รีวิวเกม Cruis’n Blast เกมรถแข่งซิ่งหลุดโลกบน Nintendo Switch
Our score
7.5

Cruis'n Blast

จุดเด่น

  1. รูปแบบเข้าใจง่าย ระบบดริฟท์ดีมาก
  2. ฉากโอเวอร์หลุดโลก ที่เล่นสนุก

จุดสังเกต

  1. ไม่มีระบบเล่นกับเพื่อนแบบออนไลน์
  2. โหมดน้อยไปหน่อย

ปรกติแล้วเกมแข่งรถแนวหลุดโลกแบบไม่เน้นความสมจริงคงจะมีชื่อของซีรีส์ Mario Kart หรือ Burnout แต่ในอดีตในยุค 90S ก็มีอีกหลายเกมที่ไม่เน้นความสมจริง และยังถูกสร้างออกมาต่อเนื่องอย่างเกมซีรีส์ Cruis’n ที่ล่าสุดมีการออกภาคใหม่ในชื่อ Cruis’n Blast บน Nintendo Switch แบบเงียบ ๆ หลังจากเปิดให้เล่นเวอร์ชันเกมตู้อาเขตไปเมื่อปี 2017 มาแล้ว

โดยซีรีส์ Cruis’n ภาคแรกออกบน คอนโซลของปู่นินอย่าง Nintendo 64 ในชื่อ Cruis’n USA และหลังจากนั้นก็มีการออกภาคต่อมาตลอดและออกบนคอนโซลของนินเทนโดทั้ง , Game Boy Color , Gameboy Advance , Wii เป็นผลงานของค่าย Midway โดยมันเปิดให้เล่นบนตู้เกมอาเขตด้วย เรียกว่ามันเป็นซีรีส์คู่บุณของปู่นิน ที่แม้ไม่ได้โด่งดังอะไรมากมายก็ตาม แต่ก็ออกภาคใหม่มาตลอดเวลากว่า 20 ปี แปลว่ามันต้องมีอะไรดีบ้างถึงมีการสร้างมาต่อเนื่อง

กราฟิกสีสันแสบตาไม่เน้นสมจริง

ตามแนวทางของเกมที่เน้นความสะใจไม่เน้นความจริงจังอะไรทำให้ภาพใน Cruis’n Blast ไม่ได้ดูดีเท่ากับเกมแข่งรถยุคใหม่ เพราะความละเอียดก็ไม่ได้สูงมากรวมทั้งฉากที่ยังโล่ง ๆ แต่ผู้สร้างได้ใส่สีสันอย่างจัดเต็มมาก เรียกว่าสีแสบตาเกินไปด้วยซ้ำทุกอย่างดูโอเวอร์เกินจริง แม้ว่าตัวรถของเกมส่วนใหญ่จะเป็นรถยนต์ที่มีวางขายจริงก็ตาม อย่างไรก็ตามมันเป็นแนวทางการออกแบบเกมที่ผู้สร้างใช้มาหลายภาคแล้ว แต่โดยรวมถือว่าธรรมดามากแม้ว่าจะออกบน Switch เพราะเมื่อเอาภาพไปเทียบกับ Mario Kart 8 แล้วถือว่าด้อยกว่าเยอะพอสมควร

ส่วนเพลงประกอบถือว่าอยู่ในระดับดีมีการใส่ดนตรีจังหวะเร้าใจที่จัดเต็ม ช่วยเสริมให้การซิ่งไปในโลกที่ไม่มีความสมจริงดูโดดเด่นเข้าไปอีก อย่างไรก็ตามมันก็ยังคงไม่มีเพลงธีมโดน ๆ ชนิดติดหูทันทีที่ฟังมาให้ชม ทุกอย่างยังคงอยู่ในระดับดีมาตรฐาน ส่วนเสียงประกอบมีความเรียบง่าย บวกกับระบบเมนูที่โครตเชยไปหน่อยทำให้หลายครั้งที่เล่นมีความรู้สึกว่าเรากำลังเล่นเกมรถแข่งโหลดฟรีบนสมาร์ตโฟนอยู่

รูปแบบการเล่นหลุดโลกไม่เน้นสมจริง

อย่างที่บอกไปว่ามันมาแนวทางรถแข่งแบบโอเวอร์หลุดโลกไม่สมจริง เน้นความสนุกล้วน ๆ แบบที่ใครชอบเล่น Burnout น่าจะชอบเพราะมันมีความคล้ายกันพอสมควร โดยไล่ตั้งแต่ระบบควบคุมบังคับที่เรียบง่าย ใช้ปุ่มกดแบบพื้นฐานทั้งหมดเรียกว่าต่อให้มือใหม่แค่ไหนก็เข้าใจได้ทันทีแทบไม่ต้องดูเมนูก่อนเล่นเลย นอกจากนี้ยังมีระบบการเล่นที่เรียกว่าไม่มีหยุดเพราะแม้จะชนก็จะแค่เสียหลักไปเล็กน้อย และจะกลับมาสู่การแข่งแทบจะในทันทีแบบไม่มีติดขัด

นอกจากนี้สนามแข่งยังเป็นรอบเดียวจบไม่มีวนกลับมาอีกรอบ ทำให้เราจะไม่ต้องจดจำเพื่อหลบหลีก ซึ่งหากชอบมันจะสนุกมากเพราะมันเหมือนเล่นรถไฟเหาะในสวนสนุกมากกว่าเกมรถแข่งทั่วไป แต่หากมองหาความสนุกแบบท้าทายมันไม่มีในแง่ความสมจริง แต่มีในรูปแบบของฉากที่เน้นความรวดเร็ว รวมทั้งคู่แข่งที่ไม่ธรรมดา เพราะกว่าเราจะแซงเป็นที่ 1 ได้บางครั้งก็แทบจะต้องใช้ฝีมือกันพอสมควร อย่างไรก็ตามมันก็มีโหมดง่ายให้เลือกเล่นด้วย ทำให้มือใหม่ก็สนุกได้และมืออาชีพที่ต้องการความท้าทายก็มีโหมดยากให้ปลดล็อกด้วยเช่นกัน

อุปสรรคฉากหลุดโลกแบบจัดเต็ม

อีกจุดเด่นของ Cruis’n Blast คือฉากที่มาแนวโอเวอร์หลุดโลกสุดตัว แบบไม่สนความสมจริงและไม่มีกฎฟิสิกส์อะไรทั้งสิ้นเอาสนุกอย่างเดียว นอกจากนี้ยังมีอุปสรรคที่เหนือความเป็นจริงแบบที่เราจินตนาการไปไม่ถึง เช่นฉากที่มีไดโนเสาร์ออกมาวิ่งในฉาก หรือมีตัวปีศาจหิมะเยติออกมาใช้มือจับรถเรา หรือฉากในเมืองที่มีอยู่จริงก็มีฉากที่พังทลายลงมาเพื่อให้เราหลบหลีก หรือซิ่งรถอยู่ดี ๆ ถนนก็พังทลายหมดแต่ก็จะเป็นการตัดเข้าสู่ฉากใหม่แทน และมีหลายฉากที่เหมือนกำลังอยู่บนรถไฟเหาะมากกว่า ซึ่งใครชอบก็น่าจะชอบเลย แต่ใครอยากหาความสมจริงก็ควรหลีกห่าง

ระบบบังคับที่เรียบง่าย

และในส่วนที่ต้องชมคือระบบการกดดริฟท์ที่ง่ายมาก กดง่ายกว่า Mario Kart เสียอีกเพราะใช่แค่ปุ่มเดียว แล้วกดค้างไว้เพื่อสะสมค่าพลังแล้วจะสามารถพุ่งตัวไปด้วยความเร็วสูงขึ้นโดยไม่ต้องใช้เทอร์โบช่วย ถือว่าทำให้มันง่ายในการบังคับ แต่อย่างที่บอกว่าคู่แข่งในฉากก็จะมีความเก่งกาจตามระดับความยากที่เราเลือกเช่นกันดังนั้นเราต้องฝึกฝนและหาจังหวะใช้ถึงจะเอาชนะได้ ถือว่าเป็นความเรียบง่ายแต่โดดเด่นที่ต่อให้ใครไม่เก่งแนวนี้ก็สนุกไปกับเกมได้เช่นกัน

ส่วนระบบอัปเกรดรถก็เข้าใจง่ายเช่นกัน เพราะใช้ระบบเงินมาซื้อรถใหม่หรือเพิ่มเติมสิ่งต่าง ๆ อีกทั้งยังมีเมนูคล้ายกับเกมบนสมาร์ตโฟนทำให้เข้าใจง่าย โดยมีทั้้งการเปลี่ยนสีรถ เปลี่ยนเครื่องยนต์หรือเพิ่มเทอร์โบ ซึ่งจะแบ่งเป็นการอัปเกรดรถแต่ละคันแยกกัน และยังมีระบบเก็บค่าประสบการณ์เพื่ออัปเกรดเลเวลรถด้วย ทำให้มีอะไรให้ทำมากมายกว่าเกมบนสมาร์ตโฟนพอสมควร และแน่นอนว่ามันไม่ได้ใช้เงินจริงมาเพื่อเพิ่มค่าพลังด้วยใช้ฝีมือล้วน ๆ

แน่นอนว่ามันต้องมีระบบเล่นกับเพื่อนแน่นอนซึ่งใน Cruis’n Blast ก็ใส่มาและมีความคล้ายกับเกมทั่วไปเช่นการเล่นกับเพื่อนแบบแบ่งหน้าจอ และเล่นได้ 4 คนพร้อมกันในหน้าจอเดียวเลย ซึ่งมันมีความเหมือนกับ Mario Kart พอสมควร ซึ่งการเล่นก็ทำได้ลื่นไหลในระดับที่น่าพอใจ อย่างไรก็ตามมันกลับมีข้อเสียที่ร้ายแรงพอสมควร เพราะ Cruis’n Blast ไม่มีโหมดเล่นหลายคนแบบออนไลน์ ทำให้มันดูเชยมาก เหมือนผู้สร้างไม่ค่อยอยากลงทุนเท่าที่ควร

อย่างไรก็ตามการกลับมาลงสนามแข่งอีกครั้งใน Cruis’n Blast ถือว่ามีความสนุกระดับเกมแข่งรถดี ๆ ควรจะมี แต่ผู้เล่นต้องทำความเข้าใจว่ามันมาแนวโอเวอร์หลุดโลกสุดตัว เล่นแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก แถมระบบการเล่นก็เรียบง่ายมากใครจับก็เข้าใจได้ในทันทีไม่ต้องเรียนรู้อะไรมากมาย เสียดายที่ไม่มีโหมดออนไลน์อย่างเดียวเท่านั้น แต่โดยรวม Cruis’n Blast ก็ถือว่าสอบผ่านเป็นเกมแข่งรถที่น่าหาไว้ติดเครื่อง Nintendo Switch เวลาอยากหาอะไรสนุก ๆ ไว้เล่นฆ่าเวลาได้

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส