“แอลกอฮอล์” ถือเป็นหนึ่งในสารเคมีที่มีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของเรา ทั้งในรูปแบบของเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด หรือแม้แต่เชื้อเพลิง 

แต่คุณรู้หรือไม่ว่า แอลกอฮอล์ที่เราใช้กันอยู่นั้นมีหลายชนิด และแต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติและอันตรายแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ?

โดยหนึ่งในความเข้าใจผิดที่พบได้บ่อยคือ การสับสนระหว่าง “เอทิลแอลกอฮอล์” ซึ่งเป็นส่วนผสมหลักในแอลกอฮอล์ที่ใช้ฆ่าเชื้อ กับ “เมทิลแอลกอฮอล์” ซึ่งเป็นสารเคมีที่อันตรายถึงชีวิต หากใช้ผิดชนิด ผลลัพธ์ที่ตามมาอาจร้ายแรงเกินกว่าจะคาดคิดได้

เอทิลแอลกอฮอล์: แอลกอฮอล์สำหรับการแพทย์และการดื่มด่ำ

“เอทิลแอลกอฮอล์” (Ethyl Alcohol) หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ “เอทานอล” (Ethanol) เป็นแอลกอฮอล์ชนิดหนึ่งที่ผลิตจากการหมักน้ำตาล มีสูตรเคมีคือ C₂H₅OH ลักษณะเป็นของเหลวใส ไม่มีสี กลิ่นหอมอ่อน ๆ และมีรสเผ็ดเล็กน้อย เอทิลแอลกอฮอล์มีความปลอดภัยเมื่อใช้ภายนอกร่างกาย เช่น การใช้ทำความสะอาดผิวหนัง หรือฆ่าเชื้อโรค เนื่องจากมีฤทธิ์ในการละลายไขมันของเชื้อโรค ทำให้เชื้อโรคตายได้ นอกจากนี้ เอทิลแอลกอฮอล์ยังเป็นส่วนผสมหลักในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อีกด้วย โดยมีความเข้มข้นหรือเปอร์เซ็นต์การใช้งานเอทิลแอลกอฮอล์ที่แตกต่างกันดังนี้

  • ในเครื่องดื่ม: ปริมาณเอทิลแอลกอฮอล์ในเครื่องดื่มจะแตกต่างกันไปตามชนิดของเครื่องดื่ม เช่น เบียร์จะมีปริมาณแอลกอฮอล์ประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ ไวน์ประมาณ 12-14 เปอร์เซ็นต์ ค็อกเทลประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ สุราหรือวิสกี้ประมาณ 40-50 เปอร์เซ็นต์
  • ในวงการแพทย์: เอทิลแอลกอฮอล์ที่ใช้ในวงการแพทย์มักจะมีความเข้มข้นสูง เช่น แอลกอฮอล์ 70 เปอร์เซ็นต์ใช้สำหรับฆ่าเชื้อโรค

เมทิลแอลกอฮอล์: แอลกอฮอล์สำหรับอุตสาหกรรมและมีพิษร้ายแรง

เมทิลแอลกอฮอล์” (Methyl Alcohol) หรือ “เมทานอล” (Methanol) มีสูตรเคมีคือ CH₃OH เป็นสารเคมีที่ได้มาจากกระบวนการกลั่นทางปิโตรเคมี มีลักษณะเป็นของเหลวใส ไม่มีสี ลักษณะคล้ายเอทิลแอลกอฮอล์มาก ใช้ในอุตสาหกรรมเป็นส่วนใหญ่ เช่น เป็นตัวทำละลายในอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ (ทินเนอร์ แล็กเกอร์) เชื้อเพลิง (ผสม LPG และไบโอดีเซล) หรือสารตั้งต้นในการผลิตพลาสติก 

แม้เมทิลแอลกอฮอล์จะมีรสหวานเล็กน้อย แต่มีพิษร้ายแรงต่อร่างกาย หากสูดดม ดื่ม หรือสัมผัสกับผิวหนัง เมทิลแอลกอฮอล์จะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายอย่างรวดเร็ว และถูกเปลี่ยนเป็นสารพิษที่ทำลายระบบประสาทส่วนกลาง ตับ ไต ปอด สมอง และการมองเห็น ดังนั้น การบริโภคเมทิลแอลกอฮอล์แม้ในปริมาณเพียงเล็กน้อยจึงอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

กลไกการทำงานของเมทิลแอลกอฮอล์ในร่างกาย

เมื่อเมทิลแอลกอฮอล์เข้าสู่ร่างกาย มันจะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดอย่างรวดเร็ว และถูกนำไปยังตับเพื่อทำการย่อยสลาย โดยเอนไซม์ในตับจะเปลี่ยนเมทิลแอลกอฮอล์ให้เป็นสารพิษชนิดหนึ่งคือ ฟอร์มาลดีไฮด์ (Formaldehyde) และ กรดฟอร์มิก (Formic acid) ซึ่งสารพิษนี้จะไปทำลายเซลล์ต่าง ๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะระบบประสาทและสมอง ก่อให้เกิดอาการต่าง ๆ เช่น ปวดหัว มึนงง คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ปวดกล้ามเนื้อ หายใจลำบาก ชัก เห็นภาพซ้อน ตาพร่ามัว แพ้แสง เห็นภาพเป็นสีขาว สูญเสียการมองเห็น หากได้รับในปริมาณที่มากเกินไป ระบบต่าง ๆ ของร่างกายจะถูกทำลายจากภาวะเลือดเป็นกรด (Metabolic acidosis) และอาจนำไปสู่การเสียชีวิตในที่สุด

อันตรายจากการใช้แอลกอฮอล์ผิดประเภท

การใช้แอลกอฮอล์ผิดประเภทจึงอาจนำมาซึ่งผลร้ายแรงที่ไม่คาดคิด และนี่คือตัวอย่างของการใช้ผิดประเภทและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น

  1. การดื่มเมทิลแอลกอฮอล์แทนเอทิลแอลกอฮอล์: บางครั้งมีการลักลอบผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยใช้เมทิลแอลกอฮอล์แทนเอทิลแอลกอฮอล์เพื่อลดต้นทุน ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่ง การดื่มเข้าไปอาจทำให้ตาบอด สมองถูกทำลาย หรือถึงขั้นเสียชีวิต
  2. การใช้เมทิลแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือ: ในช่วงการระบาดของโรคติดเชื้อ บางคนอาจใช้เมทิลแอลกอฮอล์แทนเอทิลแอลกอฮอล์ในการทำความสะอาดมือ ไม่ว่าจะเจตนาหรือไม่ก็ตาม ก็อาจทำให้เกิดการดูดซึมผ่านผิวหนังและเป็นพิษกับผู้ใช้ได้
  3. การใช้เอทิลแอลกอฮอล์เป็นเชื้อเพลิง: ในการใช้เอทิลแอลกอฮอล์แทนเมทิลแอลกอฮอล์ในเครื่องยนต์บางประเภทอาจทำให้เครื่องยนต์เสียหายได้

วิธีสังเกตและแยกแยะ “เอทิล” และ “เมทิล”

การสังเกตความแตกต่างระหว่างเอทิลแอลกอฮอล์และเมทิลแอลกอฮอล์ด้วยตาเปล่าอาจทำได้ยาก เนื่องจากทั้งสองชนิดมีลักษณะภายนอกที่คล้ายคลึงกัน อย่างไรก็ตาม เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น ต่อไปนี้คือวิธีสังเกตความแตกต่าง

  1. กลิ่น: เอทิลแอลกอฮอล์มีกลิ่นฉุนอ่อน ๆ แต่ไม่แสบจมูกมาก ส่วนเมทิลแอลกอฮอล์มีกลิ่นฉุนแสบจมูกมากกว่า
  2. ฉลาก: ตรวจสอบฉลากผลิตภัณฑ์อย่างละเอียด เอทิลแอลกอฮอล์มักระบุว่า “Ethanol” หรือ “Ethyl Alcohol” ส่วนเมทิลแอลกอฮอล์จะระบุว่า “Methanol” หรือ “Methyl Alcohol
  3. แหล่งที่มา: เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ผลิตอย่างถูกกฎหมายจะมีเฉพาะเอทิลแอลกอฮอล์ ส่วนผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมหรือสารเคมีมักมีเมทิลแอลกอฮอล์

หากเผลอดื่มเมทิลแอลกอฮอล์ ?

จำไว้ว่า…การดื่มเมทิลแอลกอฮอล์แม้เพียงเล็กน้อยก็เป็นอันตรายต่อร่างกายอย่างร้ายแรง การปฐมพยาบาลเบื้องต้นเป็นเพียงการช่วยเหลือชั่วคราวเท่านั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการรีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด โดยมีขั้นตอนการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ดังนี้

  1. โทรแจ้งหน่วยกู้ชีพทันที: โทร 1669 หรือแจ้งหน่วยกู้ชีพในพื้นที่ของคุณทันที เพื่อขอความช่วยเหลือจากแพทย์
  2. อย่าให้ผู้ป่วยอาเจียน: การให้อาเจียนอาจทำให้สารพิษเข้าสู่ปอดได้
  3. รักษาให้ผู้ป่วยอยู่ในท่าที่สะดวกสบาย: เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยเคลื่อนไหวรุนแรง
  4. เตรียมพร้อมที่จะให้ข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่กู้ชีพ: บอกให้เจ้าหน้าที่ทราบว่าผู้ป่วยดื่มเมทิลแอลกอฮอล์เข้าไป และแจ้งปริมาณที่คาดว่าดื่มไป เวลาที่ดื่ม และอาการที่เกิดขึ้น

สิ่งที่ไม่ควรทำ:

  • อย่าให้ผู้ป่วยดื่มอะไร รวมถึงน้ำหรือนม โดยเด็ดขาด
  • อย่าให้ผู้ป่วยทานยาใด ๆ เว้นแต่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์
  • อย่าปล่อยให้ผู้ป่วยอยู่ตามลำพัง ควรมีคนคอยดูแลผู้ป่วยอยู่ตลอดเวลา

อาการที่บ่งบอกว่าต้องรีบพบแพทย์ ได้แก่ ปวดหัวอย่างรุนแรง มึนงง สับสน คลื่นไส้ อาเจียน เห็นภาพซ้อน ปวดท้อง หายใจลำบาก ชักกระตุก หมดสติ

การรู้จักความแตกต่างระหว่างเอทิลแอลกอฮอล์และเมทิลแอลกอฮอล์เป็นสิ่งสำคัญที่อาจช่วยปกป้องชีวิตของคุณและคนรอบข้างได้ ความรู้เรื่องการใช้งานที่ถูกต้อง การสังเกตฉลาก และการระมัดระวังในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ล้วนเป็นสิ่งจำเป็นทั้งสิ้น นอกจากนี้ การรู้วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นยังช่วยลดความเสี่ยงในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้น จงใช้แอลกอฮอล์อย่างชาญฉลาดและปลอดภัย เพราะการใช้ผิดประเภทอาจส่งผลร้ายแรงต่อชีวิต หรือเปลี่ยนแปลงชีวิตของคุณไปตลอดกาล