หัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน (Sudden Cardiac Arrest) เป็นภาวะที่หัวใจหยุดเต้นกะทันหันตามชื่อ เพราะส่วนใหญ่จะไม่มีสัญญาณหรืออาการบอกล่วงหน้า เมื่อหัวใจที่มีหน้าที่ในการสูบฉีดเลือดหยุดเต้นจะทำให้ความดันเลือดภายในร่างกายตกลง ระบบอวัยวะที่ต้องการเลือดไปเลี้ยงก็จะหยุดทำงานตามไปด้วย โดยเฉพาะสมอง ผลที่ออกมาคือการวูบหมดสติและล้มลงไป
หากไม่ได้รับการปฐมพยาบาลอย่างเหมาะสมหรือการรักษาที่ทันเวลาอาจทำให้เสียชีวิตได้ภายในไม่กี่นาที ภาวะแทรกซ้อนจากภาวะนี้ยังอันตรายมาก เพราะเมื่อสมองขาดเลือดและออกซิเจนจะทำให้เซลล์สมองบางส่วนตาย และเป็นอัมพาต
ภาวะหัวใจหยุดเต้นที่เราเข้าใจกันมักจะเป็นโรคของคนสูงวัยที่มีโรคประจำตัว แต่ภาวะนี้ไม่ได้เป็นแบบนั้น เพราะไม่ว่าคุณจะอายุน้อยก็อาจมีความเสี่ยงของภาวะนี้ด้วยเหมือนกัน การรู้จักกับภาวะนี้และวิธีปฐมพยาบาลจะช่วยเพิ่มโอกาสการรอดชีวิตโดยไม่มีภาวะแทรกซ้อนได้
สาเหตุของภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน
สาเหตุหลักที่ทำให้หัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันมาจากคลื่นไฟฟ้าหัวใจที่ผิดปกติด้วยสาเหตุต่าง ๆ ส่งผลให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ เต้นรัว และหยุดเต้น คนที่มีโรคเกี่ยวกับหัวใจมักมีความเสี่ยงที่จะเกิดหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันได้มากกว่า อย่างโรคหัวใจขาดเลือด โรคหลอดเลือดแดงอุดตัน โรคหัวใจโต โรคลิ้นหัวใจรั่ว และโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด
แต่อย่างที่ได้บอกไปว่าต่อให้คุณไม่ได้มีโรคหัวใจ คุณก็อาจมีความเสี่ยงได้เหมือนกัน หากมีปัจจัยต่อไปนี้
- สูบบุหรี่ ดื่มหนัก ใช้สารเสพติด
- มีโรคประจำตัว โรคอ้วน ความดันเลือดสูง ไขมันในเลือดสูง โรคเบาหวาน โรคไต
- ไม่ค่อยออกกำลังกาย
- คนในครอบครัวมีประวัติโรคหัวใจ
- ผู้ชายเสี่ยงมากกว่าผู้หญิง
นอกจากโรคหัวใจและปัจจัยเหล่านี้แล้ว บางคนอาจมีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจแฝงอยู่โดยไม่รู้ตัว ซึ่งรู้อีกทีก็เมื่อเกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นไปแล้ว
รับมือภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันเพื่อยื้อชีวิต
แม้ว่าเคสส่วนใหญ่จะไม่มีสัญญาณบอกล่วงหน้า แต่ในบางคนอาจพบอาการเจ็บแน่นหน้าอก ใจสั่น หายใจลำบาก รู้สึกเวียนหัวและหน้ามืด ก่อนที่จะหมดสติไป แต่ทั้งหมดนี้มักเกิดในเวลาสั้น ๆ เท่านั้น
การปฐมพยาบาลและได้รับการรักษาภายใน 4 นาทีหลังหมดสติมีโอกาสที่ผู้ป่วยจะรอดชีวิต โดยไม่มีภาวะแทรกซ้อนสูงที่สุด โดยแต่ละนาทีที่ผ่านไปจะเสี่ยงอันตรายมากขึ้นเป็นเท่าตัว
เมื่อหากพบคนหมดสติจากภาวะหัวใจหยุดเต้น คุณสามารถปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้ด้วยวิธีต่อไปนี้
1. เช็กสถานะของคนที่หมดสติ
ด้วยการปลุกและเขย่าตัว พร้อมเรียกชื่อดัง ๆ
- หากตอบสนอง เช่น ขยับตัวหรือตอบสนองต่อเสียงให้รีบนำส่งโรงพยาบาลหรือเรียกรถพยาบาล
- หากไม่ตอบสนองหรือไม่หายใจ โทรเรียกรถพยาบาลหรือโทรสายด่วนสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ 1669 และตะโกนให้คนในบริเวณนั้นนำเครื่อง AED มา (หากมี)
2. ปฐมพยาบาลจนกว่ารถพยาบาลจะมาถึง
การปฐมพยาบาลคนที่หมดสติจากหัวใจหยุดเต้นมี 2 กรณีด้วยกัน
ปฐมพยาบาลด้วยวิธี CPR หรือการปั๊มหัวใจ
การ CPR จำเป็นต้องทำอย่างถูกวิธีเพื่อป้องกันอวัยวะภายในบาดเจ็บ การ CPR ต้องทำต่อเนื่องจนกว่ารถพยาบาลจะมาถึง
- การวางผู้ป่วยให้นอนหงายราบกับพื้นแข็ง
- คนทำ CPR ควรอยู่ข้าง
- นำมือด้านที่ถนัดสอดไปที่ด้านหลังมืออีกด้านด้วยการประสานนิ้ว วางส้นมือไว้เหนือกระดูกหน้าอก 2 นิ้ว แขนตึง ตั้งฉากกับพื้น
- กดหน้าอกด้วยการปล่อยน้ำหนักตัวผ่านจากไหล่ไปสู่แขนทั้งสองข้าง ลึกลงไป 1.5-2 นิ้ว ด้วยความถี่ 1–2 ครั้ง / วินาทีเพื่อปั๊มหัวใจให้ได้ 100–120 ครั้ง/นาที
- ทำซ้ำไปเรื่อย ๆ จนกว่ารถพยาบาลหรือเครื่อง AED จะมาถึง
- หากผู้ป่วยฟื้นให้พลิกหรือตะแคงตัว และเฝ้าดูอาการจนกว่ารถพยาบาลจะมาถึง
ปฐมพยาบาลด้วยเครื่อง AED
เครื่อง AED (Automated External Defibrillator) หรือเครื่องกระตุ้นหัวใจอัตโนมัติเป็นอุปกรณ์กู้ชีพที่มักมีในสถานที่ใหญ่ ๆ เช่น โรงแรม คอนโด หมู่บ้าน ห้างสรรพสินค้า และตึกสำนักงาน การใช้เครื่อง AED จะช่วยรีเซตการเต้นของหัวใจที่ผิดจังหวัดให้กลับมาปกติ
ภายในกล่อง AED จะคอยบอกวิธีการปฐมพยาบาลตั้งแต่การให้จังหวะในการปั๊มหัวใจไปจนถึงการใช้ไฟฟ้าเพื่อรีเซตการเต้นของหัวใจเมื่อปั๊มหัวใจจนหัวใจมาเต้นแล้ว ซึ่งคนที่ใช้เครื่อง AED ควรผ่านการฝึกมาก่อนแล้ว หากไม่เคยฝึกใช้งานมาก่อนในสถานการณ์ฉุกเฉินจริง ๆ ในระหว่างใช้ควรมีสติและฟังเสียงแนะนำการใช้งานให้ได้มากที่สุด เพราะในขั้นตอนการรีเซตการเต้นหัวใจจะต้องมีการปล่อยกระแสไฟฟ้าออกมาจากเครื่องด้วย
เครื่อง AED มีวิธีใช้ต่อไปนี้
- เปิดเครื่อง AED และทำตามคำแนะนำรูปแบบเสียง
- ปั๊มหัวใจอย่างต่อเนื่องในระหว่างที่ติดตั้งเครื่อง AED
- ถอดเครื่องประดับทั้งหมด โดยเฉพาะที่เป็นโลหะ และเช็ดผิวหนังให้แห้ง หากชื้นหรือมีเหงื่อ
- แปะแผ่นอิเล็กโทรดไว้ใต้ไหปลาร้าเหนือหน้าอกด้านขวาและแปะแผ่นอิเล็กโทรดอีกแผ่นไว้ที่ชายโครงด้านซ้าย ในกล่อง AED จะมีภาพตำแหน่งที่ถูกต้องระบุไว้
- หากติดแผ่นอิเล็กโทรดตามคำแนะนำของเครื่องแล้ว ให้หยุดปั๊มหัวใจ และห้ามสัมผัสผู้ป่วย เครื่อง AED จะวิเคราะห์คลื่นไฟฟ้าหัวใจและจังหวะการเต้น
- เมื่อวิเคราะห์เสร็จจะมีคำแนะนำให้กดปุ่มเพื่อช็อกไฟฟ้าและจะมีคำเตือนให้ทุกคนออกห่างจากผู้ป่วยก่อนกด
- เมื่อเสียงคำแนะนำบอกว่าช็อกไฟฟ้าเสร็จแล้ว ให้ CPR ต่อเนื่องจนกว่ารถพยาบาลจะมาถึง
- หากผู้ป่วยฟื้นให้พลิกหรือตะแคงตัว และเฝ้าดูอาการจนกว่ารถพยาบาลจะมาถึง
วิธีปฐมพยาบาลที่ Hack for Health ได้นำมาฝากใช้สำหรับคนที่หมดสติจากภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันเท่านั้น การหมดสติจากสาเหตุอื่น เช่น การถูกไฟฟ้าชอร์ตอาจมีปัจจัยเรื่องอันตรายจากไฟฟ้าในพื้นที่ที่ผู้ป่วยหมดสติ หรือจากอุบัติเหตุที่อวัยวะภายในเสียหาย ซึ่งอาจทำให้ผู้ช่วยเหลือได้รับอันตรายหรืออาจทำให้ผู้ป่วยเป็นอันตรายได้มากขึ้น
ปัจจุบันไม่มีวิธีป้องกันภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน แต่การเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่เราได้เล่าไปอาจช่วยลดความเสี่ยงของภาวะนี้ได้ และคนที่มีโรคประจำตัว โดยเฉพาะโรคหัวใจ ควรใช้ยาและทำตามที่แพทย์แนะนำ
ที่มา: Mayo Clinic, Bangkok Hospital
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส