Our score
6.0Never Alone
จุดเด่น
- เกมเพลย์เข้าใจง่าย ไอเดียแปลก
- เล่นได้ 2 คนพร้อมกัน
จุดสังเกต
- การควบคุมบังคับไม่ดี
- การทำเสนอดูเรียบ ๆ ไปหน่อย
ปรกติแล้วเกมกับสารคดีเสริมความรู้อาจจะไม่ค่อยเป็นสิ่งที่เข้ากันนัก เพราะในอดีตก็มีผู้สร้างได้พยายามสร้างเกมที่ผสมกับเรื่องราวที่ให้ความรู้ แต่ส่วนมากจะออกมาน่าเบื่อหรือไม่มีอะไรให้ท้าทาย แต่ก็มีบางทีมสร้างที่สามารถผสมผสานเรื่องราวนิทานพื้นบ้าน และสารคดี มาเล่าเป็นเกมได้อย่างลงตัว
และเกมนั้นคือ Never Alone (Kisima Ingitchuna) ที่นำเสนอในรูปแบบแอ็กชัน 2 มิติมุมมองด้านข้างที่เน้นการแก้ปริศนา ที่สร้างจากค่ายอินดี้เล็ก ๆ อย่าง Upper One Games และเป็นการผสมผสานการนำสารคดีเกี่ยวกับ อาร์กติก มายำรวมกับเกมที่ใช้นิทาน Kunuuksaayuka ที่เขียนโดยนักแต่ง Robert Nasruk Cleveland มาเป็นเรื่องราวหลักของเกมทำให้น่าสนใจมาก
โดยตัวเรื่องราวเราจะได้รับบทเป็น นูน่า (Nuna) สาวน้อยชาวอินูอิต (Inuit) ที่น่ารักแต่แล้วก็เกิดเหตุร้ายกับหมู่บ้านของเธอทำให้ต้องหลบหนี และได้รับการช่วยเหลือจากจิ้งจอกอาร์กติกสีขาว ที่มีความสามารถพิเศษในการสื่อสารกับเทพของชาวอินูอิตได้ และทั้งสองต้องช่วยเหลือกันเพื่อฝ่าฟันอุปสรรค ที่มีทั้งชนเผ่าลึกลับน่ากลัว รวมทั้งสัตว์อันตรายแห่งอาร์กติกอย่างหมีขาวด้วย โดยเกม Never Alone วางขายบนคอนโซลอื่นมาพักใหญ่ ๆ รวมทั้งเคยออกบน WiiU แล้วและเพิ่งจะถูกนำมาลง Nintendo Switch ซึ่งถือว่าดีงามเพราะเชื่อว่ามีแฟนปู่นินชอบแนวนี้อยู่ไม่น้อย
กราฟิกแบบ 2 มิติที่ธรรมดาแต่งานออกแบบดี
ตามประสาเกมฟอร์มเล็ก กราฟิกของ Never Alone อาจจะไม่ได้โดดเด่นนัก ทุออย่างอยู่ในระดับธรรมดา ตัวละครทั้งหมดถูกวาดด้วยความเรียบง่าย ที่มีทั้งความน่ารักของตัวละครหลักและลึกลับน่ากลัวของตัวร้าย ส่วนที่ต้องชมคือการออกแบบที่แปลกตาและหลากหลาย เพราะเทพออกแบบมาดูสวยงามและแปลกประหลาด แสงสีและหิมะในฉากทำได้ดีตามฟอร์มของเกม
ส่วนที่ดูเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยเห็นนักคือการแทรกสารคดีที่เป็นคลิปวิดีโอใส่เข้ามาเป็นระยะ ที่ผู้เล่นจะไม่กดเข้าไปชมก็ได้ซึ่งจะมีทั้งความเป็นมาของชาวอินูอิต ประวัติของวัฒนธรรมและสิ่งของในเกมที่มีอยู่จริง ๆ รวมทั้งเหล่าเทพด้วย ใครชอบดูสารคดีน่าจะชื่นชอบไม่ยาก ส่วนเพลงประกอบทำได้ดีเข้ากับบรรยากาศของโลกน้ำแข็งแห่งดินแดนอาร์กติกได้ลงตัว และมีเสียงพากย์ที่ไม่ใช่ตัวละครแต่เป็นผู้เล่าเรื่องที่ทำให้การเล่นเกมเหมือนเป็นการชมนิทานที่เราบังคับได้ด้วย
เกมเพลย์ 2 มิติเน้นสำรวจที่ต้องช่วยกันเล่น
แม้ว่า Never Alone ดูเหมือนเป็นการนำสารคดีความรู้มาผสานกับเกม แต่รูปแบบการเล่นก็ไม่ได้ดูเป็นสารคดีที่ง่าย ๆ ที่หลัก ๆ แล้วเราต้องเดินทางสำรวจดินแดนอาร์กติกที่ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากมายนักฉากจะไม่ได้กว้างอะไรมากมาย ที่จะเน้นหนักไปทางสำรวจแก้ปริศนาที่ใช้เวลาไม่นาน รวมทั้งยังได้กระโดดไปตามพื้นผิว และมีการที่ต้องกดหมอบเพื่อหลบพายุหิมะที่พัดเราปลิวไปได้ง่าย ๆ แต่ตัวละครของเรายังเป็นเด็กน้อยดังนั้นจะไม่ได้มีความเร็วหรือปีนป่ายเก่ง ดังนั้นมันไม่ใช่เกมแอ็กชันที่รวดเร็วอะไรมากมายนัก
ส่วนความโดดเด่นของ Never Alone คือการเล่น 2 ตัวละครพร้อมกันแบบ Co-op ที่ต้องร่วมมือกันแก้ปริศนาเพื่อเปิดทางไปต่อ แน่นอนว่าเราจะได้บังคับทั้ง นูน่า และน้องหมาจิ้งจอก ซึ่งหากเราเล่นคนเดียวจะสามารถสลับเปลี่ยนกันบังคับได้และในบางจุดตัวละครจะบังคับแบบอัตโนมัติเช่นฉากที่ต้องเดินทำให้ไม่ได้ยุ่งยาก และไม่ได้มีจังหวะให้ต้องหยุดเล่นเพื่อรอมากนัก แน่นอนว่าเราสามารถชวนเพื่อนมาเล่นพร้อมกันได้ด้วย แต่ก็ต้องร่วมมือกันให้ดี ไม่งั้นมีหัวร้อนตีกันนอกจอแทนได้
ลูกเล่นทำได้ดีแต่การบังคับยังไม่ดีพอ
ความสามารถของแต่ละตัวละครจะมีความแตกต่างกัน เพราะน้องหมาสามารถปีนป่ายและสามารถสื่อสารกับเทพได้ ทำให้เรียกมาช่วยเราในบางจุดของฉากที่เราไม่สามารถไปต่อได้ ส่วนตัวละครนูน่า จะสามารถดันสิ่งของรวมทั้งใช้ไอเทมพิเศษอย่าง Bola ที่เป็นของที่ชาวอินูอิตมีใช้งานจริง ๆ ที่นูน่าจะไว้ใช้ปาไปใส่กำแพงน้ำแข็งเพื่อเปิดทางไปต่อ และไว้หลอกล่อศัตรูได้แต่มันไม่สามารถโจมตีได้โดยตรง
และผู้สร้างได้เอาไอเดียการเล่น 2 ตัวละครรวมทั้งความสามารถที่แตกต่างมาใช้ในฉาก ที่ในส่วนของการแก้ปริศนาถือว่าทำได้ดีพอตัว มีความซับซ้อนพอประมาณแม้จะไม่ได้ยุ่งยากแต่ก็ถือว่าเข้ากับแนวทางของเกม แต่ในฉากไล่ล่าที่มีเวลาจำกัดมาก รวมทั้งฉากต่อสู้กับบอสที่สุดอันตราย การควบคุมบังคับที่ดูอืดอาด และไม่แม่นยำเพียงพอทำให้เราต้องพลาดตายง่าย ๆ หลายครั้งจนต้องหัวร้อน ไม่ใช่เพราะผู้เล่นไม่เก่งแต่ตัวละครไม่ยอมทำตามที่เราบังคับ ตรงนี้ถือว่าเป็นจุดเสียทำให้ความสนุกและการนำเสนอที่ดีถูกลดทอนลงไปมาก
ส่วนตัวแล้วชอบไอเดียและการนำเสนอของ Never Alone ที่มาพร้อมแอ็กชัน 2 มิติที่จริงจัง ไม่ได้เล่นสบาย ๆ แบบเกมที่มีการใส่ความรู้ และการที่มีการแทรกสารคดีสั้น ๆ เข้าไปให้ชมด้วยถือว่าทำให้เราได้สนุกรวมทั้งได้เรียนรู้วัฒนธรรมของชาวอินูอิตที่แปลกตาที่เชื่อว่าคนไทยน่าจะไม่ค่อยรู้จัก และมีเรื่องราวที่น่าประทับใจของความสัมพันธ์ระหว่างสาวน้อยและหมาจิ้งจอกที่น่าติดตาม เสียดายที่การควบคุมบังคับไม่ดีพอทำให้มันมีอะไรให้ติดขัดไปตลอดการเล่น แต่เมื่อเทียบกับราคาขายที่ไม่แพงถือว่าหากใครอยากลองของแปลกก็ถือว่าพอจะคุ้มค่าอยู่
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส