Our score
8.5NEO The World Ends with You
จุดเด่น
- งานออกแบบสุดแนว เพลงประกอบที่ติดหู
- เกมเพลย์ลื่นไหลรวดเร็ว
จุดสังเกต
- กราฟิกดูเชยและขาดรายละเอียด
- เหมาะกับคนที่ชอบวัฒนธรรมญี่ปุ่น
ในช่วงกลางยุค 2000s มีเกมแนวแอ็กชัน RPG สุดแนวนาม The World Ends with You วางขายบน Nintendo DS ที่เป็นผลงานออกแบบของ เท็ตซิยะ โนมุระ (Tetsuya Nomura) ผู้ออกแบบ Final Fantasy 7 และ Kingdom Hearts ด้วยตัวละครที่เป็นเอกลักษณ์บวกกับรูปแบบการเล่นที่แปลกแหวกแนวเพราะต้องบังคับหลายตัวละครไปพร้อมกัน ถือว่าสร้างความฮือฮาในยุคนั้นได้พอสมควร
และในที่สุดหลังจากรอคอยมาหลายปีก็มีการสร้างภาคต่อในชื่อ NEO The World Ends with You ออกบน PS4 , Nintendo Switch และ PC โดยโนมุระมาสร้างเหมือนเดิม และยังออกบนคอนโซลที่ต่อทีวีได้ด้วยทำให้เป็นเกมที่ฟอร์มดีกว่าต้นฉบับพอสมควร อย่างไรก็ตามมันก็ยังคงอยู่ในเกมที่เน้นรูปแบบการเล่นมากกว่าที่จะมีฉากยิ่งใหญ่อะไรอยู่แล้วดังนั้นใครหวังจะเห็นอะไรอลังการงานสร้างคงต้องผิดหวัง
กราฟิกมาแบบการ์ตูนญี่ปุ่นสุดแนว
อย่างที่บอกไปว่า NEO The World Ends with You แม้จะยกระดับภาพให้ดูดีขึ้นตามยุคสมัย และดูดีกว่าภาคแรกที่ออกบนคอนโซลพกพา NDS อยู่มากมาย แต่หากเทียบกับมาตรฐานยุคนี้แล้วถือว่าธรรมดามาก เหมือนเกมบนสมาร์ตโฟนทั่ว ๆ ไป ที่จำลองตัวละครและฉากมาแนวการ์ตูนจากแดนปลาดิบสร้างแบบเซลเฉด แต่มองว่ามันเป็นงานศิลปะที่เน้นงานออกแบบความกว่าความละเอียดถือว่าดูดีเหมือนกับภาคแรก ที่ตัวละครเห็นก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นผลงานของโนมุระ ที่ใครชอบก็จะหลงรักได้ในทันที โดยคัทซีนที่เล่าเรื่องในเกมจะมาแบบ 2D แบนเรียบเหมือนกับได้นั่งอ่านหนังสือการ์ตูน ถือว่าไม่ได้ดีและไม่ได้แย่แม้ว่าจะดูเชยไปหน่อยก็ตาม
โดยเพลงประกอบเป็นจุดเด่นของ NEO World Ends with You เหมือนกับภาคแรกที่มาพร้อมกับดนตรีหลากหลายแนว ทั้ง เจ-พอป , เจ-ร็อก และฮิปฮอป มาผสมผสานกันได้ลงตัวมาก ๆ มีเพลงเด่น ๆ ที่แม้ว่าคุณไม่ได้ฟังเพลงญี่ปุ่นมาก่อนได้ยินก็ติดหูในทันที เพราะทีมสร้างได้ตัดเอาท่อนฮุกมาในจังหวะที่เหมาะสมกับฉาก ทำให้หลายครั้งเวลาเล่นเราจะอินกับดนตรีประกอบจนลืมเล่นเกมไปเลยก็มี และยังมีเพลงมากมายเรียกว่าฟังกันไม่หมด ที่ส่วนของเพลงสามารถกลบความด้อยของกราฟิกไปได้เลย
ส่วนเรื่องราวในเกมเล่าแบบการ์ตูน ที่ตัวเอกหนุ่มน้อย รินโด คานาเดะ นักเรียนมัธยมปลายที่ได้เข้าร่วมการแข่งขันเกมยมทูต ที่เขาต้องรวบรวมทีมเพื่อเข้าต่อสู้กับทีมอื่น การเล่าเรื่องถือว่าทำได้ดีตามแนวทางการ์ตูนที่มีการใส่วัฒนธรรมของวัยรุ่นญี่ปุ่นเข้ามาทั้งการแต่งกาย และการใช้ชีวิตของคนในชิบุยะที่เต็มไปด้วยแสงสี นอกจากนี้ยังมีการใส่เสียงพากย์ที่จัดเต็ม เพราะมีการใส่มาหลายจุดโดยเฉพาะตัวละครสำคัญที่ได้นักพากย์มืออาชีพมาให้เสียงด้วย รวมแล้วมันเหมือนกับการเล่นเกมไปพร้อมกับนั่งดูการ์ตูนดี ๆ ที่มีภาษาอังกฤษที่เข้าใจง่ายกว่าญี่ปุ่นด้วย
รูปแบบการเล่นแอ็กชัน RPG ในเมืองใหญ่ที่เข้าใจง่าย
รูปแบบของ NEO World Ends with You มาแนว แอ็กชันผสมกับ RPG ที่มีฉากหลักอยู่ในชิบุยะประเทศญี่ปุ่น แผนที่หลักจะนำเสนอในรูปแบบ 3 มิติแต่ไม่สามารถปรับเปลี่ยนมุมกล้องได้เอง และมีการตัดเข้าฉากต่อสู้ที่เป็น 3D เช่นกันที่มาแบบแอ็กชัน ที่ใช้การกดปุ่มเป็นหลัก นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับการแก้ปริศนาที่แม้ว่าฉากอาจจะไม่ได้กว้างมาก แต่ก็มีทางที่ซับซ้อนและจำลองมาจากสถานที่จริง แม้ว่าชื่อที่เอามาใช้จะไม่ได้ตรงกับของจริง 100% แต่เชื่อว่าใครเคยไปเดินเล่นแถว ชิบุยะ มาก่อนคงจะคุ้นกับอะไรหลายอย่างแน่นอน และผู้สร้างใส่ใจรายละเอียดพอสมควรด้วยเพราะแม้แต่ร้านอาหารชื่อดังในเขตชิบุยะก็มีการใส่เข้ามาในเกมด้วยใครเคยไปมาก่อนรับรองต้องคิดถึงแน่นอน
โดยฉากหลัก ๆ ในเกม จะอยู่ในเมืองที่เต็มไปด้วยผู้คน ที่ผู้เล่นต้องแก้ปริศนาและค่อย ๆ ปลดล็อกเพราะในตอนแรกเราจะไม่สามารถเดินทางไปได้ทุกที่ ภารกิจในเกมแบ่งออกเป็นวันที่มีภารกิจให้เราทำหลายรูปแบบและมีการบอกใบ้ว่าต้องทำอะไร นอกจากนี้ยังมีการบอกจุดที่เราต้องค้นหาสิ่งที่ซ่อนอยู่ด้วย เรียกว่าถ้าหากขยันอ่านสักนิดรับประกันว่าเล่นได้ลื่นไหลไม่มีสะดุดแน่นอน นอกจากนี้ยังมีการใส่รูปแบบการกดปุ่มเพื่อแก้ปริศนา รวมทั้งหาของที่ซ่อนอยู่ในฉากเช่น สติกเกอร์ หรือการพ่นสีสเปรย์บนกำแพง ที่จะซ่อนอยู่รวมทั้งการใช้พลังในการอ่านใจประชาชนในเมืองเพื่อหาคำตอบของปริศนาในเกมด้วย ถือว่าโดยรวมไม่ได้สดใหม่หรือแตกต่างจากเกมอื่นแต่ก็เล่นได้ง่ายไม่ได้ซับซ้อนจนปวดหัว
ระบบต่อสู้รวดเร็วเน้นทำคอมโบที่ดูวุ่นวายแต่สนุก
ระบบการต่อสู้แบบตัดเข้าฉากของเกมจะมาแปลกหน่อย เพราะในฉากโลกปรกติจะไม่พบเจอกับศัตรู แต่เมื่อกดปุ่มที่จะเข้าสู่โลกอีกมิติที่เป็นโลกเสมือนจริงจะพบกับเหล่าศัตรูที่เกมเรียกว่าเสียงรบกวน และเมื่อเจอแล้วตัดเข้าฉากต่อสู้แล้วจะมาในรูปแบบแอ็กชัน 3D ที่เห็นตัวละครในฉากและบังคับได้พร้อมกันหมดทั้งทีม โดยการควบคุมให้โจมตีจะใช้ปุ่มกดแทนการโจมตีของแต่ละตัวละครทำให้เราสามารถใช้งานหลายตัวได้พร้อม ๆ กันโดยไม่สับสน และเกมมีความเร็วสูงมาก ชนิดเราอาจจะชนะศัตรูได้ในพริบตาหากใช้ท่าไม้ตายถูก หรืออาจจะพลาดตายยกทีมได้เลยหากไม่ตั้งค่าตัวละครให้ดี
การเล่นแบบนี้คล้าย ๆ กับเกม Kingdom Hearts ที่เร่งความเร็วแบบเต็มสูบ และบังคับได้หลายตัวละครไปพร้อมกัน นอกจากนี้หากเราอยากเก็บเลเวล ลากเอาศัตรูมาเจอกันหลายชุดพร้อมกันได้ ฟังดูอาจจะวุ่นวายแต่พอได้เล่นจริงถือว่าทำออกมาได้ดีเล่นได้ไม่สับสนเลย ส่วนระบบการอัปเกรดท่าไม้ตายจะใช้ระบบการใส่เข็มกลัดที่แทนท่าพิเศษ
แต่ผู้เล่นจะไม่สามารถใช้ท่าไม้ตายต่อเนื่องได้เพราะเข็มกลัดจะมีพลังจำกัดใช้หมดต้องรอเวลาให้มันชาร์จพลังจนเต็มถึงจะใช้ต่ออีกครั้งได้ ซึ่งการตั้งค่าเข็มกลัดจำเป็นอย่างมากเพราะการปรับแต่งท่าไม่ตายจะส่งผลกับการต่อสู้ด้วย เช่นหากเจอศัตรูที่ตัวใหญ่โจมตีรุนแรง ผู้เล่นต้องปรับท่าไม้ตายในทีมให้เน้นยิงระยะไกลจะสามารถต่อสู้ได้ไม่ยาก ถือว่าเราต้องเรียนรู้และวางแผนกันตลอดทำให้มันมีอะไรทำมากกว่าแค่ต่อสู้
นอกจากนี้ผู้เล่นยังปรับเปลี่ยนท่าไม้ตายได้ตามใจ โดยในเกมมีเข็มกลัดท่าพิเศษมากกว่า 300 รูปแบบและยังอัปค่าเลเวลของมันได้ด้วย เรียกว่าหลากหลายจัดเต็ม นอกจากนี้เรายังสามารถซื้อชุดใหม่ ๆ ที่เหมือนการเพิ่มค่าพลังแบบเดียวกับชุดเกราะในเกม RPG ที่ใน NEO The World Ends with You เป็นเสื้อผ้าวัยรุ่นสุดแนวที่เห็นได้ที่ ชิบุยะ แต่ต้องฟาร์มเงินกันพอสมควรเพราะชุดค่อนข้างแพงตามของจริงที่วางขายในญี่ปุ่นกันเลย
สำหรับการกลับมาอีกครั้งของ NEO The World Ends with You ถือว่าทำได้ดีเกินคาดมาก เพราะตอนแรกผู้เขียนก็ไม่ได้คาดหวังอะไรกับมันมาก แต่พอได้เล่นแล้วติดหนึบ และส่วนตัวเคยไปชิบุยะมาแล้วทำให้รู้สึกสนุกไปกับการท่องไปในเกมที่จำลองมาจากสถานที่จริงมากขึ้นหลายเท่า และสิ่งที่น่าประทับใจที่สุดคือระบบต่อสู้ที่ปรับแต่งได้หลากหลาย แต่เข้าใจง่ายใช้การกดปุ่มเพียงไม่กี่ปุ่มก็สามารถบังคับได้หลายตัวละครพร้อมกัน ใครที่คิดถึงญี่ปุ่นซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะได้กลับไปเที่ยวอีกตอนไหนให้ไปหามาเล่นได้เลย ยิ่งหากคุณชื่นชอบเกมแนว JRPG ของแท้ที่จัดเต็มทั้งเกมเพลย์ งานออกแบบและวัฒนธรรมยุคใหม่ของญี่ปุ่นแล้ว NEO The World Ends with You มีทุกคำตอบที่คุณค้นหา
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส