[รีวิวเกมวีอาร์] “Until You Fall” นี่มันเกมแนว Soul Like เวอร์ชัน VR ชัดๆ!!
Our score
8.6

[รีวิวเกมวีอาร์] “Until You Fall” นี่มันเกมแนว Soul Like เวอร์ชัน VR ชัดๆ!!

จุดเด่น

  1. ระบบ combat ทำออกมาได้ยอดเยี่ยม เล่นสนุกมาก
  2. เรียกเหงื่อได้ดี ทางเลือกสำหรับคนอยากออกกำลังกาย
  3. ระบบต่าง ๆ ไม่ซับซ้อนเข้าใจง่าย มีคุณค่าให้เล่นได้เรื่อย ๆ
  4. งานภาพถือว่าดูดีเมื่อเทียบกับราคาของเกม
  5. ไม่ค่อยมีอาการปวดหัวจากมุมกล้องขณะเล่น

จุดสังเกต

  1. ประเภทของศัตรูที่ให้สู้น้อยเกินไปสำหรับเกมแนว Roguelike
  2. คอนเทนต์ให้เล่นมีไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่
  3. เกมยากพอสมควร อาจจะไม่เหมาะกำผู้เล่นบางกลุ่ม

เกม VR คือเกมจำลองภาพเสมือนให้ผู้เล่นได้เข้าไปสวมบทบาทในเกมราวกับว่าตัวเองได้เข้าไปอยู่ในเกมนั้นจริง ๆ สำหรับเกม “Until You Fall” ที่ผมได้นำมาเขียนรีวิวในครั้งนี้คือเกมที่จะมามอบประสบการณ์เสมือนว่าคุณได้เข้าไปติดอยู่ในเกม RPG จริง ๆ โดยระบบ Combat หลักของเกมจะเป็นการใช้ดาบระยะชิดเพราะฉะนั้นใครที่เป็นสายฟันดาบและมีเครื่องเกม VR ไว้ในครอบครองขอแนะนำว่าห้ามพลาดเด็ดขาด

ปล.รีวิวนี้ผู้เขียนเล่นผ่านเครื่อง oculus quest 2

Until You Fall Teaser Trailer

ABOUT THIS GAME

Until You Fall เกมจากทีมพัฒนา Schell Games นำเสนอแนวเกมในรูปแบบ Roguelike RPG VR เป็นเกมที่จะให้คุณได้เข้าไปสวมบทบาทเป็น Rune Knight คนสุดท้ายที่เหลืออยู่และต้องออกไปต่อการกับเหล่ามอนสเตอร์ที่เป็นต้นเหตุของการล่มสลายของอารยธรรมทั้งหมด โดยเกมเพลย์หลัก ๆ ผู้เล่นจะต้องพบเจอกับการตายซ้ำตายซากและวนกลับมาเริ่มใหม่ตั้งแต่ต้นที่ให้อารมณ์แทบจะไม่ต่างจากเกมแนว soul like เลย

ผู้เล่นจะต้องจับดาบทั้ง 2 ข้างออกไปเรียนรู้ศัตรู รวมไปถึงกลับมาอัปเกรดอาวุธฝึกฝนทักษะการออกท่าทางต่อสู้เพื่อให้ทุกครั้งที่การกลับมาเริ่มใหม่จะสามารถไปได้ไกลยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ

GAME PLAY

ความเป็น Roguelike ทำให้ผู้เล่นสามารถโฟกัสกับระบบ Combat ได้อย่างเต็มที่

สำหรับคนที่ไม่เข้าใจว่าเกมแนว Roguelike คืิออะไร ผมจะขออธิบายให้ฟังแบบเข้าใจง่าย ๆ นั่นก็คือเกมแนวนี้มักจะนำเสนอแนวเกมที่ผู้เล่นจำเป็นจะต้องตายซ้ำตายซากแล้วกลับมาเล่นใหม่ตั้งแต่แรกวนเวียนไปเรื่อย ๆ แต่ทุกครั้งที่กลับไปเล่นใหม่ด่านเดิม ๆ ระบบจะทำการสุ่มทุกอย่างใหม่หมดไม่ว่าจะเป็นไอเทม จำนวนศัตรู ประเภทศัตรู หรือก็คือการเล่นแต่ละรอบจะไม่ซ้ำกันเลยสักครั้ง ผู้เล่นจะต้องศึกษาเรียนรู้แพตเทิร์นศัตรู แก้ไขในสิ่งที่เคยพลาด ศึกษาระบบ combat (ต่อสู้) ของเกม อัปเกรดอาวุธ เพื่อที่ทุกครั้งที่ต้องกลับมาเล่นใหม่เราจะสามารถไปได้ไกลกว่าเดิม

ด้วยความที่แนวเกมออกแบบมาแบบนี้ผู้เล่นจึงแทบจะไม่ต้องโฟกัสสตอรี่และไม่จำเป็นต้องแวะฟาร์มของสำรวจฉากอะไรมากมายให้เสียเวลา ตลอดเวลาการเล่นเกมนี้กว่า 90% คือการต่อสู้ล้วน ๆ

ระบบต่อสู้คือสนุกมาก ไม่ปวดหัว ไม่ซับซ้อน เรียกเหงื่อได้อย่างดี

ระบบต่อสู้ของเกมนี้ถือว่าไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากมาย ออกจะง่ายเกินไปด้วยซ้ำถ้าหากนี่เป็นเกมบนแพลตฟอร์มอื่นที่ไม่ใช่ VR อ่ะนะ ใช่ครับ!! พอเกมนี้มันเป็นเกม VR มันก็เลยทำให้เกมนี้ยกระดับความยากขึ้นไปสูงมาก ๆ มันเหมือนกับเราอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริง ๆ การหลบ ปัดป้อง ออกแรงเหวี่ยงดาบคือเราต้องออกแรงจริง และมันใช้พลังกายเยอะมาก ยิ่งเราเหนื่อยล้าเท่าไหร่เกมก็ยิ่งยากขึ้นเท่านั้น ทำให้เกมนี้คืออีก 1 เกมที่มีความท้าทายสูงพอสมควรและเรียกเหงื่อได้ดีจริง ๆ (ได้ทั้งออกกำลังกายได้ทั้งความมัน)

โดยระบบ Combat หลัก ๆ ของเกมนี้จะมีประมาณนี้เลยครับ

การโจมตี

สำหรับศัตรูในเกมนี้จะมีหลอดเลือด 2 หลอด ได้แก่ เกราะ และ หลอดHP ซึ่งการที่เราจะสร้างดาเมจใส่ศัตรูได้โดยตรงนั้นเราจำเป็นต้องทำลายเกราะของศัตรูให้ได้ก่อน ซึ่งการทำลายเกราะของศัตรูนั้นเราสามารถทำได้จากการโจมตีปกติหรือเมื่อปัดป้องการโจมตีของศัตรูได้สำเร็จ และเมื่อเกราะของศัตรูแตกแล้วตัวเกมจะทำการขึ้นไอคอนสีส้มตามรูปข้างบน เราจะต้องฟันศัตรูตามแนวของไอคอนนั้นถึงจะสามารถสร้างดาเมจโดยตรงแก่ศัตรูได้ ซึ่งถ้าทำไม่สำเร็จหรือทำไม่ทันเวลาเกราะศัตรูก็จะฟื้นกลับมาเท่าเดิมแล้วเราต้องเริ่มทำลายเกราะมันใหม่ตั้งแต่ต้น ทำอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่ามันจะตาย

ส่วนดาเมจที่เราทำนั้นความแรงจะขึ้นอยู่กับอาวุธในมือของเรา บวกกับความกว้างของแรงเหวี่ยงดาบที่เราฟันเข้าไป เอาง่าย ๆ ก็คือยิ่งเหวี่ยงดาบแรงดาเมจก็จะแรงตามครับผม

การปัดป้อง

เมื่อศัตรูภายในเกมนี้กำลังจะทำการโจมตีเรานั้นจะมีไอคอนแนวดาบสีฟ้าโผล่ขึ้นมาบนหน้าจอของเรา เราจะต้องนำดาบในมือไหนของเราก็ได้ยกขึ้นมาให้ตรงแนวโจมตีของศัตรู ถ้ายกขึ้นมาถูกต้องตามแนวและทันเวลาก็จะสามารถปัดป้องการโจมตีนั้น ๆ ได้สำเร็จ

แต่ก็ต้องระวังหน่อยนึงเพราะศัตรูบางตัวอาจจะโจมตีเรารัว ๆ และความไวของการโจมตีของศัตรูแต่ละชนิดก็ไม่เท่ากัน รวมไปถึงการโจมตีบางประเภทอาจจะต้องหลบจริง ๆ (ยกดาบมาป้องกันไม่ได้) ตรงจุดนี้ก็ถือว่าวัดไหวพริบของผู้เล่นแต่ละคนพอสมควร

การเคลื่อนที่

สำหรับเกมนี้เราจะสามารถเดินได้แบบ Real-Time เราสามารถใช้ analog ของจอยเลือกทิศทางเดินได้อยากอิสระ รวมไปถึงตัวเกมยังมีระบบพุ่งไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็วเหมือนกับการวาร์ป ซึ่งข้อดีของระบบนี้คือเมื่อเราพุ่งใส่ศัตรู ศัตรูจะเกิดเอฟเฟกต์มึนงงชั่วขณะเปิดโอกาสให้เราโจมตีได้ฟรี ๆ พักนึงเลย บอกเลยว่าค่อนข้างจะได้ใช้บ่อยมาก ๆ (ฮา)

สำหรับใครที่เป็น motion sickness ตัวเกมก็ถือว่ามีระบบช่วยเยอะมาก ทุก ๆ การเคลื่อนไหวของตัวละครเราขอบหน้าจอแสดงผลจะทำการเบลอเล็กน้อยเพื่อให้เราโฟกัสเราอยู่แค่ตรงกลางจอเสมอ รวมไปถึงการเคลื่อนไหวของเกมนี้ก็ไม่ได้รวดเร็วอะไรมาก ออกจะช้าเกินไปด้วยซ้ำ ทำให้ไม่ค่อยเจอปัญหาเล่นแล้วปวดหัวสักเท่าไหร่ ถึงจะมีก็น้อยมาก เพราะปกติเวลาผมเล่นเกม VR ที่เดินได้แบบ Real Time ผมก็มักจะปวดหัวตลอดแต่กับเกมนี้ผมไม่เป็นอะไรเลย

อัปเกรดซะ เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น

สำหรับเกมนี้จะมีระบบอัปเกรดหลัก ๆ 2 แบบนั่นก็คือ การอัปเกรดชั่วคราว เมื่อคุณเล่นและจบมอนได้ใน 1 พื้นที่ตัวเกมจะทำการให้ผู้เล่นเลือกไอเทมจาก 1 ใน 3 แบบสุ่ม ซึ่งการอัปเกรดนั้นจะมีหลากหลายเช่น เพิ่มดาเมจอาวุธของรอบนั้น ๆ เพิ่ม MaxHp เพิ่มค่าเรซิ่น (ตังค์ในเกม) เป็นต้น ซึ่งการอัปเกรดบางอย่างนั้นเมื่อเราตายเอฟเฟกต์เหล่านั้นก็จะหายไปด้วย ใครที่เคยผ่านเกมแนว Roguelike น่าจะคุ้นเคยระบบนี้กันดี

ส่วนการ อัปเกรดถาวร หลัก ๆ คือการอัปอาวุธของเรานั่นเอง ซึ่งก่อนเริ่มเกมทุกครั้งเราจะสามารถเลือกหยิบอาวุธทั้งมือซ้ายและขวาเข้าไปลงดันได้ ทั้งยังสามารถอัปเกรดอาวุธได้เพิ่มอีกด้วย ซึ่งการอัปเกรดเหล่านี้จะอยู่ถาวรตลอดการเล่น ขอแนะนำว่าถนัดอาวุธไหนก็อัปอันนั้นเพราะทรัพยากรหายากมาก

GRAPHIC

โดนรวมงานภาพของเกมนี้ถือว่าทำมาได้โอเคในระดับนึง ก็ยังไม่ถึงขั้นเกมเทพแต่ก็ยังห่างไกลจากคำว่าแย่อยู่เยอะ ถ้ามองแค่งานกราฟิกผมคิดว่าหลายคนคงไม่มีปัญหาอะไรกับเกมนี้เลยแม้แต่น้อย จะติดก็แค่ดีไซน์ต่าง ๆ ที่ตัวเกมใส่เข้ามา ในแง่ของเกมแนว Roguelike นั้นการเข้ามาเล่นแต่ละครั้งต้องไม่ให้ความรู้สึกที่จำเจมากเกินไป แต่สำหรับเกมนี้ถือว่าสอบตก เพราะดีไซน์ศัตรูที่มีให้สู้นั้นค่อนข้างจะน้อยมาก ๆ แม้รูปแบบด่านหรือจำนวนศัตรูที่ต้องเจอจะเปลี่ยนไปทุกครั้งแต่มันก็คือศัตรูหน้าเดิม ๆ ที่อาจจะมีเยอะขึ้นหรือน้อยลงเท่านั้น ไม่ได้ให้ความรู้สึกว่าการกลับมาสู้ใหม่จะต่างจากครั้งก่อนตรงไหน

สรุป

นิยามของเกมนี้สั้น ๆ สำหรับผมก็คือ มันเป็นการออกกำลังกายที่สนุกมาก ระบบต่อสู้ทำออกมาได้ยอดเยี่ยม เล่นแล้วไม่ค่อยมีอาการปวดหัวหรือเมามุมกล้องสักเท่าไหร่ ถ้าไม่ติดปัญหาเจอแต่ศัตรูหน้าเดิม ๆ และมีคอนเทนต์ให้เล่นไม่ได้เยอะขนาดเกม RPG ทั่ว ๆ ไป ก็คิดซะว่าเข้ามาฟันดาบปราบศัตรูเล่น ๆ เรียกเหงื่อออกกำลังกายก็ได้ โดยรวมก็ถือว่าเป็นอีก 1 เกมที่คนมีเครื่อง VR ไม่ควรพลาดจริง ๆ ราคาก็ไม่ได้แพงมากควรได้ลองสักครั้งจริง ๆ

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส