Our score
8.8DOOM
จุดเด่น
- กราฟิกงานออกแบบดูดี
- เกมเพลย์แบบคลาสสิก
- รูปแบบฉากแบบเกมคลาสิก
- เกมลื่นไหลมาก
จุดสังเกต
- ไม่มีอะไรแปลกใหม่กว่าเกมอื่น
-
คุณภาพกราฟิก
9.0
-
รูปแบบในการเล่น
9.0
-
ความสนุกในการเล่น
8.5
-
ความคุ้มค่าในการเล่น
9.0
-
ภาพรวมของเกม
8.5
ถ้าพูดถึงชื่อ DOOM เชื่อว่าคอเกมรุ่นเก่าคงจะคุ้นเคยกันดีเพราะมันเป็นหนึ่งในตำนานของวงการเกมยิงในยุคแรกเดิม ด้วยกราฟิกที่โดดเด่น (ในยุคนั้น) และรูปแบบการเล่นที่ถือว่าเป็นของใหม่มากในต้นยุค 90 และหลังจากภาค 3 เกม DOOM ก็เงียบหายไปจากการออกภาคหลัก จนมีการประกาศสร้างภาคใหม่ออกมาในปี 2016 ที่ออกบน PS4 , Xboxone และ PC
และอย่างแรกที่ต้องชมคือกราฟิกที่ต้องคาดหวังว่ามันต้องยอดเยี่ยมแน่ๆเพราะออกบนเครื่องเกมรุ่นปัจจุบัน ทั้งรายละเอียดที่ดูดีในแบบหนัง Sci-Fi ที่รันด้วยเฟรมเรตและความละเอียดสูงสุด 1080p และ 60 fps (ผู้เขียนเล่นบน PS4) บรรยากาศสยองขวัญเหมือนเราได้ลงไปสู่นรกบนดาวอังคารที่เป็นธีมหลักของ DOOM การออกแบบศิลป์ให้ความเคารพต้นฉบับอยู่ครบไม่ว่าจะเป็นไอเทมเช่น คีย์การ์ด หรือชุดเกราะ แม้แต่ศัตรูก็หยิบยกความตัวคลาสสิกมาปรับใหม่ให้เข้ากับยุคสมัยและดูดีมากเหมือนหลุดออกมาจากนรก
และไม่ว่าคุณจะเคยชื่นชอบ DOOM มาก่อนหรือไม่ งานออกแบบในเกมก็สามารถดึงเราให้อินไปกับมันได้จนจบ แต่ความรุนแรงของเกมแม้จะมีอยู่แต่ก็ไม่ได้โหดไปกว่าเกมอื่นหรือทำให้ความสยองของ DOOM ภาคนี้ลดลงบ้างแต่ถือเป็นข้อดีเพราะเราจะได้โฟกัสไปที่รูปแบบการเล่นที่ยังคงเป็นเกมยิงมุมมองบุคคลที่ 1 ที่มีความลื่นไหลในการเล่นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นระบบการยิงที่ลงตัวเล่นง่ายเข้าใจง่าย (แต่ตัวเกมไม่ง่าย)
ส่วนอาวุธก็ทำได้ยอดเยี่ยมโดยเป็นการนำปืนในตำนานกลับมาปัดฝุ่นทำใหม่ และสร้างออกมาได้มีประสิทธิภาพขึ้น และยังจำเป็นต่อการเล่นไม่ใช่ทำมาเล่นๆ การต่อสู้กับบอสในเกมถือว่าทำออกมาได้ดีมีความหลากหลายและดึงเอาของเก่ามาปรับให้เข้ากับยุคสมัย และมีการนำรูปแบบของเกมยิงหลายๆเกมมารวมกันโดยเฉพาะ เกมในตำนานอย่าง Metroid Prime แต่ DOOM ทำได้ลงตัวลื่นไหลและสะใจกว่า
แถมการนำเสนอที่เร็วแบบเอาใจคอเกมรุ่นใหม่ที่ไม่ต้องคิดอะไรมาก ไม่มีฉากกว้างให้สำรวจแบบพวก openword ไม่ซับซ้อนจนปวดหัว เพราะเป็นการเดินตามแนวทางต้นฉบับที่แบ่งเป็นฉาก แต่อย่าเพิ่งคิดว่ามันจะไม่มีอะไรให้สำรวจเพราะเกมยังมีการค้นหาสิ่งต่างๆในฉากเพื่อหาทางไปต่อ รวมทั้งมีระบบอัพเกรดตัวละครแบบเกมรุ่นใหม่ เรียกว่าหากคุณอยากเห็นการผสมผสานกันระหว่างของเก่าและใหม่ DOOM เป็นตัวอย่างที่ดีที่ไม่มีอะไรให้ติ เสียดายที่โหมดออนไลน์ธรรมดาไปเพราะยังอยู่ในกรอบของโหมดออนไลน์ของเกมยิงทั่วไปไม่ได้ฉีกหรือโดดเด่นออกมา แต่ยังดีมีโหมดที่เราสามารถสร้างฉากเองได้ ทำให้พอจะอยู่ไปกับเกมได้นานกว่าที่คิด
บอกกันตามตรงเกม DOOM เวอร์ชั่นปี 2016 ถือว่าได้ทำได้สนุกลงตัวให้ความเคารพต้นฉบับเหมือนกับได้ชมภาพยนตร์ Star Wars: The Force Awakens ที่เป็นการปัดฝุ่นหยิบเอาความคลาสสิกมาทำใหม่ได้อย่างไม่เสียของ แม้ว่ามันอาจจะไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ แต่มันยังคงเป็นเกมยิงที่ทำได้ดีเกินมาตรฐานและไม่เสียชื่อ DOOM เกมยิงคลาสสิกในตำนาน
ขอบคุณร้านเกม Nadz Project ดิจิตอล เกตเวย์ ชั้น 2