Our score
7.0No More Heroes III
จุดเด่น
- งานออกแบบและเนื้อเรื่องสุดแหวกแนว
- ระบบต่อสู้ที่หลากหลาย
จุดสังเกต
- กราฟิกดูธรรมดามาก
- ระบบโลกอิสระที่ไม่มีอะไรให้สำรวจมากนัก
เมื่อพูดถึงซีรีส์เกมที่ถือว่าแปลกแหวกแนวของวงการแล้วต้องมีชื่อ No More Heroes อยู่ด้วยแน่นอน โดยเป็นผลงานของผู้สร้างสุดแนวอย่าง SUDA 51 ที่กำเนิดบนคอนโซล Wii รุ่นแรกของนินเทนโด ที่ในตอนที่วางขายถือว่าสร้างความฮือฮาพอสมควร เพราะมันมาพร้อมความสุดโหดชนิดตัดหัวขาดเลือดสาดกระจาย ตรงกันข้ามกับเกมส่วนใหญ่ที่ออกบน Wii ที่มักจะสร้างมาเพื่อเล่นได้ทั้งครอบครัว แต่ด้วยความสนุกและความแปลกทำให้มันถูกสร้างภาคต่อและมีการย้ายไปออกบนคอนโซลอื่นตามมาภายหลังด้วย
และล่าสุดมีการเปิดตัว No More Heroes III ภาคที่สามของซีรีส์สุดแปลกที่ออกวางขายเฉพาะบน Nintendo Switch เท่านั้นเหมือนกับตอนที่ออกบน Wii ครั้งแรก ซึ่งยังคงได้ทีมงานเดิมมาทำให้ โดยก่อนหน้านี้มีการออกภาคพิเศษในชื่อ Travis Strikes Again No More Heroes มาเพื่อยั่วน้ำลายแฟนเกมมาแล้วบน Switch และออกบน PC รวมทั้ง PS4 ด้วยส่วนการมาครั้งนี้เป็นภาคต่ออย่างเป็นทางการที่มีการใช้รูปแบบเดิมของภาคหลักมาทำใหม่ไม่ใช่ภาคเสริม
เรื่องราวสุดแปลกการนำเสนอแหวกแนว
เป็นปรกติที่เนื้อเรื่องของ No More Heroes จะแปลกไม่เหมือนชาวบ้าน แต่ภาคที่ 3 จะมีการเสริมธีมเอเลียนบุกโลกเข้ามาด้วย ที่ภาคนนี้ตัวละครหลักอย่างนักฆ่าสุดแนวที่ใช้ดาบเลเซอร์อย่าง Travis Touchdown ต้องออกปกป้องโลกจากมนุษย์ต่างดาวสุดโหดที่กลับมาล้างแค้น และตามแนวทางของคุณ SUDA ที่ชอบล้อเลียนหรือหยิบเอาภาพยนตร์ดัง ๆ หลายเรื่องเข้ามายำรวมกัน ทำให้หากคุณเป็นแฟนหนังดังในอดีตต้องคุ้น ๆ กับหลายสิ่งหลายอย่างในเกมแน่ และแน่นอนว่าเนื้อเรื่องเล่าพร้อมความแปลก มีการใส่การนำเสนอที่แหวกแนวและหลายรูปแบบไล่ตั้งแต่การ์ตูนทีวีซีรีส์ ที่มีการแบ่งเป็นตอนที่จบเนื้อเรื่องช่วงนี้จะมีเพลงจบ และขึ้นตอนใหม่ก็จะมีเพลงไตเติ้ลให้ชมตลอด
นอกจากนี้ยังมีการล้อเลียนเอาซีรีส์ดังอย่าง Ultraman ด้วย อย่างไรก็ตามแม้ว่าฟังดูน่าเล่นและภาพในเกมดูเป็นการ์ตูน แต่มันจะไม่ค่อยเหมาะสำหรับเด็กนัก เพราะมีทั้งความรุนแรงแบบสุดโหดตามที่บอกไปว่าจะมีฉากที่เลือดสาดแขนขาขาดหัวหลุดกันแบบเห็นชัด ๆ แม้ว่าภาพจะไม่ได้น่ากลัวนัก แต่ก็ไม่เหมาะกับคอเกมอายุน้อยแน่นอน อีกทั้งภาษาในเกมยังจัดเต็มมีคำหยาบคายเต็มดังนั้นมันเหมาะสำหรับคนที่อายุ 18 ปีขึ้นไปเท่านั้น อย่างไรก็ตามคัทซีนมีความยาวพอสมควรและมีการเล่าเรื่องที่น่าติดตาม ดังนั้นไม่ควรกดข้ามเพราะจะพลาดสิ่งสำคัญไปในการเล่นรอบแรก
กราฟิกดูธรรมดาแต่เข้ากับแนวทางของเกม
ภาพใน No More Heroes III ผู้สร้างได้ใช้ Unreal 4 มาทำกราฟิกในเกมทั้งหมด ทำให้โดยรวมมันต้องดูดีกว่า 2 ภาคแรกแน่แบบชัด ๆ อยู่แล้ว แต่อย่าคาดหวังว่าภาพมันจะดูดีอะไร เพราะมันก็มีเพียงแต่ความคมชัดกับตัวละครที่ดูดีขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น นอกจากนี้ก็เหมือนกับเกมในยุค PS3 สมัยวางขายใหม่ ๆ ด้วยซ้ำ เพราะฉากก็ขาดรายละเอียดไม่มีพื้นผิวที่คมชัดหรือสวยงาม และยังโล่ง ๆ ไม่มีอะไรให้ดูเจริญหูเจริญตา แต่หากมองว่ามันคือแนวทางของการสร้างกราฟิกที่เน้นแปลกแหวกแนวมากกว่าสมจริงก็พอจะมองข้ามไปได้บ้าง แต่โดยรวมมันออกในปี 2021 น่าจะทำได้ดีกว่านี้ เพราะหลายเกมบน Switch ก็ทำภาพสวยกว่านี้ได้อีก
ส่วนในด้านเสียงเพลงประกอบก็ทำออกมาเหมือนเดิม คือใช้ธีมเพลงร็อกมาใส่ผสมผสานกับเพลงที่มีแนวสนุกตื่นเต้นให้เข้ากับฉาก และยังมีการใส่ธีมที่ดูน่ากลัวลึกลับมาในฉากที่ดูหลอน ๆ ด้วย และแน่นอนว่าเพลงธีมหลักที่ติดหูของซีรีส์ No More Heroes ก็ยังคงใส่เข้ามาเช่นเดิมแต่ปรับแต่งให้เข้ากับยุคสมัย ส่วนที่ต้องชมคือเสียงพากย์ที่จัดเต็มฉากหลักมีเสียงพากย์ครบหมด รวมทั้งคัทซีนก็มีเสริมเข้ามาทำให้เราเหมือนได้ชมการ์ตูนอนิเมะสุดแนวจากญี่ปุ่นดี ๆ เรื่องหนึ่งเลย
เกมเพลย์เหมือนเดิมปรับให้เข้าใจง่ายขึ้น
รูปแบบการเล่นของ No More Heroes ภาคที่ 3 ยังคงเหมือนกับ 2 ภาคแรก ที่มาแนวแอ็กชันลุยแหลกฟาดฟันศัตรูให้หมดพร้อมกับอาวุธหลักอย่างดาบเลเซอร์ ที่ฆ่าหมดก็ไปจะผ่านด่าน แต่จะมีฉากในเมืองที่เราจะซิ่งมอเตอร์ไซค์ไปสำรวจแล้วค้นหาภารกิจใหม่ ๆ เพื่อนำไปสู่การต่อสู้กับบอสสุดโหดประจำฉากที่เป็นนักฆ่าเหมือนเรา เพื่อที่จะขึ้นเป็นนักฆ่าอันดับ 1 ให้ได้ที่อธิบายง่าย ๆ ก็แค่เดินไปรับภารกิจตามจุดบนแผนที่แล้วจะตัดเข้าฉากที่ต้องกำจัดศัตรูให้หมดก็จะผ่านไปได้
โดยผู้เล่นต้องสะสมเงินเพื่อไปกดออกมาที่ตู้ ATM ก็จะปลดล็อกภารกิจใหม่ รวมทั้งการได้พบเจอบอสประจำโซนที่มีความหลากหลายในรูปแบบการเล่นพอสมควร เพราะฉากปรกติจะมีทั้งต่อสู้กับศัตรูที่มาเป็นเอเลียนหลายชนิดแล้ว ยังมีฉากที่เราจะต้องแปลงร่างเป็นหุ่นต่อสู้กับศัตรูขนาดยักษ์ด้วย และร่างหุ่นเหล็กนี้สามารถสู้ในฉากปรกติได้ด้วยหากเก็บค่าพลังถึงที่กำหนด และยังมีท่าไม้ตายพิเศษทั้งลูกเตะสุดโหดหรือจับทุ่มแบบมวยปล้ำมาให้ใช้ และแน่นอนว่าภาคนี้ยังคงมีระบบจับการเคลื่อนไหวด้วย Joy-con แบบของ Wii Mote มาให้ใช้งานด้วย ที่ผู้เล่นต้องถอดจอยออกมาทำท่าทางเหมือนฟันดาบ และหากใช้พลังหมดก็ต้องเขย่าดาบเลเซอร์เพื่อชาร์จพลังใหม่ ที่หากไม่ชอบก็ใช้ปุ่มกดแบบธรรมดาเล่นได้เช่นกัน
การสู้บอสหลากหลาย
อีกส่วนที่เป็นจุดเด่นของซีรีส์นักฆ่าสุดแนวคือระบบการต่อสู้กับบอส ที่ไม่ได้มีแค่ต่อสู้แบบธรรมดาเท่านั้นยังใส่มาหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการเล่นเก้าอี้ดนตรี หรือการเปลี่ยนมุมมองของเกมเป็นแบบ FPS ที่เดินสำรวจโรงเรียนหลอนแบบเกมผี หรือหลุดโลกไปนอกอวกาศกับการแปลงร่างเป็นหุ่นยักษ์แบบกันดั้มต่อสู้กันเลย
ถือว่ามีอะไรให้ประหลาดใจกันตลอดเกม และแทบจะไม่ซ้ำกันเลย ซึ่งส่วนนี้เองก็พอจะกลบข้อเสียที่ฉากหลัก ๆ และภารกิจส่วนใหญ่ของเกมจะซ้ำซากน่าเบื่อ เพราะแค่เดินไปตามจุดที่กำหนดแล้วต่อสู้กับศัตรู และฉากโลกอิสระในภาคนี้แม้จะเป็นเครื่องเกมรุ่นใหม่แล้วแต่ก็ยังคงโล่ง ๆ เรียกว่าเกม GTA สมัย PS2 ยังทำได้ดีกว่านี้ด้วยซ้ำ แต่หากมองว่ามันไม่ใช่เกม Open World แท้ ๆ ก็พอจะเข้าใจได้
ส่วนระบบระบบอัปเกรดตัวละครของ No More Heroes III จะเน้นการใช้เงินมาเสริมค่าพลังในส่วนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าพลังชีวิต , ค่าพลังโจมตี รวมทั้งการเพิ่มความจุแบตของดาบเลเซอร์ด้วยดังนั้นเงินจำเป็นอย่างมาก ซึ่งปรกติแล้วเงินในเกมก็นำมาปลดล็อกเพื่อไปฉากใหม่ด้วย ดังนั้นนอกจากภารกิจหลักที่ต้องทำแล้ว เรายังคงต้องทำภารกิจเสริมที่มีอยู่ในด่านจำนวนมาก ที่มีทั้งมินิเกมแปลก ๆ ที่เรียกเสียงฮาให้เราได้ด้วย แต่มันไม่ค่อยสนุกเท่าที่ควรเล่นไปนาน ๆ รู้สึกว่าซ้ำซากไปนิด ยิ่งหากคุณไม่ใช่แฟนซีรีส์ No More Heroes แล้วก็ถือว่ามีอะไรให้ชวนง่วงอยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้ย่ำแย่อะไร
สรุปแล้วการกลับมาลงสนามนักฆ่าของ Travis Touchdown ในเกม No More Heroes III ที่แม้ผู้สร้างบอกว่าเป็นภาคสุดท้ายที่คุณ SUDA51 จะได้เป็นผู้สร้างแล้ว แต่ก็ยังไม่ค่อยมีอะไรสดใหม่เข้ามามากนัก แต่หากคุณเคยเล่น 2 ภาคแรกมาแล้วก็คงต้องสานต่อให้จบกับภาค 3 ซึ่งความจริงก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร เพราะมันยังคงมีเสน่ห์ของซีรีส์ No More Heroes อยู่ครบไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวสุดแหวกแนว การนำเสนอที่แปลกตากว่าเกมอื่นมาก รวมทั้งเกมเพลย์ที่มีความรวดเร็วฟันกันเลือดสาดเหมือนเดิม และถือว่าเป็นอีกเกมบน Nintendo Switch ที่มีไว้ติดเครื่องได้แบบไม่เสียดายเงิน
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส