รีวิวเกม Gynoug คืนชีพตำนานเกมยิงสุดโหดบน Megadrive

Our score

7.0

Gynoug

จุดเด่น

1. เกมเพลย์คลาสสิกจากยุค 90S
2. มีโหมดปรับเกมเพลย์ให้เล่นง่ายขึ้น

จุดสังเกต

1. สิ่งที่เพิ่มมามีน้อยมาก
2. กราฟิกเหมือนเดิม

สำหรับเด็กยุค 90s เกมแนวยานยิงคงเป็นหนึ่งในแนวทางที่ต้องเคยผ่านหูผ่านตามาบ้าง เพราะในอดีตมันได้รับความนิยมอย่างมากต่างจากยุคนี้ที่เมื่อพูดถึงเกมยิงคอเกมจะคิดถึงเกมยิงมุมมองบุคคลที่ 1 มากกว่า เพราะว่าแนวทางยานยิงเสื่อมความนิยมมาเป็นสิบปีแล้ว แต่ด้วยกระแสเกมย้อนยุคกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งทำให้มีการขุดเอาของเก่ามาขายใหม่บ่อยครั้งในช่วงนี้

และล่าสุดมีการเปิดตัว Gynoug เกมยิงสุดโหดบนคอนโซลของ SEGA อย่าง Megadrive มาขายใหม่อีกครั้งบน Nintendo Switch , PS4 และ Xboxone ที่ถือว่าน่าประหลาดใจไม่น้อยเพราะมันไม่มีกระแสอะไรมาก่อน อีกทั้งมันไม่ได้มาจากค่ายใหญ่อะไรทำให้ไม่มีใครคาดคิดว่ามันจะถูกปลุกผีขึ้นมาขายอีกครั้งแบบแทบจะไม่ได้ทำอะไรเลยบนคอนโซลรุ่นใหม่ เหมือนกับทีมงานสร้างมาเพื่ออิงกระแสเกมย้อนยุคเท่านั้น

แต่ใครเกิดทันเล่นคงจะจำได้ว่า Gynoug มันเป็นหนึ่งในความแปลกใหม่ของแนวยานยิงเพราะตัวละครหลักไม่ใช่ยานอวกาศหรือเครื่องบินรบ แต่เป็นเทพที่มีปีกบินได้แล้วยิงพลังเวทมนตร์แทน โดยเรื่องราวใน Gynoug จะเรียบง่ายไม่มีอะไรมาก โดยจะเริ่มที่สวรรค์ถูกโจมตีโดยปีศาจ Iccus ทำให้ทูตสวรรค์นาม Wor ต้องลงมาต่อสู้มาสู่ Iccus และยุติแผนการชั่วร้าย ที่การนำเสนอก็แทบไม่มีอะไรมากตามยุคสมัยมีเพียงคัทซีนภาพนิ่งสั้น ๆ มาให้ชมเท่านั้น

กราฟิกเหมือนเดิมแต่ปรับให้เข้ากับหน้าจอ

อย่างที่บอกว่ามันเป็นการเอาของเก่ามาขายใหม่ ไม่ใช่การรีเมกหรือรีมาสเตอร์ ให้ภาพในเกม Gynoug เหมือนกับต้นฉบับที่วางขายบนคอนโซล 16bit อย่าง Megadrive มีเพียงการปรับเล็กน้อยให้มันเข้ากับหน้าจอทีวีรุ่นใหม่เท่านั้น แต่ใครอยากได้ภาพที่หน้าจอเป็นเส้น ๆ แบบเดียวกับการแสดงผลบนหน้าจอทีวีหลอดแก้วแบบ CRT ก็สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อความคลาสสิกได้ โดยรวมภาพก็ไม่ได้ดูแย่อะไรหากคุณมองว่ามันคือของเก่าที่มาจากยุค 90S

เช่นเดียวกับเพลงประกอบที่ยกเอาซาวด์ดนตรีแบบ 16Bit ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Megadrive หรือเกมตู้ของยุค 90S มาทั้งดุ้นแบบไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไรเลย แต่ของเดิมถือว่าดูดีมากมีเพลงธีมมันส์ ๆ ที่เข้ากับรูปแบบเกมยานยิงอยู่มากมาย และทำให้การเล่นสนุกขึ้น แต่ก็ตามความชอบและยุคสมัย หากคุณเกิดไม่ทันอาจจะมองว่ามันเชยมาก อีกทั้งมันก็ไม่มีเสียงพากย์อะไรทั้งนั้นมีเพียงการใช้ตัวอักษรเล่าเรื่อง ก็ต้องเข้าใจว่ามันคือการเอามาขายใหม่เพื่อเอาใจแฟนรุ่นเก่าเท่านั้น

รูปแบบการเล่นเกมยานยิงแบบคลาสสิก

เกมเพลย์ของ Gynoug คือยานยิง 2 มิติมุมมองจากด้านข้าง ตัวละครจะเคลื่อนที่จากซ้ายไปขาว ไม่มีการเปลี่ยนมุมมองแบบอื่นที่อาจจะเป็นข้อเสียที่ขาดความหลากหลายไปหน่อย แต่จุดเด่นจริง ๆ คืองานออกแบบและตัวละครที่เป็นเทพมีปีกแล้วยิงลูกพลังใส่ศัตรู ที่มีศัตรูเป็นปีศาจที่มีงานออกแบบที่ดูแปลกตาและอาจจะดูน่ากลัวหากมองตามยุคสมัย ที่แม้แต่ผู้เขียนเองก็รู้สึกว่าตัวละครมันดูหลอน ๆ ในสมัยตอนเด็ก ซึ่งถือว่าลงตัวอย่างแปลกประหลาดแต่กลับดูดีโดยเฉพาะบอส ที่มีการผสมผสานสิ่งที่เป็นของสมัยใหม่เข้าไปเช่นปีศาจที่มีรูปร่างเป็นเรือยักษ์ หรือรถไฟผีที่ดูหลอน ๆ และแปลกประหลาด

ส่วนอีกจุดเด่นคือการอัปเกรดตัวละครที่จะใช้รูปแบบไอเทมที่จะได้จากการกำจัดศัตรู ที่เหมือนกับเกมยานยิงทั่ว ๆ ไปที่มีทั้งไอเทมที่ช่วยเพิ่มความเร็วตัวละครที่เก็บมากเกินไปอาจจะส่งผลเสียเพราะจะบังคับได้ยากกว่าเดิม และยังมีไอเทมเรียบง่ายเช่นการอัปเกรดกระสุนพลัง และอีกจุดเด่นที่ต้องมีในเกมยิงคือกระสุนพิเศษ ที่ใน Gynoug จะใช้พลังเวทมนตร์ที่ใช้ได้จำกัด และจะเก็บแบบสุ่มจากไอเทมที่ได้จากศัตรูที่จะมีทั้งพลังสายฟ้า หรือพลังเวทมนตร์ที่มีพลังทำลายล้างสูงกำจัดศัตรูได้พร้อมกัน แต่จะใช้ได้จำกัดและพกติดตัวได้ไม่กี่ประเภท ดังนั้นผู้เล่นต้องวางแผนดี ๆ ว่าจะพกเวทมนตร์อะไรไปเจอบอสสุดโหดบ้าง

ระดับความยากคือจุดเด่น

จุดเด่นของเกมในอดีตคือความยาก เพราะตัวเกมไม่ได้ยาวอะไรเล่นไม่นานก็จบ ทำให้ผู้สร้างต้องออกแบบด่านและศัตรูให้มีความโหดหินทำให้ผู้เล่นต้องเล่นหลายรอบกว่าจะผ่าน และความสนุกของ Gynoug ก็เหมือนเกมยานยิงยุค 80S-90S ทั่วไปที่ศัตรูจะมาเป็นกองทัพแบบมืดฟ้ามัวดิน แถมยังยิงกระสุนนับร้อยนับพันที่แทบจะหลบไม่ทัน ทำให้ผู้เล่นมือใหม่ถือไม่ถนัดแนวนี้หัวร้อนกันได้ง่าย ๆ ซึ่งหากคุณอยากหาอะไรท้าทายมาเล่นก็บอกเลยว่ามันจัดเต็ม

อย่างไรก็ตามแม้ว่า Gynoug จะเป็นการเอามาขายใหม่แบบไม่ได้ปรับเปลี่ยนในรูปแบบการเล่นและกราฟิก แต่ผู้สร้างก็ไม่ใจร้ายสำหรับแฟนเกมรุ่นใหม่ หรือคนที่ไม่ถนัดเกมยานยิง เพราะได้ใส่โหมดย้อนเวลามาให้ ทำให้หากเราทำพลาดไปก็สามารถย้อนกลับไปแก้ไขได้ และยังมีระดับความยากให้เลือกเหมือนเดิม แต่หากยังไม่ง่ายพอก็มีโหมดที่สามารถปรับให้ตัวละครเป็นอมตะได้ด้วย เรียกว่าเล่นยังไงก็จบ ถือว่าช่วยสานฝันวัยเด็กที่หากใครไม่เคยเล่นจบเพราะยากเกินไปก็มาสานต่อกับเวอร์ชันนี้ได้เลย

สำหรับการกลับมาของ Gynoug ที่แม้อาจจะเป็นการเอามาขายใหม่แบบไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไรมากมาย แต่ก็เพิ่มโหมดที่ช่วยให้เล่นได้ง่ายขึ้นมาให้ด้วย และแม้ว่าต้นฉบับอาจจะไม่ใช่เกมที่โด่งดังอะไรมากมาย แต่สำหรับเด็กยุค 90S ที่โตมากับคอนโซล 16Bit น่าจะคุ้นตาและเคยเล่นมาบ้าง การได้กลับไปสัมผัสอีกครั้งถือว่าได้ย้อนกลับไปในวัยเด็กที่เกมยังเต็มไปด้วยความท้าทายและความสนุกแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก ยิ่งมาเทียบกับราคาขายที่ไม่แพงเลยถือว่าคุ้มค่าสำหรับเด็กหนวดที่อยากสัมผัสความคลาสสิกอีกครั้ง

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส