[รีวิวเกม] ชวนเล่น MY HERO ULTRA IMPACT พร้อมคำแนะนำการจัดทีมช่วงต้นเกม

Our score

9.0

[รีวิวเกม] ชวนเล่น MY HERO ULTRA IMPACT พร้อมคำแนะนำการจัดทีมช่วงต้นเกม

จุดเด่น

เกมจากการ์ตูนดังที่คุณภาพดีทั้งด้านกราฟิกและเกมเพลย์
ระบบการต่อสู้มีรายละเอียดค่อนข้างมาก เอื้อต่อการบังคับเอง เล่นไม่เบื่อ
มีบัฟหลากหลายทั้งจากตัวละครเอง ตัวการ์ด และสกิลต่าง ๆ ทำให้การเลือกใช้ตัวละครค่อนข้างสนุก
มีกิมมิกเล็ก ๆ น้อย ๆ จากเนื้อเรื่องการ์ตูน ดีต่อใจแฟน ๆ

จุดสังเกต

เล่นแล้วกินแบตเตอรีพอสวมควร
ตัวเกมเอื้อให้ปั้นตัวละครหลายตัว หลายธาตุ สายฟรีอาจจะลำบากหน่อย

MY HERO ULTRA IMPACT เกมมือถือจัดทีมสู้สุดเดือดจาก My Hero Academia

เปิดให้เล่นในสโตร์ไทยอย่างเป็นทางการแล้ว กับ MY HERO ULTRA IMPACT เกมแนว Turn-Based RPG จากค่าย Bandai Namco ที่หลายคนรอคอยตั้งแต่เปิดให้เล่นในสโตร์ญี่ปุ่นไปก่อนหน้า เกมนี้นับเป็นหนึ่งในเกมมือถือจากอนิเมะดังที่น่าจับตาที่สุดในขณะนี้ ผู้เขียนจึงจะมารีวิวระบบเกมคร่าว ๆ และแนะนำมือใหม่ในการจัดทีมด้วย

เนื้อเรื่องเข้มข้น งานภาพดีมาก

ในส่วนของเนื้อเรื่องคงไม่ต้องพูดเยอะ เพราะตัวเกมเดินเรื่องตามไทม์ไลน์ของอนิเมะ My Hero Academia เลยก็ว่าได้ ทั้งตัวอาร์ตเวิร์กต่าง ๆ ฉาก เหตุการณ์ รวมไปถึง cut scene ที่เป็นสไลด์ภาพเรียงร้อยเรื่องราวสไตล์คอมิกส์ ก็นำมาจากอนิเมะทั้งสิ้น หากใครที่เป็นแฟนการ์ตูนเรื่องนี้อยู่แล้วไม่ว่าจะอ่านมังงะหรือดูอนิเมะ สามารถ skip ผ่านไปเร็ว ๆ ได้ แต่หากยังไม่เคยรับรู้เนื้อหามาก่อน แนะนำว่าให้อ่านเนื้อเรื่องไปด้วย รับรองสนุก ให้สรุปสั้น ๆ คือ เป็นเรื่องราวของโลกที่ทุกคนเกิดมา 80% จะมีความสามารถพิเศษติดตัวมากับร่างกาย หรือที่เรียกว่า ‘อัตลักษณ์’ ทำให้มีอาชีพโปรฮีโร ที่ช่วยดูแลสารทุกข์สุกดิบจากวายร้ายที่ใช้อัตลักษณ์ในทางที่ผิด

ส่วนพระเอกของเรื่องนั้นมีความใฝ่ฝันที่จะได้เติบโตเป็นฮีโรช่วยเหลือผู้คน แต่เขาดันเป็นหนึ่งในคนที่เกิดมาไร้อัตลักษณ์ และด้วยนิสัยไม่ยอมแพ้ ไม่ลังเลที่จะช่วยเหลือผู้คนแม้จะไม่มีพลังอะไรเลย ทำให้ฮีโรอันดับ 1 ของญี่ปุ่นในนาม ‘ออลไมต์’ เห็นแวว แล้วบอกกับพระเอกว่า เขาเองมีอัตลักษณ์ที่สามารถถ่ายทอดพลังให้กับผู้อื่นได้ และนำมาซึ่งประโยคเด็ดของเรื่อง “นายน่ะ ก็เป็นฮีโรได้นะ” หรือ “นายเองก็เป็นได้นะ… ฮีโรน่ะ” ส่วนเรื่องราวต่อ ๆ มาขอแนะนำให้ไปติดตามกันเองแล้วกัน

ในส่วนของกราฟิกเกมนี้ บอกเลย สดใสฉูดฉาด ส่วนตัวคือชอบมาก นอกจากจะใช้อาร์ตเวิร์กจากอนิเมะแล้ว โทนสีที่ใช้ก็ไปในแนว RGB สดใส บางช่วงปาดสกรีนโทนคม ๆ มาให้ ได้อารมณ์คอมิกสุด ๆ และตัวละครเราจะผสมระหว่างอาร์ตเวิร์ก 2D กับ 3D เมื่อตัดเข้าฉากต่อสู้ ตัวละครของเราจะเป็น 3D และอยู่ในไซซ์ SD ซึ่งกราฟิกตัวละครทำออกมาค่อนข้างดีทีเดียว และเอฟเฟกต์สกิลต่าง ๆ ก็ทำได้ตื่นตาตื่นใจ ไม่ดรอปจากอนิเมะเลยด้วย

ในส่วนของแอนิเมชันต่าง ๆ ก็น่าสนใจมาก โดยเฉพาะตอนเปิดกาชา ใช้เป็นแอนิเมชันตัวละครเอกสองตัวอัดพลังใส่กัน แล้วมีการใส่กิมมิกเรื่องราวลงไปด้วย ทำให้รู้สึกว่าเกมนี้เก็บรายละเอียดด้านภาพและประสบการณ์ทางสายตาค่อนข้างดีเลย

เกมเพลย์แบบ Turn-Based ที่มีหลายอย่างยึดโยงกัน

สำหรับเกมเพลย์หลัก ๆ ของเกมนี้จะเป็นการจัดทีม 5 ตัวละคร ได้แก่ 3 ตัวละครหลัก และอีก 2 ตัวละครสำรอง โดยจะนำตัวละครลงไปสู้ได้ครั้งละ 3 ตัว (หากมีตัวไหนตาย ตัวละครสำรองจะกระโดดเข้ามาในการต่อสู้นั้น) โดยการต่อสู้ จะสู้กันด้วยอัตลักษณ์ของตัวละครที่อิงตามเนื้อหาการ์ตูน สังหารศัตรูให้หมดเพื่อผ่านไปแต่ละด่าน กติกาเข้าใจง่ายมาก แต่การเตรียมทีมมีรายละเอียดสักหน่อย มาดูกัน

ในการจัดทีมนั้น เราสามารถเลือกตัวละครลงทีมได้อิสระ โดยเกมนี้จะมีระบบแพ้-ชนะทางธาตุเป็นเหมือนปัจจัยหลักในการจัดทีม ซึ่งจะขอเรียกตามสีเพื่อเข้าใจง่าย ได้แก่ น้ำเงิน->แดง->เขียว->น้ำเงิน และมีธาตุสีเหลืองและม่วงที่แพ้-ชนะทางกันเอง จากที่เล่นมา เกมนี้ระบบแพ้-ชนะทางค่อนข้างเด่นชัดมาก ๆ การเลือกใช้ตัวที่ชนะทางจะทำดาเมจได้สูงมากจริง ๆ ในขณะที่เลือกตัวที่แพ้ทางก็จะโจมตีได้เบาสุด ๆ เกมนี้จึงประมาทระบบธาตุไม่ได้เลย

หน้าที่ของตัวละคร ตรงนี้เชื่อว่าหลายคนจะงง เพราะตัวละครนั้นจะไม่มีสถานะบอกชัดเจนว่าทำหน้าที่อะไร ตัวไหนแทงก์ ตัวไหนดาเมจ ตัวไหนซัปพอร์ต แต่ที่พอจะบอกได้คือการเข้าไปอ่านสกิล (มีแค่วิธีนี้เท่านั้น หรือไม่ก็เปิดไกด์ที่มีคนทำไว้ให้เอา) โดยแน่นอนว่าในทีมควรมีตัวที่ทำดาเมจหลัก 1-2 ตัว และอาจมีตัวฮีลหรือตัวที่มีสกิลเพิ่มเลือดให้ทีมอยู่ด้วย ช่วงต้น ๆ ที่ศัตรูยังไม่โหด ตัวที่ 3 อาจใช้เป็นตัวดาเมจ ตัวแทงก์ หรือตัวซัปพอร์ตคอยแจกดีบัฟศัตรู/ให้บัฟทีมก็ได้ตามสถานการณ์ ในส่วนของตัวละครสำรองก็แล้วแต่เราว่าหากเกิดทีมหลักตาย จะเอาตัวประเภทไหนรับช่วงต่อ

ในหนึ่งตัวละครจะมีสกิลแอ็กทีฟหลัก ๆ 3 สกิล ได้แก่ สกิลปกติ 2 สกิล และสกิลอัลติเมต หรือในเรื่องนี้จะเรียกว่า พลัสอัลตร้า (Plus Ultra) นอกจากนั้นจะมีออโต้สกิล หรือสกิลที่จะใช้ให้ทันทีที่เริ่มการต่อสู้ ส่วนใหญ่จะเป็นการให้บัฟต่าง ๆ แก่ตัวละครเอง หรือทั้งทีม ตรงนี้ผู้เล่นควรไปศึกษารายละเอียดอีกที และในการอัปเกรด จะเป็นการอัปเลเวล อัปสายความสามารถ (Ability Board) และลิมิตเบรก

นอกจากนี้ ทุกตัวละครยังสามารถติดการ์ดที่เรียกว่า เมโมรี (Memory) ได้ด้วย ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นเหมือนบัฟเพิ่มเติมที่ช่วยเพิ่มสเตตัสด้านต่าง ๆ ตามเงื่อนไขที่ระบุ เช่น หากทีมมีตัวละครหญิงจะเพิ่มพลังโจมตี หรือเพิ่มพลังโจมตีตัวละครที่เป็นนักเรียนโรงเรียนยูเอในทีม (รวมตัวที่ใส่ด้วย) เราก็ต้องเลือกใส่การ์ดให้เหมาะสมตามเงื่อนไขเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด อ่อ แล้วการ์ดเมโมรีนี้สามารถอัปเลเวลได้ด้วยเช่นกัน

ฉากต่อสู้ไม่มีเบื่อ

เสน่ห์ของเกมนี้คือถึงแม้จะมีระบบออโต้ แต่ด้วยความที่ตัวละครทุกตัวมีความหลากหลายทางสกิล มีระบบบัฟจากส่วนต่าง ๆ มากมายที่เอื้อให้ผู้เล่นเล่นเอง ทำให้เกมนี้ไม่ใช่เกมแนวจัดทีมลงด่านที่น่าเบื่อ

ยกตัวอย่างเช่น ระบบโจมตีลูกโซ่ (Chain Attack / Chain Strike) เป็นระบบที่หากตัวละครมากกว่า 1 ตัวเกจสกิลเต็มสามารถกดสกิลได้ (สกิลปกติ) แล้วเรากดใช้สกิลพร้อมกันก่อนจะกดเข้าเทิร์น เกมจะพาเราเข้าสู่แอนิเมชันโจมตีลูกโซ่ทันที ซึ่งจะมีลูกไฟวิ่งมาให้เราเคาะให้ตรงจังหวะ หากเคาะครบทุกสกิลของทุกตัว จะเป็นการเปิดบัฟโจมตีลูกโซ่และดาเมจของเราก็จะแรงขึ้นนั่นเอง โดยจะมีตั้งแต่ 10% 20% และ 30% แล้วแต่ว่าเรากดตรงจังหวะทันกี่ตัว

นอกจากนี้ บางตัวละครก็มีบัฟที่ค่อนข้างเฉพาะเจาะจง อย่างเช่น หากเลือกกดลำดับสกิลของตัวละครนี้เป็นลำดับสุดท้าย (ลำดับที่ 3) เพื่อทำการโจมตีลูกโซ่ เกจอัลติเมตของตัวละครก็จะเต็มเร็วขึ้น อะไรประมาณนี้ นี่จึงทำให้ผู้เล่นจำเป็นต้องบังคับเองหากต้องการรักษาผลประโยชน์ของตัวละครและทีม (ฮ่าฮ่า)

โหมดต่าง ๆ ในเกมเยอะมาก กิมมิกน่ารัก

สำหรับเกมนี้ จะเหมือนกับเกมแนวจัดทีมสู้บนมือถือทั่ว ๆ ไป คือมีดันเจียนฟาร์มทรัพยากรอัปเกรด มีด่านบอสให้โจมตี ซึ่งด่านบอสเกมนี้จะเน้นให้เราจัดทีมเฉพาะธาตุ ของรางวัลก็ล่อใจมาก ๆ เลยเหมือนบังคับกลาย ๆ ให้เราปั้นตัวละครหลายธาตุ หลายตัวเพื่อที่จะเล่นเกมนี้ได้ (อนาคตแห่งการเปย์ลอยมาแต่ไกล) มีไต่หอคอย มีอารีนาเก็บแต้ม และมีส่งตัวละครออกไปทำภารกิจด้วย

แต่ที่ชอบคือในส่วนของ Hero Base หรือฐานที่มั่นสำหรับฮีโร ที่เราสามารถเอาตัวละครที่มีมานั่งในห้องได้ ตัวละครทุกตัวจะมีปฏิสัมพันธ์กันเอง ยึดตามคาแรกเตอร์ของตัวละครจริง ๆ เช่น มิโดริยะจะชอบหยิบสมุดขึ้นมาจดบันทึก บาคุโกจะพูดเสียงดังโวยวาย อะไรแบบนี้ คนที่เป็นแฟนการ์ตูนเรื่องนี้ต้องชอบแน่ ๆ ที่สำคัญในฐานที่มั่นนี้จะคอยแจกทรัพยากรให้เราเรื่อย ๆ เราต้องคอยเข้ามากดรับด้วยนะ (อีกอย่างก็คือ สามารถเลือกตกแต่งฉากและเฟอร์นิเจอร์ได้ด้วยล่ะ)

มือใหม่จัดทีมยังไง

ก่อนอื่นขอแนะนำให้รีโรล ซึ่งเกมนี้รีโรลง่ายมาก หากเล่นผ่านช่วง tutorial มาได้จะได้เปิดกาชาตัวละคร 10 ใบ และกดใหม่ได้เรื่อย ๆ จนกว่าที่จะพอใจ จึงแนะนำให้หาตัวละครระดับ UR (สูงสุด) ที่เป็นตัวดาเมจโหด ๆ เพื่อให้เราสามารถเคลียร์ด่านเนื้อเรื่องได้ไว จะได้ปลดล็อกโหมดอื่น ๆ ได้ไวนั่นเอง ซึ่งเท่าที่ดูตอนนี้ก็มีที่หลายคนแนะนำได้แก่ บาคุโก (สีน้ำเงิน) เป็นตัวทำดาเมจหนัก ๆ จ๋า ๆ ยิ่งฆ่าได้ยิ่งตีแรง กับอีกตัวคือ โทโดโรกิ (สีเขียว) ที่มีสกิลหมู่โหด ๆ แถมสามารถแช่แข็งศัตรูได้ด้วย และถ้าทำได้ หาตัวฮีลไว้ก็ดีเหมือนกัน แต่ตัวฮีลนี้ไม่บังคับว่าต้องเอาเทียร์สูงแต่แรก เน้นตัวดาเมจไว้ก่อน หากรีโรลได้ UR สัก 2 ตัวขึ้นไป ถือว่าไม่เกลือ มีตัวดาเมจ โอเคเล่นได้

วิธีการจัดทีมช่วงเริ่มต้น เน้นลุยด่านเคลียร์เนื้อเรื่อง

ให้ทีมมีตัวดาเมจหนัก ๆ 1-2 ตัว อีกตัวจะเป็นตัวฮีลหรือซัปพอร์ตอื่น ๆ ก็ได้ (แต่ด่านหลัง ๆ อาจต้องพึ่งตัวฮีล)
พยายามจัดทีมที่ตัวละครธาตุเดียวกันถ้าทำได้ เพราะตัวละครส่วนใหญ่มักมีบัฟให้ตัวละครอื่น ๆ ที่ธาตุเดียวกัน ก็จะยิ่งทำให้ทีมเราแข็งแกร่งขึ้น (ใด ๆ ก็คือ พอผ่านช่วงแรก ๆ แล้ว เริ่มปลดล็อกโหมดต่าง ๆ แล้ว ควรปั้นตัวละครไว้หลาย ๆ ตัว หลาย ๆ ธาตุเผื่อใช้งานด้วยนะ)
อ่านเงื่อนไขในการ์ดให้ละเอียดก่อนใส่ อย่างที่บอกว่าการ์ดแต่ละใบจะเพิ่มสเตตัสและให้บัฟแก่ตัวละคร (หรืออาจรวมถึงทั้งทีม) ก็ต่อเมื่อตัวละครในทีมตรงตามเงื่อนไขที่กำหนด บางการ์ดให้พลังตัวละครฮีโร บางการ์ดให้พลังตัวละครวายร้าย บางการ์ดให้พลังตัวละครผู้หญิง บางการ์ดให้พลังตัวละครธาตุสีน้ำเงิน อะไรประมาณนี้
พยายามอัปเกรดตัวดาเมจเป็นหลัก ช่วงแรกทรัพยากรการอัปเกรดอาจไม่เพียงพอ ให้เน้นยัดใส่ตัวดาเมจไว้ก่อน อย่างน้อยรีบเคลียร์เนื้อเรื่องได้ไว เกมจะเปิดโหมดใหม่ ๆ ที่ช่วยให้เราฟาร์มทรัพยากรได้ง่ายขึ้นเอง
ถ้าไม่คิดมากก็ปั้นตัวที่อวยแหละดีที่สุด ของแบบนี้ ผู้เขียนถือคติว่า ตราบใดที่เราอิน เราก็จะเก่งเองแหละ ถ้ารีโรลกี่รอบ ๆ ก็ไม่ได้ตัวที่เทียร์สูง ๆ ก็เลือกปั้นตัวที่ชอบนี่แหละ แต่ถ้าตัวที่ชอบคือตัวที่เทียร์สูงด้วยแล้ว ก็ขอให้โชคดี (ฮ่าฮ่า)

สรุปแล้ว

เป็นเกมมือถือจากการ์ตูนที่ทำออกมาได้ดีทั้งในแง่ของกราฟิกและเกมเพลย์ มีระบบการต่อสู้ที่น่าสนใจ รวมไปถึงระบบบัฟต่าง ๆ ที่ยึดโยงกันทำให้การจัดทีมค่อนข้างมีรายละเอียดมาก และปรับเปลี่ยนได้หลากหลายมาก ๆ โหมดต่าง ๆ ก็เอื้อให้ผู้เล่นจำเป็นต้องปั้นหลาย ๆ ตัวละคร ไม่ได้เกาะกลุ่มเล่นแต่ตัวเมต้า มีกิมมิกจากเนื้อเรื่องมากมาย