วันนี้ออมซื้อ Nintendo Switch OLED มาใหม่ทุกคน สีคล้าย ๆ กับฝาแฝด PlayStation 5 เลย แล้วก็หน้าจอสวยขึ้นเยอะมาก ๆ แต่ว่าจะคุ้มค่ากับเงินห้าพันกว่าบาทที่ต้องเพิ่มไหม เดี๋ยวเราไปดูกันค่ะ
มาดูไฮไลต์ของ Nintendo Switch OLED กันดีกว่า โดยหน้าจอเป็นแบบ OLED แล้วตัวเครื่องขนาดใกล้เคียงกับเครื่องเดิม แต่หน้าจอของ OLED จะใหญ่กว่าเป็น 7 นิ้วเพราะขอบของหน้าจอมันบางลงนะคะ
แล้วตัวนี้เป็น Nintendo Switch รุ่นเดิมที่เป็นจอ LCD ขนาดหน้าจอจะอยู่ที่ 6.2 นิ้ว
มาดูกันที่เรื่องสีของหน้าจอบ้างดีกว่า นี่ออมเปิดเมนูเกมให้ดูเลยนะคะ ก็จะเห็นว่าตัวที่เป็น OLED จะมห้สีที่อิ่มกว่าคอนทราสต์ดีกว่า สีดำจะดำกว่าตัวเครื่องที่เป็นรุ่นเดิมนั่นเอง .
อีกเรื่องของความแตกต่างของ Nintendo Switch OLED ก็คือตัวขอบจะมี Anti-Scattering Adhesive Film หรือว่า ฟิล์มกันหน้าจอแตกที่ Nintendo เขาติดมาให้เลย
อย่างที่รู้ค่ะว่า Nintendo Switch ไม่ได้มีแค่ผู้ใหญ่เล่นแต่รวมถึงเด็กก็เล่นเหมือนกัน เขาเลยเล็งเห็นถึงความสำคัญในเรื่องของความปลอดภัย ฟิล์มนี้มีคุณสมบัติในการ ป้องกันหน้าจอแตก ป้องกันสะเก็ดต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดจากการแตกร้าวของหน้าจอ เพื่อไม่ให้ผู้เล่นได้รับอันตราย
แต่ถ้าใครเผลอแกะออกไปแล้วจริง ๆ ออมแนะนำว่าให้หาซื้อฟิล์มที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกัน เพื่อความปลอดภัยของทุกคน
มาดูกันที่ตัวเครื่องของ Nintendo Switch OLED กันดีกว่า
ตัวพอร์ตต่าง ๆ เขาจะเหมือนเดิมไม่ว่าจะเป็นหัวชาร์จ USB-C ที่ใส่ Game Card หรือว่าที่เสียบหูฟังต่าง ๆ แต่ว่าจะออกแบบดีไซน์ให้ดูดีขึ้น เก็บรายละเอียดได้ดีขึ้น จนหลาย ๆ คนแซวว่าเครื่องเดิมเหมือนเครื่องที่ยังทำไม่เสร็จ เดี๋ยวออมลองเทียบให้ดูดีกว่า
จะเห็นได้ชัดมาก ๆ ว่า OLED จะมีการวางดีไซน์ออกมาได้ดีแล้วคือปุ่มต่าง ๆ จะติดมือมากยิ่งขึ้น
แต่ก็แอบสงสัยเรื่องนึงว่าทำไมเพิ่งมาทำตอนนี้ ซึ่งก็เป็นเรื่องของขาตั้งค่ะทุกคน เครื่องเดิมเห็นไหมว่าขาตั้งมีแค่แท่งเดียว แล้วก็เป็นพลาสติกด้วยนะทุกคน ถ้าสมมุติเรารีบ ๆ วางแบบนี้ ขาตั้งจะพับแล้วก็หล่น แต่ OLED ในที่สุดก็คิดออกมาได้ ขาตั้งเป็นแบบเต็มเครื่องและวัสดุก็เป็นโลหะ คือแข็งแรงมากยิ่งขึ้น และสามารถปรับองศาได้ด้วย
แล้วก็ช่องใส่ Micro SD Card ก็ีมเหมือนกันแต่ว่าปรับเปลิี่ยนเล็กน้อย โดย OLED จะใส่เป็นแนวตอนแต่เครื่องเดิมจะใส่เป็นแนวตั้ง เดี๋ยวออมจะลองวางให้ดูว่าขาตั้งแข็งแรงแล้วก็ปรับตามที่เราต้องการได้ด้วย
มาดูในส่วนของตัว Dock กันบ้างเห็นได้ชัดจากการวางเปรียบเทียบแบบนี้ OLED เขามีดีไซน์ออกมาเรียบหรูดู Elegant ความโค้งของเขาก็เยอะกว่าดูทันสมัยกว่า แล้วด้านหลังตัวพอร์ตทุกอย่างมีเหมือนกันแต่ของ OLED จะมีช่องเก็บสาย LAN ให้ด้วย แน่นอนว่าถ้าเราเล่นแบบสาย LAN จะเสถียรมากกว่าการใช้ Wi-Fi ในการเล่นเกมแน่นอน
ตอนนี้ออมก็ออกมาทดสอบการเล่นเกมข้างนอกลองดูเล่นว่าหน้าจอ OLED จะสู้แสงได้มากน้อยแค่ไหน ออมก็ตั้งค่าความสว่างให้สูงสุดด้วย เดี๋ยวลองมาดูกันและจากที่เล่นมาไม่มีปัญหาเรื่องแสงเลย สียังสวยคมชัดเหมือนเดิม สู้แสงได้ดีเลยนะคะ OLED เดี๋ยวเราไปลองเล่นรุ่นเก่าว่าสู้แสงได้มากน้อยแค่ไหนกันค่ะ
อันนี้ก็คือกลับมาที่เครื่องรุ่นเก่า ปรับความสว่างให้สูงสุดเหมือนกันเลย และจากที่สังเกตได้ตัวจอเก่าสีจะหม่นลงเล็กน้อย สีจะไม่สดเท่า OLED
ตอนนี้ออมกำลังเล่นเกม Luigi Masion 3 อยู่ ที่ออมเลือกเล่นเกมนี้เพราะว่าโทนของเกมค่อนข้างจะะมืดทำให้เห็น คอนทราสต์ได้มากขึ้น แล้วก็พวกจุดดำ ๆ เนี่ยก็จะเห็นได้ชัดขึ้นว่ามันดำสนิทนะ
หลังจากที่ออมเล่นมาสักพักมันทำให้ออมรู้สึกได้ว่าเล่นเกมสนุกขึ้นเพราะว่าด้วยสีของเกมที่สีสันสวยงามมันเลยทำให้เราอินและสนุกไปกับเกมมากขึ้น แต่มีข้อขัดแย้งอยู่คือ เวลาที่เราเล่นแบบ Handheld เนี่ย คือหน้าจอมันเป็น OLED ที่ปกติแล้วมันควรจะมีความละเอียดของภาพกับพวก 4K หรือ FullHD แต่ว่าด้วยข้อจำกัดของ Hardware ตัวเครื่องให้การแสดงผลอยู่ที่ 720p มันเลยทำให้เห็นว่าตัวเกมมันไม่ได้ชัดขนาดนั้น ภาพยังไม่ได้คมมาก
แต่ยังไงก็ตาม ไม่ใช่ความผิดของหน้าจอ OLED แต่มันเป็นข้อจำกัดของ Hardware ของเครื่องเอง แต่ว่าถ้าสมมติว่าเราจะเป็นแบบ Dock Mode ก็คือเสียบสายเข้าทีวี ภาพที่ได้ก็จะอยู่ที่ 1080p 60fps เหมือนกับรุ่นเดิม
โดยสรุปการเล่นเกมแบบ Handheld บนจอ OLED เนี่ยให้ประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีมากจริง ๆ เพราะว่ามันมีภาพและสีสันที่ดีกว่ารุ่นเดิมมาก
มากันที่ข้อสังเกตกันนะคะ ก็คือหน้าจอเปลี่ยนเป็น OLED แต่ก็ยังไม่รองรับ 4K แล้วตัว Hardware ของเครื่องก็ยังใช้แบบรุ่นเดิมก็คือ Custom NVIDIA Tegra X1 แบตเตอรี่ก็ยังอยู่ได้ที่ 4 – 9 ชั่วโมงเหมือนเดิม พูดง่าย ๆ ก็คือเปลี่ยนหน้าจอเป็น OLED แล้วก็มีการปรับเปลี่ยนดีไซน์ให้ดูดีขึ้น หรือเรียกว่า Nintendo Switch ที่เสร็จแล้วพร้อมกับหน้าจอ OLED
ถ้าถามว่าควรซื้อไหมกับการเพิ่มเงินอีก 5,000 บาท ออมขอแนะนำแบบนี้แล้วกันค่ะว่าควรซื้อถ้าสมมติว่า Nintendo Switch เครื่องนี้เป็นเครื่องแรกของคุณ แล้วคุณเป็นคนชอบพกพาไปเล่นข้างนอกแบบ Handheld อยู่แล้ว ถือว่าดีเพราะหน้าจอมันใหญ่ขึ้นและ OLED ให้ภาพที่สวยขึ้น เล่นเกมสนุกแน่นอน
แต่ถ้าคุณเป็นคนเล่นแบบ Dock Mode อยู่แล้ว ก็คือเสียบสายเล่นบนทีวี ออมไม่ค่อยแนะนำเพราะตัว Hardware ใช้ตัวเดิมเหมือนรุ่นเดิมเลย ความแรงก็เท่าเดิม แบตก็เท่าเดิม พูดง่าย ๆ คือแทบจะไม่มีอะไรเปลี่ยนเลย เปลี่ยนแค่ได้สีใหม่ที่คล้าย ๆ PlayStation5 เอาไปวางคู่กัน เป็นลูกพี่ลูกน้องกันดีเท่านั้นเอง
สำหรับเรื่องราคา Nintendo Switch OLED ขายอยู่ในไทยราคาจะอยู่ที่ประมาณ 16,990 บาท แล้วก็ Nintendo Switch รุ่นเดิมที่เป็นหน้าจอ LCD ราคาจะอยู่ที่ประมาณหนึ่งหมื่นถึงหมื่นนิด ๆ ซึ่งราคาก็จะต่างกันประมาณที่ 5,000 บาท
แต่จริง ๆ แล้วเนี่ยราคามาตรฐานของ Nintendo Switch OLED เขาขายอยู่ที่ประมาณ 350 เหรียญ หรือราว ๆ 11,720 บาทเท่านั้นเอง
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส