หลายปีมานี้ คนหันมาให้ความสำคัญกับการฉีดวัคซีนมากขึ้น เพราะเป็นวิธีที่ลดความเสี่ยงของการติดเชื้อที่รุนแรงและยังลดโอกาสการเสียชีวิตจากการติดเชื้อได้ด้วย นอกจากวัคซีนโควิดที่ฉีดตามสถานการณ์หรือวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่ควรจะฉีดทุกปีแล้ว เราขอแนะนำให้คุณฉีด ‘วัคซีน HPV’ ด้วย
วัคซีน HPV คืออะไร ช่วยอะไรได้?
วัคซีน HPV หรือที่คุ้นหูกันในชื่อ ‘วัคซีนมะเร็งปากมดลูก’ เป็นวัคซีนป้องกันการติดเชื้อ HPV (Human Papillomavirus) ที่เป็นไวรัสชนิดหนึ่งที่ติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ ทั้งแบบสอดใส่และออรัลเซ็กส์ รวมถึงการสัมผัสผิวหนังบริเวณที่ติดเชื้อด้วย ซึ่งเจ้าเชื้อนี้แบ่งออกได้ 2 ประเภทหลัก ๆ
- ประเภทแรก ทำให้เกิดโรคมะเร็งปากมดลูก มะเร็งช่องคลอด และมะเร็งปากช่องคลอด ซึ่งเป็นโรคมะเร็งที่พบได้บ่อยในผู้หญิง
- ประเภทที่สอง ไม่ได้ทำให้เกิดโรคมะเร็ง แต่ทำให้เกิดหูดหงอนไก่ที่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบได้ทั้งในผู้ชายและผู้หญิง
เชื่อว่าคงไม่มีใครอยากเป็นโรคเหล่านี้แน่นอน ซึ่งการฉีดวัคซีน HPV ช่วยคุณได้ และแม้ว่าคุณจะเป็นผู้ชายคุณก็ควรฉีดวัคซีนชนิดนี้เช่นเดียวกัน เพราะต่อให้คุณไม่มีมดลูก มันก็ป้องกันหูดหงอนไก่ได้
วัคซีน HPV ยิ่งฉีดเร็วยิ่งดี
วัคซีนชนิดนี้เรียกได้ว่าเป็นอภิสิทธิ์ของคนอายุน้อยเลยทีเดียว ซึ่งในประเทศไทยก็มีการรณรงค์ให้ฉีดวัคซีน HPV ตั้งแต่เด็กมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยสามารถฉีดได้ตั้งแต่ 11 ขวบไปจนถึง 26 ปี เกินกว่านี้แล้วแพทย์อาจไม่แนะนำคุณฉีดสักเท่าไหร่ เหตุผลก็เพราะ ‘มันอาจไม่ได้ผล’ เท่าที่ควร
การได้รับวัคซีน HPV ให้ประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อฉีดเร็วที่สุด ในช่วงเฟสแรกของการริเริ่มฉีดวัคซีน HPV ให้กับเด็กและวัยรุ่นหญิงในสหรัฐอเมริกา อัตราการเกิดโรคมะเร็งชนิดที่ได้กล่าวไปและโรคหูดหงอนไก่ลดลงถึง 88 เปอร์เซ็นต์
ส่วนวัยผู้ใหญ่ตอนต้นพบอัตราการเกิดโรคน้อยลง 81 เปอร์เซ็นต์เมื่อฉีดในช่วงอายุดังกล่าว แต่ถ้าหากคุณฉีดหลังจากนั้น ประสิทธิภาพของวัคซีนก็จะลดลงไปเรื่อย ๆ
กลับไปที่เหตุผลที่ว่าทำไมแพทย์อาจไม่แนะนำให้คุณฉีดหลัง 26 ปีก็เพราะว่านอกจากประสิทธิภาพของวัคซีนที่ลดลงแล้ว และคนในวัยนี้มักได้รับเชื้อ HPV เข้าสู่ร่างกายไปเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งทำให้วัคซีนไม่ได้ผล อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณอายุเกินแล้ว แต่สนใจที่จะฉีดวัคซีนก็สามารถปรึกษากับแพทย์ก่อนได้
การฉีดวัคซีน HPV ต้องฉีดด้วยกัน 2–3 เข็มตามช่วงอายุ และจากข้อมูลเมื่อฉีดครบโดสแล้ว คุณไม่ต้องฉีดวัคซีน HPV ซ้ำ เพราะประสิทธิภาพของวัคซีนคงอยู่ได้ถึงสิบปีโดยที่ประสิทธิภาพในการป้องกันไม่ลดลงแม้เวลาจะผ่านไป คุณจึงไม่ต้องกังวลเรื่องนี้
และสิ่งสุดท้ายที่เราอยากจะบอกคุณ คือ ต่อให้คุณฉีดวัคซีน HPV ครบแล้ว แต่คุณยังจำเป็นต้องสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ เพราะโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ไม่ได้มีแค่ HPV เท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายโรคที่รอคุณอยู่ หากไม่ระวังตัวให้ดี
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส