝั่งญี่ปุ่นจะพบว่า “เออ มันเป็นแบบนี้แหละ” ก็เกมนี้มันเกมญี่ปุ่นนี่เนอะ (ฮ่า ๆ )

โดยเกมนี้ใช้ทรัพยากรเนื้อหา ตัวละคร แตกยอดหน่อมาจากเกม JRPG สุดคลาสสิกที่เคยลงเครื่อง Playstation ในชื่อที่ไม่หนีห่างกันว่า Arc The Lad โดยเนื้อหาน่าจะลิงก์มาจากภาคที่ 2 หรือ Arc The Lad II เพราะเราจะได้เห็นตัวเอกของภาค 2 อยู่ในเกมด้วย

ในส่วนของกราฟิกไม่ได้ดีมาก แต่ก็ไม่ได้แย่มาก ตอนเล่นก็ท่องเอาไว้ เกมตั้งแต่ปี 2018 นะ ส่วนตัวชอบการดำเนินเรื่องราวของเกมมาก เพราะตอนเนื้อเรื่อง จะเป็น cut scene ฉากและตัวละครสามมิติ เหมือนเล่นเกมในเครื่องคอนโซลยังไงอย่างงั้น แต่การสู้ในเกมจะเป็นการเล่นแบบผ่านด่านเหมือนเกม RPG บนมือถือทั่ว ๆ ไป

แต่จุดที่ค่อนข้างขัดอกขัดใจในการเดินเนื้อเรื่องของเกมก็คือ เควสต์มันขึ้นเยอะไปหมด ทั้งเควสต์หลัก เควสต์ย่อย เควสต์ตัวละคร การวางด่านผจญภัยในโหมดเนื้อเรื่องกระจัดกระจายโดดไปโดดมาตามหน้าต่าง ๆ ไม่ได้เรียงลำดับชัดเจนแตกรูทให้เห็นเหมือนเกม RPG จัดทีมผ่านด่านบนมือถือที่คุ้นชิน เล่นแรก ๆ งงแน่นอน แนะนำให้ช่วงต้นของเกม เน้นไล่ตามเควสต์หลักโดยการเลือกด่านที่มีคำว่า ‘NEXT’ ไปก่อน

เกมแนว Tactics ดั้งเดิมที่เล่นยังไงก็ไม่เบื่อ

ส่วนตัวชอบเกม JRPG ที่เป็นแนว Tactics พอสมควร เนื่องจากเกมแนวนี้เปิดโอกาสให้ผู้เล่นมีส่วนร่วมในการต่อสู้ของตัวละครค่อนข้างมาก และเกมนี้ยังคงความคลาสสิกนั้นไว้ได้ดี เรียกได้ว่า เป็นแนวที่ขึ้นหิ้งไปแล้ว ไม่ต้องมีอะไรใหม่ยังได้ ขอแค่ส่งตัวละครที่มีสกิลทั้งสกิลหลัก สกิลรองที่หลากหลาย หักล้างกันไปกันมา ส่งเสริมกันไปกันมา มาให้ได้เล่นก็พอ

เกริ่นเสียเยอะ มาพูดถึงในส่วนของการเล่นบ้าง เกมนี้การดำเนินเนื้อหาจะเป็นไปตามโหมดเนื้อเรื่องที่แบ่งด่านออกเป็นพาร์ตย่อย ๆ บางฉากก็มีแค่เนื้อเรื่อง บางฉากต้องสู้ ตามสไตล์เกม RPG มือถือชาติญี่ปุ่น และเมื่อต้องสู้ การต่อสู้จะเป็นแนว Tactics การเคลื่อนที่จะอยู่บนกระดานช่อง ๆ ตัวละครแต่ละตัวมีระยะโจมตีกายภาพ/โจมตีเวทมนตร์ และระยะสกิลแตกต่างกัน สามารถเดินหน้าหาศัตรูจนเข้าระยะโจมตีแล้วตีไปทื่อ ๆ ได้ หรือจะอ้อมข้าง อ้อมหลังแล้วค่อยตีก็ได้เหมือนกัน แน่นอนว่าเกมแนวนี้ การโจมตีศัตรูจากด้านข้างและด้านหลังจะสร้างความเสียหายได้มากกว่าด้านหน้า

นอกจากนั้นตัวละครยังมีสิ่งที่เรียกว่า AUTO SKILL ซึ่งสามารถเป็นได้ทั้งสกิลแอกทีฟ และพาสซีฟ โดยจะเกิดขึ้นอัตโนมัติ เช่น ฮีลเพื่อนในระยะอัตโนมัติหลังจบเทิร์นตัวเอง หรือเป็นบัฟโจมตีให้เพื่อนที่ยืนอยู่ในระยะ ดีบัฟลดการป้องกันศัตรูหากอยู่ในระยะ และอื่น ๆ อีกมาก

จุด ๆ นี้ทำให้การกำหนดช่องให้ตัวละครเดินส่งผลมาก บางตัวสามารถมายืนในระยะของเพื่อนในทีมเพื่อให้บัฟจากสกิลอัตโนมัติได้ บางตัวก็ใช้ยืนเพื่อลดพลังป้องกันของศัตรูได้ ตรงนี้บอกเลยว่าทำให้เราได้คิด วางแผนใช้งานตัวละครตลอดการต่อสู้ สนุกตามสไตล์เกม Tactics

ความสามารถของตัวละครมีเอกลักษณ์ จัดทีมเพื่อหวังผลได้หลากหลาย แก้ทางศัตรูได้ไม่จำกัด

เสน่ห์ของเกม Tactics คือการมองหาช่องทางความได้เปรียบเพื่อเอาชนะศัตรู การต่อสู้สามารถพลิกแพลงได้ ต่างจากเกมสู้แบบแค่กดสกิล เพราะหากแพ้ ก็คือแพ้ ต้องมาอัปเกรดตัวละครให้เก่งขึ้นอย่างเดียว แต่เกม Tactics จะพึ่งพาความสามารถในการแก้สถานการณ์ของผู้เล่นประมาณหนึ่ง บางทีแพ้แล้ว ลองปรับกลยุทธ์การเล่นด้วยทีมเดิม แต่ลองสลับสับเปลี่ยนต่ำแหน่งการยืนเพื่อให้ได้บัฟและจ่ายดีบัฟทั่วถึง จัดลำดับมอนสเตอร์ที่จะตีใหม่ ก็อาจชนะได้โดยไม่ต้องทำอะไรกับทีมที่มี

นอกจากสกิลที่เป็นสกิลหลัก ใช้สำหรับร่ายในการสู้แล้ว ตัวสกิลรองที่เป็น AUTO SKILL นี่แหละ ช่วยสร้างความหลากหลายของการเล่นได้ค่อนข้างมาก เพราะมีสกิลที่น่าสนใจอยู่ในแต่ละตัวละครมากมาย อาทิ บัฟเพิ่มพลังโจมตีของตัวเอง ประสิทธิผลเพิ่มขึ้นตามจำนวนสมาชิกเพศหญิงในทีม บัฟเพิ่มพลังโจมตีเพื่อนในระยะที่กว้างมาก ๆ หรือแม้กระทั่งบัฟเพิ่มพลังโจมตี / คริติคอล เมื่อเลือดต่ำกว่าระดับที่กำหนด เรียกได้ว่ามีตัวเลือกให้เราใช้ประโยชน์จากตัวละครมากมาย จัดทีมสนุกเลยล่ะ

สรุปแล้ว

เป็นอีกเกม JRPG ที่เก่าแล้ว แต่ยังเล่นสนุกอยู่ กราฟิกไม่ได้แย่จนน่าหงุดหงิด จะให้อารมณ์เหมือนเล่นคอลโซลนิด ๆ ทั้งยังคงเอกลักษณ์ของเกมแนว Tactics เอาไว้ได้ค่อนข้างดี

จุดสังเกต คือการวางเควสต์หลัก เควสต์ย่อย เควสต์ตัวละคร ผสมปนเปอยู่บนแมป กระโดดไปกระโดดมา ไม่เรียงลำดับ เล่นแรก ๆ รับประกันความงง และเป็นเกมที่ตัวเกมเดิมเวอร์ชันญี่ปุ่นจะหยุดให้บริการในเดือนมิถุนายน นั่นหมายถึงเกมจะไม่ได้มีการพัฒนาอะไรมากไปกว่าที่เป็นอยู่นอกจากการอัปเดตไปตามแพตช์ที่ทาง Boltrend ดีลมา (แต่ก็ไม่แน่ ถ้าทาง Forwardworks อยากจะไปต่อกับเวอร์ชัน Global)