รีวิวเกม Ayo the Clown เกมน่ารักแนวมาริโอที่ไม่ได้มาจากนินเทนโด
Our score
7.0

Ayo the Clown

จุดเด่น

  1. กราฟิกดูดีมื่อเทียบกับฟอร์มเกม
  2. ฉากออกแบบมาดีมีความหลากหลาย

จุดสังเกต

  1. ยังพบ Bug ในเกมหลายจุด
  2. สนุกแต่ยังไม่เท่าเกมจากนินเทนโด

สำหรับเกมแนวน่ารักเล่นได้ทุกเพศทุกวัยแล้ว หลายคนคงจะนึกถึงค่าย นินเทนโด เพราะประวัติการสร้างเกมมายาวนานหลายสิบปีเกมที่โด่งดังของปู่นินส่วนใหญ่จะมาแนวทางน่ารักและเล่นได้ทั้งครอบครัว ซึ่งก็ล้วนขายดีแบบถล่มทลายทำให้หลายค่ายเดินตามแนวทางกันมาตลอดซึ่งก็ทำได้ดีบ้างแย่บ้าง และบางเกมก็เทียบเท่ากับเกมของนินเทนโดเลยก็มีอย่างเช่น เม่นน้อย Sonic ของ SEGA

ส่วนค่ายเกมเล็ก ๆ ก็เลือกแนวทางความน่ารักของปู่นินเช่นกันเพราะทำได้ไม่ยาก และไม่ต้องเน้นกราฟิกสวยงามอะไรมากมายและเข้าถึงคนได้ง่ายกว่า และเกมที่จะมาแนะนำล่าสุดคือ Ayo the Clown เกมฟอร์มเล็ก ๆ จะค่าย Cloud M1 ที่ออกวางขายบน PC และคอนโซลอย่าง Nintendo Switch ซึ่งอาจจะดูไม่ได้เป็นกระแสอะไรมากแต่ด้วยคะแนนรีวิวจากต่างประเทศที่ค่อนข้างดีบวกกับราคาขายไม่แพงทำให้ไม่พลาดที่จะลองหามาเล่น ซึ่งหลังจากพอได้สัมผัสแล้วถือว่ามีอะไรผิดคาดอย่างมาก

กราฟิกที่ออกมาสวยงามกว่าที่คิด

แม้ว่า Ayo the Clown จะมาจากค่ายเล็ก ๆ ที่ไม่ได้มีทุนสร้างมากมายแต่งานด้านภาพถือว่าทำออกมาได้ดีงามกว่าที่คิดคาดหวังไว้มาก เพราะมันสร้างมาเต็มไปด้วยรายละเอียดแสงสีที่ดูดี ส่วนงานออกแบบตัวละครจะมาแนวน่ารักเป็น SD หัวโตตัวเล็กกันทั้งเกม แต่ก็เหมือนกับการ์ตูนซีจีที่เต็มไปด้วยการเคลื่อนไหวที่ลื่นไหล และก็มีบางส่วนที่คล้ายกับเกมของปู่นินอย่าง Zelda Link Awakening ในแง่งานออกแบบตัวละครแต่ภาพยังไม่สวยเท่า

แต่เป็นที่น่าเสียดายเล็กน้อยที่คัทซีนในเกมกลับเลือกใช้ภาพนิ่งที่ขยับได้เล็กน้อย แต่ก็เข้าใจได้ว่ามันไม่ได้มาจากค่ายใหญ่ ส่วนเพลงประกอบในเกมที่เกือบจะดีแล้วเพราะผู้สร้างพยายามจะแต่งให้เป็นธีมสนุกสนานแบบเกมของนินเทนโดอย่าง มาริโอ และ โยชิ หรือเคอร์บี้ แต่ทำออกมาได้เรียบ ๆ ไม่มีอะไรติดหูแต่ก็ฟังได้เพลิน ๆ และช่วยเสริมบรรยากาศเกมได้ โดยรวมถือว่าระบบภาพและเสียงถือว่าทำออกมาได้ดีเกินตัวไปเยอะเลย

รูปแบบการเล่นคล้ายเกมจากนินเทนโด

เกมเพลย์ของ Ayo the Clown มาแนวแอ็กชัน 2.5D มุมมองด้านข้างที่มีความคล้ายกับมาริโอ ผสมกับ โยชิ ที่ตัวละครตัวตลกสุดน่ารักที่ต้องออกไปผจญภัยในโลกที่หลากหลาย และเราจะโจมตีศัตรูได้ด้วยการกระโดดเหยียบหัว และมีอาวุธให้ใช้ที่มีทั้งดาบลูกโป่งและลูกบอลน้ำ แต่จะเหมือนมาริโอที่หากเราโดนโจมตี 1 ครั้งอาวุธจะหายไป และตัวละครจะสามารถลอยตัวกลางอากาศได้ระยะเวลาจำกัดด้วยบอลลูนที่คล้ายกับการวิ่งกลางอากาศของโยชิ และยังมีท่าพิเศษอีกมากมายเช่นการทิ้งตัวลงมากระแทกศัตรู ที่มันจะค่อย ๆ ปลดล็อกออกมาตลอด ซึ่งถือว่าเป็นการเอาแนวทางของปู่นินมายำรวมผสมผสานได้ลงตัวดี ซึ่งใครเคยเล่นทั้งสองเกมมาแล้วก็แทบไม่ต้องปรับตัวอะไรมาก

ส่วนงานออกแบบฉากถือว่าทำออกมาได้ดีเหมือนทีมงานพยายามจะคิดอะไรออกก็จับยัดใส่มาแบบไม่เก็บไว้สร้างภาคต่อ เพราะแต่ละด่านจะมีงานออกแบบที่แตกต่างกัน ซึ่งจะมีอุปสรรคใหม่ ๆ รวมทั้งศัตรูที่แปลกตาโผล่มาให้เราประหลาดใจกันตลอด และงานออกแบบฉากถือว่าสอบผ่านเพราะมีความหลากหลาย มีเส้นทางให้เลือกไปรวมทั้งมีไอเทมพิเศษที่ซ่อนอยู่ในฉากเพียบ รวมทั้งพื้นผิวในด่านที่แทบจะไม่อยู่นิ่งมีการเคลื่อนไหวกันตลอด ที่ทำให้เราสนุกไปตลอดการเล่น อย่างไรก้ตามแม้บางส่วนทำให้เรานึกถึงลุงหนวดมาริโอแต่อาจจะไม่เทียบเท่ากับต้นฉบับ ดังนั้นจงอย่างคาดหวังว่ามันจะมาแทนลุงหนวดได้

เกมเพลย์หลากหลายบอสออกแบบสนุก

นอกจากการออกแบบฉากจะมีอะไรเปลี่ยนไปตลอดแล้ว รูปแบบการเล่นยังมีการเปลี่ยนรูปแบบการเล่นไป เช่นบางด่านจะมีการเล่นโดยใช้บอลลูนเพื่อลอยตัวตลอดฉาก แต่ก็ต้องคอยระวังเพราะฉากจะค่อย ๆ บีบเข้ามาทำให้หากเราไม่รีบไปก็จะตาย หรือบางฉากอยู่ดี ๆ ก็มีสัตว์ประหลาดออกมาไล่ล่าแบบไม่ให้ตั้งตัวทำให้เราได้ลุ้นกันตลอด รวมทั้งในหลายด่านจะมียานพาหนะให้ตัวตลกของเขาขึ้นบังคับเพื่อเล่นในในด่านที่มีทั้ง รถถังที่มีปืนใหญ่ที่ทรงพลังและยังลอยตัวกลางอากาศได้ด้วยไอพ่น หรือมี เฮลิคอปเตอร์ ให้เราบินต่อสู้ด้วยปืนกล ตรงส่วนนี้คล้ายกับเกม โยชิ ของนินเทนโดที่จะมีบางฉากที่จะได้แปลงร่างเป็นยานพาหนะ ด้วยเช่นกัน

ส่วนบอสในเกมที่จะอยู่ท้ายด่าน ที่งานออกแบบถือว่าทำได้ระดับปานกลางคือไม่ได้โดดเด่นหรือมีอะไรให้ตะลึงอะไร เรียกว่าแม่ว่าบางตัวละตัวใหญ่ยักษ์แต่การโจมตีก็สามารถอ่านทางได้ไม่ยาก และแน่นอนว่ามีความเป็นเกมจากค่ายนินเทนโดอยู่เต็มไปหมด ที่เราต้องหาทางให้มันเปิดจุดอ่อนแล้วค่อยโจมตี ที่ไม่ได้ซับซ้อนมากมาย แต่ก็มีบอสบางตัวที่ผู้สร้างพยายามใส่อะไรใหม่ ๆ เข้าไปบ้างเช่นการเลือกตัวอักษรเป็นคำที่เกมกำหนดแล้วบอสจะเปิดจุดอ่อน หรือบางตัวก็ต้องขี่เฮลิคอปเตอร์ขึ้นไปสู้กันเลย แต่โดยรวมแล้วไม่ได้ดีงามจนต้องชมอะไร

ส่วนระดับความยากในเกม Ayo the Clown อยู่ในระดับกลาง ๆ ไม่ยากและไม่ง่ายจนเกินไปแต่ผู้เล่นก็เลือกปรับได้ตามความต้องการ ซึ่งหากคุณเคยเล่นแนวแอ็กชัน 2D มาบ้างก็จะสามารถเล่นไปจนจบได้แบบไม่หัวร้อนมากนัก ส่วนด่านในเกมก็ใส่มาเป็นระบบแผนที่ในฉาก แน่นอนว่าคล้ายกับมาริโอที่แบ่งออกเป็นจุดสีแดงบนฉาก รวมทั้งมีด่านโบนัสที่เราต้องตกปลาเพื่อสะสมอัญมณี และเก็บตัวเพิ่มนอกจากนี้ยังมีฉากที่เป็นเมืองที่เราจะได้เข้าไปรวบรวมข้อมูลด้วย รวมทั้งในบางด่านจะมีภารกิจให้เราต้องทำเช่นหาของมาให้ชาวบ้านที่เดือดร้อน หากทำได้ครบจะปลดล็อกท่าใหม่ ๆ เข้ามาให้ใช้งาน

โดยรวมแล้ว Ayo the Clown ถือว่าเป็นความทะเยอทะยานของทีมงานสร้างเล็ก ๆ ที่พยายามจะสร้างเกมแอ็กชัน 2D แบบที่นินเทนโดเคยทำสำเร็จจนเป็นต้นแบบให้คนอื่นทำตาม และถือว่าสร้างออกมาได้ดีแม้ยังไม่สามารถเทียบกับต้นฉบับได้ แต่ก็ถือว่าสอบผ่านเล่นได้เพลิน ๆ ไปจนจบได้แบบไม่รู้ตัว เพราะผู้สร้างยัดเอาทุกอย่างที่คิดออกเข้าไปแบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นฉากที่เปลี่ยนไปตลอด รวมทั้งรูปแบบที่ไม่ได้มีแค่แอ็กชันธรรมดา แม้ไม่ได้ดีเยี่ยมแต่ก็ดีพอที่ทำให้เรียกว่าเป็นเกมสนุกอีกเกมที่เหมาะไว้เล่นในช่วยที่เครียด ๆ หรือเล่นไว้รอเกมของปู่นินที่ช่วงนี้ยังไม่มีเกมฟอร์มดีอย่างมาริโอหรือโยชิออกภาคใหม่ออก ถือว่ามีไว้เล่นให้หายคิดถึงก็ถือว่าไม่เลว