คุณเคย “อยากกิน” หรือ “กิน” อะไรที่ไม่ใช่อาหารไหม? ในตอนเด็ก ๆ หลายคนอาจเคยมีประสบการณ์หรือเห็นเพื่อนกินของที่ไม่น่าจะกินได้ อย่างไส้ดินสอ ยางลบ ยาสีฟัน แป้งเด็ก และกระดาษ ซึ่งส่วนใหญ่ก็มาจากความอยากรู้อยากลอง แต่ Pica Syndrome (พิคาร์ซินโดรม / พิก้าซินโดรม) นั้นต่างออกไป
Pica syndrome ถูกเรียกในภาษาไทยว่าโรคกินของแปลก ถูกจัดอยู่ในกลุ่มของอาการทางจิตที่อธิบายพฤติกรรมที่คนคนหนึ่งรู้สึกอยากกิน ‘สิ่งของ’ ที่ไม่ใช่อาหารโดยไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ Hack for Health จะคุณไปรู้จักกับโรคแปลก แต่มีอยู่จริงอย่าง Pica syndrome กัน
Fun fact: ชื่อ Pica มาจากชื่อสปีซีส์ของนกสาลิกาปากดำ (Eurasian magpie) ซึ่งนกชนิดนี้ขึ้นชื่อว่าชอบกินของแปลก ๆ ที่ไม่ใช่อาหาร
สิ่งของยอดฮิตที่คน (เป็นโรค) ชอบกินของแปลกกิน
สิ่งของบางอย่างที่คนเป็น Pica syndrome กินมีทั้งของที่ไม่ใช่อาหารเลยและของที่เหมือนจะเป็นอาหาร แต่กลับไม่มีคุณค่าทางสารอาหารเลยก็มี มาลองเช็กกันดูว่าคุณเคยอยากกินของเหล่านี้ไหม
น้ำแข็ง เปลือกไข่ กากกาแฟ ถ่าน ขี้เถ้า ชอล์ก ดิน หิน โคลน สีเทียน แป้งเด็ก เส้นผม เส้นด้าย ผงซักฟอก กระดาษ อาหารสัตว์ สบู่ เศษผ้า ขนสัตว์ สีที่ลอกตามผนัง และของเสียทุกรูปแบบ ผู้ป่วย Pica syndrome แต่ละคนมีความอยากกินของแปลกที่ต่างกันออก
Pica Syndrome อันตรายกว่าที่คิด
จากที่เราได้ยกตัวอย่างไปจะเห็นได้ว่ามีสิ่งของหลากหลายชนิดที่คนที่มีอาการนี้รู้สึกอยากกิน ซึ่งความรู้สึกอยากกินที่ว่าไม่ใช่ว่าได้กินนิดกินหน่อยแล้วก็จบ แต่มันรุนแรงมากกว่านั้น
อย่างในปี 2011 มีข่าวของผู้หญิงอเมริกันที่ชื่อ อเดล เอดวาร์ด (Adele Edward) มีอาการ Pica syndrome ซึ่งเธอชื่นชอบการกินไส้ของโซฟาอย่างมาก แม้ว่าตัวเธอจะรู้ว่ามันไม่ใช่อาหาร แต่เธอก็ไม่สามารถหยุดกินมันได้เลยและกินมันมาเป็นเวลากว่า 21 ปี จนกระทั่งวันหนึ่งเธอต้องเข้ารับการผ่าตัดด้วยอาการลำไส้อุดตัน
นั่นคือเคสของคนที่ชอบกินไส้โซฟา แต่ถ้าในเคสของคนที่ชอบกินผงซักฟอก สีที่ลอกตามผนัง และชอล์กที่มีสารเคมี เปลือกไข่หรือของอื่น ๆ ที่มีคมจนทำให้ลำไส้ระคายเคืองอาจทำให้ร่างกายเกิดอันตรายร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย
โดยผลกระทบทั่วไปจากการกินของแปลก ๆ อาจทำให้คุณเกิดอาการต่อไปนี้ได้
- ท้องเสีย ท้องผูก คลื่นไส้ อาเจียน
- ฟันบิ่น แตก หัก
- เลือดจางจากการมีเลือดออกในทางเดินอาหาร
- เวียนหัว อ่อนเพลีย เป็นตะคริวจากภาวะแร่ธาตุไม่สมดุล
- ติดเชื้อในลำไส้และทางเดินอาหาร
- หัวใจเต้นผิดจังหวัด
- พิษจากตะกั่วและสารอื่น ๆ อาจทำให้พิการและเสียชีวิต
- โรคลำไส้อุดตัน
นอกจากนี้ พฤติกรรมการชอบกินของแปลกมักทำให้คนที่มีอาการนี้รู้สึกผิดและละอายใจต่อตัวเอง เพราะไม่สามารถหักห้ามใจตัวเองไม่ให้กินของเหล่านั้นได้ ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาด้านจิตใจได้
สาเหตุของ Pica Syndrome
ในปัจจุบันแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถระบุสาเหตุที่แท้จริงของโรคนี้ได้ แต่จากข้อมูลในเบื้องต้นชี้ว่าปัจจัยต่อไปนี้เอื้อต่อการเกิดความรู้สึกอยากกินของแปลกนี้ได้
ภาวะสุขภาพกาย
สุขภาวะบางอย่างอาจแสดงออกมาเป็นอาการ Pica syndrome ได้ เช่น
- ภาวะขาดสารอาหารในกลุ่มแร่ธาตุ อย่างธาตุเหล็ก แคลเซียม และสังกะสี
- คนท้องที่ร่างกายต้องการธาตุเหล็กมากขึ้น
- ผู้ป่วยโรคเลือดจางชนิดเม็ดเลือดแดงรูปเคียว (Sickle cell anemia)
- โรคออทิสติกหรือกลุ่มอาการออทิซึม
ปัญหาสุขภาพจิต
เช่นเดียวกับการกัดเล็บ โรคชอบกินของแปลกคือวิธีที่กลไกในสมองแสดงออกเมื่อต้องรับเมื่อกับภาวะอารมณ์อันหนักหน่วง อย่างความวิตกกังวล ความเครียด โรคย้ำคิดย้ำทำ รวมไปถึงสุขภาพจิตจากสาเหตุอื่นก็อาจทำให้เกิดอาการนี้แทรกซ้อนขึ้นมาได้
วัฒนธรรม สภาพแวดล้อม และการเลี้ยงดู
อย่างชาวเฮติที่กินคุกกี้ดินเป็นอาหาร เพราะสภาพแวดล้อมที่ขาดแคลน จนการกินดินกลายเป็นเรื่องในชีวิตประจำวันที่สืบต่อกันมา หรือในหลายลัทธิมีการให้กินดินหรือโคลนเพื่อเป็นการประกอบพิธีทางศาสนา
ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า Pica Syndrome เป็นหนึ่งในกลไกป้องกันตัวของสมองในเด็กที่ประสบปัญหาความยากจน อดอยาก การถูกปล่อยปละละเลยในการเลี้ยงดู ไปจนถึงการถูกข่มเหงในทุกรูปแบบ ซึ่งสะท้อนออกมาเป็นอาการชอบกินของแปลกที่อาจติดตัวมาจนโต
หากคุณกำลังเผชิญกับความรู้สึกอยากกินสิ่งที่ไม่ใช่อาหารหรือแม้แต่กินไปแล้วก็ตามหลายสัปดาห์จนถึง 1 เดือนขึ้นไป ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุและวางแผนการรักษา เพราะ Pica syndrome นั้นสามารถรักษาและบรรเทาได้
ที่มา: clevelandclinic.org, kidshealth.org, dailymail
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส